ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าสาวจำเป็น

    ลำดับตอนที่ #32 : แย่งของรัก

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.13K
      4
      22 มี.ค. 56

                     เปรมมิกานอนพลิกตัวไปมาเพราะนอนไม่หลับเมื่อได้รับรู้เรื่องราวจากปากของผู้หญิงอีกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นอดีตแฟนเก่าของสามีเธอควรจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ดีเด็กที่กำลังจะลืมตามาดูโลกไม่ได้มีความผิดอะไรเขาบริสุทธิ์มากกว่าที่จะต้องมารับรู้เรื่องราวของผู้ใหญ่ที่เห็นแก่ตัวบางคน ว่าแล้วเธอก็นึกขึ้นได้กดต่อสายไปยังเพื่อนสาวยิปซีทันที
                     "กรหรือกันน่ะ" เมื่อปลายสายกดรับเปรมมิกาจึงเป็นฝ่ายถามก่อน
                     "กันเองกรก็อยู่นะจะคุยกับกรเหรอ" กัลยาฝาแฝดสาวถาม
    เมื่อฟังจากน้ำเสียงของเพื่อนแล้วดูท่าทางจะมีเรื่องร้อนใจ
                     "ไม่เป็นไรคุยกับกันหรือกรก็ได้เหมือนกันนั่นแหละเพราะเธอสองคนสามารถสื่อถึงกันได้อยู่แล้ว" เปรมมิกาพูด
                     "เธอมีเรื่องไม่สบายใจมากเลยใช่ไหมถึงได้โทรมาเอาป่านนี้มีเรื่องอะไรไหนลองเล่ามาซิฉันรอฟังอยู่" กัลยาบอกเพื่อนให้คลายกังวล เปรมมิกาเริ่มเล่าเรื่องที่ได้รับรู้มาให้เพื่อนรักฟังสำหรับเธอกัลยาและกรรัมภาคือเพื่อนรักที่เธอให้ความไว้ใจมากที่สุดเปรมมิกาไม่เคยมีความลับกับเพื่อนสาวของเธอเลย
                     "เรื่องของเรื่องก็คือตอนนี้เธอกลุ้มใจว่าจะทำยังไงต่อไปดี เพราะเวลานี้ความรู้สึกของเธอที่มีต่อคุณวัตรมันไม่เหมือนเดิมอีกแล้วอย่างนั้นใช่มั้ยแป้งเธอทนไม่ได้ที่เด็กจะไม่มีพ่อและรับการกระทำของคุณวัตรไม่ได้ที่จะให้ยายวีวี่ไปเอาเด็กออกอย่างงั้นใช่ไหม" กัลยาถามเพื่อนเป็นชุดเปรมมิกาเลือกที่จะเงียบแทนคำตอบ
                     "เอาอย่างนี้แล้วกันแป้งเธอไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นอยู่นิ่ง  ๆเฉย ๆ แล้วเรื่องมันจะผ่านไปเองแต่เธอห้ามหย่ากับคุณวัตรเด็ดขาดผู้หญิงคนนั้นไม่หวังดีกับเธอฉันพูดได้แค่นี้แหละ" กัลยาบอก
                     "กันจะให้แป้งนิ่งอยู่อย่างนั้นได้ยังไงเรื่องมันจะบานปลายใหญ่โตเด็กต้องการพ่อเด็กไม่รู้เรื่อง" เปรมมิกายังยืนยันคำตอบเดิมที่อยากจะหย่ากับภควัตร
                     "แป้งเธอเชื่อเราซักครั้งนะอยู่เฉย ๆ ไม่ต้องพูดไม่ต้องพบเจอกับยายวีวี่อะไรนั่นอีกแล้วอะไร ๆ จะดีขึ้นเรื่องทุกอย่างระหว่างเธอกับคุณวัตรกำลังจะจบลงด้วยดีแล้วขอเพียงเธอเชื่อฉันนะแป้ง" กัลยาพยายามที่จะบอกให้เพื่อนใจเย็น  ๆ กับเรื่องที่เกิดขึ้นเธอรู้ว่าผู้หญิงที่เพื่อนพูดถึงนั้นไม่ใช่คนดีนัก สักวันคุณวัตรจะเห็นธาตุแท้ของเธอคนนั้นเองก่อนจะวางสายไปทิ้งให้เปรมมิกายังนอนไม่หลับและคิดไม่ตกกับเรื่องต่าง  ๆที่เกิดขึ้นกับเธอตอนนี้มันเร็วมากจนเธอแทบจะตั้งตัวไม่ติดถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงจะไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับเขา แต่ตอนนี้มันไม่ใช่
    ความรู้สึกของเธอตอนนี้มันเปลี่ยนไปจริง ๆ อย่างที่เพื่อนสาวฝาแฝดพูดกับเธอ เสียงไขกุญแจเข้ามาให้ห้องทำให้เธอรู้ได้ว่าชายหนุ่มได้กลับมาแล้วเธอจึงแกล้งทำเป็นหลับคลุมโปงเสียดีกว่าต้องมองหน้าเขาตอนนี้

                       "หลับไปแล้วสินะเด็กน้อย" ภควัตรพูดกับคนที่ตัวเองคิดว่าหลับไปแล้วก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป


                     "โอ๊ก แหวะ แหว๊ะ " เสียงอาเจียนที่ดังมาจากในห้องน้ำทำให้ชายหนุ่มที่กำลังนอนหลับใหลอยู่บนเตียงหนานุ่มต้องขยับเปลือกตาปรับแสงที่ส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างและเสียงที่ดังออกมาจากในห้องน้ำนั้นทำให้เขาต้องลุกขึ้นเพื่อไปดูว่าเธอเป็นอะไร
                     "เป็นอะไรหรือเปล่าแป้ง" ชายหนุ่มถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นสภาพของเธอตอนนี้ไม่ต่างจากคนที่ไม่ได้นอนหญิงสาวยืนเกาะขอบอ่างล้างหน้าหน้าตาอิดโรยและยังคงอาเจียนอยู่อย่างต่อเนื่องชายหนุ่มเข้าไปลูบหลังให้เธอก่อนจะรินน้ำเปล่าจากขวดให้เธอดื่มล้างปาก
                     "เป็นยังไงบ้างรู้สึกดีขึ้นบ้างไหม" เสียงทุ้มเอ่ยถามพร้อมกับสีหน้าแสดงความห่วงใยอย่างเต็มที่
                     "ไม่เป็นไรค่ะฉันดีขึ้นแล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะ" เปรมมิกาบอกก่อนจะเดินออกมาจากห้องน้ำโดยมีชายหนุ่มคอยประคองอยู่ไม่ห่าง และพามานั่งพักที่เตียงนอน
                     "พี่ว่าแป้งไปหาหมอดีกว่านะดูท่าทางยังไม่ดีขึ้นเลย" ชายหนุ่มบอก
                     "อย่าลำบากเลยค่ะ แป้งไม่ได้เป็นอะไรมากคงจะแพ้อาหารหรือไม่ก็คงพักผ่อนน้อยน่ะค่ะ อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่เลยนะคะคุณวัตร" เปรมมิกาออกความเห็นบ้างเพราะเธอไม่อยากให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตเธออยากพักมากกว่า
                     "เอาอย่างนั้นเหรอ อืมก็ได้ เดี๋ยวพี่สั่งอาหารมาให้ทานดีกว่านะไม่ต้องออกไปข้างนอกหรอก" ชายหนุ่มบอกเปรมมิกาพยักหน้าแล้วโทรศัพท์ไปสั่งอาหารก่อนจะเข้าห้องน้ำอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่
     
                     วิลาวัลย์พยายามที่จะโทรชายหนุ่มหลายครั้งแต่ไม่มีคนรับสายเธอเดินไปเดินมาอย่างหงุดหงิด
                     "ไปไหนของเขานะ พี่วัตรหนีวีวี่ไม่พ้นหรอกค่ะยังไงเราก็ต้องเป็นคู่กันวีวี่จะไม่ยอมให้พี่วัตรตกไปอยู่ในมือของนังนั่นเด็ดขาด"
                     หญิงสาวปรามาศด้วยความมั่นใจว่าชัยชนะที่ได้เธอเท่านั้นที่จะครอบครองเพียงคนเดียว เธอเดินสอดส่ายสายตามองหาชายหนุ่มในดวงใจแต่ก็พบคนที่ไม่อยากจะเห็นหน้าอย่าง อัครเทพแต่ก็ช่วยไม่ได้ลองถามชายหนุ่มดูก็ได้ว่าเขาเห็นพี่วัตรหวานใจของเธอไหมเมื่อคิดได้ดังนั้นเธอก็เดินปรี่เข้าไปหาชายหนุ่มคนนั้นทันที
                     "คุณเทพคะคุณเทพ เห็นพี่วัตรหรือเปล่าคะเนี่ยวีวี่โทรหาตั้งนานแล้วแต่ไม่เห็นรับสายเลยไม่รู้หายไปไหน" หญิงสาวถาม
                     "ไม่เห็นหรอกครับคุณวีวี่ ผมไม่ได้ชอบยุ่งเรื่องของใครอีกอย่างไอ้วัตรมันไม่ใช่เมีย ผมถึงจะได้คอยจับตามองมันอยู่ตลอดเวลา" ชายหนุ่มเหน็บแนมได้อย่างเจ็บแสบ
                     "นี่คุณเทพทำไมต้องมาว่าฉันแบบนี้ด้วย คุณไม่มีสิทธิ์มากล่าวหาฉันนะ" วิลาวัลย์ต่อว่า
                     "ผมไปว่าคุณตอนไหนครับ ผมไม่รู้หรอกนะว่าไอ้วัตรมันหายหัวไปอยู่ซะที่ไหนแต่ที่รู้ตอนนี้คือมันแต่งงานแล้วและพาเมียมาเที่ยวที่นี่ด้วย มันก็คงจะอยู่กับเมียมันนั่นแหละครับ ผมขอตัวนะครับงานเยอะไม่ว่าง" พูดจบก็เดินหนีไปทันทีทิ้งให้วิลาวัลย์โมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่คนเดียว
                     "ไอ้บ้า หลอกด่ากันนี่ รู้จักฉันน้อยไปละระวังตัวไว้เถอะคอยดูฉันจะจัดการแกเป็นคนแรกเลยคอยดู ฉันจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาแย่งของที่ฉันรักไปได้ง่าย ๆ หรอก ไม่เห็นก็ไม่เห็นสิ" วิลาวัลย์พูดกับตัวเองก่อนจะเดินตามหาชายหนุ่มที่หมายปอง
       
                      เปรมมิกาหลับไปตั้งแต่เช้าโดยมีภควัตรเฝ้าดูแลอยู่ไม่ห่างเพราะเป็นห่วงดูเธอจะอ่อนเพลียคงเป็นเพราะตากแดดและโดนฝนเมื่อวานแน่ ๆ เธอถึงไม่สบายแบบนี้ หญิงสาวลืมตาขึ้นมาพร้อมกับขยับจะลุกจากที่นอนแต่ชายหนุ่มห้ามไว้และพยุงให้เธอนั่งพิงที่หัวเตียง   
                       "ไหวหรือเปล่าแป้งพี่ว่าไปหาหมอดีกว่านะ" ภควัตรบอกเธอ
                       "ไม่เป็นไรค่ะแป้งสบายดีไม่เป็นอะไรมากหรอกไม่ต้องไปหาหมอก็ได้" หญิงสาวบอกพลางเมินหน้ามองไปทางอื่นไม่อยากเห็นหน้าเขาคำพูดที่วิลาวัลย์ยังคงดังก้องอยู่ในหูของเธอไม่อาจที่จะลืมได้
                       "เมื่อไหร่คุณจะยอมเซ็นต์ใบหย่าให้ฉัน" อยู่ ๆ หญิงสาวก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ
                       "อย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้มันยังไม่ถึงเวลารอให้เธอหายดีก่อนแล้วค่อยมาพูดอีกที" ภควัตรรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันทีที่เธอพูดเรื่องหย่าขึ้นมาเฉย ๆ โดยไม่มีเหตุผล
                       "ฉันไม่ได้เป็นอะไรเสียหน่อยรีบ ๆ หย่ากันซะจะได้จบเรื่องเสียทีฉันเบื่อที่จะต้องมาทนกับคนอย่างคุณแล้วนะคุณภควัตร"
                       หญิงสาวพยายามที่จะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้มันไหลออกมา คำพูดของหญิงสาวอีกคนยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเธอ เธอท้องกับเขาลูกของเขาเด็กที่กำลังจะลืมตามาดูโลก เด็กที่ไม่มีความผิด เด็กที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ เธอจะพรากครอบครัวพรากพ่อพรากลูกให้แยกจากกันไม่ได้เปรมมิกาปาดน้ำตาล้วก ๆ ก่อนจะพูดอีกครั้งเพื่อใครชายหนุ่มตรงหน้ายอมหย่ากับเธอ
                       "ว่ายังไงคะ คุณจะหย่ากับฉันได้เมื่อไหร่คะคุณภควัตร" หญิงสาวบอกเสียงแข็งพยายามที่จะเอาชนะความต้องการของตัวเองอย่างเต็มที่ ถึงแม้ว่าความรู้สึกเธอตอนนี้มันจะเปลี่ยนไปแล้วก็ตาม
                       "ฉันไม่มีทางหย่าให้เธอไปเสวยสุขกับไอ้เทพหรอก ไม่มีทางจำเอาไว้เปรมมิกา" ชายหนุ่มข่มอารมณ์โกรธเอาไว้อย่างสุดความสามารถก่อนจะเดินออกไปจากห้องปิดประตูเสียงดังปล่อยให้อีกคนนั่งน้ำตาไหลพรากอยู่คนเดียวอย่างสุดกลั้น
                       "ฉันขอโทษนะคะคุณวัตร ฉันขอโทษที่ต้องทำแบบนี้ฉันจะเห็นแก่ตัวไม่ได้คุณมีผู้หญิงอีกคนที่ต้องดูแลมากกว่าฉัน" เปรมมิกาพูดคนเดียวอย่างหาที่ระบาย


                        กำหนดเดินทางกลับกรุงเทพของทุกคนเลื่อนเร็วขึ้นไม่รู้มีเหตุผลอะไรภควัตรให้คำตอบแต่เพียงว่ามีงานด่วนต้องรีบกลับไปจัดการทุกคนมองหน้ากันอย่างงง ๆ รวมถึงคุณภัทรและคุณพอฤดีด้วย
                        "คุณภัทรคะฤดีว่ามันยังไง ๆ อยู่นะ ตอนมายังดี ๆ อยู่เลยแต่ทำไมตอนนี้บรรยากาศมันดูแย่กว่าเดิมล่ะคะ" คุณพอฤดีถามสามีเมื่อเห็นสีหน้าของเปรมมิกาและภควัตรลูกชายลูกสะใภ้ของเธอ
                        "หนูแป้งเป็นอะไรหรือเปล่าลูก หน้าตาไม่ค่อยดีเลยนอนไม่ค่อยหลับเหรอหรือว่าพี่เข้าทำอะไรให้ไม่สบายหรือเปล่าบอกแม่ได้นะเดี๋ยวแม่จัดการให้" คุณพอฤดีเข้าข้างลูกสะใภ้เต็มที่
                        "ไม่มีอะไรหรอกคะคุณแม่แป้งคงเหนื่อยน่ะค่ะ กลับไปถึงบ้านพักผ่อนสักหน่อยคงหายแล้วล่ะค่ะ" เปรมมิกาบอกแม่สามี

                        เมื่อทุกคนเดินทางกลับมาถึงบ้านใหญ่โดยที่ภควัตรมาส่งบิดามารดาก่อนจะกลับบ้านของตัวเองอีกหลังหนึ่งบรรยากาศในรถระหว่างหญิงสาวและชายหนุ่มเงียบสนิทไม่มีการพูดคุยใด ๆ ทั้งสิ้นจนกระทั่งชายหนุ่มขับรถมาถึงบ้านของตัวเอง เปรมมิกาเปิดประตูลงจากรถโดยไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียวเดินขึ้นไปชั้นบนของบ้านปิดประตูขังตัวเองอยู่ในห้องเพียงลำพัง
                        "อยากโกรธก็โกรธไป เธอไม่พูดกับฉันเองนะเปรมมิกาจะหาว่าฉันใจร้ายไม่ได้ยังไงฉันก็จะไม่มีวันหย่าให้เธอเด็ดขาด" เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะ ความคิดของเขาก่อนจะกดรับสาย
                        "ครับวีวี่" ชายหนุ่มกรอกเสียงไปตามสายเมื่อรู้ว่าเจ้าของเบอร์ที่โทรเข้ามานั้นคือใคร
                        "พี่วัตรขา กลับมาไม่บอกวีวี่เลยนะคะนี่ถ้าวีวี่ไม่ถามพนักงานที่โรงแรมก็คงไม่รู้ว่าพี่วัตรเช็คเอาท์ออกมาตั้งแต่ไก่โห่พี่วัตรใจร้ายกับวีวี่มากเลยนะคะ" วิลาวัลย์ส่งเสียงออดอ้อน
                        "พอดีพี่มีงานด่วนต้องรีบกลับมาน่ะ วีวี่มีอะไรหรือเปล่า" ชายหนุ่มพยายามตัดบท
                        "วีวี่อยากเจอพี่วัตรนี่คะ ออกมาหาวีวี่หน่อยได้มั้ยคะเราไม่ได้ไปเที่ยวฟังเพลงกันนานแล้วนะคะ นะๆๆๆๆ นะคะๆ พี่วัตร" วิลาวัลย์อ้อนอีกครั้งเพราะรู้ว่าถึงยังไงชายหนุ่มก็ต้องใจอ่อนยอมออกมาหาเธอ
                        "อืมก็ได้ เจอกันที่เดิมนะ" ภควัตรยอมออกมาตามที่หญิงสาวนัดเขาและเธอต่างมีเหตุผลคนละอย่างที่จะมาพูดคุยกันหญิงสาวอยากพบเขาเพื่อสานสัมพันธ์รักครั้งก่อนให้กลับมางอกงามอีกครั้งแต่สำหรับเขาออกมาพบเธอเพื่อที่จะจบปัญหาระหว่างเธอกับเขา เมื่อชายหนุ่มขับรถมาถึงที่หมายตามที่ได้นัดกับวิลาวัลย์แล้วเขาก็เดินเข้าไปข้างในสอดส่ายสายตามองหาร่างที่คุ้นตาก็พบเธอนั่งอยู่ตรงด้านในสุดของร้านซึ่งเป็นมุมโปรดของเธอและเขาเมื่อครั้งก่อนนั่นเอง
                        "พี่วัตรมาช้าจังค่ะ วีวี่คิดถึงนะคะคืนนี้อยู่เป็นเพื่อนวีวี่นะคะ" วิลาวัลย์บอกพลางลูบไว้แผงอกของเขาอย่างคุ้นเคย
                        "วีวี่มีธุระอะไรกับพี่หรือเปล่าพี่มีเวลาไม่มากพรุ่งนี้พี่มีประชุม แต่เช้า" ชายหนุ่มบอกพร้อมกับแกะมือเธอออกอย่างสุภาพแต่มือเธอเหนียวยิ่งกว่าตุ๊กแกเสียอีกแกะเท่าไหร่ก็แกะไม่ออกจึงได้แต่นั่งเฉย ๆ หาทางหนีทีไล่ไว้ก่อน
                        "แหมเดี๋ยวนี้วีวี่อยากจะเจอพี่วัตรทีต้องมีธุระด้วยเหรอคะเมื่อก่อนพี่วัตรไม่เคยพูดอย่างนี้กับวีวี่เลยนะ" วิลาวัลย์เริ่มใช้จริตมารยาหญิงเพราะรู้ว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นคนขี้เกรงใจและแพ้น้ำตาเป็นที่สุด
                        "เดี๋ยวนี้มันไม่เหมือนแต่ก่อนแล้วนะวีวี่พี่แต่งงานมีครอบครัวแล้ววีวี่ก็รู้" ชายหนุ่มยกเรื่องแต่งงานมาอ้าง
                        "ก็ไหนพี่วัตรเคยบอกว่าแต่งงานกับมันเพราะโดนบังคับไม่ได้รักมันนี่คะ หรือว่าตอนนี้พี่วัตรเกิดเปลี่ยนใจรักมันเข้าแล้วถึงไม่ยอมหย่ากับมันเสียที" วิลาวัลย์ลืมตัวพูดอย่างไม่พอใจ
                        "วีวี่พี่ขอโทษนะ พี่ขอโทษที่ทำให้วีวี่ผิดหวังเสียใจตอนนี้พี่รู้ตัวเองแล้วว่าพี่รู้สึกยังไงกับเปรมมิกาพี่จะไม่มีวันปล่อยเธอไปไหนเด็ดขาด" ชายหนุ่มพูด
                        "แล้ววีวี่ล่ะคะ พี่วัตรเองวีวี่ไปไว้ที่ไหน พี่วัตรเห็นวีวี่ในสายตาบ้างไหมคะ" หญิงสาวบีบน้ำตาราวกับก๊อกแตก
                        "มีผู้ชายอีกมากที่พร้อมมากกว่าพี่ และพร้อมที่จะดูแลวีวี่ เชื่อพี่เถอะนะยังไงวีวี่ก็ยังเป็นน้องสาวของพี่เสมอนะ" ภควัตรพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบเพื่อให้เธอยอมรับเหตุผล
                        "ไม่ค่ะ วีวี่ต้องการแค่พี่วัตรคนเดียว วีวี่ไม่อยากให้ใครดูแลทั้งนั้น นอกจากพี่วัตรคนเดียวได้ยินไหมคะ" หญิงสาวบอก
                        "พี่ว่าวีวี่คงจะเมาแล้วล่ะพี่ขอตัวกลับก่อนนะ" พูดจบก็ลุกขึ้นทันทีไม่รอให้อีกฝ่ายได้ตอบโต้อะไรชายหนุ่มเดินออกไปจากร้านอย่างรวดเร็วทิ้งให้หญิงสาวอีกคนเต้นเร่า ๆ กระทืบเท้าอย่างเจ็บแค้นสุดขีดที่ไม่สามารถรั้งเขาไว้ได้ในที่สุดเธอก็เสียเขาไปให้กับเธอคนนั้นงั้นเหรอไม่มีทาง 
                        "ฉันจะไม่ยอมแพ้เธอเด็ดขาดเปรมมิกา พี่วัตรต้องเป็นของฉันในเมื่อฉันพูดกับแกดี ๆ แล้วแกไม่ฟังล่ะก็อย่าหาว่าฉันใจร้ายก็แล้วกัน"
    วิลาวัลย์พูดกับตัวเองด้วยความเจ็บใจก่อนจะวางธนบัตรสองพันบาทลงบนโต๊ะเดินถือกระเป๋าสุดหรูออกไปจากร้านทันที 
                                 
                   


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×