ตำนานเทพเจ้าชาวไวกิ้ง
เกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับเทพเจ้า คราวนี้มาเป็นของชาวนอร์ส หรือพวกไวกิ้งกันบ้างจ้า
ผู้เข้าชมรวม
23,237
ผู้เข้าชมเดือนนี้
100
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เทพเจ้าแสกนดิเนเวีย ไวกิ้ง ชาวนอร์สและยุโรปเหนือ เป็นชื่อเรียกรวมของเทพเจ้าที่รู้จักกันดีในนามเทพเจ้าของชาวนอร์ส เทพสูงสุดคือโอดินมหาเทพ สำหรับเทพเจ้านั้นจะแบ่งออกเป็นวงศ์วานหลักๆอยู่ 2 วงศ์(หรือจะเรียกว่ากลุ่มเทพก็ได้)คือ เทพเอซีร์ซึ่งเป็นเทพผู้ที่อาศัยอยู่บนดินแดนแอสการ์ดและทั้งหมดต่างก็มีเชื้อสายของโอดินมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่(ว่างั้น) กับวานีร์ซึ่งอาศัยอยู่ในดินแดนวานาเฮม(ที่อยู่ของวานีร์)เป็นเทพที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติเสียส่วนใหญ่(สุขภาพ ความอุดมสมบูรณ์ ทรัพย์สิน เด็ก และความโชคดี เป็นต้น) ทั้งยังมีความสามารถด้านเวทย์มนต์สูง และเคยสาบานที่จะเป็นศัตรูกับนักรบเทพเอซีร์ ซึ่งเป็นสงครามที่กินเวลามายาวนานมาก ในที่สุดทั้งสองฝ่ายก็ตัดสินใจที่จะสงบศึกกัน โดยแต่ละฝ่ายได้ส่งเทพไปอยู่ในดินแดนของอีกฝ่าย เพื่อเป็นหลักประกัน ได้แก่ เทพเฟรย์ เทวีเฟรย่าและบิดาจากวานีร์ถูกส่งให้เป็นเทพของเอซีร์ แล้วเอซีร์ก็ส่งโฮนีร์กับภรรยาไปเป็นเทพของวานีร์ และสุดท้ายในสงครามแร็กนาร็อค ทั้งสองชนก็รวมตัวกันต่อสู้กับยักษ์ น้ำแข็งที่เข้ามาบุกรุกดินแดนเทพ แม้จะไม่มีใครรอดก็ตามแต่...
เทพเจ้า | ตัวแทน | วงศ์ |
---|---|---|
โอดิน (Odin) | เทพแห่งสงคราม บทกวีและความรู้ | เอซีร์ (Aesir) |
ฟริกกา (Frigga) | เทวีแห่งความงาม เมฆและท้องฟ้า | เอซีร์ (Aesir) |
ธอร์ (Thor) | เทพแห่งสายฟ้า และการเกษตร | เอซีร์ (Aesir) |
โลกิ (Loki) | เทพแห่งไฟ | เอซีร์ (Aesir) |
เฮมดัลล์ (Heimdal) | เทพแห่งแสงสว่าง ผู้เฝ้าดินแดนเทพแอสการ์ด | เอซีร์ (Aesir) |
บาลเดอร์ (Balder) | เทพแห่งแสง ความปิติยินดี และความบริสุทธิ์ | เอซีร์ (Aesir) |
โฮเดอร์ (Holder) | เทพแห่งฤดูหนาวและยามราตรี | เอซีร์ (Aesir) |
แบรกี (Bragy) | เทพแห่งดนตรีและบทกวี | เอซีร์ (Aesir) |
ฟอร์เซติ (Forseti) | เทพเจ้าแห่งความยุติธรรมและความประนีประนอม | เอซีร์ (Aesir) |
เฟรย์ (Freyr) | เทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ | เอซีร์ (Aesir)* |
เฟรย่า (Freya) | เทวีแห่งความงามและความรัก | เอซีร์ (Aesir)* |
นอร์ด (Njord) | เทพแห่งสายลมและผืนทะเล | เอซีร์ (Aesir)* |
ซิฟ (Sif) | เทวีแห่งความอุดมสมบูรณ์ | เอซีร์ (Aesir) |
วีลี (Vili) | น้องชายของโอดิน | เอซีร์ (Aesir) |
เว (Ve) | น้องชายของโอดิน | เอซีร์ (Aesir) |
อีดูน (Idun) | เทวีแห่งความเยาว์วัย | เอซีร์ (Aesir) |
ไทร์ (Tyr) | เทพแห่งสงครามและความยุติธรรม | เอซีร์ (Aesir) |
วีดาร์ (Vidar) | เทพแห่งความเงียบและการแก้แค้น | เอซีร์ (Aesir) |
เฮอร์มอด (Hermod) | เทพแห่งการส่งสาร | เอซีร์ (Aesir) |
โฮนีร์ (Honir) | เทพเจ้าแห่งท้องทะเล | วานีร์ (Vanir)* |
เอกีร์ (Aegir) | เทพแห่งมหาสมุทร | วานีร์ (Vanir) |
แรน (Ran) | เทพีแห่งพายุ | วานีร์ (Vanir) |
เฮล (Hel) | เทวีแห่งยมโลก | |
โนร์น (The Norns) | เทวีแห่งโชคชะตา | |
อูล (Ull) | เทพแห่งการล่าสัตว์และการต่อสู้ | |
วาร์ (Var) | เทวีแห่งการสมรส | |
สแกดี (Skadi) | เทวีแห่งหิมะและการเล่นสกี | วานีร์ (Vanir) |
( ปล. * หมายถึง เทพที่เปลี่ยนจากวานีร์เป็นเอซีร์ และจากเอซีร์เป็นวานีร์ เช่น วานีร์* หมายความว่า พวกเขามีเชื้อสายของ เอซีร์ แต่ไปอยู่กับพวกวานีร์)
Harbarljoo : Lay of Harbarth
วันหนึ่ง โลกิ โอดิน และเทพอีกองค์หนึ่งชื่อว่า โฮนีร์ (Honir) กำลังย่างเนื้อเพื่อกินเป็นอาหารมื้อเย็น ได้นกอินทรีย์ขนาดใหญ่ตัวหนึ่งโฉบลงมาจิกเอาก้อนเนื้อชิ้นใหญ่ที่ดีที่สุดติดอุ้งเล็บไป โลกิได้ใช้ไม้ปลายแหลมแทงติดตัวอินทรีย์ นกอินทรีย์ใหญ่โผบินขึ้นสู่ท้องฟ้าทั้งที่มีไม้ปลายแหลมปักติดรวมทั้งโลกิที่เกาะติดไปกับไม้นั้นด้วย ที่จริงแล้วนกอินทรีย์ใหญ่ตัวนั้นเป็นยักษ์ตนหนึ่งที่มีชื่อว่า ธีอาซี่ (Thiazi) แปลงตัวมา ยักษ์ธีอาซี่ไม่ยอมปล่อยโลกิจนกระทั่งโลกิสัญญาว่าจะนำเทพธิดา อีดูน(Idun) พร้อมด้วยตะกร้าที่มีแอบเปิลทองคำมาให้ยักษ์ธีอาซี่จึงได้ยอมปล่อยตัวโลกิให้เป็นอิสระ และผลแอบเปิ้ลทองคำของอีดูนที่กล่าวถึงนี้ ไม่ใช่ผลไม่ธรรมดา หากแต่ผลไม้วิเศษที่เทพเจ้าบนสรวงสวรรค์กินแล้วทำให้เป็นหนุ่มเป็นสาวตลอดกาล ไม่รู้จักแก่เฒ่า
โลกิซึ่งเป็นคนรูปหล่อมีเสน่ห์ได้ชักชวนเทพธิดาอีดูนให้ไปเดินเล่นด้วยกัน โลกิพาเทพธิดาอีดูนเดินข้ามสะพานสายรุ้งซึ่งเป็นเขตแดนแยกระหว่างดินแดนของเหล่าเทพเจ้าและแผ่นดินถิ่นที่อยู่ของมนุษย์ ทันทีที่เทพธิดาอีดูนเดินข้ามสะพานพ้นออกมาจากเขตแดนสวรรค์ที่เรียกว่าแอสการ์ด นกอินทรีย์ได้โฉบลงจับตัวพาไปยังถิ่นที่อยู่ของมันซึ่งเป็นภูเขาปกคลุมด้วยหิมะ เมื่อขาดเทพธิดาอีดูนและผลแอบเปิ้ลวิเศษ เหล่าเทพเจ้าในแอสการ์ดก็เริ่มแก่เฒ่า ผมที่เริ่มมีสีแดงของธอร์ก็ค่อย ๆ เริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาว ขวานฟ้าที่ขว้างออกไปก็ไม่ไกลจากที่เป็นรวมทั้งความแม่นยำก็ลดน้อยลงไปด้วย เทพโอดินก็เริ่มหูอื้อฟังอะไรไม่ชัดเจนดังเดิม เฟรย่าเทพแห่งความรักและความงามที่มีผมสีทองสุกปลั่งก็เริ่มมีแสงสีเงินแซมขึ้นมา ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังเลวร้ายขึ้นเป็นลำดับ ความหนาวเย็นและน้ำแข็งที่ปกคลุมพื้นโลกทางเหนือได้เริ่มขยายตัวออกแผ่กระจายไปทั่วโลก
"สิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นนี้เป็นเพราะเจ้าและเจ้าจะต้องแก้ไขให้ดีขึ้น" โอดินกล่าวกับโลกิ ด้วยเหตุนี้ โลกิจึงได้แปลงร่างเป็นนกเหยี่ยวขนาดเล็กบินออกจากแอสการ์ดตรงไปยังถิ่นที่อยู่ของยักษ์เพื่อจะสืบดูเหตุการณ์ว่าจะสามารถจัดการได้อย่างไร เมื่อโลกิได้เดินทางไปถึงปราสาทของยักษ์ธีอาซี่ พอดีกับที่เจ้ายักษ์ธีอาซี่ไม่อยู่ โลกิในร่างของเหยี่ยวตัวน้อยจึงได้บินผ่านหน้าต่างเข้าไปยังปราสาท พบเทพธิดาอีดูนกำลังร้องไห้อยู่ในห้องเล็ก ๆ ห้องหนึ่ง ในปราสาทแห่งนั้น โลกิในร่างของเหยี่ยวน้อยได้จัดการแปลงร่างของเทพธิดาอีดูนให้เป็นเมล็ดถั่วแล้วจึงใช้ปากคาบพาบินออกมาทางหน้าต่าง
แต่ทว่าก่อนที่โลกิจะพาเทพธิดาอีดูนกลับมาถึงแอสการ์ด ยักษ์ธีอาซี่ได้กลับไปถึงปราสาทและพบว่าเทพธิดาอีดูนได้หายไปแล้ว ยักษ์ธีอาซี่ได้แปลงร่างเป็นนกอินทรีย์ยักษ์บินตามเหยี่ยวโลกิไปด้วยความโกรธ เทพเจ้าทั้งหลายบนแอสการ์ดรู้เหตุการณ์และมองเห็นนกทั้งสองตัวบินไล่กันมาแต่ไกลเจ้านกอินทรีย์ยักษ์บินเข้าหาเหยี่ยวน้อยอย่างรวดเร็วและก่อนที่อินทรีย์ยักษ์จะถึงตัวเหยี่ยวน้อย เหล่าเทพเจ้าได้นำกิ่งไม้และใบไม้จำนวนมากมากองขวางไว้ตามกำแพงของแอสการ์ด เมื่อเหยี่ยวโลกิบินผ่านจึงได้ช่วยกันจุดไฟขวางกั้นนกอินทรีย์ยักษ์ไว้ไม่ให้บินผ่านไป นกอินทรีย์ยักษ์บินตามมาด้วยความเร็วไม่อาจหยุดได้ทันท่วงทีจึงได้รับบาดเจ็บเพราะโดนไฟบินถลาผ่านเขตแดนกั้นตกลงในเขตแดนของแอสการ์ดและถูกเทพเจ้าฆ่าตาย เทพธิดาอีดูนและผลแอบเปิ้ลวิเศษจึงกลับคืนสู่แอสการ์ดอีกครั้งหนึ่ง
แต่ยักษ์ธีอาซี่ก็ยังมีผู้ที่รักอยู่ ลูกสาวของธีอาซี่เมื่อรู้ว่าพ่อตายจึงได้เดินทางไปแอสการ์ดเพื่อขอความยุติธรรม เพื่อให้ความยุติธรรมและเป็นที่พอใจต่อบุตรสาวของธีอาซี่ เทพโอดินจึงนำธีอาซี่ไปไว้ในท้องฟ้า เพื่อให้คนบนโลกได้มองเห็น ธีอาซี่จึงได้กลายเป็นดวงดาวหนึ่งในท้องฟ้าก็คือ ดาวซีริอัส (SIRIUS) ดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุดในท้องฟ้านั่นเอง
- Raknarok = Raknarökr orRaknarøkr -" align="left" hspace="3" vspace="3">
Runes -รูนเป็นอักษรยุคแรกๆของชนเผ่ายุโรปเหนือ(พวกไวกิ้ง) เริ่มถูกนำมาใช้เมื่อ 300 ปี หลังคริสตกาล และมีใช้อยู่นานนับพันปี อักษรรูนมีพยัญชนะเรียกว่า อักษรฟูทาร์ค(futhark) รูน เป็นภาษาแกลิค แปลว่า ความลับ และ เฮรูน แปลว่าพยากรณ์ศาสตร์ ว่ากันว่า โอดินได้แขวนตนเองอยู่บนต้นอิกดราซิบลเป็นเวลาถึง 9 วัน เพื่อที่จะเรียนรู้อักษรรูน
อักษรรูนเป็นอักษรที่เกิดตามธรรมชาติ แต่ละตัวมีความสามารถในการสื่อพลังในแง่ต่างๆ ต่างกันออกไป เวทย์มนต์ที่ร่ายกันขึ้นจะเป็นส่วนผสมของอักษรรูนหลายๆตัว(ที่เห็นบ่อยๆก็คือสามตัว) อักษรรูนที่ใช้บ่อยที่สุดในเวทย์มนต์ต่างๆตามตำนานของชาวนอร์สมี 25 ตัวอักษร คือ...
1. ALGIZ (อัลกีซ) - รูนแห่งอาณาเขตแห่งความคุ้มครอง ในอดีตเป็นสัญลักษณ์ของวิหารที่เหล่านักรบที่บาดเจ็บจากสงครามจะใช้พักรักษาตัว ผู้อธิษฐานต่อรูนนี้จะได้รับพลังแห่งความคุ้มครองโดยการเพ่งสมาธิถึงความเจ็บปวดหรือความทุกข์ยากลำบากที่เคยได้รับในอดีต เปรียบเสมือนการที่เคยได้พบกับความเจ็บปวดในครั้งอดีตจะทำให้เหล่านักรบแข็งแกร่งขึ้นในศึกต่อไป
2. ANSUZ (อันซัส) - รูนแห่งสัญญาณและข่าวสาร มีความหมายถึงต้นแอชซึ่งเป็นต้นไม้ใหญ่ที่เอาไว้เป็นจุดหมายสำหรับนักเดินทางที่หลง เป็นสัญลักษณ์แห่งการชี้นำให้แก่ผู้ที่หลงทางหรืออยู่ในระหว่างการตัดสินใจ ผู้อธิษฐานต่อรูนนี้จะได้รับพลังในการชี้นำทางที่ถูกต้องโดยการเพ่งสมาธิถึงอดีตที่ผ่านมาและจุดหมายที่ต้องการไปถึง
3. ฺBERKANA (เบอกานา) - รูนแห่งความเจริญงอกงาม มีความหมายถึงความงอกงามของพืชพรรณและสรรพชีวิตเมื่อพ้นฤดูหนาวเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ผู้อธิษฐานต่อรูนนี้จะได้รับพลังแห่งการเติบโตและเจริญงอกงาม โดยการเพ่งสมาธิถึงการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของสิ่งมีชีวิตบางอย่าง(เช่นเมล็ดพืช)และความอุดมสมบูรณ์ (อาจใช้รูน Inguz ร่วมได้)
4. DAGAZ (ดากัซ) - รูนแห่งแสงสว่าง มีความหมายถึงช่วงเวลาที่ผู้คนออกมาทำมาหากินและช่วงเวลาอันสงบสุขประจำวัน และยังหมายถึงแสงสว่างที่ช่วยให้ผู้หลงอยู่ในความสับสน(chaos)หลุดพ้นจากความหลงผิดด้วย ผู้อธิษฐานต่อรูนนี้จะได้รับพลังที่จะช่วยให้ผู้คนรอบข้างสดชื่นแจ่มใสและมีพลัง โดยการเพ่งสมาธิถึงความสดชื่นในการประกอบกิจกรรมประจำวันท่ามกลางแสงอาทิตย์(โดยเฉพาะชาวสวนหรือชาวนาที่กำลังเก็บเกี่ยวผลผลิต)
5. EHWAZ (เอห์วาซ) - รูนแห่งอาชาศักดิ์สิทธ์ มีความหมายถึงม้าที่ชาวไวกิ้งใช้ขี่ควบไปเพื่อเดินทางไปยังที่ไกลแสนไกล และม้ายังเป็นสัตว์ที่เทพเฟรย์โปรดปรานอีกด้วย(บ้างก็ว้เป็นเทพธิดาเฟรย่าน้องของเฟรย์ แต่น่าจะเป็นเฟรย์มากกว่า) ความหมายรวมไปถึงการตอบแทนบุญคุณต่อสัตว์ที่เราเลี้ยงไว้ใช้งาน ผู้อธิษฐานต่อรูนนี้จะได้รับพลังที่จะเพิ่มความสามารถและความความชำนาญในการใช้อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ(เช่นการขับรถ การใช้อาวุธ การเล่นกีฬา ฯลฯ) โดยการเพ่งสมาธิถึงผู้ที่ได้ประดิษฐ์คิดค้นอุปกรณ์หรือวิธีการต่างๆที่ทำให้เราได้ใช้งานอย่างสะดวกสบายในปัจจุบัน
6. EIHWAZ (อีห์วาซ) - รูนแห่งการปกป้องตนเอง มีความหมายถึงไม้ยิว ไม้ที่ชาวไวกิ้งใช้สร้างคันธนูและศรเพื่อใช้ในการปกป้องบ้านเมือง ทรัพย์สมบัติตลอดจนชีวิตของตนเอง ไม้ยิวให้ความสามารถในการป้องกันตัวแก่พวกเขานั่นเอง ผู้อธิษฐานต่อรูนนี้จะได้รับพลังในการปกป้อง"สถานะ"ของตนเอง (หน้าที่การงาน ทรัพย์สิน ยศถาบรรดาศักดิ์) และทำให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีแม้ในคราวเคราะห์
7. FEHU (เฟอู) - รูนแห่งความมั่งคั่ง มีความหมายถึงการบวงสรวงและการตอบแทนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์เมื่อถึงคราวที่ทำมาค้าขึ้นหรือผลผลิตเจริญงอกงาม ผู้อธิษฐานต่อรูนนี้จะได้รับความเจริญในด้านธุรกิจและการเงินโดยการเพ่งสมาธิถึงการขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าในสิ่งที่ได้รับ และการไม่ใช้สอยอย่างฟุ่มเฟือยแม้ว่ามีทรัพย์สมบัติสมบูรณ์พร้อม
8. GEBO (เกโบ) - รูนแห่งความสอดคล้องของธรรมชาติและการตอบสนอง มีความหมายถึงการกระทำสิ่งใดของเราที่จะทำลงไปย่อมได้รับผลตอบสนองจากสิ่งนั้น(ง่ายๆคือกฎแห่งกรรมนั่นเอง) ถือเป็นกฎแห่งธรรมชาติ ผู้อธิษฐานต่อรูนนี้จะได้รับความราบรื่นและความเกื้อหนุนจากธรรมชาติในการที่จะกระทำการใดๆ(ประมาณว่าธรรมชาติ ลมฟ้าอากาศเป็นใจ โชคเคราะห์อำนวย) โดยการเพ่งสมาธิถึงสิ่งที่เราอยากจะทำให้กับผู้อื่นเสมือนหนึ่งสิ่งที่เราจะต้องการจะรับมัน
9. ็HAGALAZ(ฮากาลาซ) - รูนแห่งภัยพินาศ มีความหมายถึงพลังแห่งธรรมชาติในแง่ลบไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติหรือภัยพิบัติต่างๆที่เกิดขึ้นโดยไม่สามารถคาดเดาได้ล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็น อุทกภัย ไฟไหม้ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด พายุหิมะหรืออุบัติเหตต่างๆ และหมายความถึงสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้อีกด้วย ผู้ที่อธิษฐานต่อรูนนี้จะได้รับพลังที่จะทำให้เกิดสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้รอบๆตัว โดยการเพ่งสมาธิถึงความยากลำบากความเร้นเค้นที่เกิดขึ้นหลังจากมีภัยพิบัติต่างๆ
10. INGUZ (อินกัซ) - รูนแห่งความอุดมสมบูรณ์ การเจริญพันธ์และการกำเนิด เป็นรูนที่ความหมายอันเกี่ยวข้องถึงเทพเฟรย์ มีความหมายถึงการกำเนิดทายาทของมนุษย์ การงอกงามของพืชพันธ์และปศุสัตว์ โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้ในผู้ที่ต้องการจะมีบุตรซึ่งจะต้องอธิฐานถึงความมุ่งหวังที่จะตั้งครรภ์ แต่ก็ใช้กับผลผลิตอื่นๆได้ นอกจากนี้รูนตัวนี้ยังเป็นรูนที่ทรงพลังในเชิงสร้างสรรค์ทั้งมวลด้วย ซึ่งสามารถใช้ควบคู่กับการอธิษฐานที่ต่างกันออกไป
11. ISA (ไอซา) - รูนแห่งน้ำแข็งและความหนาวเย็น มีความหมายถึงภยันตรายและความโหดร้ายจากความหนาวเย็นในดินแดนแถบสแกนดิเนเวีย รูนตัวนี้ได้รับการกล่าวว่าเป็นรูนที่ทรงอานุภาพอย่างยิ่งในหมู่ผู้ร่ายคาถาอักษรรูน ผู้ร่ายที่เข้าใจในพลังของรูนนี้จะเสมือนมีพลังมหาศาลไว้ในครอบครอง ผู้ที่อธิษฐานต่อรูนนี้จะได้พลังในการควบคุมความหนาวเย็น โดยการเพ่งสมาธิถึงการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพเมื่อสิ่งต่างๆถูกกระทบกับความความเย็นอย่างที่สุด
12. ๋JERA (เจรา) - รูนแห่งวงล้อแห่งฤดูกาล มีความหมายถึงช่วงเวลาที่ผันผ่านก่อนที่ชาวไร่จะได้เก็บเกี่ยวผลิตผลอันอุดม ผู้อธิษฐานต่อรูนนี้จะประสบผลสำเร็จในการทำสิ่งต่างๆที่ต้องเฝ้ารอคอย โดยตั้งมั่นในความอดทนและมองการไกลที่จะรับมือกับสิ่งที่ไม่อาจคาดคิดอันจะเกิดขึ้นเบื้องหน้า
13. KANO (คาโน) - รูปแห่งการเปิด(หนทาง) ในที่นี้หมายถึงการเปิดเข้าสู่โอกาสใหม่ๆ เปรียบว่า เมื่อเราอยู่ท่ามกลางความมืดมิด แสงสว่างที่เปิดฉายเข้ามาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะนำทางให้เรา เสมือนกับโอกาสที่เข้ามาในชีวิตที่ไร้จุดหมาย ผู้ที่อธิษฐานต่อรูนนี้จะได้รับพลังที่จะใช้ในการฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆได้ โดยเพ่งสมาธิถึงว่าในความมืดมิดย่อมมีทางออกอยู่เสมอ
14. LAGUZ (ลากัซ) - รูนแห่งสายน้ำ มีความหมายถึงพลังอันเป็นเอกลักษณ์ของน้ำไม่ว่าจะอยู่ในรูปลักษณ์ใดก็ตาม นั่นก็คือ "กระแส" กระแสของน้ำที่ไหลวนอยู่ในร่างกายมนุษย์เป็นพลังสำคัญที่มักจะเป็นที่ใช้ของรูนตัวนี้ ผู้ที่อธิษฐานต่อรูนนี้จะได้รับพลังในการเสริมการทำงานของอวัยวะต่างๆในร่างกายและทำให้มีสุขภาพดีและเพิ่มความแข็งแรงตลอดจนสามารถกำจัดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ โดยเพ่งจิตถึงการไหลที่เป็นระเบียบของน้ำในร่างกายและการใช้น้ำชำระล้างร่างกายให้สะอาด
15. MANNAZ (มันนัซ) - รูนแห่งมนุษยชาติ เป็นรูนที่มีความหมายถึงความเป็นหนึ่งอันเดียวกันของมวลมนุษย์ ในการที่มนุษย์ทุกคนก็ล้วนแต่เป็นส่วนหนึ่งของการมีชีวิตอยู่ของกันและกัน ต้องพึ่งพาอาศัยกัน ต้องมีกิจวัตรประจำวันที่ดำเนินไปเหมือนๆกัน ผู้ที่อธิษฐานต่อรูนนี้จะได้รับพลังในการมองเห็นความสามารถและหน้าที่ของตนเองที่จะสามารถกระทำการใดๆที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม และทำให้สามารถรวมพลังกันให้เกิดการพัฒนาต่อส่วนรวมอย่างสูงสุด
16. NAUTHIZ (นอธิซ) - รูนแห่งความสิ้นหวัง มีความหมายถึงช่วงเวลาที่คนเราไม่สามารถที่จะได้มาในสิ่งที่ต้องการ และไม่ประสบความสำเร็จตามที่ได้มุ่งหวังไว้ ทำให้เกิดความเศร้า หมองหม่น สิ้นหวังในชีวิต ผู้ที่อธิษฐานต่อรูนนี้อาจจะสามารถควบคุมตนเองให้รู้สึกถึงความสิ้นหวังได้น้อยที่สุด หรืออาจจะหลีกเลี่ยงการที่จะต้องเผชิญกับความสิ้นหวังเหล่านี้ได้ โดยการเพ่งสมาธิถึงสิ่งเลวร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นและคิดถึงในสิ่งที่จำเป็นสำหรับชีวิตจริงๆให้น้อยอย่างที่สุด
17. OTHILA (ออธิลา) - รูนแห่งการสืบทอด มีความถึงการสืบทอดความรุ่งเรืองมั่งคั่งและความรับผิดชอบให้กับคนรุ่นต่อๆไป รวมถึงความหมายในแง่ของการถอยออกมาพักผ่อนของผู้ที่อ่อนล้า รูนนี้จะมอบพลังในการวิเคราะห์สถานการณ์และฟื้นฟูพลังให้กับผู้ที่ได้ผ่านการตรากตรำทำงานหนัก ซึ่งเมื่อมอบงานให้กับคนรุ่นต่อๆไปแล้วถอยออกมามองดูห่างๆก็จะสามารถเห็นรูปการได้โดยทั่วถึง และทำให้มีความคิดที่กว้างไกลใหม่ๆเกิดขึ้น
18. PERTH (เพิร์ธ) - รูนแห่งปาฏิหาริย์ มีความหมายถึงสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆ หรือปรากฏการณ์ต่างๆที่เหลือเชื่อและไม่สามารถหาคำอธิบายได้ ในตัวอย่าง เช่น นักรบไวกิ้งผู้อธิษฐานต่อรูนนี้ได้รอดตายจากสงครามได้อย่างปาฏิหาริย์ ทั้งๆที่ผู้คนรอบข้างล้มตายไปหมด รูนนี้เป็นที่ถือว่าใกล้ชิดกับพระเจ้ามากที่สุดตัวหนึ่ง ผู้ที่อธิษฐานต่อรูนนี้จะได้รับสิ่งที่ไม่คาดฝัน โดยการเพ่งสมาธิถึงความต้องการและความคาดหวังของตนเองร่วมไปกับการแสดงความเชื่อมั่นในปาฏิหาริย์
19. RAIDO (เรโด) - รูนแห่งการเดินทาง มีความหมายถึงช่วงเวลาที่ยาวนานที่ผู้คนต้องรอนแรมไปในที่ห่างไกลต่างๆ ทั้งนี้ รูนตัวนี้มีความหมายได้ทั้งสองแง่คือ การเดินทางจริงๆของบุคคล(physical) และการเดินทางของวิญญาณ(spiritual) ในการเดินทางทั้งหลายย่อมจะมีทั้งอุปสรรคและสิ่งเกื้อหนุน ผู้ที่อธิฐานต่อรูนนี้ให้ถูกโอกาส จะได้รับความสะดวก ความปลอดภัยและสิ่งเกื้อหนุนในการเดินทาง โดยเพ่งสมาธิถึงสิ่งที่จะได้รับ ประสบการณ์ใหม่ๆที่จะได้จากการเดินทางและคิดถึงการเดินทางที่ดีที่เคยได้ผ่านมา
20. SOWOLU (โซโวลู) - รูนแห่งแสงสุริยะและพลังชีวิต มีความหมายถึงแสงอาทิตย์ที่ถือกันว่าเป็นสิ่งที่มอบพลังชีวิตให้แก่สรรพชีวิต ขับไล่ความมืดมิดและความหนาวเย็น และมอบชีวิตกลับคืนสู่ผืนโลก มนุษย์และสิ่งมีชีวิตทั้งหลายล้วนแต่ต้องขึ้นกับแสงอาทิตย์ซึ่งเปรียบเสมือนผู้ครอบครองพลังชีวิตทั้งมวลและเป็นพระเจ้าที่แท้จริง ผู้ที่ตั้งอธิฐานถึงพลังชีวิตจากแสงอาทิตย์นี้จะได้รับความแจ่มใสและพลังชีวิตอย่างเต็มเปี่ยม
21. TEIWAZ (เทวาซ) - รูนแห่งวิญญาณแห่งนักรบ รูนตัวนี้เป็นรูนประจำตัวของเทพไทร์(Tyr)(เทพเจ้าแห่งสงคราม) รูนตัวนี้จะพบได้บ่อยบนเกราะและโล่ของนักรบไวกิ้ง ซึ่งจะมอบพลังแห่งการคุ้มครองเหล่านักรบและเสริมพลังเพื่อให้ได้รับชัยชนะในการศึก นอกจากนี้รูนตัวนี้ยังเป็นรูนที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในการใช้เพื่อเสริมพลังให้แก่ผู้ร่าย ทำให้สามารถเอาชนะศัตรูและอุปสรรคต่างๆได้โดยง่าย อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการป้องกันไม่ให้เกิดบาดแผลรุนแรงเมื่อต้องต่อสู้อีกด้วย
22. THURISAZ (ธูริซาซ) - รูนแห่งความมืด เป็นรูนที่มีความคลุมเครือในการตีความหมายอยู่ บ้างว่าหมายความถึงพลังในด้านลบในตัวเรา บ้างก็ว่ามันเป็นสัญลักษณ์ชองภูตผีปิศาจและสิ่งชั่วร้ายต่างๆ เช่นเดม่อน ยักษ์ และโทรล อย่างไรก็ตามโดยรวมแล้วก็คือมันมีความหมายในด้านลบอย่างที่กล่าวไปแล้ว.. ด้านมืดเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราต้องควบคุมไม่ให้ถูกมันควบคุมและไม่ให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของความมืดเหล่านั้น การอธิษฐานต่อรูนนี้ทำเพื่อควบคุมด้านมืดเหล่านี้ไม่ให้มีอำนาจขึ้นได้ แต่ทำได้ยากและต้องใช้ความระมัดระวังสูง โดยการเพ่งสมาธิถึงตัวตนที่แท้จริงของด้านมืดในตัวเรา และเชื่อมั่นว่าเราสามารถจะควบคุมความมืดเหล่านั้นได้ (หากทำผิดพลาดจะเกิดผลตรงข้าม)
23. THE UNKNOWABLE - รูนแห่งความว่างเปล่า บางตำราก็ไม่ถือว่ารูนนี้มีตัวตนหรือไม่นับว่าเป็นหนึ่งในอักขระรูน(มันจึงไม่มีรูป...) มีความหมายถึงสิ่งไม่อาจล่วงรู้ได้ และความไม่รู้ทั้งหลาย บ้างก็เรียกว่าเป็น "หลุมดำแห่งความความรู้" (blackhole of knowledge) ที่จะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างหายไป ดังเช่นเหมือนเลข 0 ที่เหมือนนำไปหารด้วยสิ่งใดก็จะกลายเป็น 0 และเป็นตัวแทนของความกลัวใน "ความว่างเปล่า" ของมนุษย์ ที่เป็นสิ่งที่เรากำเนิดขึ้นมาจากมันและจะต้องกลับไปสู่มันในวันหนึ่ง การอธิษฐานต่อรูนนี้ใช้เพื่อหาคำตอบในตัวตนที่แท้จริงของเราและเอาชนะความกลัวในส่วนลึกของจิตใจ
24. ๊URUZ (เออรัซ) - รูนแห่งพละกำลังและความคึกคะนอง มีความหมายถึงพละกำลังและความคะนองเยี่ยงสัตว์ป่าที่เหล่านักรบต้องการครอบครอง ความไม่กลัวความตายและรับรู้ว่าความตายเป็นเรื่องธรรมดาและอาจจะมาถึงเมื่อใดก็ได้ ผู้ที่ยึดมั่นต่อรูนนี้จะเข้าใจในการความมีชีวิตอยู่ว่า "ใช้ชีวิตให้เต็มที่" และจะได้รับพลังในการมีชีวิตอยู่ คนเหล่านี้จะไม่กลัวในความตายที่จะมาถึงและจะไม่เสียใจหากต้องสิ้นชีวิต
25. WUNJO (วันโจ) - รูนแห่งความรุ่งโรจน์และความสุข มีความหมายถึงแทบทุกแง่ของความสุขและความรู้สึกในด้านบวกของมนุษย์ แต่เนื้อแท้ของรูนตัวนี้คือ "การไร้ซึ่งความอยากและไร้ซึ่งความทุกข์"
อักษรรูนที่เป็นตัวโดดๆส่วนใหญ่จะใช้ในการอธิษฐาน แต่ถ้าหากจะพูดถึงว่าเป็นบทคาถาแล้วล่ะก็ส่วนใหญ่จะใช้อักษรรูนหลายๆตัวมาผสมกันเพื่อร่าย โดยปกติที่เห็นบ่อยก็คือใช้สามตัว และในบทคาถาเหล่านั้นก็จะพบอักษรรูนทั้ง 25 ตัวที่กล่าวมาข้างต้นผสมผสานกัน...
เป็นข้อมูลที่ได้ค้นหาจากหนังสือและเว็บไซด์ต่างๆ หลายๆแหล่งข้อมูลมาปะติดปะต่อกัน ส่วนเราเองก็ไม่มีความรู้เรื่องนี้เลยซํกกาติ๊ดเดียว เลยออกความเห็นมากไม่ได้ คิ คิ ใครเป็นผู้รู้จริง มาแย้งได้นะจ้าถ้าข้อมูลผิดพลาด
ผลงานอื่นๆ ของ เมเดียร์ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ เมเดียร์
ความคิดเห็น