ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ยูนิคอร์น
ยูนิคอร์น (Unicorn) หัวตลอดตัวเป็นม้า แต่มีเขาเดี่ยวเรียวแหลมงอกพุ่งขึ้นมาจากกึ่งกลางหน้าผาก
ข้อมูลจากหนังสือซองคำถามบอกว่ายูนิคอร์นปรากฏในจิตรกรรมยุคแรกสุดของชาวเมโสโปเตเมีย และเรื่องราวของม้ามีเขานี้มีการอ้างอิงถึงในตำนานเก่าแก่ของอินเดีย ซึ่งค่อยๆ แพร่กระจายไปทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และจีน เมื่อเข้าสู่แผ่นดินจีนในศตวรรษที่ 27 ก่อนคริสตกาล ยูนิคอร์นก็ได้แปลงโฉมเป็นตัว "กิเลน" หัวเป็นมังกร มีเขาอ่อนหนึ่งเขา ตัวเป็นกวาง เท้าเป็นกีบเหมือนม้า หางเป็นพวง
ซีเซียส (Ctesias) นักประวัติศาสตร์และแพทย์ชาวกรีกซึ่งมีชีวิตอยู่ในราว 400 ปีก่อนคริสตกาล เป็นบุคคลแรกที่บรรยายรูปร่างลักษณะของยูนิคอร์นไว้ว่า "เจ้าลาป่าอินเดียนี้มีขนาดรูปร่างพอๆ กับม้า ลำตัวเป็นสีขาว หัวเป็นสีม่วง ตาสีฟ้า บนหน้าผากของมันมีเขาเดี่ยวยาวหนึ่งศอก ปลายเขาเป็นสีแดง ตอนกลางเป็นสีดำ และส่วนฐานที่ติดกับหัวเป็นสีขาว ใครก็ตามที่ใช้เขายูนิคอร์นเป็นถ้วยรองดื่มจะปลอดภัยจากยาพิษ โรคลมบ้าหมูและอาการปวดท้องทุกชนิด ยูนิคอร์นปราดเปรียววิ่งได้เร็วมากจนยากที่มนุษย์จะจับมันได้"
ยูนิคอร์นอยู่ในพระคัมภีร์ไบเบิลด้วย จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ในคริสตศาสนาซึ่งถูกตีความอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมักถูกเปรียบเทียบว่าคือองค์พระเยซู ผู้ถือแตรนำกองทัพแห่งความรอดของมนุษยชาติ โดยจุติในครรภ์ของพระแม่มารี มโนคตินี้ได้รับการเสริมแต่งอย่างละเอียดพิสดารในโลกตะวันตกสมัยกลาง จนกลายเป็นนิทานเปรียบเทียบเล่าถึงการลงมาเกิดในโลกมนุษย์ และการสละชีพของพระเยซูคริสต์
ภาพและรูปปั้นการตามล่ายูนิคอร์นปรากฏอยู่ทั่วไปในศิลปะสมัยกลาง ไม่เฉพาะแต่ในยุโรปเท่านั้น แต่รวมถึงโลกอิสลามและจีนด้วย ตามตำนานที่เล่าสืบกันมา ยูนิคอร์นดุร้าย มันจะไม่ยอมให้ถูกจับโดยการใช้กำลังหรือบีบบังคับ วิธีเดียวเท่านั้นที่จะจับมันได้คือต้องนำสาวพรหมจรรย์มายังบริเวณที่มันท่องเที่ยวอยู่ เมื่อหญิงสาวนั่งลง ยูนิคอร์นจะโน้มหัวลง ละความดุร้าย แล้วเอนตัวลงนอนบนตักของหญิงสาวนั้น ผล็อยหลับไปจนถูกจับได้
ข้อมูลจากหนังสือซองคำถามบอกว่ายูนิคอร์นปรากฏในจิตรกรรมยุคแรกสุดของชาวเมโสโปเตเมีย และเรื่องราวของม้ามีเขานี้มีการอ้างอิงถึงในตำนานเก่าแก่ของอินเดีย ซึ่งค่อยๆ แพร่กระจายไปทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และจีน เมื่อเข้าสู่แผ่นดินจีนในศตวรรษที่ 27 ก่อนคริสตกาล ยูนิคอร์นก็ได้แปลงโฉมเป็นตัว "กิเลน" หัวเป็นมังกร มีเขาอ่อนหนึ่งเขา ตัวเป็นกวาง เท้าเป็นกีบเหมือนม้า หางเป็นพวง
ซีเซียส (Ctesias) นักประวัติศาสตร์และแพทย์ชาวกรีกซึ่งมีชีวิตอยู่ในราว 400 ปีก่อนคริสตกาล เป็นบุคคลแรกที่บรรยายรูปร่างลักษณะของยูนิคอร์นไว้ว่า "เจ้าลาป่าอินเดียนี้มีขนาดรูปร่างพอๆ กับม้า ลำตัวเป็นสีขาว หัวเป็นสีม่วง ตาสีฟ้า บนหน้าผากของมันมีเขาเดี่ยวยาวหนึ่งศอก ปลายเขาเป็นสีแดง ตอนกลางเป็นสีดำ และส่วนฐานที่ติดกับหัวเป็นสีขาว ใครก็ตามที่ใช้เขายูนิคอร์นเป็นถ้วยรองดื่มจะปลอดภัยจากยาพิษ โรคลมบ้าหมูและอาการปวดท้องทุกชนิด ยูนิคอร์นปราดเปรียววิ่งได้เร็วมากจนยากที่มนุษย์จะจับมันได้"
ยูนิคอร์นอยู่ในพระคัมภีร์ไบเบิลด้วย จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ในคริสตศาสนาซึ่งถูกตีความอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมักถูกเปรียบเทียบว่าคือองค์พระเยซู ผู้ถือแตรนำกองทัพแห่งความรอดของมนุษยชาติ โดยจุติในครรภ์ของพระแม่มารี มโนคตินี้ได้รับการเสริมแต่งอย่างละเอียดพิสดารในโลกตะวันตกสมัยกลาง จนกลายเป็นนิทานเปรียบเทียบเล่าถึงการลงมาเกิดในโลกมนุษย์ และการสละชีพของพระเยซูคริสต์
ภาพและรูปปั้นการตามล่ายูนิคอร์นปรากฏอยู่ทั่วไปในศิลปะสมัยกลาง ไม่เฉพาะแต่ในยุโรปเท่านั้น แต่รวมถึงโลกอิสลามและจีนด้วย ตามตำนานที่เล่าสืบกันมา ยูนิคอร์นดุร้าย มันจะไม่ยอมให้ถูกจับโดยการใช้กำลังหรือบีบบังคับ วิธีเดียวเท่านั้นที่จะจับมันได้คือต้องนำสาวพรหมจรรย์มายังบริเวณที่มันท่องเที่ยวอยู่ เมื่อหญิงสาวนั่งลง ยูนิคอร์นจะโน้มหัวลง ละความดุร้าย แล้วเอนตัวลงนอนบนตักของหญิงสาวนั้น ผล็อยหลับไปจนถูกจับได้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น