การสะกดจิตกับไสยศาสตร์ - การสะกดจิตกับไสยศาสตร์ นิยาย การสะกดจิตกับไสยศาสตร์ : Dek-D.com - Writer

    การสะกดจิตกับไสยศาสตร์

    เข้ามาเถอะแล้วจะรู้เอง...

    ผู้เข้าชมรวม

    2,677

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    2.67K

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    4
    หมวด :  จิตวิทยา
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  3 มี.ค. 50 / 15:16 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
             ในการแสดงการสะกดจิตของนักสะกดจิตผู้หนึ่ง   หลังจากที่ผู้แสดงการสะกดจิตได้อธิบายหลักการตลอดจนวิธีการสะกดจิตที่ใช้ให้ผู้เข้าชมฟัง เช่น สั่งให้ร่างกายของผู้ถูกสะกดจิตแข็งเป็นหิน ปรากฏว่าหลังจากทราบคำสั่งแล้วผู้ถูกสะกดจิตแข็งเป็นหินจริงๆ   ร่างกายของผู้ถูกสะกดนำไปวางพาดบนเก้าอี้ 2 ตัว โดยให้เก้าอี้ทั้งสองตัวนั้น   วางรองที่ศีรษะและปลายเท้า   ปรากฏว่าร่างของผู้ถูกสะกดจิตไม่ยุบลงไป   ยิ่งไปกว่านั้นผู้ทำการสะกดจิตได้ให้บุคคลอีกคนหนึ่งหนักประมาณ 80 กก.   ขึ้นไปยืนบร่างของผู้ถูกสะกดจิต   ปรากฏว่าร่างของผู้ถูกสะกดจิตไม่ได้ยุบลงไป   สามารถรับน้ำหนัก 80 กก. ได้อย่างสบาย 

          จากนั้นได้เปิดโอกาสให้ผู้ชมได้เข้าร่วมสาธิตด้วย   โดยให้ผู้ชมขึ้นไปบนเวทีสะกดจิตจริง    2-3 คน   แล้วผู้ทำการสะกดจิตได้ยื่นหัวหอมใหญ่ให้ผู้ที่ขึ้นไปบนเวทีรับประทาน   โดยบอกว่าเป็นส้มเขียวหวานเอร็ดอร่อย   และเมื่อผู้ทำการสะกดจิตถามว่าส้มหวานมั๊ย   ก็ได้รับคำตอบว่าส้มหวานมาก   ซึ่งทำความประหลาดใจแก่ผู้ชมอื่นๆที่ไม่ได้เข้าร่วมการสะกดจิตบนเวทีเป็นอย่างมาก   เพราะในสายตาผู้ชมอื่นๆมองเห็นว่า   สิ่งที่ผู้สะกดจิตยื่นให้นั้นเป็นหัวหอมใหญ่ไม่ใช่ส้มเขียวหวานเหมือนกับที่ผู้ร่วมสาธิตเข้าใจ

          ที่ญี่ปุ่นมีนักสะกดจิตคนหนึ่งได้สะกดให้เพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้หญิงได้สั่งจิตว่า ต่อแต่นี้ไปให้เข้าใจว่าตนเองคือผู้ชาย   สั่งเช่นนี้ไปมา2-3ครั้ง   แล้วจึงสั่งให้ลืมตาขึ้น   ปรากฏว่าเด็กคนนั้นเปลี่ยนแปลงไป   เช่น   เข้าร่วมกิจกรรมกับผู้ชาย   แสดงความแข็งแรง   ขณะที่ทำการสะกดจิตนั้นมีคนมาตามอาจารย์ไปรับโทรศัพท์ปรากฏว่าเมื่ออาจารย์ออกไปแล้ว   เด็กคนนั้นได้ไปเข้าห้องน้ำ   จากนั้นประมาณ 2-3 นาที   ได้กลับมาเข้าห้องด้วยกระโปรงที่เปียกชุ่ม   ภายหลังสอบถามคนทำความสะอาดห้องน้ำบอกว่าเห็นเด็กคนนี้ยืนปัสสาวะเหมือนเช่นผู้ชาย   เมื่อเด็กผู้หญิงคนนั้นรู้ความจริงว่าไปปัสสาวะมา   กระโปรงจึงเปียกจึงร้องไห้ออกมาด้วยความอับอายเลยทีเดียว

          สิ่งที่ได้ปรากฏนี้   เป็นผลมาจากจิตใต้สำนึกได้รับคำสั่งให้เข้าใจผิดในบางสิ่งบางอย่างไปชั่งขณะหนึ่ง   จิตใจ้สำนึกจึงได้สั่งการไปยังสมองใหญ่ซึ่งควบคุมประสาทส่วนต่างๆของร่างกายให้ปรับระดับให้สอดคล้องกับความเชื่อหรือความเข้าใจของจิตใต้สำนึก   การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในที่นั้เป็นผลเนื่องมาจากอวัยวะต่างๆ   และฮอร์โมนในร่างกายของผู้ถูกสะกดจิตปรับสภาวะให้อยู่ในลักษณะสมดุชกับจิตใต้สำนึก   มิได้เกิดจากอำนาจเวทมนตร์คาถา   หรืออำนาจทางไสยศาสตร์แต่อย่างใดเลย   ถ้าเช่นนั้นไสยศาสตร์ก็ไม่ใช่การสะกดจิต   การสะกดจิตก็ไม่ใช่ไสยศาสตร์   เพราะการสำกดจิตเป็นเรื่องที่สามารถใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ตรวจสอบ   สามารถอธิบายหลักของวิชาสรีรศาสตร์   จิตวิทยา  และแพทย์ศาสตร์   แต่เราไม่สามารถนำหลักเหล่านี้มาอธิบายหลักของไสยศาสตร์ได้   แต่ภาวะสะกดจิตอาจเกิดจากไสยศาสตร์ได้เหมือนกัน   ซึ่งเป็นเรื่องทางวิทยาศาสตร์ที่ยังหาเหตุผลไม่ได้เหมือนกันและยังไม่สามารถทำเครื่องมือขึ้นมาทดลองได้   เช่น  การทำคุณไสย   การทำเสน่ห็   หรือการเสกของในชนบท   เป็นผลให้ผู้ถูกกระทำมีแาการผิดปกติไปต่างๆนานา   เช่น  สติวิปลาศไป   หรือเจ็บป่วยแต่หาสาเหตุไม่ได้   ผู้ที่เคยพบเหตุการณ์เช่นนี้มาโดยตรงเท่านั้น   จึงกล้ายืนยันถึงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้   แต่ก็ไม่มีใครสามารถอธิบายได้ว่าเป็นเพราะเหตุใด

         ไสย์ศาสตร์มีหลักการบ้างที่เหมือนกับการสะกดจิต   แม้ว่าจะไม่ค่อยตรงกันก็ตาม   ในเรื่องของตุ๊กตา วูดู   ในเรื่องนี้เคยถูกพิสูจน์โดยนายแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันมาหลายครั้งแล้ว   ในที่สุดฝ่ายทางวิทยาศาสตร์ก็พ่ายแพ้   หาเหตุผลมาอธิบายว่า    ทำไมอำนาจลึกลับของตุ๊กตาวูดูจึงทำให้คนตายได้ 


          ในทวีปแอฟริกา   มีคนป่าเผ่าหนึ่งชื่อเผ่าวูดู   หัวหน้าเผ่านี้เป็นหมอผีมีอาวุธอย่างหนึ่ง   ซึ่งแกะจากไม้อย่างหนึ่งเป็นรูปตุ๊กตา   เรียกตุ๊กตานี้ว่า ตุ๊กตาวูดู   หัวหน้าเผ่านี้สามารถทำให้คนตายได้   โดยเพียงสลักชื่อบุคคลที่ต้องการให้เขาตายลงไว้บนตุ๊กตา   จากนั้นจะให้มีการเต้นรำรอบกองไฟตามความเชื่อของเขา   ทุกวันหัวหน้าเผ่าที่เป็นหมอผีจะใช้เข็มแทงลงไปบนตุ๊กตาตรงบริเวณที่ถูกกำหนดให้ว่า   เป็นหัวใจวันละเล่มจนครบ 7 วัน   เมื่อครบ 7 วันแล้ว   ผู้เป็นเจ้าของชื่อจะถึงแก่ความตาย   นายเพทย์ผิวขาวหลายคน   ได้ทำการพิสูจน์โดยการระดมแพทย์ที่มีคววามรู้ความเชี่ยวชาณคอยดูแลคนป่วยอยู่ตลอดเวลา   ส่วนฝ่ายที่ทำพิธีก็ทำต่อไป   ปรากฏว่าเมื่อครบ 7 วัน ตามพิธี   คนป่วยซึ่งได้รับการดูแลอย่างดีจากแพทย์ผิวขาวถึงแก่ความตายทุกรายโดยหาสาเหตุไม่ได้   ต่อมาวิธีนี้ได้มีผู้พยายามอธิบายหาเหตุผล   ในที่สุดได้มีนักจิตเวชศาสตร์ชาวเยอรมัน   ได้ให้คำอธิบายด้วยเหตุผลที่เป็นที่ยอกรับกันว่าใกล้เคียงกับความจริงที่สุด   และมีทางเป็นไปได้ในทางจิตเวชศาสตร์   โดยตั้งสมมุติฐานว่า   จิตใจ้สำนึกของคนเราคือสิ่งที่สำคัญที่สุดเท่ากับชีวิต   ฉะนั้นถ้าสามารถทำให้จิตใต้สำนึกเชื่ออย่างแน้นแฟ้นว่า   ชีวิตเราถูกทำลายแล้วผู้เป็นเข้าของจิตใจ้สำนึกนั้นก็อาจถึงแก่ความตายได้

          มีผู้เคยทดลองในต่างประเทศด้วยการนำนักโทษประหารไปชมงูพิษ   แล้วบอกนักโทศผู้นั้นว่าเขาจะต้องถูกประหารชีวิต   โดยหารให้งูพิษกัด   และอธิบายให้ฟังถึงการที่จะต้องทำในการประหารและความร้ายแรงของงูพิษชนิดนั้น   จนนักโทษเชื่ออย่างสนิทว่าเชาต้องตายภายในเวลาไม่เกิน 30 วินาที  เมื่อถึงกำหนดประหาร   ผู้คุมได้ตัดการเอาผ้าผูกตานักโทษไว้   แล้วพามายังห้องประหารที่ได้จัดไว้   โดยบอกนักโทษว่าเขาจะต้องถูกงูพิษกัด   เมื่อจับนักโทษมัดไว้กับเก้าอี้แล้ว   นายแพทย์ผู้ควบคุมได้ได้ทดลองใช้เข็มแทงเท้าไปที่ขาของนักโทษ   โดยทำเหมือนกับว่าโดนงูกัด   ปรากฏวานักโทษผู้นั้นร้องขึ้นด้วยเสียงอันดังและล้มขาดใจตายทันที



                    
      โปรดใช้วิจรญาณนะครับ...


       


       

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×