หมอดูฝึกหัด
ไม่ได้มีเจตนาโจมตีผู้ทำอาชีพนี้แต่อย่างใด เพียงแต่ต้องการนำเสนอมุมมองของตัวเองที่เคยศึกษามาเท่านั้นครับ
ผู้เข้าชมรวม
323
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
หมอดูฝึกหัด
ผมชื่อนิวครับ
นิวเป็นนักศึกษา และระหว่างเรียนเองผมก็ทำหลายๆอย่างคล้ายๆกับนักศึกษาทั่วไป
คือการหางานทำเป็นงานพาสไทม์ หรือพูดง่ายๆคือทำงานเป็นอาชีพพิเศษเพื่อหารายได้เสริมในการจับจ่ายสิ่งจำเป็นและเพื่อสิ่งที่ต้องการในสังคมมหาวิทยาลัย
จึงเป็นที่มาของการศึกษาค้นคว้าตามเว็บไซด์ จนได้พบกับการทำอาชีพนักพยากรณ์ หรือเรียกง่ายๆว่าหมอดูนั่นเอง
คงจะเกริ่นความแต่เพียงเท่านี้
*** จากนี้จะเป็นเรื่องราวที่ต้องใช้วิจารณญาณในการอ่านนะครับ
คงต้องเริ่มทำความเข้าใจในเบื้อต้นกันเสียก่อน ตามความเข้าใจของคนส่วนใหญ่แล้ว
หมอดู คือผู้ที่ทำนายโดยการใช้ศาสตร์ต่างๆ หรือที่นักทำนายบางส่วนเรียกว่าอาวุธ เช่น ไพ่ยิปซีหรือไพ่ต่างๆ ลูกเต๋า ใบไม้ กระดาษ แว่นขยายส่องลายมือหรือลายเท้า ฯลฯ
แต่ก็มีในบางทีที่คนหลายคนซึ่งอ้างตัวว่าเป็นหมอดูสามารถทำนายโดยไม่ใช้สื่อหรืออาวุธเหล่านี้
จนถูกสงสัยว่ารู้ได้อย่างไร ทำได้อย่างไร ประกอบกับที่เมื่อบางทีผลคำทำนายออกมาเลวร้ายหรือ ไม่แม่นไม่เป็นไปตามคำทำนาย
เหตุนี้ในโบราณจนถึงปัจจุบันจึงยังมีสำนวนคำพูดนึงที่มักติดปากอยู่ก็คือสำนวนคำพูดว่า "หมอดูคู่กับหมอเดา"
ผมมีปัญหาทางบ้านในช่วงนั้นครับ ผมศึกษาจากหมอดูแถวๆมหาวิทยาลัยและพบว่า
อาชีพหมอดูถ้าสามารถทำให้ลูกค้าติดใจได้ จนมีฐานลูกค้าหลักซึ่งลูกค้าเหล่านั้นจะนำพาให้ไปพบกับลูกค้าใหม่ๆได้ด้วยแล้ว
ไม่ว่าจะโดยลุ๊ค หรือคาแลคเตอร์ การทำนายที่แม่น หรือ โปรโมชั่นที่น่าสนใจ
รายได้ของหมอดูนั้นอาจจะสูงกว่า 40,000 - 50.000 บาทต่อเดือนเลยทีเดียว
งานของหมอดูไม่ต้องตากแดดตากฝนครับ ไม่ต้องรับคำสั่งจากใคร ไม่ต้องวิ่งออกไปขายของหาลูกค้า
ถ้ามีการโฆษณาที่ดีอยู่กับบ้านก็มีคนมาหาถึงที่ คนไม่มีหรือยามว่างก็นั่งเล่นเกมส์หรือดูทีวีดูภาพยนต์ได้ตามสบาย
ในหมอดูบางรายที่รับดูทางโทรศัพท์ด้วยถึงกับไม่ต้องลำบากนั่งรอลูกค้า เที่ยวไปด้วยทำนายไปด้วยระหว่างเที่ยวยังได้แบบสบายๆ
เป็นไงครับหลังจากที่ได้อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คุณเริ่มอยากที่จะเป็นนักทำนายกับเขาบ้างหรือยัง ?
สำหรับผมแล้วโดยปกติเป็นคนชอบทำอะไรแหวกแนวอยู่แล้วพูดอีกอย่างคือไม่เหมือนชาวบ้าน
ผมจึงเริ่มศึกษาอย่างจริงจังโดยเริ่มจากไพ่ยิปซี แทนที่จะหางานตามห้างสรรพสินค้าเป็นลูกจ้างเขา หรือทำงานตามร้านเหล้า แบบที่คนอื่นในรุ่นเดียวกันทำ
ผมศึกษาตั้งแต่วิธีการตั้งไพ่ตามหนังสือที่หาซื้อได้ทั่วๆไปเลยครับตามร้านหนังสือ
จากนั้นคงเป็นปัญหาสำหรับทุกคนคือ ทำนายไม่ได้
ต่อให้กางหนังสือไปด้วยแต่ก็ทายไม่ได้ ปวดหัว ไพ่ใบนี้ขึ้นพร้อมไพ่ใบนั้นหมายถึงอะไร ไม่เข้าใจ
ที่ทายแม่นส่วนใหญ่คือทายเอาบางส่วนจากหนังสือ มาปนกับความรู้จักตัวเอง หรือรู้จักกับเพื่อนที่มาเป็นหนูทดลองให้ผมทำนาย จึงตรงบ้างไม่ตรงบ้าง
ปัญหาข้างต้นจึงนำผมไปสู่การหาอาจารย์เพื่อเป็นติวเตอร์ในการเป็นหมอดูอย่างจริงจัง
ผมเริ่มจากกการไปตามร้านหมอดูทุกร้านแถวมหาวิทยาลัย ใครแม่นใครดีไปดูหมดทุกเจ้าก็ว่าได้
แต่ก็ระวังเรื่องดวงช้ำ ซึ่งจะมีผลเสียทำให้เจอเรื่องไม่คาดฝัน หรือใครทักอะไรมาก็เป็นไปตามปากเขาเสียหมดด้วย
ดังที่มีคนเคยพูดไว้ในเว็บไซด์ต่างๆที่เกี่ยวกับหมอดู ทุกอย่างจึงต้องค่อยเป็นค่อยไป
ในที่สุดผมก็ได้อาจารย์ครับ คนนี้ดูแม่นมาก อายุเองก็เยอะทำให้ดูน่าเชื่อถือน่าสนใจ
จึงได้ฝากตัวเป็นลูกศิษย์และนำพานครูมาไหว้เป็นที่เรียบร้อยตามแบบของสำนัก
เสียค่าพานครูไปทั้งสิ้น 5999 บาท
วิชาแรกที่ได้ศึกษาคือ วิชาทำนายด้วยไพ่ยิปซีครับ
การทำนายโดยใช้ไพ่ยิปซีนี้คือการทำนายโดยมีไพ่ 78 ใบ วางตามรูปแบบบนโต๊ะ
พื้นที่ที่จะวางไพ่จะต้องมีผ้ารองไพ่กันลื่นโดยมากมักจะเป็นผ้ากำมะหยี่สีแดง สีน้ำเงิน หรือสีเขียว ตามแต่ที่ใครจะถูกโฉลกกับสีไหน
จากนั้นเริ่มจากอ่านตามหนังสือ ไพ่หนึ่งใบคำทำนายยาวประมาณสองหน้ากระดาษ A4 เลยทีเดียว
ต้องอ่านโดยฝึกอ่านไปเป็นจำนวน 4 ระดับ ระดับละ 20 คนรวมเป็นต้องดูทั้งสิ้น 80 คน จึงจะจบหลักสูตรในการเรียนไพ่ยิปซี
เมื่อเรียนจบ จากนั้นก็ถึงเวลาที่จะต้องใช้จริงกันบ้างเสียที
ผมเริ่มดูดวงโดยเก็บที่คนละ 100 บาท
ผมนั่งดูโดยนั่งที่ร้านกาแฟของเพื่อน โดยขอเช่าพื้นที่ซึ่งเป็นโต๊ะ 1 ตัว และเก้าอี้ 1 ตัว เดือนละ 500 - 1000 บาท
ดูได้เฉลี่ยวันละ 2 คน เป็นเงินวันละ 200 บาท
หรือรวมทั้งเดือนคือ 6000 บาทนั่นเอง
นั่งตากแอร์สบายๆ ไม่ร้อนไม่ลำบาก เป็นการเริ่มต้นที่ไม่เลวเลยใช่ไหมล่ะครับ
แต่หลังจากนั้นมาสิ่งที่ผมหาไม่ได้จากหนังสือคือ บททดสอบครับ
เป็นบททดสอบจากสิ่งที่มองไม่เห็น *** ตรงนี้ต้องใช้วิตารณญาณในการอ่านนะครับ
- ประสบการณ์เมื่อต้องเจอกับคนทรงเจ้าและคนมีองค์
ขณะกำลังว่างจากการนั่งดูดวงตามปกติ ก็มีคนมาชวนคุย เป็นผู้ชายร่างใหญ่ผิวดำ
ให้ผมไปที่ฝั่งตรงข้ามกับร้านกาแฟของเพื่อน ซึ่งเป็นตำหนักทรง มาขอให้ดูดวงให้
ขณะนั้นก็สงสัยว่าก็เป็นร่างทรงอยู่แล้วทำไมต้องมาให้คนตามไปให้ทำนายดวงให้
คิดได้อย่างเดียวในตอนนั้นเลยคือ
กำลังจะโดนลองของเสียแล้ว
จึงได้โทรไปปรึกษาอาจารย์ที่ได้ฝากฝังตัวเป็นลูกศิษย์เอาไว้นั่นเอง
อาจารย์บอกผ่านทางโทรศัพท์มาสั้นๆว่า
"จิตที่นิ่งคือจิตที่เป็นพลัง อย่ากลัว ลุยเลย ทำตามที่เรียนมาก็พอ"
ผมจึงเข้าไปในตำหนักครับ
ปรากฏว่าผมไม่ได้ไปทำนายให้เขาแต่เขากลับมาทำนายให้ผมแทน โดยที่ไม่ใช้อาวุธหรือสื่อใดๆเลย
และยังแม่นมากอีกด้วย ราวกับมีคนมากระซิบข้างหูเขาว่าผมเป็นคนยังไง เคยเจออะไรมา และมีนิสัยใจคออย่างไร เขาทำได้อย่างไร ?
สุดท้ายเขาก็เข้าทรง และพยายามพูดหว่านล้อมให้ผมไปเป็นร่างทรงด้วยซะแบบนั้น
ในตอนนั้นแฟนผมบุกเข้ามาด้านในตำหนักทรง กับรุ่นน้องอีกหนึ่งคนอย่างกะทันหัน
พร้อมกับลากผมออกไปข้างนอกและให้ผมกำท้าวเวสสุวรรรณไว้ (ท้าวเวสสุวรรณ อธิบายอย่างเข้าใจง่ายๆคือ ท่านเป็นยักษ์ที่ยืนอยู่หน้าวัดหรือหน้าโบสถ์ เป็นผู้เป็นใหญ่แห่งสวรรค์ชั้นจตุมหาราชิกา มีอำนาจในการควบคุมภูติผีปีศาจให้ยอมจำนน และเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภอีกด้วย)
... อีกนิดเดียวจริงๆ ผมยอมรับว่าใจมันไขว้เขวจากการเป็นหมอดู เหมือนมีอะไรมาดลใจให้เห็นว่าร่างทรงนี่ดีมีอิทธิฤทธิ์
ทำให้เห็นว่ามีความรู้สึกเสมือนเทพไม่ใช่มนุษย์
ภายหลังจึงมาสืบทราบและศึกษาอย่างจริงจังให้ลึกลงไป พบว่า พวกเขาเหล่านั้นไม่ใช่ร่างทรงจริง
แต่เป็นอสูรกาย ปลอมตัวแล้วอ้างชื่อของบรรดาเหล่าทวยเทพที่เป็นที่เคารพบูชา กรณีนี้มีอยู่ในสังคมไทยเยอะมาก
มาถึงตรงนี้ผมไม่คาใจ แต่ผมคาใจกับวิธีการสอนของอาจารย์ผม ซึ่งแนะนำให้ผมลุยเข้าไปในวันนั้น
ผมตัดสินใจเริ่มศึกษาใหม่ และมีอาจารย์คนใหม่
ท่านได้บอกข้อดีข้อเสียของการเป็นนักพยากรณ์ และวิธีการทำบุญตามแบบของนักพยากรณ์
*** วิธีการทำบุญในแบบของนักพยากรณ์คือดังนี้ครับ
หมั่นสวดมนต์ นั่งสมาธิ และเงินรายได้ที่ได้มาจากการทำนายพยากรณ์ต้องแบ่งเป็นสามส่วน คือ
1. ส่วนหนึ่งเก็บไว้ใช้
2. ส่วนหนึ่งนำไปใช้เพื่อพระพุทธศาสนา
3. ส่วนหนึ่งนำไปทำบุญอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรตัวเราและเจ้ากรรมนายเวรของลูกดวงที่เคยมาดูดวงกับเรา
นี่คือวิธีที่ถูกต้อง ซึ่งจะไม่นำพาเราไปสู่ผลร้ายของการเป็นหมอดู
ไม่ว่าจะจากเจ้ากรรมนายเวร จากบททดสอบจากสิ่งที่มองไม่เห็น หรือจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจมาในรูปแบบต่างๆ
ถ้าไม่ทำตามวิธีเช่นนั้นแล้ว ผลคือ เงินที่ได้มาจะต้องมีเหตุให้หมดไปอย่างรวดเร็ว หรือเจอกับอุบัติเหตุ และการทดสอบแปลกๆจากร่างทรงหรืออสูร เป็นต้น
สรุปแล้วผมคงจะบอกได้แค่ว่าถ้าท่านใดที่อ่านเรื่องนี้แล้วยังอยากที่จะเป็นนักทำนาย หรือหมอดูอยู่อีก
ต้องบอกว่าคุณเป็นคนที่ใจแข็งพอดูเลยทีเดียว หรืออาจจะเป็นเพราะไม่เชื่ออยากจะลองดีก็ตามแต่กรรมท่านจะพาไป
ผมหวังว่าเรื่องสั้นซึ่งมาจากเรื่องราวจริงของผมนี้ จะทำให้ท่านทั้งหลายที่คิดจะเดินในเส้นทางนี้
จะได้มีหลักเกณฑ์การรับมือที่ถูกต้องต่อบททดสอบ และ อันตรายจากสิ่งที่ไม่ควรลบหลู่
การเล่นกับเจ้ากรรมนายเวรหรือกรรมของผู้อื่นไม่ใช่เรื่องสนุกเอาเสียเลย
ยิ่งเมื่อตัวเองถ้ามีปัญหาหรือกรรมกำลังส่งผลอยู่แล้ว ทางนี้เป็นทางที่ไม่ควรอย่างยิ่งครับ ขอเตือนและเป็นห่วงด้วยใจจริง
และสำหรับท่านที่ชอบดูดวง ชอบให้หมอดูทำนายดวงของท่านนั้น
จะได้มีหลักเกณฑ์ ในการระวัง ไม่ว่าจะจากร่างทรงซึ่งยากที่จะพิสูจน์ว่าเป็นเทพจริงหรืออสูรมาประทับทรง เนื่องจากเราไม่อาจจะมองเห็น หรือสัมผัสได้ (เอาง่ายๆแค่พิสูจน์ว่ากำลังทรงจริงหรือเล่นละครยังยากเลยใช่ไหมครับ)
อีกทั้งการระวังดวงช้ำซึ่งเกิดจากการดูดวงบ่อยเกินไป
และที่สำคัญโปรดระวังมิจฉาชีพ ที่มาในคราบของนักทำนายด้วย
ผลงานอื่นๆ ของ ทวีลาภ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ทวีลาภ
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น