ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คลังเก็บของ【 Diabolik Lovers】แปลไทย ★

    ลำดับตอนที่ #368 : # Diabolik Lovers : [ แปล ] รีวิว Drama CD : Bloody Bouquet # Yuma '

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1K
      1
      8 ธ.ค. 58

    # Diabolik Lovers : [ แปล ] รีวิว Drama CD : Bloody Bouquet # Yuma '




    ヾ(@°▽°@)ノ「Review」Drama CD 【BLOODY BOUQUET Vol.8】ของมุคามิ ยูมะ พี่ยักษ์ของเรานั่นเอง ขอข้ามเรย์จิกับชินไปก่อนนะคะ T wT) แล้วจะตามรีวิวให้จ้า สำหรับคนที่ติดตามใหม่ [เนื้อเรื่องย่อไปตามอ่านได้ในนี้ค่ะ : http://bit.ly/1P4xc2M ] 
     
    "  นี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่ ! ทำไมถึงไม่บอกฉัน ! ทำไมเรื่องใหญ่ขนาดนี้ถึงไม่ยอมบอกฉัน เอาแต่เก็บซ่อนไว้คนเดียว ฉันไม่อยากจะฟังคำแก้ตัวของเธอนะ ! บอกว่ามันจะทำให้ฉันเดือดร้อนงั้นเหรอ ? ถ้าเธอตายไปจริงๆฉันจะยิ่งเดือดร้อนมากกว่าอีก ! "
     
    ✿ SPOILER ALERT !
    - แอดเป็นคนสรุปเองค่ะ จะเอาไปก็เครดิตด้วยนะ
    - ผิดพลาดแจ้งได้
    - แอดใช้คำว่า "เรา" ในการรีวิวนะคะ
    - หาของคนอื่น : http://on.fb.me/1J9A8Vl
    ________________________________________________
     
    ★ มีทั้งหมด 5 Track วันนี้ลงแค่ 2 ก่อนค่ะ 
     
    ✿ Track 1 ✿
     
    เปิดมายูมะกับเรากลับมาจากซื้อของ แต่ดูเหมือนเราจะยังโกรธเคืองที่เขาจูบเราในที่สาธารณะอยู่ แถมยังมีบอกอีกว่า อิแค่จูบระดับนั้นไม่เห็นจะต้องเขินอะไรนักหนาเลยไม่ใช่ที่ปากสักหน่อย แต่ก็ช่วยไม่ได้นี่เขาจะอยากจะทำก็จะทำ 
     
    ยูมะ : แต่เธอก็ดีใจไม่ใช่เหรอ ? อยากได้เขี้ยวของฉันใช่ไหมล่ะ ? บอกมาสิว่าอยากได้ตรงไหน หรือจะไปที่เตียงก็ได้นะ 
     
    แต่เราตีเขาก่อน เขาจึงยอมไปเก็บของที่ซื้อมาก่อนแต่โดยดี ในขณะที่ดูของที่ซื้อมาเขาก็เห็นหม้อ ซึ่งหม้ออันเก่ามันพังไปแล้ว ยูมะจึงเสนอความเห็นว่างั้นวันนี้ทำหม้อไฟกันดีกว่า เขาจะไปเอาวัตถุดิบในสวนมา 
     
    ยูมะ : เธอไปอาบน้ำเถอะ เดินทั้งวันแล้วคงเหนื่อย .. แล้วค่อยมาต่อจากเมื่อกี้หลังกินข้าวละกันนะ .. อย่าหนีไปไหนล่ะ ? 
     
    ในขณะที่เราอาบน้ำเสร็จกำลังเดินออกมาด้วยสภาพผ้าขนหนู แต่เขากลับเข้ามาในห้องน้ำมาล้างมือหน้าตาเฉยแถมบอกว่าเห็นแค่นั้นไม่เห็นจะต้องอายอะไรเลย 
     
    ยูมะ : รีบๆใส่เสื้อซะสิ .. หรือว่าอยากให้ฉันใส่ให้ ? ถ้าพูดออกมาฉันจะสนองความต้องการของเธอให้ก็ได้นะ เอ้า เอามือออกสิ กำไว้แบบนั้นจะไปถอดได้ยังไง ช้าไปแล้ว ป่านนี้แล้วจะมาหยุดไม่ได้แล้วล่ะ มีเขี้ยวของฉันอยู่บนผิวของเธอเต็มไปหมด .. ทำให้รู้สึกตื่นเต้นไปหมด จะว่าไปแล้วในซุปเปอร์เมื่อกี้ คนก็มองเธอเต็มไปหมดเลย คงจะเห็นรอยกัดนี่ล่ะมั้ง ? ไม่รู้ตัวเลยเหรอ ? ช่วยไม่ได้นี่นาก็เมื่อวานมันห้ามตัวเองไม่ไหวแล้วน่ะ อีกอย่างเธอเองก็ดูมีความสุขดีนี่ เห็นร้องเสียงดังเชียว *จูบ* 
     
    เราไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นักเขาเลยบอกว่างั้นวันนี้จะไม่กัดแต่จะจูบแทน แต่พอจูบไปก็ทำให้เขาหยุดตัวเองไม่ได้ แล้วก็จูบเป็นรอยแดงเอาไว้แทนรอยกัดไว้หลายจุดเลย เราทำหน้าไม่พอใจ เขาก็สวนว่านี่เขาเองก็อดทนแทบตายเหมือนกันนะที่จะไม่กัดเรา พอเห็นเราทำหน้าแบบนี้ยิ่งทำให้อยากจะดูดเลือดขึ้นมาจริงๆ อยากจะได้เราขึ้นมา 
     
    สุดท้ายเขาก็ดูดเลือดเราอยู่ดี .. แต่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มก็มีคนมากดกริ่งประตูบ้าน ยูมะบอกไม่ต้องสนใจ 
     
    ยูมะ : นี่เธอจะออกไปในสภาพนั้นรึไง ? มีทั้งรอยจูบ รอยกัดไปหมดแบบนี้ .. ถ้ายังอยากจะออกไปสภาพแบบนั้นก็ไม่ห้ามหรอกนะ *หัวเราะ* ถ้าไม่ออกไปก็หมายความว่า .. *ดึงเราเข้าไปใกล้* มาต่อกันเถอะ .. 
     
    แล้วเขาก็ดูดเลือดของเราต่อไป แถมยังจะทิ้งรอยไว้เพราะว่าต้องทำให้รู้ว่าเราเป็นของของเขานั่นเอง 
     
    ✿ Track 2 ✿
     
    เราออกมานอกบ้านพบช่อกุหลาบสีดำพอเก็บขึ้นมาปรากฏว่าเราถูกหนามของมันตำเข้า ทันใดนั้นยูมะตะโกนเรียกหาเราอยู่พอดี เขาตกใจมากที่อยู่ดีๆเราล้มลงไปจึงเข้ามาพยุงด้วยความเป็นห่วงและพบกับช่อดอกไม้สีดำตกอยู่ข้างๆ เขาแปลกใจที่เราทิ้งมันไปเพราะปกติเราจะไม่ทิ้งของที่ได้รับมาแบบนี้ หลังจากนั้นเขาก็พยุงเราไปที่เตียง 
     
    เขาเห็นอาการของเราจึงขอโทษเป็นเพราะเขาดูดเลือดของเธอมากไป เราบอกว่าไม่ใช่เป็นเพราะเขา แล้วก็หมดสติไป ตอนแรกเขาก็นึกว่าเป็นแค่โลหิตจางธรรมดาแต่ดูจากอาการของเราที่ผ่านมาหลายวัน ไม่น่าจะใช่แค่โลหิตจากแล้ว แถมอาการยังไม่ดีขึ้น กลับแย่ลง 
     
    ในขณะที่เขานั่งคิดว่าจะพาเราไปโรงพยาบาลอยู่ดีๆก็มีเสียงแทรกเข้ามาในหัวของเขาว่า "หนามของกุหลาบสีดำนั่นจะร่ายคำสาปที่ไม่สามารถลบล้างได้กับตัวเธอ เลือดของเธอจะค่อย ๆ เน่าลงเรื่อย ๆ และจะเป็นพิษต่อผู้ที่เป็นอมตะ ไม่มีใครหยุดยั้งมันได้ มีทางเดียวที่ทำให้เธอสามารถมีชีวิตได้ นั่นก็คือต้องให้คนที่เธอรักดูดเลือดของเธอต่อไปเท่านั้น .. ถ้าทำไม่ได้คำสาปนั่นคงจะ "ฆ่า" เธอ "
     
    เขาบอกว่าถ้าเป็นช่วงเวลาปกติแล้วเขาจะคิดว่ามันเป็นแค่การแกล้งแต่ดูจากอาการของเราที่ผ่านมาจริงๆ แล้วก็เชื่อไม่ลงว่ามันเป็นเรื่องโกหก หลังจากที่รู้เรื่องทั้งหมด อารมณ์ทุกอย่างก็ถาโถมเข้ามารวมถึงความโกรธที่ทำไมเราถึงไม่ยอมพูดอะไรให้เขาฟังเลยสักนิด ..เขาวิ่งไปที่ห้องนอนของเรา
     
    ยูมะ : นี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่ ! อย่าเก็บไว้คนเดียวสิฟะ ทำไมถึงไม่บอกฉัน ! ทำไมเรื่องใหญ่ขนาดนี้ถึงไม่ยอมบอกฉัน เอาแต่เก็บซ่อนไว้คนเดียว ฉันไม่อยากจะฟังคำแก้ตัวของเธอนะ ! บอกว่ามันจะทำให้ฉันเดือดร้อนงั้นเหรอ ? ถ้าตายไปจริงๆฉันจะยิ่งเดือดร้อนมากกว่านี้อีก ! คิดว่าฉันเป็นอะไรห๊ะ ! นี่เธอจะบอกว่าฉันมันเชื่อใจไม่ได้งั้นสิ ? ไม่ต้องมาขอโทษ ขอโทษไปคำสาปมันก็ไม่ได้หายไป .. ยังทันอยู่สินะ 
     
    เราพยายามห้ามเขาแต่ยิ่งทำให้เขาโมโห ฉีกเสื้อเราแล้วดูดเลือด แต่พอดูดเลือดของเราเข้าไปก็รู้สึกได้ถึงพิษอยู่ข้างในเลือด ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดเอาเรื่อง แต่เขาบอกจะช่วยถอนคำสาปให้เราเอง และดูดเลือดต่อไปถึงแม้เราจะพยายามหยุด
     
    เขาบอกเขาจะช่วยเราให้ได้ถ้าดูดเลือดของเราแล้วเราจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้เขาก็จะทำ ถึงแม้เลือดจะมีพิษแต่ยังไงมันก็เลือดของเราอยู่ดี สักพักเขาเปลี่ยนมาดูดเลือดที่นิ้วถึงแม้จะทรมานเขาก็ดูดเลือดต่อไป ถึงเขาจะทรมานแต่เขาก็ยังปลอบเราว่ามันอาจจะเจ็บแต่ต้องทำเพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่อไป 
     
    สักพักเขาเริ่มหมดแรงด้วยพิษที่ดูดเข้าไปทำให้ไม่มีแรงวิ่งไล่ตามเราที่วิ่งหนีออกมา แต่เขาก็พยายามจะเดินตามเราไป
     
    - เข้าฉากความคิดยูมะ -
     
    ยูมะ : ยัยนั่นต้องคิดจะหนีไปจากเขาแน่ ๆ .. แต่คำพูดนั้นมันติดอยู่ในคอกลัวว่าถ้าพูดออกไปมันจะกลายเป็นความจริงขึ้นมา ความรู้สึกที่เรียกว่าความกลัวมันน่าจะหายไปตั้งแต่เขากลายมาเป็นแวมไพร์แท้ ๆ .. เขาไม่อยากจะสูญเสียอะไรไปอีกแล้ว เขาจึงตัดสินใจไล่ตามเธอไป 
     
    - จบ Track 2 -
     
    ✿ Track 3 ✿
     
    เราเข้าไปในห้องห้องนึงและล็อคประตูเอาไว้ เขาสั่งให้เราเปิดประตูซึ่งปกติแล้วเขาจะพังประตูเข้าไปแล้วแต่ตอนนี้แทบเดินยังไม่มีแรงเลย
     
    ยูมะ : ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปเธอจะตายนะ ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่แล้วรึไง ! อย่ามาพูดว่า "ถึงจะตายก็ชั่ง" นะ ! อย่าหนีไปจากคำสาปสิ สู้กับมันสิ ! ฉันบอกแล้วนี่ว่าจะช่วยเธอ ฉันมันเชื่อถือไม่ได้งั้นเหรอ ! ไม่ต้องคิดเรื่องของฉันหรอก คิดเรื่องตัวเองก็พอแล้ว *ไอ*
     
    ทันใดนั้นยูมะก็ล้มลงไปทำให้เราต้องเปิดประตูออกไปดูเขาด้วยความเป็นห่วง ปรากฏว่าเขาแกล้งทำเพื่อจะให้เราออกจากห้อง และบอกว่า ในเมื่อจับได้แล้วจะไม่ยอมฟังคำพูดอะไรของเราอีกจนกว่าคำสาปจะหายไป ถ้าไม่ทำแบบนี้เราก็ไม่มีวันออกมาหาเขาหรอก
     
    แต่พิษที่อยู่ในร่างกายของเขาทำให้รู้สึกเจ็บปวดมาก เขาบอกว่าถ้าเป็นห่วงเขาก็อย่าหนีไปไหน เราบอกขอโทษเขา แต่เขาบอกว่าเขาก็ผิดเหมือนกันที่มองเราไม่ออกว่า เรากำลังปิดบังอะไรเขาอยู่ หลังจากนั้นเขาก็ดูดเลือดของเราไปเรื่อยๆถึงแม้จะทรมานมากแค่ไหน 
     
    ยูมะ : ฉันบอกฉันไม่เป็นอะไร เธอคิดเรื่องตัวเองก็พอแล้ว อย่าไปไหนจากฉันตามไปชอบนะ ขอร้องล่ะ .. อย่าไปไหนอีกเลยนะ อย่าหายไปต่อหน้าต่อตาฉันอีกนะ ฉันไม่อยากจะสูญเสียเธอไปกับคำสาปบ้าบอนี่ ฉันไม่ยอมให้เธอตายไปคนเดียวหรอกนะ ถ้าจะตายฉันก็จะพร้อมกับเธอ .. ถ้าเธอบอกว่าไม่อยากตายด้วยกัน ก็มามีชีวิตอยู่ด้วยกันเถอะนะ ฉันสาบานอะไรแล้ว ฉันจะทำตามแน่นอน เชื่อคำพูดฉันนะ ฉันจะถอนคำสาปนั่นให้เอง 
     
    *เราร้องไห้*
     
    ยูมะ : อย่าร้องไห้สิยัยบ้า แต่ขอบคุณนะ .. อย่าไปไหนอีกล่ะ จริงด้วย ฉันมีเรื่องที่จะบอกเธอหน่อย ถ้าคำสาปหายไปแล้ว เรามาแต่งงานกันไหม ? ฉันอยากให้เธอสาบานว่า จะอยู่กับฉันตลอดไปไม่ห่างไปไหน ถ้ามีสัญญาแบบนั้น .. ฉันจะได้พยายามถอนคำสาปนี้ให้ได้ ฉันจะช่วยเธอเองนะ ฉันรักเธอนะ .. รักยิ่งกว่าใครในโลกใบนี้ .. 
     
    *เสียงคำสาปสลายไป*
     
    พอเขาขอเธอแต่งงานคำสาปก็หายไปถึงแม้จะยังสับสนไม่เข้าใจในหลายๆเรื่องแต่จะกังวลไปก็ไม่ได้อะไร 
     
    ยูมะ : มาต่อจากเมื่อกี้กันเถอะ ให้ฉันรู้สึกถึงตัวเธอมากกว่านี้สิ กอดฉันไว้แบบนั้นแหละดีแล้ว 
     
    - เข้าความคิดยูมะ -
     
    ยูมะ : เขาไม่มีวันยกโทษให้กับคนที่ทำให้ยัยนั่นเป็นแบบนี้เด็ดขาด เพื่อไม่ทำให้เป็นนี้อีกเป็นครั้งที่สอง เขาต้องการข้อมูลจะลองปรึกษาพวกรุกิดูดีมั้ยนะ ? 
     
    ✿ Track 4 ✿
     
    เรากับยูมะออกมาซื้อของข้างนอกเขาบ่นเพราะคนมันเยอะมาก เขาจึงจูงมือเราเดินเพื่อไม่ให้หลง ถ้าเกิดห่างจากเขาไปสักนิดเดียวเขาจะดูดเลือดของเราซะเลย 
     
    ยูมะพาเรามาที่ร้านขายแหวนนั่นเอง ถึงเขาจะไม่ค่อยชอบบรรยากาศแบบนี้สักเท่าไหร่แต่ยังไงมันก็เป็นสิ่งจำเป็นในพิธีแต่งงาน ทำให้เราดีใจมาก เป็นเพราะเขาไม่รู้ว่า ของที่เราชอบหรือไซส์อะไร ตอนแรกอยากจะให้โคมาช่วยแต่ยังไงก็ต้องถามไซส์จากเราอยู่ดี 
     
    ตอนแรกก็จะไปถามอาซึสะแต่ก็โดนบอกมาว่าให้พาเราไปซื้อเองซะสิ สุดท้ายก็เลยต้องพามาซื้อแหวนด้วยกันนี่แหละ เลือกแหวนไปได้สักพักจึงจะไปเรียกเจ้าของร้านมา แต่ก่อนไปเขาก็จูบเราทีนึง 
     
    เราดุเขาเล็กน้อยแต่เขาบอกว่าไม่เห็นเป็นอะไรเลยเพราะยังไงเราคือของของเขาอยู่ดี และตอนนี้เขามีความสุขมาก การที่มีครอบครัวเพิ่มขึ้นต้องมีความสุขแน่นอนอยู่แล้ว 
     
    ยูมะ : อยากจูบอีกรอบอะ .. จะว่าไปเธอมองแค่ฉันก็พอแล้วน่า ทำแบบนั้นจะได้ไม่ต้องใส่ใจคนรอบข้าง *จูบ* 
     
    ✿ Track 5 ✿
     
    เขาบ่นเรื่องชุดที่ใส่มันขยับยาก ยังไงซะก็มีแต่แค่พวกรุกิมาอยู่แล้วไม่เห็นต้องแต่งอะไรมากเลย เขาถามว่าเมื่อไหร่เราจะไปแต่งตัวบ้าง แต่เราเป็นห่วงเขาก็เลยต้องมาดูแลก่อน 
     
    ยูมะสังเกตเห็นเราแต่งหน้าก็เลยชมทำให้เรารู้สึกเขิน เขาก็บอกว่าแบบนี้ก็ดูเหมือนปกติแล้วเขาไม่ค่อยชมเธอเลย เขาเองก็เขินเหมือนกันแหละ แต่เพราะวันนี้เป็นวันแต่งงาน เขาก็อยากเห็นใบหน้าที่มีความสุขของเรา มนุษย์ผู้หญิงน่ะให้ความสำคัญกับงานนี้มาก เพราะงั้นเขาจึงปรึกษาอะไรหลายเรื่องกับพวกรุกิ ทั้งเรื่องแหวน พิธีต้องพึ่งพวกพี่น้องหมดเลย 
     
    ยูมะ : ฉันรอดูชุดเดรสแต่งงานของเธออยู่นะ เพราะงั้นไปเปลี่ยนได้แล้วละ แต่ก่อนหน้านั้นมานี่สิ .. ฉันยังไม่อยากห่างเธอไปไหนรู้สึกมันเสียดายยังไงก็ไม่รู้เพราะ มันเป็นช่วงเวลาที่เหลืออยู่ก่อนที่เราสองคนจะเป็นสามี ภรรยากัน มาสนุกกับมันจนกว่าจะถึงเวลาเข้าพิธีเถอะนะ *จูบ* 
     
    ยูมะ : เธอเองก็ดีใจใช่ไหมที่จะกลายมาเป็นของของฉันเพียงคนเดียวแล้ว .. นี่เธอชอบฉันขนาดนั้นเลยเหรอ ?
     
    *เราบอกว่าเราชอบเขา*
     
    พอได้ยินเราบอกชอบตรงๆทำให้เขารู้สึกเขิน หลังจากนี้ให้ไปแต่งหน้าใหม่แล้วกันเพราะเขารู้สึกว่าจะห้ามตัวเองไม่ได้อีกแล้ว และเขาก็จูบเรา 
     
    ยูมะ : อยู่ด้วยกันตลอดไปนะ ฉันรักเธอ .. 
     
    - The End -


    Credit : https://www.facebook.com/dialoversthai


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×