ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมบทความการเมือง

    ลำดับตอนที่ #48 : สื่ออิตาลีวิจารณ์พันธมิตร "การสร้างปัญหาให้โลกสไตล์รัสเซียแต่ในแบบไทยๆ"

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 271
      0
      5 ม.ค. 53

    แปลและเรียบเรียงโดย freethai
    ที่มาต้นฉบับ lastampa
    30 August 2008

    หนังสือพิมพ์ LA Stampa ลาสตัมป้าของอิตาลี วันที่ 28 สิงหาคม 2008
    การสร้างปัญหาให้โลกสไตล์รัสเซียแต่ในแบบไทย ๆ


    ขบวน การประท้วงต่อต้านรัฐบาลในกรุงเทพได้สร้างความอื้อฉาวไปทั่วโลก – ก่อความตึงเครียดในขณะที่ทั้งโลกควรมุ่งไปที่รัสเซีย โดยฟรานเซสโก ซิสซิ กรุงปักกิ่ง

    เมื่อ 8 สิงหาคมที่ผ่านมารัฐเล็กๆ ที่ชื่อจอร์เจียได้บุกเข้าโจมตียักษ์ใหญ่มหาอำนาจอย่างรัสเซีย รัสเซียรุกกลับและถล่มจอร์เจียในห้าวัน และหลังจากการพักรบชั่วคราวเพื่อเปิดทางให้มหกรรมกีฬาโลกอย่างโอลิมปิคผ่าน ไป ความตึงเครียดของโลกเสรีก็ทวีขึ้น

    ก่อนหน้าที่จะเกิดศึกครั้งนี้ ไม่กี่วัน รัฐบาลสหรัฐที่วอชิงตันดีซียังมั่นใจว่ากระบวนการลดกำลังอาวุธนิวเคลียร์กับ เกาหลีเหนือจะผ่านไปด้วยดี และเมื่อ 6 สิงหาคมที่ผ่านมาเมื่อตอนที่ประธานาธิบดีบุชมาเยือนกรุงเทพก็ได้รับการยืน ยันจากบรรดานายพลและพระเจ้าแผ่นดินว่าจะมีการคัดค้านการทำรัฐประหารอย่างแน่ นอน และในวันที่ 26 สิงหาคม ทันทีที่การแข่งขันโอลิมปิคจบลง และขณะที่โลกกำลังกังวลว่ารัสเซียกำลังมีแผนการในอนาคตกับรัฐจอร์เจียอย่าง ไร รัฐบาลเกาหลีเหนือก็ประกาศยุติการเจรจาสัญญาเพื่อการลดกำลังอาวุธนิวเคลียร์ และในเวลาเดียวกันนั้นเองที่กรุงเทพ ฝูงม็อบก็กลับเข้ายึดถนนเพื่อปลุกระดมให้มีการจลาจล

    เป็นที่ชัดเจน ว่าเกาหลีเหนือพยายามยื่นข้อเสนอให้รัสเซีย การที่เกาหลีเหนือถอนการสนับสนุนข้อตกลงเพื่อการลดกำลังอาวุธนิวเคลียร์คือ การยื่นข้อแลกเปลี่ยนกับทางรัสเซียว่า ถ้ารัสเซียสนับสนุนเกาหลีเหนือคือให้เงินสนับสนุนรัฐบาลให้ผ่านพ้นฤดูหนาว อันทารุณของปีนี้ไปได้ เกาหลีจะเล่นไม้แข็งกับอเมริกาและประเทศคู่เจรจาข้อตกลงฯ ดังกล่าวอีกหกประเทศ และถ้ารัสเซียเลือกที่จะรับข้อเสนอของเกาหลีเหนือ แปลว่าความหวังต่าง ๆ ของโลกเสรีคงหยุดลง เราจะกลับไปสู่สงครามเย็นอีกครั้งหนึ่ง แต่ถ้ารัสเซียไม่เล่นด้วยกับเกาหลี คราวนี้เกาหลีเหนือจะเป็นฝ่ายจนมุม และในที่สุดก็ต้องยอมแพ้

    ในวัน ที่ 27 สิงหาคม โฆษกทำเนียบขาวประกาศด้วยความมั่นใจว่ารัสเซียจะไม่สนับสนุนเกาหลีเหนือ โฆษกทำเนียบขาวให้สัมภาษณ์ว่า “เราไม่ได้รับแจ้งว่ามีการลดระดับความสำคัญของการเจรจาความร่วมมือหกฝ่ายใน เรื่องนี้” และยังอ้างว่าทั้งจีน รัสเซีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ต่างก็มีส่วนร่วมกับสหรัฐฯในการเจรจาลดอาวุธกับเปียงยาง

    ไม่ว่าจะ อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาเรื่องเกาหลีเหนือเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาหลายวัน และน่าจะนานเป็นหลายสัปดาห์ก่อนที่ทุกอย่างจะคลี่คลายและอาจต้องใช้เวลา นานกว่านั้น สำหรับรัสเซียและอเมริกาในการที่จะประเมินสถานการณ์ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนและ ควรจะไปทางไหนต่อ

    แต่โอกาสที่อารมณ์ร่วมของสังคมจะพลิกเปลี่ยน สามารถเกิดได้ทุกวินาทีตลอดเวลาที่เฝ้ามองสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นใน ประเทศไทย ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจเรื่องราวที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องดีกว่า สิ่งที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ PAD ได้ทำเมื่อวันที่ 26 สิงหาคมด้วยการบุกเข้ายึดสถานีโทรทัศน์สร้างความเสียหายให้กับกระทรวง ทบวง กรม หลายแห่ง แล้วก็ยกขบวนไปปักหลักอยู่ที่สนามหญ้าหน้าที่ทำการรัฐบาล คือการปลุกปั่นเพื่อให้เกิดการจลาจลดี ๆ นี่เอง แต่ ณ เวลานี้ การจลาจลจะประสบผลสำเร็จหรือไม่ยังไม่รู้ชัดถ้านายกรัฐมนตรีผู้มาจากการ เลือกตั้งรู้สึกว่าไม่มีอำนาจในการบริหารงานและตัดสินใจลาออก ผู้ก่อการจลาจลก็จะเป็นฝ่ายชนะ ถ้าผู้นำพันธมิตรฯ ถูกจับกุมและการเรียกร้องการรัฐประหารล้มเลิกลงไป ฝ่ายต้องการการรัฐประหารเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่ถ้าเรื่องไม่ได้ออกมาว่าฝ่ายจลาจลแพ้แล้ว คือถ้ามีการประนีประนอมรัฐบาลก็คงจะอยู่ต่อไปได้ แต่ไม่มีปัญญาจะควบคุมหรือกำกับดูแลอะไร เหมือนร่างคนป่วยที่เชื่อมต่อด้วยเครื่องช่วยหายใจ และเฝ้ารอเวลาที่จะถูกกลุ่มพันธมิตรโจมตีอีกครั้ง

    การทำรัฐประหารใน ไทยเป็นเรื่องที่อันตรายมาก แม้ในช่วงที่สถานการณ์บ้านเมืองเป็นปกติ เพราะการรัฐประหารในไทยจะส่งผลลบอย่างร้ายแรงต่อกระบวนการประชาธิปไตยใน ภูมิภาคนี้ และจะกลายเป็นแรงกระตุ้นให้บรรดาผู้นำทหารในฟิลิปปินส์และอินโดเนเชียต่าง คว้าปืนใช้รถถังเข้ามายึดกุมอำนาจรัฐ

    แต่ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน การก่อการจลาจลเช่นนี้ยิ่งเลวร้ายเข้าไปอีก การก่อการจลาจลในไทยครั้งนี้จะเพิ่มความตึงเครียดเข้าไปในสังคมโลกที่กำลัง หาความมั่นคงและสันติภาพ และเป็นการเริ่มต้นแนวรบใหม่ในขณะที่เรากำลังพยายามยุติสงครามเย็นกับรัส เซีย

    สังคมโลกต้องช่วยกันยุติการจลาจลในไทยในปี 1981 เพียงไม่กี่ปีหลังการล่มสลายของจอมเผด็จการสเปนอย่างนายพลฟรานซิสโก ฟรังโก และประเทศสเปน เพิ่งเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย กองทัพก็ทำการยึดอำนาจ รายการทีวีถ่ายทอดภาพผู้พันอันโตนิโอ เทเฮโรยืนถือปืนหน้าที่ทำการสภาผู้แทนราษฎรพร้อมประกาศกร้าวว่าเขาทำการยึด อำนาจเพื่อพระราชา ในสมัยนั้นแม้การก่อการจลาจลแบบนี้เป็นสิ่งที่พอจะยอมรับได้ แต่พระเจ้าแผ่นดินสเปนก็กลับประกาศว่าพระองค์ไม่สนับสนุนการทำรัฐประหาร และในที่สุดผู้พันเทเฮโรก็ถูกจับ

    ณ เวลานี้ พระเจ้าแผ่นดินของไทยจะระงับการจลาจลครั้งนี้ได้หรือไม่ กลุ่มพันธมิตรได้ดึงเอาพระเจ้าแผ่นดินเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย โดยผู้นำของกลุ่มพากันอ้างว่าตนเองเป็นฝ่ายที่มีความจงรักภักดีและพากันใส่ เสื้อสีเหลืองซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการแสดงจงรักภักดีต่อพระเจ้าแผ่นดิน ในเมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ พระเจ้าแผ่นดินของไทยจะลอยตัวอยู่เหนือการเมืองได้อย่างไร พระเจ้าแผ่นดินของไทยจะปฏิเสธคนที่อ้างว่าเป็นผู้ที่มีความจงรักภักดีได้ อย่างไร นอกจากนี้กลุ่มพันธมิตรยังอ้างว่านายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีมีแผนการจะล้มล้างราชวงศ์และสถาปนาสาธารณรัฐขึ้น สมัครปฏิเสธว่าไม่จริง พันธมิตรฯ ไม่เชื่อแล้วความจริงคืออะไร

    ถ้าจะ ว่าไปแล้ว ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย ดังนั้นทุกคนทุกฝ่ายย่อมมีสิทธิแสดงความคิดเห็นได้ ถ้านายกรัฐมนตรีต้องการให้ประเทศมีการปกครองแบบสาธารณรัฐจริงก็ประกาศออกมา เลย แต่ถ้าเขาไม่ได้ทำเช่นนั้นก็แปลโดยตัวของมันเองว่าเขายังต้องการการปกครอง ภายใต้พระเจ้าแผ่นดิน การที่พันธมิตรฯ อ้างว่าเป็นกลุ่มผู้จงรักภักดี และในเวลาเดียวกันก็กล่าวหาศัตรูทางการเมืองว่าเป็นพวก “นิยมสาธารณรัฐ” แต่ความจริงแล้ว ผู้ที่จะตัดสินได้อย่างแท้จริงว่าใครเป็นผู้จงรักภักดี และใครไม่จงรักภักดีก็คือพระเจ้าแผ่นดินไม่ใช่หรือ อะไรเป็นเหตุที่กลุ่มพันธมิตรฯ นำมาอ้างในการตั้งยี่ห้อ “ไม่จงรักภักดี” ให้กับศัตรูทางการเมืองของตนได้ ความจริงก็คือพฤติการณ์แบบนี้เป็นเรื่องเก่าและได้ทำกันมาช้านาน กลุ่มเผด็จการฟาสซิสต์ของอิตาลีในยุค 1920 ก็อ้างว่ารักษาผลประโยชน์ของประเทศ และกล่าวร้ายศัตรูทางการเมืองว่าทรยศต่อแผ่นดินแม่ กลุ่มเผด็จการฟาสซิสต์พวกนี้นี่เองที่ทำให้อิตาลีล่มจม และราชวงศ์อิตาลีล่มสลาย

    สถานการณ์ในวันนี้ของประเทศยิ่งเลวร้ายกว่า รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเพิ่งเข้าทำหน้าที่ได้ 7 เดือน ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนกว่า 70% ไม่เห็นด้วยกับการประท้วงและยังคงให้การสนับสนุนรัฐบาลชุดนี้ต่อกลุ่ม พันธมิตรก็ไม่ได้มีท่าทีอ่อนลงกลับประกาศจุดยืนด้วยข้อเสนอที่กร้าวและเป็น เผด็จการว่าประชาชนควรมีสิทธิเลือกผู้แทนเพียง 30% ที่เหลือให้มาจากการแต่งตั้ง

    แม้ว่ากรุงเทพอาจจะมีประเพณีที่แตกต่าง แต่ตอนนี้ก็เป็นเวลาที่เหมาะสมที่พระเจ้าแผ่นดินของไทยจะรับคิวต่อจากพระ เจ้าแผ่นดินของสเปน นั่นคือการที่จะต้องเข้ามาแสดงบทบาทและยุติการทำรัฐประหารครั้งนี้ในทันที ถ้าพระองค์ทำด้วยความชัดเจนและด้วยความมุ่งมั่น พระองค์จะทรงสร้างความมั่นคงให้กับอนาคตของประเทศไทย และจะทำให้ไม่มีใครกล้าแอบอ้างพระนามไปใช้โดยไม่ชอบธรรมอีกต่อไป และจะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ในภูมิภาคนี้ และในโลกที่เต็มไปด้วยปัญหาที่ยุ่งเหยิงซับซ้อน ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น และรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งถูกบังคับให้ลาออก สถานการณ์ก็จะมีแต่แย่ลง จะเป็นการก่อจลาจลของไทยครั้งที่สองภายในเวลาเพียง 2 ปี ตลาดหุ้นของไทยก็ตกลงไปแล้วกว่า 25% และค่าเงินบาทก็อ่อนตัวลงเรื่อยๆ ความมั่นใจทางธุรกิจลดลงจนต่ำสุด และในไม่ช้าการท่องเที่ยวของไทยก็จะได้รับผลกระทบ ประเทศไทยก็จะกลายเป็นผู้ป่วยคนใหม่ของเอเชีย...และพวกเราก็ต้องรอรับผลที่ ตามมา

    Note : แปลออกมาแล้วหมิ่นเหม่เอาการอยู่นะเนี่ย
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×