ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมบทความการเมือง

    ลำดับตอนที่ #27 : วรเจตน์ที่ผมรู้จัก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 476
      0
      5 ม.ค. 53

    พักยกก่อนออกรบ...วันมหาสงกรานต์ไทยนำเสนอยุคคนกล้าดีภาษา คนติดตามข่าวผมรู้จักอาจารย์วรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผ่านทางตัวอักษร เริ่มจากบทความ บทสัมภาษณ์ ติดตามอ่านสื่อ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร วารสาร และทางวิทยุโทรทัศน์ ระหว่างทางที่ผมรู้จักผ่านตัวตนที่เห็นและเป็นอยู่จริง ที่สำคัญสำหรับผมอีกอย่างก็คือในฐานะมิตรรักนักอ่านแฟนประจำอาจารย์ท่านนี้ ชื่นชอบความไม่อีเดียจ เดียจฉัทน์คนทางชนชั้น...เคารพเกียรติอย่างเสมอภาค. ทางความคิดเห็นและการกระทำควบคู่กันไป
    คนระดับดีกรีนักเรียนทุนอนันท มหิดล ในฐานะนักศึกษาเรียนดีเยี่ยมรอบๆหลายๆสิบปีของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จบดอกเตอร์ทางด้านกฎหมายมหาชนจากประเทศเยอรมันนี แหล่งผลิตนักกฎหมายชั้นดีเยี่ยมของทั่วโลก คือใบเบิกทางที่ ดีรองรับไร้ติฉินนินทา หมั่นไส้ ฉีกหน้ากลางวงอภิปรายติดตามมาตลอด...ทำการบ้านศึกษาข้อกฎหมายถ่องแท้ "ไม่มั่ว"แตกฉานหลักคิดบวกเหตุผล ตีตก "น้ำหนักทางเหตุผลมันแพ้"คำยืนยันหนักแน่นจากปากคำวรเจตน์ กรณีข้อพิพาททางกฎหมาย รธน.หักล้างประเด็นต่อประเด็น มาตราต่อมาตรา ออกแถลงการณ์คณาจารย์มธ 6ท่าน ไม่รับร่างรธน.50 เหตุผลแต่ละข้อคืออะไรและเป็นที่รับทราบคงไม่มาฉายซ้ำ

    แต่สำหรับผม ไม่พอเท่านี้แน่นอน...วรเจตน์ คือนักคิด นักเขียน นักวิชาการ นักกฎหมายมหาชน นักต่อสู้ประชาธิไตย ที่มีคุณค่าแก่การยกมือไหว้โดยไม่เสียมือ...อีกต่างหาก ปัจจัยที่บ่งบอกคือ...

    ประการแรก กล้ายึดมั่นคงต่อหลักการแห่งกฎหมายอย่างเคร่งครัดสม่ำเสมอต้นเสมอปลาย

    ประการ ที่สอง กล้าแสดงจุดยืนแช่มชัดด้วยข้อมูลที่สามารถถกเถียงบนหลักการเหตุและผล โดยปราศจากอคติ จงเกลียดจงชัง ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจนลืมความเป็นกลางงานวิชาการกฎหมาย พูดง่ายสุดยึดหลักและระบบไว้อย่างสมดุล เหมือนตราชั่งที่ไม่โดนเอียง เคลียร์โจทย์ตอบคำถามชัดเจน ตรงไปตรงมา

    ประการที่สาม กล้าชนกับความไม่ถูกต้องทุกรูปแบบ จนเสมือนหนึ่งเหมือนแกะดำในรั้วมหาวิยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ตนเองสังกัดอยู่เสียมิได้

    ประการที่สี่ กล้าเชิดหน้าสู้คน...ด้วยข้อหาหมั่นไส้ มีอคติเต็มหัวจากผู้บริหารที่รับใช้เผด็จการภายใต้ท๊อปบูตทมิฬ อย่างเต็มตัว

    ประการ ที่ห้า กล้าบอกความจริงที่เหลือน้อยในสังคม แม้บางครั้งสุภาษิตสุกเอาเผากินมันลามเข้าจิตใต้สำนึกชั่วดีถี่ห่าง "ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย...คนพูดตาย" คงใช้กับอาจารย์ท่านนี้ยากขึ้น

    ประการ ที่หก กล้าเสียสละเงินเดือนระดับเงินล้านบาทจากภาคเอกชน ด้วยรักความเป็นครูบาอาจารย์อุทิศตนนำความรู้ร่ำเรียนถ่ายทอดแก่ลูกศิษย์ลูก หา โดยเอาบรรทัดฐานหลักการระบบกฎหมายไม่ปิดบังความจริงบิดเบือนตัวบทกฎหมาย เอาความผิดย้อนหลังได้ ต่อไปจะใช้สอนได้อย่างไร...มิต้องเผาตำรากฎหมายหมดหรือ เพราะที่ สอนมาเวลานำมาใช้จริงกลับตาลปัตรอย่างหนึ่ง

    ประการที่เจ็ด กล้าปฎิเสธอำนาจนอกระบบ!!!



    ประการ ที่แปด เราต้องกล้าที่จะยกย่องสรรเสริญคนดี มิฉะนั้นสุภาษิต "ทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย ไม่มีใครอยากจะเห็นเราเด่นเกิน"ถูกเก็บใส่ลิ้นชักหมดเกลี้ยง

    ค้นพบ สัจจธรรมว่าเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 เราขาดนักกฎหมายมหาชน นักกฎหมาย ที่ยึดระบบที่มาไม่ชอบธรรม ตัวเนื้อหาสาระ หดหัวรับใช้เผด็จการเต็มรูปแบบ ที่แย่สุดนักกฎหมายจำนวนหนึ่งบิดเบือนกฎหมายย้อนหลังได้...ฟังไม่ขึ้น ทำลายระบบหลักการของกฎหมายพังพินาศย่อยยับนับเป็นความเสียหาย จารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์กฎหมายเมืองไทยดุจดั่งเสียกรุง เสียความศักดิ์ศรีตัวบทกฎหมายเป็นบทเรียนที่ใช้สอนสั่งกันมาโดยสิ้นเชิง หลักการกฎหมายถูกกระทบขาดความยำเกรงครั้งสําคัญ

    คนที่เคยสัมผัส อาจารย์วรเจตน์ ภาคีรัตน์ อดีตนักเรียนทุนอนันทมหิดล ลูกศิษย์คนโปรดของ อาจารย์ธารินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรี อย่างจริงจังและจริงใจ แอบมา เล่าให้ผมฟังว่าภาคภมิใจว่ะ ที่เกิดเป็นคนได้ร่วมโลกกับคนคิดที่ดีทั้งต่อ วิชาชีพ ทั้งจรรยาบรรณในวิชาชีพ คนระดับนี้พูดตรงๆคิดหารายได้เงินทองอย่างเดียวที่ไหนๆๆภาคเอกชนจองตัวคิว เต็มหมดไม่มีเหลือหรอให้ภาครัฐ แต่นั่นด้วยใจรักวิชาชีพครูบาอาจารย์ คนแบบนี้หายากหาเย็นในสังคมจอมปลอม "ยุคใครมือยาวสาวได้สาวเอา"

    พยาม สร้างภาพลักษณ์ดูดีเฉพาะหน้าตา ฉากหลังหวังชื่อเสียงหาเกียรติยศอยู่ร่ำไป...ยุคฮีโร่ขี่เบนซ์โชว์ความโก้ หรูอยากเด่นอยากดังเป็นที่ตั้งบ่งบอกสถานะความสำเร็จแห่งชีวิต

    อาจารย์ วรเจตน์ เป็นมนุษย์ที่มีความเป็นมนุษย์ควรค่าแก่การรู้จักผิวเผินไม่ได้ เพราะท่านไม่มีความอยากได้ใคร่เป็น จุดยืนกลาง ด่าว่าเต็มปากเต็มคำ ผลการกระทำมันเป็นตัวพิสูจน์ที่มาของการกระทำ...ทำการบ้านตอบโจทย์หมดข้อ สงสัยแจ่มชัด แย้งไม่ขึ้นหอบหิ้วเอาเงาแห่งมิตร...ระหว่างใจจากเพื่อนสู่เพื่อน...ขอยืมคำ เพื่อนผมอีกครั้งหนึ่งว่า..."อย่าเอาเศษโลหะบนบ่ามาหาแดก อย่าเอาเวลาราชการมาหากิน" วลีประโยค...ดังกล่าวใช้ไม่ได้กับคนชื่อวรเจตน์ ภาคีรัตน์ เชื่อว่าทองแท้อยู่ที่หนึ่งที่ใดย่อมทนต่อการพิสูจน์เสมอ

    ผม ติดตามงานวิชาการตลอด...ยิ่งเชื่อมั่นว่าคนระดับเซียนด้านกฎหมายอย่าง ดร.วิษณุ เครืองาม เคยพูดว่าดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ เป็นผู้ที่มีความคิดเห็นเฉียบคม อนาคตจะเป็นผู้นำที่มีคุณค่าในสังคม ด้วยหลักการต้องมาก่อน

    คนอื่นๆไม่รับรองพวกเรี่ยราดเกาะโน่นโผล่นี่ มีดาษดื่นทุกแวดวง แต่ชั่วขณะกลับด้านมาโผล่ที่รอบรั้วปัญญาชนถี่บ่อย...รับใช้เผด็จการเหมือน คนตาบอดสี แอบนินทาด่าทอว่านักการเมืองชั่วๆๆดีๆๆ พฤติกรรมเป็นเสียเอง ที่มันรู้สึกแย่ด่าว่านักการเมืองเสียๆหายๆที่แย่ที่สุดคือพวกพ้องและตัวเอง ทำเสียเอง

    เล่นพรรคเล่นพวกพ้องในสภามหาวิทยาลัยแหล่งผลประโยชน์แอบ แฝง แหล่งหารายได้เข้ากระเป๋ามันเปิดช่อง ประมูลก่อสร้างจัดซื้อจัดจ้าง บล็อกโหวตเลือกตั้งคณะผู้บริหาร กีดกั้นการเสนอยศเสนอตำแหน่งเด็กใครเด็กนายได้ดี ฉะนั้นสิ่งที่หลอกด่านักการเมืองพฤติกรรมแย่กว่านักการเมืองเสียอีก...ไม่ มูลแห่งความจริง...โต้เถียงมา...ขอท้ารบ...รู้คำตอบ...นอนชักว่าวดีกว่ากัน เยอะเลย หรือว่าเรามีนักวิชาเกินชักว่าวมากพอแล้ว???

    ถนนวิญญูชนจากปากคำวรเจตน์ นักต่อสู้ความจริงทุกภาคสนามทุกนัด โดยไม่เกี่ยงทางด้านกายภาพก็คือ ให้คำจำกัดความเวทีดีเบตรธน.แสดงเหตุผลที่ผ่านมานั้น"น้ำหนักทางเหตุผลมัน แพ้" ระบบตรวจสอบที่ไม่เอาไม่อวดเอาศักดาเอาสีข้างเข้าถูก อคติเต็มหัว!!!และข้อหาหมั่นไส้...หมดทางสู้เพราะ "น้ำหนักทางเหตุผลมันแพ้"ยืนยันอีกครั้งหนึ่ง


    ฉะนั้นใครใคร จะตำหนิผมเชลียร์มากวรเจตน์ ภาคีรัตน์ ก็ช่วยไม่ได้ครับ ชนะใจของผม...อันสืบเนื่องมาจากยุคนี้คนกล้าคนจริง...พร้อมกล้าได้กล้าเสีย ทางจริยธรรม จรรยาบรรณในวิชาชีพ มันนับหัวได้เลย..."เมื่อเสียงปืนดังขึ้น กฎหมายก็เบาลง"


    ผลพวงการปฎิวัติรัฐประหารยึดอำนาจ...มันได้ พิสูจน์ใจคนแยกแยะว่าใครต่อใครเป็นเช่นไร ใครรับใช้เผด็จการตัวจริงเสียงจริง...โฉมหน้าเห็นธาตุแท้...นักวิชาการจำพวก ถมน้ำลายรดหน้าตัวเองรับใช้เผด็จการ ท็อปบูตทมิฬ ตลอดศก...จดจำชื่อไว้หน่อย...สอนบทเรียน...นักวิชาการลงแขก...แหกตา ประชาชน???

    โดยคืนรัง แห่งHi-Thaksin
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×