ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมบทความการเมือง

    ลำดับตอนที่ #16 : จำแนกกลุ่มความคิดภายใต้การเมืองอนาธิปไตย

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.01K
      0
      4 พ.ย. 50

    ภายใต้ จุดเปลี่ยน (Shift) ของประเทศไทย อย่างปัจจุบัน ที่อยู่ท่ามกลางกระแสความกดดัน หลากหลาย ของ


    1. กระแสทุนนิยม จากโลกภายนอก

    โดยเฉพาะแนวคิด เสรีนิยมใหม่ ที่พุ่งสู่ทั่วโลกแบบเต็มตัว ที่แม้กระทั่งจีน และ เวียตนาม ยังต้องเปิดรับ
    ในช่วงแรก คนใมนรัฐบาลทักษิณ ได้ประโยชน์ จากกระแสนี้ไปแบบเต็มตัว

    การบริหารงานภายใต้ แนวคิดทุนนิยม ย่อมสร้างรายได้ แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีรายจ่ายสูง
    และ
    แนวคิดอย่างนี้ ชนชั้นกลาง (ที่มักคิดว่า ตนเองทำงานหนักกว่าใครเพื่อน และ มีการศึกษาดีที่สุด) มักจะไม่เห็นด้วย อาจจะมาจากการไม่เห็นด้วยจริง หรือ การอิจฉาตาร้อน (ที่รวยไม่ได้อย่างเขา) แต่คนพวกนั้น ก็จะศรัทธาใน ลีวายส์ 501 (แน่นอน ริมแดง) และ มักวิจารณ์ภาพยนตร์ Hollywood อย่างผู้รู้และภาคภูมิใจ

    นอกจากกลุ่มชนชั้นกลาง ดังกล่าว
    ที่สำคัญยิ่งคือ คนกลุ่มทุนเก่า ที่ "ก้าวไม่ทันโลก" หรือ ทำธุรกิจแบบครอบครัวโบราณ ที่เสียประโยชน์ จากเสรีนิยมใหม่

    คนกลุ่มนี้แหละ ที่เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลัง การโค่นล้มทักษิณอย่างจริงจังมานานแล้ว
    ไม่ว่าจะเป็น ตระกูลเก่าแก่ที่ขายเบียร์ นายธนาคารเก่า หรือ ฯลฯ

    การที่โลกเปลี่ยนไปเร็ว และ ทักษิณเข้ามารับบทบาท
    ส่งผลให้กิจการเขาเสียหาย และ สั่นคลอนถึงความมั่นคงของธุรกิจในระยะยาว

    การพยายามสู้ในระบบธุรกิจ ได้ถูกลองแล้ว
    แต่ก็พบว่า สู้ไม่ได้ ตามไม่ทัน

    ทางทีเหลือ ก็คือต้องช่วยกันล้มกระดาน หรือ ขวางกลุ่มทุนใหม่นี้
    เพื่อที่ อำนาจเก่าของตนเอง และ ธุรกิจตน
    จะสูญเสียไปน้อยที่สุด..

    ตรงนี้น่ากลัวมาก

    2. กระแสอนุรักษ์นิยม จากภายในประเทศ
    กลุ่มเหล่านี้ มักเป็นชนชั้นกลาง ที่มีรายได้ไม่สูงนัก
    ที่ได้รับการศึกษาตามระบบของสังคม

    กลุ่มพวกนี้ มักจะนิยมอุดมคติ โดยหยาบ
    หวงแหนธรรมชาติเป็นที่ยิ่ง
    รักที่จะ ใช้ไฟฟ้าราคาถูก นั่งทำงานในห้องแอร์
    และ อนุรักษ์ธรรมชาติ
    แต่จะโวยวาย หากมีการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น หรือ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ (ที่มีต้นทุนผลิตไฟฟ้าต่ำสุด)

    คนพวกนี้ เป็นอีกกลุ่มที่ "แม้จะไม่มีอำนาจในมือ หรือ ทุนในมือ"
    แต่ เกลียดพ่อค้า และพร้อมที่จะออกมาเดินเท้าก่อมีอบ เพื่อต่อต้านเป็นครั้งคราว (อาทิตย์ละครั้ง...)

    3. กลุ่มที่คลั่งศาสนา

    ยังดีครับ ที่เรานับถือพุทธเป็นหลัก
    กระแสศรัทธาศาสนาแบบสุดขั้ว แบบที่โลกตะวันออกกลาง และ แอฟริกาบางประเทศ เป็นอยุ่ในปัจจุบัน จึงยังไม่เกิดขึ้นในประเทศเรา

    หกแต่ ผลของการยึดถือศาสนาแบบที่ไม่สนใจสังคม จะทำให้คนเหล่านั้น ไม่พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก

    พลตรีจำลอง ก็เป็น 1 ในนั้น และ กลุมที่ศรัทธาศาสนาในปัจจุบัน อย่างโพธิรักษ์ ก็ยาตราทัพ เดินออกมาจากรัง เพื่อร่วมขับไล่นายก ในนามของทุนนิยม ให้ออกไปอีกด้วย

    ผมเห็นด้วย กับคุณ ประชาชน(ไทย) ที่บอกว่า
    หากจำลองไปเกิดที่ ตอ.กลาง
    เขาอาจจะเป็น 1 ในแกนนำของ อัล กออีดะห์ ได้

    พวกนี้ อันตรายไหม
    ตอบตรงๆๆว่า ไม่อันตราย
    แต่ จะรำคาญมากกว่า ในแง่ของ อาการ "ดื้อตาใส" ของพวกนี้ และ จะส่งให้ คนที่ไม่เห็นด้งวยเกิดความรำคาญ

    และ อาจนำมาซึ่ง การทะเลาะกันในแบบการลงไม้ ลงมือได้ในอนาคต

    จริงๆ กลุ่มต่างๆ ยังมีที่ซับซ้อนกว่านี้
    เช่นกลุ่มศักดินาเก่า หรือ กลุ่มข้าราชการ (ที่เสียประโยชน์จากการเข้ามาของทักษิณ)

    แต่ เอาเถอะ
    สิ่งที่เราปฏิเสธไม่ได้คือ ประเทศไทย ยึดถือ ทุนนิยมในหลักเศรษฐกิจ และ กำลังพยายามนำกระแส เศรษฐกิจพอเพียง เข้ามาผสมผสาน

    ผมคิดว่า
    การขัดแย้งกันในหลักการหลัก ระหว่างแนวคิด 2 แบบนี้
    ส่งผลให้ระบบความคิดของคนในชาติ ที่ยังไม่เข้าใจในหลักการเศรษฐกิจทั้ง 2 แบบ
    รู้สึก สับสนพอควร

    นายกทักษิณ "ซึ่งเป็นทุนนิยมเต็มตัว"
    อาจโชคร้ายที่เข้ามาตรงจุดนี้ เวลานี้พอดี

    ในเวลาที่กระแสโลกเปลี่ยน

    มีการประท้วง WTO บ่อยๆ ต่อต้านทุนนิยม เข้าหู ชนชั้นกลาง (ในขณะที่ นายกสนับสนุนการค้าข้ามชาติและ FTA)

    มีเรือรบของ Greenpeace เข้ามาในน่านน้ำไทย เพื่อประท้วงโรงไฟฟ้าถ่านหิน (ในขณะที่ นายก (และผมด้วย)สนับสนุนการสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้น)

    มีความพยายามจากราษฎรอาวุโส 3 ท่าน (หมอประเวศ ศ.เสน่ห์ และ ศ.ระพี) ให้ปกครองประเทศย้อนไปยุคพระศรีอารีย์ (แต่นายก ก็ปกครองตามแบบทุนนิยม และ บวกประชานิยมให้แก่คนรายได้น้อย)

    ------------

    สำหรับผม
    จุดเปลี่ยน และ จุดสับสนที่ประเทศไทย และ สังคมไทยกำลังเจออยู่
    ถือเป็นจุดที่หลายประเทศ ได้ผ่านมาแล้ว และผ่านไปได้ (เกาหลีใต้ ไต้หวัน)

    นากยทักษิณ เป็นเพียง Nominee ที่เข้ามาตรงจุดเปลี่ยนตรงนี้พอดี..
    และ บังเอิญอย่างยิ่งว่า
    Nominee แห่งทุนนิยมคนนี้ เป็นคนที่ Aggressive อย่างมาก (ทั้งทาง การกระทำ ความคิด และ ปาก)
    เพระถือว่ามีประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุน ซึ่งเป็นเรื่องจริง

    สิ่งเหล่านี้ สร้างความรำคาญสายตา ให้กับผู้ใหญ่ และ ทุนนิยมเก่าในบ้านเมือง
    รวมถึง ศักดินาเก่า
    ที่ต่างไม่มั่นใจในอนาคตของตัวเอง ในอีก 10 ปีข้างหน้า

    การขยับตัวออกมาอีกครั้ง
    จึงเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับพวกเขา

    และ ผ่านออกไปยังเบี้ยทั้งหลาย ที่ถูกนำมาใช้
    ไม่ว่าจะเป็น คุณสนธิ (เบี้ยพ่อค้า)
    พลตรีจำลอง (เบี้ยบริสุทธิ์)
    เอกยุทธ์ และ อดีต จปร.7 (เบี้ยด้านกำลัง)
    สนนท. (เบี้ยที่ถูกสังคมผลักดันให้ออกมา ทั้งที่ พวกทุนนิยมเก่า ไม่ได้สนใจนักในช่วงแรก)

    ภาวะ Anarchism หรือ อนาธิปไตย ของไทย จึงได้ถือกำเนิดขึ้น ตั้งแต่กลางปี 2548 จนถึงปัจจุบัน

    จะเชื่อ ไม่เชื่อก็ตามสะดวกนะครับ

    โดยคุณขนมต้ม แห่งโต๊ะราชดำเนิน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×