ลำดับตอนที่ #84
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #84 : 2ปีผ่านไปกองปราบเพิ่งตามมาเอาเรื่องกับผู้ดูแลเว็บ
Webmaster interrogated by police for reader’s comment posted nearly two years ago
๘ มิถุนายน ๒๕๕๒
ที่มา – Prachatai English
แปลและเรียบเรียง – chapter 11
ผู้ ดูแลเว็บของเว็บไซต์วัยรุ่นได้ถูกกองปราบเรียกไปให้ปากคำถึงสองครั้ง เกี่ยวกับความเห็นจากผู้อ่านซึ่งโพสต์เกือบสองปีที่แล้ว ซึ่ง “อาจจะ” หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
นาย ทีปกร วุฒิพิทยามงคล ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้ดูแลเว็บบล็อก exteen.com ได้รับหมายเรียกจากกองบังคับการปราบปรามครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑ เมษายน เขาได้เขียนบทความลงในบล็อกของเขา ผู้อ่านหลายคนคิดว่าเป็นเรื่องตลกของวันโกหกเดือนเมษายน (April Fool’s Day)
นาย ทีปกรกล่าวว่า ตำรวจไม่ได้ให้ความกระจ่างว่าเป็นคดีเกี่ยวกับเรื่องอะไร เขาได้ถูกสอบปากคำเกี่ยวกับประวัติส่วนตัว เว็บไซต์ exteen.com และการควบคุมเนื้อหาของเว็บ รวมถึงสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลของเจ้าของไอพีซึ่งโพสต์ความเห็น “อาจจะ” เข้าข่ายหมิ่นฯ ซึ่งคำตอบของเขาคือไม่ทราบเกี่ยวกับข้อมูลดังกล่าว
ความ เห็นดังกล่าวได้โพสต์โดยผู้โพสต์ที่ไม่ได้ลงทะเบียนเข้าใช้เมื่อเดือน สิงหาคม ๒๕๕๐ และผู้ดูแลเว็บได้ลบข้อความดังกล่าวภายในเวลา ๒๔ ชั่วโมงหลังจากได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ของกระทรวงไอซีที ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่ได้รับการติดต่อจากกระทรวงนี้อีก
เขา รายงานว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกกับการที่ตำรวจกองปราบต้องการตั้งข้อหาต่อบุคคลที่เขียน ความเห็นและกับผู้ดูแลเว็บ แต่ที่ประหลาดใจเพราะความเห็นดังกล่าวได้โพสต์และถูกลบทิ้งเกือบ ๒ ปีมาแล้ว และเขาให้ความเห็นว่าเวลา ๒ ปีสำหรับอินเตอร์เน็ตเหมือนเวลาเป็นชาติ กองปราบได้รับคดีมาจากกระทรวงไอซีที และได้เริ่มดำเนินการเมื่อไม่นานมานี้
นาย ทีปกรได้ส่งมอบรายการ การแสดงความเห็น และไอพีแอดเดรสให้กับทางกองปราบ แม้ว่าเขาจะทราบว่า ภายใต้กฎหมายอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ ผู้บริหารเว็บต้องเก็บรายการการแสดงความเห็น เพื่อมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ภายในระยะ ๙๐ วัน ไม่ใช่เวลาถึง ๒ ปี
กอง ปราบได้สอบปากคำในเรื่องที่ว่าเขามีส่วนรู้เห็นเป็นใจในความคิดเห็นดังกล่าว หรือไม่ และผู้บริหารเว็บจะทราบหมายเลขโทรศัพท์ของเจ้าของไอพีแอดเดรสหรือไม่ ซึ่งเขาให้คำตอบว่าไม่ทราบ
การสอบปากคำใช้เวลาประมาณ ๑ ชั่วโมงครึ่ง นายทีปกรคิดว่าคดีคงเสร็จสิ้น แต่เขาคิดผิด
เมื่อวันที่ ๓ มิถุนายน เขาได้รับโทรศัพท์จากตำรวจ เรียกตัวเพื่อทำการสอบปากคำเพิ่มเติมที่กองบังคับการปราบปรามในวันนั้น
เมื่อ เขาให้คำตอบว่า คงไม่สะดวกสำหรับเขา และเขาเคยให้ข้อมูลที่ต้องการไปแล้วทั้งหมด กองปราบได้แจ้งว่าเขาได้ถูกเรียกตัวในครั้งนี้ในฐานะพยาน และถ้าเขาไม่ให้ความร่วมมือ เขาอาจจะถูกหมายศาลให้กลายเป็นผู้ต้องหาแทน เนื่องจาก “บุคคลเบื้องบนต้องการที่จะจัดการกับผู้ดูแลเว็บ”
นาย ทีปกรได้ถามว่ามีวิธีการอื่นที่สะดวกกว่าในการให้ปากคำหรือไม่ เช่น ให้การทางโทรศัพท์ เพราะเขามีงานต้องทำ เจ้าหน้าที่กองปราบบอกปฎิเสธ และกล่าวว่า กองปราบจะไปสอบปากคำนายทีปกรเองที่บ้านถ้าเขาตกลงตามนั้น
นายทีปกรได้ตรึกตรองสักครู่ และทราบดีว่าคงไม่มีทางเลี่ยง จึงได้นัดให้ปากคำในช่วงเวลาบ่ายต้นๆ
เมื่อ เวลาบ่ายโมง ตำรวจกองปราบยศพันโทได้มาเคาะประตู และเริ่มสอบปากคำด้วยคำถามเดิมที่เคยถามก่อนหน้านั้น ว่าในแต่ละวันมีผู้โพสต์เข้ามากี่ครั้ง และมีความเห็นกี่ความเห็น และเว็บเอ็กซ์ทีนเป็นเว็บเกี่ยวกับอะไร
นาย ทีปกรไม่เข้าใจต่อวิธีการสอบปากคำของตำรวจ ก่อนจะสุดสิ้นการสอบปากคำ ตำรวจบอกให้เขาหาพยานจากสมาชิกของเว็บไซต์หนึ่งหรือสองคน ซึ่งสามารถยืนยันความบริสุทธิ์ของเขาในระยะการสอบปากคำของตอนเช้าวันรุ่งขี้ น
นาย ตำรวจได้กล่าวกับทีปกรว่า “เพื่อผลประโยชน์ของตัวคุณเอง” และเสริมต่อว่าไม่มีอะไรที่ต้องห่วงเกี่ยวกับเว็บไซต์เนื่องจากไม่ได้เป็น เว็บไซต์อันตราย หรือ “ไม่เป็นภัย” แต่ “ต้องเล่นไปตามกฎ” ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องมีพยานหรือหลักฐานเพื่อยืนยันในเรื่องนี้
หลังเหตุการณ์ ทีปกรมีคำถามที่ต้องคอยครุ่นคิดและพิจารณา
ทำไมกระทรวงไอซีทีเพิ่งส่งคดีให้กองปราบหลังจากเหตุการณ์ผ่านไปแล้วถึง ๒ ปี
ทำไม เขาซึ่งให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับกองปราบ จะต้องถูกรบกวนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ทำไมตำรวจจึงดำเนินคดีนี้ แม้ความจริงที่ว่านายตำรวจนายนั้นได้กล่าวว่า เป็นเพียงแค่เหตุการณ์ที่เกิดขี้นเพียงแค่ครั้งเดียว
ทำไม ตำรวจจึงไม่ใช้เวลาที่มีค่าของเขา ไปติดตามอาชญากรรมที่รุนแรงกว่า เช่น การจับเว็บโป๊ แชร์ลูกโซ่ แฮ็กเกอร์ หรือ คนส่งสแปม ซึ่งทำความเดือดร้อนให้กับประชาชน
เขา ได้แต่ถอนหายใจและหวังว่าตำรวจจะสรุปคดีในวันหรือสองวันนี้ เขาเขียนว่า แม้ว่าเขาจะเข้าบล็อกได้อย่างง่ายๆ แต่ไม่ใช่เรื่องที่น่าสนุกอีกแล้ว
เขาได้ให้ความเห็นว่าเจ้าหน้าที่กองปราบปฎิบัติงานไปตามหน้าที่ ด้วยความสุภาพ แต่ก็ได้แฝงคำขู่ไว้
๘ มิถุนายน ๒๕๕๒
ที่มา – Prachatai English
แปลและเรียบเรียง – chapter 11
ผู้ ดูแลเว็บของเว็บไซต์วัยรุ่นได้ถูกกองปราบเรียกไปให้ปากคำถึงสองครั้ง เกี่ยวกับความเห็นจากผู้อ่านซึ่งโพสต์เกือบสองปีที่แล้ว ซึ่ง “อาจจะ” หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
นาย ทีปกร วุฒิพิทยามงคล ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้ดูแลเว็บบล็อก exteen.com ได้รับหมายเรียกจากกองบังคับการปราบปรามครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑ เมษายน เขาได้เขียนบทความลงในบล็อกของเขา ผู้อ่านหลายคนคิดว่าเป็นเรื่องตลกของวันโกหกเดือนเมษายน (April Fool’s Day)
นาย ทีปกรกล่าวว่า ตำรวจไม่ได้ให้ความกระจ่างว่าเป็นคดีเกี่ยวกับเรื่องอะไร เขาได้ถูกสอบปากคำเกี่ยวกับประวัติส่วนตัว เว็บไซต์ exteen.com และการควบคุมเนื้อหาของเว็บ รวมถึงสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลของเจ้าของไอพีซึ่งโพสต์ความเห็น “อาจจะ” เข้าข่ายหมิ่นฯ ซึ่งคำตอบของเขาคือไม่ทราบเกี่ยวกับข้อมูลดังกล่าว
ความ เห็นดังกล่าวได้โพสต์โดยผู้โพสต์ที่ไม่ได้ลงทะเบียนเข้าใช้เมื่อเดือน สิงหาคม ๒๕๕๐ และผู้ดูแลเว็บได้ลบข้อความดังกล่าวภายในเวลา ๒๔ ชั่วโมงหลังจากได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ของกระทรวงไอซีที ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่ได้รับการติดต่อจากกระทรวงนี้อีก
เขา รายงานว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกกับการที่ตำรวจกองปราบต้องการตั้งข้อหาต่อบุคคลที่เขียน ความเห็นและกับผู้ดูแลเว็บ แต่ที่ประหลาดใจเพราะความเห็นดังกล่าวได้โพสต์และถูกลบทิ้งเกือบ ๒ ปีมาแล้ว และเขาให้ความเห็นว่าเวลา ๒ ปีสำหรับอินเตอร์เน็ตเหมือนเวลาเป็นชาติ กองปราบได้รับคดีมาจากกระทรวงไอซีที และได้เริ่มดำเนินการเมื่อไม่นานมานี้
นาย ทีปกรได้ส่งมอบรายการ การแสดงความเห็น และไอพีแอดเดรสให้กับทางกองปราบ แม้ว่าเขาจะทราบว่า ภายใต้กฎหมายอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ ผู้บริหารเว็บต้องเก็บรายการการแสดงความเห็น เพื่อมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ภายในระยะ ๙๐ วัน ไม่ใช่เวลาถึง ๒ ปี
กอง ปราบได้สอบปากคำในเรื่องที่ว่าเขามีส่วนรู้เห็นเป็นใจในความคิดเห็นดังกล่าว หรือไม่ และผู้บริหารเว็บจะทราบหมายเลขโทรศัพท์ของเจ้าของไอพีแอดเดรสหรือไม่ ซึ่งเขาให้คำตอบว่าไม่ทราบ
การสอบปากคำใช้เวลาประมาณ ๑ ชั่วโมงครึ่ง นายทีปกรคิดว่าคดีคงเสร็จสิ้น แต่เขาคิดผิด
เมื่อวันที่ ๓ มิถุนายน เขาได้รับโทรศัพท์จากตำรวจ เรียกตัวเพื่อทำการสอบปากคำเพิ่มเติมที่กองบังคับการปราบปรามในวันนั้น
เมื่อ เขาให้คำตอบว่า คงไม่สะดวกสำหรับเขา และเขาเคยให้ข้อมูลที่ต้องการไปแล้วทั้งหมด กองปราบได้แจ้งว่าเขาได้ถูกเรียกตัวในครั้งนี้ในฐานะพยาน และถ้าเขาไม่ให้ความร่วมมือ เขาอาจจะถูกหมายศาลให้กลายเป็นผู้ต้องหาแทน เนื่องจาก “บุคคลเบื้องบนต้องการที่จะจัดการกับผู้ดูแลเว็บ”
นาย ทีปกรได้ถามว่ามีวิธีการอื่นที่สะดวกกว่าในการให้ปากคำหรือไม่ เช่น ให้การทางโทรศัพท์ เพราะเขามีงานต้องทำ เจ้าหน้าที่กองปราบบอกปฎิเสธ และกล่าวว่า กองปราบจะไปสอบปากคำนายทีปกรเองที่บ้านถ้าเขาตกลงตามนั้น
นายทีปกรได้ตรึกตรองสักครู่ และทราบดีว่าคงไม่มีทางเลี่ยง จึงได้นัดให้ปากคำในช่วงเวลาบ่ายต้นๆ
เมื่อ เวลาบ่ายโมง ตำรวจกองปราบยศพันโทได้มาเคาะประตู และเริ่มสอบปากคำด้วยคำถามเดิมที่เคยถามก่อนหน้านั้น ว่าในแต่ละวันมีผู้โพสต์เข้ามากี่ครั้ง และมีความเห็นกี่ความเห็น และเว็บเอ็กซ์ทีนเป็นเว็บเกี่ยวกับอะไร
นาย ทีปกรไม่เข้าใจต่อวิธีการสอบปากคำของตำรวจ ก่อนจะสุดสิ้นการสอบปากคำ ตำรวจบอกให้เขาหาพยานจากสมาชิกของเว็บไซต์หนึ่งหรือสองคน ซึ่งสามารถยืนยันความบริสุทธิ์ของเขาในระยะการสอบปากคำของตอนเช้าวันรุ่งขี้ น
นาย ตำรวจได้กล่าวกับทีปกรว่า “เพื่อผลประโยชน์ของตัวคุณเอง” และเสริมต่อว่าไม่มีอะไรที่ต้องห่วงเกี่ยวกับเว็บไซต์เนื่องจากไม่ได้เป็น เว็บไซต์อันตราย หรือ “ไม่เป็นภัย” แต่ “ต้องเล่นไปตามกฎ” ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องมีพยานหรือหลักฐานเพื่อยืนยันในเรื่องนี้
หลังเหตุการณ์ ทีปกรมีคำถามที่ต้องคอยครุ่นคิดและพิจารณา
ทำไมกระทรวงไอซีทีเพิ่งส่งคดีให้กองปราบหลังจากเหตุการณ์ผ่านไปแล้วถึง ๒ ปี
ทำไม เขาซึ่งให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับกองปราบ จะต้องถูกรบกวนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ทำไมตำรวจจึงดำเนินคดีนี้ แม้ความจริงที่ว่านายตำรวจนายนั้นได้กล่าวว่า เป็นเพียงแค่เหตุการณ์ที่เกิดขี้นเพียงแค่ครั้งเดียว
ทำไม ตำรวจจึงไม่ใช้เวลาที่มีค่าของเขา ไปติดตามอาชญากรรมที่รุนแรงกว่า เช่น การจับเว็บโป๊ แชร์ลูกโซ่ แฮ็กเกอร์ หรือ คนส่งสแปม ซึ่งทำความเดือดร้อนให้กับประชาชน
เขา ได้แต่ถอนหายใจและหวังว่าตำรวจจะสรุปคดีในวันหรือสองวันนี้ เขาเขียนว่า แม้ว่าเขาจะเข้าบล็อกได้อย่างง่ายๆ แต่ไม่ใช่เรื่องที่น่าสนุกอีกแล้ว
เขาได้ให้ความเห็นว่าเจ้าหน้าที่กองปราบปฎิบัติงานไปตามหน้าที่ ด้วยความสุภาพ แต่ก็ได้แฝงคำขู่ไว้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น