ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ขุนช้าง ขุนแผน

    ลำดับตอนที่ #8 : พลายแก้วบวชเณร + พลายแก้วได้นางพิม

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 13.33K
      10
      8 ต.ค. 50

    พลายแก้วบวชเณร

     

    ฝ่ายพลายแก้วนั้น ไปอยู่ที่เมืองกาญจนบุรี จนอายุสิบห้าปีก็คิดอยากเป็นทหารเหมือนขุนไกรผู้เป็นพ่อ ก็บอกให้นางทองประศรีไปฝากเรียนวิชากับพระที่มีวิชาดี นางทองประศรีจึงพาไปฝากสมภารวัดส้มใหญ่ เพื่อบวชเป็นเณร และเรียนวิชาการรบและคงกระพันชาตรี เณรแก้วซึ่งปัญญาไวและฉลาด ก็เรียนจบในเวลาอันรวดเร็ว สมภารได้แนะให้ไปเรียนกับสมภารคงวัดป่าเลไลย สุพรรณบุรีอีก เณรแก้วจึงลาสมภารวัดส้มใหญ่ ไปหานางทองประศรี ให้พาตนไปวัดป่าเลไลย ที่สุพรรณบุรี และได้ศึกษาวิชาเพิ่มเติมต่อไป 

    ฝ่ายขุนช้างเมื่อโตเป็นหนุ่มทองประศรี พ่อแม่ก็ไปขอลูกหมื่นแผ้ว บ้านรั้วใหญ่ ชื่อ นางแก่นแก้ว ให้ หลังจากอยู่กินกันได้ปีกว่า นางแก่นแก้ว ก็ป่วยตาย

    เมืองสุพรรณบุรีนั้น ในวันสงกรานต์ จะมีการไปทำบุญขนทรายเข้าวัด และก่อพระเจดีย์ทราย โดยเฉพาะที่วัดป่าเลไลย ซึ่งนางศรีประจันกับ นางพิมพิลาไลย ก็ได้ไปทำบุญด้วย ขณะเมื่อนางพิมใส่บาตร เณรแก้วเงยหน้าดู ก็จำได้ว่านางพิมเป็นเพื่อนเล่นสมัยเมื่อเป็นเด็ก

    ในเดือนสิบ วัดป่าเลไลย ก็จัดให้มีการเทศน์มหาชาติสิบสามกัณฑ์ ชาวบ้านก็ร่วมกันรับกัณฑ์ต่าง ๆ นางศรีประจันรับกัณฑ์มัทรี นางพิมให้ทำหมากประจำกัณฑ์อย่างสวยงาม

    ส่วนขุนช้างรับกัณฑ์กุมาร เมื่อถึงวันเทศน์มัทรี สมภารได้ป่วยลง ก็สั่งให้เณรแก้วไปเทศน์แทน ก่อนจะขึ้นเทศน์ เณรแก้วเสกขี้ผึ้งทาปากก่อน แล้วไปขึ้นธรรมาสน์ เมื่อเห็นนางพิมนั่งก้มหน้าอายอยู่ จึงเป่าคาถามหาละลวยไปที่นางพิม ทำให้นางพิมพ์รู้สึกรัญจวนใจ ก่อนที่เณรแก้วจะเทศน์จบ นางพิมได้เปลื้องผ้าสีทับทิมวางบนพานถวายเณรแก้ว ขุนช้างเห็นก็เปลื้องผ้ากรอง ไปวางคู่กับผ้าทับทิมของนางพิม พร้อมกับอธิษฐานว่า ให้ได้เป็นคู่กับนางพิม

    หลังจากที่นางพิมกลับไปแล้ว เณรแก้วก็ให้ปั่นป่วนคิดถึงแต่นางพิม คืนนั้นนางพิมนอนหลับได้ฝันไปว่า นางสายทองพี่เลี้ยงเก็บดอกบัวทองมาให้ เมื่อตื่นขึ้น นางสายทองทำนายฝันว่าจะได้คู่ ฝ่ายขุนช้างหลังจากที่ได้พบกับนางพิม เทศน์มหาชาติแล้วก็ให้รัญจวนใจ คิดถึงแต่นางพิม

     

     

     

    พลายแก้วได้นางพิม

     

    รุ่งเช้าเณรแก้วรู้สึกคิดถึงนางพิมมาก ได้ไปบิณฑบาตรที่บ้านนางพิม นางพิมไม่ยอมลงไปใส่บาตร สายทองจึงต้องลงไป แล้วเณรแก้วจึงว่ามีเรื่องอยากจะคุยกับนางสายทอง ให้พานางพิมไปอาบน้ำที่ท่าน้ำ เมื่อถึงเวลาบ่าย สายทองพานางพิมไปอาบน้ำ เณรแก้วจึงมาตามที่ได้นัดกันไว้ เมื่อพบกันเณรแก้วจึงอ้อนวอนให้สายทอง ช่วยให้ตนได้พบกับนางพิม หากสำเร็จจะทดแทนบุญคุณ

    วันรุ่งขึ้น นางสายทองลงมาใส่บาตร ได้บอกกับเณรแก้วว่า จะพานางพิมไปที่ไร่ฝ้ายตอนบ่าย เมื่อถึงตอนบ่ายนางสายทองกับนางพิม บอกนางศรีประจันว่าจะไปเก็บฝ้ายในไร่ ส่วนเณรแก้วก็ไปลาสึกกับชีต้น แล้วพาไปพบกับนางพิมที่ไร่ฝ้าย เมื่อพบกันนางพิมไม่ยอมพูดจา เณรแก้วจึงพูดถึงเรื่องตอนเด็กให้ฟัง ทำให้นางพิมจำได้ว่า เณรแก้วนั้นเคยเป็นเพื่อนเล่นกันมาในตอนเป็นเด็ก

     

    แล้วเณรแก้วก็เข้าเล้าโลมนางพิมด้วยประการต่างๆ นางพิมจึงต่อว่า

    "...อดข้าวดอกนะเจ้าชีวาวาย                             ไม่ตายดอกเพราะอดเสน่หา..."

     

    เมื่อถึงเวลาค่ำ เณรแก้วได้ดูฤกษ์ยามที่จะไปบ้านนางพิม

    ".....ยืนขยับเพ่งพิศเมฆฉาย .....                      พิเคราะห์ดูหลาวเหล็กและผีหลวง....

    .....ปลอดห่วงดวงใจก็ฮึกหาญ                          สูรย์จันทร์แม่นยำด้วยชำนาญ

    ย่างเท้าก้าวผ่านไปตามทิศ..... "

     

    เณรแก้วได้เสกข้าวสารหว่านไปจนผู้คนในบ้านหลับสนิท แล้วสะเดาะกลอน กลิ้งครกเหยียบยืนขึ้นไปบนเรือน และได้นางพิมเป็นเมีย หลังจากกลับจากบ้านนางพิม ก็ได้ไปขอให้ชีต้นบวชให้ดังเดิม 

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×