ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เคล็ดลับสุขภาพดี โดยวิธีง่ายๆ

    ลำดับตอนที่ #19 : อาหารกับหมู่เลือด

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.97K
      2
      21 ต.ค. 49

    ช่วงนี้ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น เนื่องจากไม่อยากเจ็บป่วยจนล้มหมอนนอนเสื่อ เพราะการดูแลสุขภาพตัวเองย่อมดีกว่าให้หมอมารักษาเมื่อไม่สบายเสียแล้ว เราจึงนำเรื่องอาหารกับหมู่เลือดมาฝาก เพื่อเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งในการดูแลสุขภาพ ซึ่งเรื่องนี้ นายแพทย์พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ เจ้าของโครงการห่วงใยสุขภาพ เล่าให้ฟังว่าเป็นผลงานวิจัยของนายแพทย์ชาวอเมริกันที่พบว่าการรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับกรุ๊ปเลือดจะช่วยสร้างสมดุลที่ดีที่สุดให้แก่ร่างกาย ภูมิต้านทาน ระบบย่อย รวมถึงการลดน้ำหนัก และเพิ่มพละกำลังที่สำคัญช่วยทำให้ไม่แก่เร็วอีกด้วย

    ก่อนอื่นเรามารู้จักที่มาที่ไปของเลือดกรุ๊ปต่างๆกันก่อน ตามทฤษฎีนี้มนูษย์กลุ่มแรกดำรงชีวิตเป็นนักล่า เป็นพวกกินเนื้อสัตว์จะมีเลือดกรุ๊ป O ซึ่งมีกรดในกระเพาะอาหารสูง สามารถย่อยเนื้อสัตว์ได้ดี แต่เมื่อมนูษย์เริ่มตั้งถิ่นฐานและรู้จักเพาะปลูกมากขึ้น วิวัฒนาการของมนุษย์ก็แปรเปลี่ยนเป็นเลือดกรุ๊ป A เพราะร่างการไม่ต้องการโปรตีนมากเหมือนเมื่อก่อน ส่วนเลือดกรุ๊ป B นั้นเกิดขึ้นในภายหลังเมื่อร่างกายได้พัฒนาระบบภูมิคุ้มกันและระบบการย่อย เพราะนอกจากผักแล้วยังต้องกินเนื้อสัตว์แล้วนมเนยที่ได้จากฝูงสัตว์เลี้ยง สำหรับเลือดกรุ๊ป AB นั้น เกิดหลังสุดซึ้งค้นพบเมื่อประมาณ 1000 - 1500 ปีก่อน เป็นกรุ๊ปเลือดกลุ่มน้อย ระบบภูมิคุ้มกันและระบบการย่อยซับซ้อนขึ้นมีส่วนคล้ายกับเลือดกรุ๊ป A และ B

    เลือดกรุ๊ป A คนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้เหมาะกับอาหารแบบมังสวิรัติ จึงควรหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์เพื่อลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและมะเร็ง ระวังอาหารสำเร็จรูป เช่น ไส้กรอกและแฮม เพราะมีไนไตรท์ซึ่งกระตุ้นให้เกิดมะเร็งในกระเพาะอาหาร สำหรับ นม ถั่วแดง และอาหารที่มีแป้งสาลีมากเกินไปก็ไม่เหมาะกับชาวกรุ๊ป A เพราะมีผลต่อระบบเผาผลาญ ระบบย่อยอาหาร และชลอการทำงานของอินซูลิน การไม่กินเนื้อสัตว์ของชาวกรุ๊ป A จะทำให้ขาดธาตุเหล็ก จึงควรกินข้าวกล้อง ถั่ว มะเดื่อ และน้ำตาลโมแลสซิส (สีดำที่เอามาทำ ซีอิ๊วหวาน) ควรเสริมอาหารที่มีวิตามินบี และวิตามินซีมากๆ เพราะจะช่วยปัญหากรดในกระเพาะต่ำ เช่น บร๊อกคอรี่ ส้มโอ สับปะรด เชอรี่และมะนาว รวมถึงผักใบเขียว ผู้หญิงเลือดกรุ๊ป A ถ้ามีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านมควรรับประทานหอยทาก เพราะโปรตีนในหอยจะช่วยกำจัดเซลล์มะเร็ง แต่ถ้าอยู่ในวัยกลางคนควรเสริมด้วยโยเกิร์ตไขมันต่ำ นมถั่วเหลือง ปลาแซลมอน สิ่งสำคัญคนเลือดกรุ๊ป A ไม่เหมาะกับการออกกำลังกายหนักๆเพราะจะทำให้ร่างกายเหนื่อยล้าหมดแรง และส่งผลโดยตรงให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอลง เจ็บป่วยได้ง่าย

    เลือดกรุ๊ป AB เป็นส่วนผสมของเลือดกรุ๊ป A และ B อาหารมังสวิรัติจะให้ผลดีต่อร่างกาย ผลิตภัณฑ์จากนมและไข่รับประทานได้ แต่ไม่มากหากมีปัญหาไซนัสอักเสบและหูอื้อ ควรงดอาหารจากผลิดภัณฑ์นม เนย ไข่แดง โปรตีนที่เหมาะสมจะได้จากอาหารทะเล เต้าหู้ แกะ กวาง และกระต่าย แต่ควรรับประทานครั้งละน้อยๆเพราะกระเพาะอาหารของคนเลือดกรุ๊ปนี้ผลิตน้ำย่อยไม่เพียงพอที่จะย่อยโปรตีนมากเกินไป ไม่ควรรับประทานปลาเนื้อขาวและปลาแซลมอนรมควัญ ถั่วแดงหลวงโดยเฉพาะถ้าเป็นโรคเกี่ยวกับถุงน้ำดีไม่ควรรับประทานถั่วเม็ด รวมทั้งน้ำมันชนิดต่างๆยกเว้น น้ำมันมะกอกเพราะจะส่งผลร้ายต่อร่างกาย อาหารประเภทข้าวและแป้งก็มีประโยชน์กับคนเลือดกรุ๊ปนี้แต่ให้ระวังแป้งข้าวโพด เพราะเป็นตัวการทำให้น้ำหนักเพิ่มง่ายเกิดเสมหะ ซึ่งชาวกรุ๊ป AB มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ จึงควรรับประทานผักสดมากๆ ช่วยป้องกันมะเร็งและโรคหัวใจซึ่งเกิดขึ้นได้ง่ายกับคนกรุ๊ป AB แต่ควรหลีกเลี่ยงผลไม้เมืองร้อนบางอย่าง เช่น กล้วย มะม่วง ฝรั่ง รวมทั้ง ส้ม ซึ่งไม่ดีต่อกระเพาะ ยกเว้น สับปะรด และส้มโอที่ช่วยย่อยได้ดีมาก กาแฟ ชาเขียว และไวน์แดงดีต่อเลือดกรุ๊ป AB ส่วนเบียร์ให้ผลเป็นกลางแต่ถ้าต้องการลดน้ำหนัก ก็ไม่ควรดื่ม

    เลือดกรุ๊ป B ร่างกายของคนเลือดกรุ๊ปนี้เหมาะจะรับประทานอาหารเนื้อสัตว์พวกกระต่าย กวาง แกะ ควรหลีกเลี่ยงเนื้ออกไก่ เพราะจะนำไปสู่อาการเส้นเลือดตีบหรือแตกในสมอง และโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง จึงควรทานไก่งวงแทน ชาวเลือดกรุ๊ป B เป็นเพียงกรุ๊ปเดียวที่รับประทานอาหารนมเนยได้เต็มที่ ข้าวโอ๊ดและข้าวกล้องก็มีประโยชน์มากแต่ควรเลี่ยงแป้งสาลี ถั่วบางชนิด เพราะไม่ดีต่อเลือด เกี่ยวข้องโดยตรงกับโรคเครียดและโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผักส่วนใหญ่ดีต่อสุขภาพของคนกรุ๊ปนี้ยกเว้น มะเขือเทศที่ต้องห้ามกินเด็ดขาดเพราะมีสารก่อกวนผนังกระเพาะอาหารรวมทั้งข้าวโพด ซึ่งมีผลต่อระบบเผาผลาญ แต่ควรทานผักใบเขียวให้มากๆโดยเฉพาะเด็กที่มีเลือดกรุ๊ป B เพราะช่วยป้องกันโรคผื่นคัน ผลไม้เหมาะกับคนกรุ๊ปนี้มาก ถ้ารับประทานผลไม้ วันละ 2 - 3 ครั้งจะผลดีต่อการรักษาโรค และลดความเจ็บปวด ชาวกรุ๊ป B จะตอบสนองกับความเครียดได้ดี เนื่องจากมีบุคลิกภาพยืดหยุ่นประนีประนอมสูงไม่ชอบการเผชิญหน้าโดยตรงอย่างคนกรุ๊ป O ขณะเดียวกันร่างกายมีพลังมากกว่าคนกรุ๊ป A

    เลือดกรุ๊ป O มีระบบที่ย่อยเนื้อแดงดีมากจึงเหมาะจะรับประทานเนื้อสัตว์ สัตว์ปีก ปลา รวมทั้งผักและผลไม้ และควรรับประทานอาหารทะเลเป็นประจำ เพราะชาวเลือดกรุ๊ปนี้มักมีปัญหาโรคเลือดไม่้แข็งตัวและไทรอยด์ รวมทั้งโรคลำไส้อักเสบที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้มากกว่าเลือดกรุ๊ปอื่นๆ หญิงสาวกรุ๊ป O ไม่ควรรับประทานแป้งสาลี ข้าวโอ๊ค เพราะมีผลต่อระบบการย่อย ทำให้เกิดการสะสมไขมันทำให้เพิ่ใน้ำหนักตัว เห็ดหอม และมะกอกดอง อาจทำให้เกิดอาการแพ้ มะเขือยาว และมันฝรั่ง ถือเป็นต้นตอให้ปวดข้อ และควรเลี่ยง แคนตาลูป ส้ม สตรอว์เบอรี่เพราะมีกรดสูงไป สำหรับคนเลือดกรุ๊ปนี้ ผักใบเขียวจะให้วิตามินเคสูง ซึ่งจะช่วยให้เลือดแข็งตัว ควรออกเล่นกีฬา และออกกำลังกายหนักๆออกแรงมาก ถ้าความเร็วของการเต็นหัวใจสูงจะเป็นประโยชน์อย่างมาก ชาวกรุ๊ป O ดื่มไวน์ได้บ้าง ไม่ควรดื่มเบียร์ ชา กาแฟ เพราะจะไปเพิ่มกรดในกระเพาะ ซึ่งคนกรุ๊ป O มีมากพออยู่แล้ว

    กรุ๊ปเลือดแต่ละกรุ๊ปแตกต่างกัน การกินอาหารหรือควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่เหมาะสมกับกรุ๊ปเลือดนั้นคือ ข้อสรุปของทฤษฎีนี้ ซึ่งเป็นแนวคิดที่อาจจะนำมาปรับใช้ในยุคที่ความก้าวหน้าในการค้นคว้าทำให้คนเรามีทางเลือกมากขึ้น

    อ้างอิง http://www.wanjai.com

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×