ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Bleach]_All Ichigo Fc.

    ลำดับตอนที่ #28 : [Fan Fic]: ดอกไม้ที่เหลือแค่ดอกเดียว/23/End.แล้วหละครับ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.51K
      19
      18 ธ.ค. 52


    A5271712-26.gif จบแล้วครับ จบแล้วววววววว
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    บนน่านฟ้าสีครึ้มบนโลกมนุษย์ ได้มีการประทะกันอย่างรุนแรง
    การต่อสู้ของอารันคาร์ ในระดับเอสปาด้า

    ตูม!!!!

    เสียงของบางสิ่งที่ถูกซัดกระเด็นไปยังตัวอาคาร
    พลังระดับนี้คงไม่สามารถสู้กับ No.4ได้ กริมจอว์ได้ยันตัวเองลุกขึ้นมา ตามตัวมีแต่รอยแผล
    เทียบมองกับอีกฝ่ายที่ยังทำหน้านิ่ง แต่ตามตัวกลับไร้รอยแผล
    กริมจอว์เหลือบไปมอง อีกฟากตึก ที่มีร่างกายไร้ชีวิตของคนที่เขารัก

    “จงเสียดเสียง แพนเทร่า!!!”

    ซูม!!!!!!!!!!!!!

    การปลดปล่อยพลังของดาบ ไอพลังมหาศาลได้หล่อรวมตัวที่กริมจอว์ ผมที่สั้นได้เริ่มยาวลงมา
    ตามลำตัวได้แปรสภาพกลายเป็นเสือขาวที่น่าเกรงขาม

    “โฮกกกกกกกกกกกกกก”

    เสียงร้องดังลั่น จนกระแสอากาศพุ่งเข้ามาโดนอีกฝ่าย

    ///แค่เสียงร้องก็มีพลังมหาศาลขนาดนี้///

    อุลคิโอร่าได้คิดแต่เขาก็ยังนิ่ง ถึงอีกฝ่ายจะทำว่ามีพลังขนาดไหน แต่มันก็สู้เขาไม่ได้หรอกนะ

    “อุลคิโอร่า เจ้าเองก็ปลดปล่อยดาบซะ มาสู้กันให้เต็มที่ไปเลย”

    ร่างสูงตะโกน มือได้ชี้ไปยังคนที่ยังยืนทำหน้าตาย

    “ก็ได้ ถือว่าเป็นของจากลา”

    No.4ได้กล่าว มือได้จับด้ามดาบของตน

    “จงพันธนาการ มูเซียร์เอลาโก้”

    พลังสีดำมืดพวยพุ่งล้อมตัวของร่างสูง พลังและแรงกดดันได้แผ่ขยาย จนตึกรอบตัวทนไม่ไหว จนสั่น บางอาคารก็ร้าวและเริ่มถล่มลงมา บรรดามนุษย์ต่างตกใจพากันหนีตาย
    ซักพักกลุ่มควันนั้นจางหายปรากฏร่างของเอสปาด้า No.4 หัวกะโหลกนั้นก็กลายเป็นเขายาวขึ้นกว่าเดิม
    อีกทั้งปีก สีดำที่น่าสะพรึงนั้นอีก กริมจอว์ถึงกลับอึ้งไปซักพัก แต่สติเขาสั่งการ
    ว่าต้องสู้จนกว่าจะตายไปข้างนึง


    “หัวหน้า นี่มันอะไรกัน”

    เร็นจิที่ได้มาถึงซักพักได้ถามเบียคุยะ

    “ไม่รู้สิ แต่เรื่องแบบนี้มันไม่เคยเกิดเลยนี่นา”

    หัวหน้าหน่วย 6 ยังคงอึ้ง

    “ทะ...ท่านพี่”

    ลูเคียที่ซ่อนอยู่ไกลๆได้เห็นพี่ชายของตนเองถึงกลับร้องหา

    “ลุเคีย!!!”

    เร็นจิได้พุ่งเข้าไปหา เพราะความเป็นห่วงเพื่อนของตัวเอง

    “นี่มันเกิดอะไรขึ้น ลูเคีย”

    ยมทูตผมสีแดงได้ถาม เด็กสาว

    “ข้าเองก็ไม่รู้ แต่ตอนที่ข้าเจาเห็นมีอารันคาร์ 2 ตนเอง มีผมสีส้มและสีฟ้า แต่อีกตนนั้นข้าก็เพิ่งเห็นหลังจากที่ข้าฟื้น”

    ลูเคียพูด

    “ผมสีส้มอย่างนั้นหรือ”

    เบียคุยะได้ถาม

    “ค่ะ ผมสีส้มแต่ตอนนี้ไม่รู้อยู่ไหนแล้ว”

    ร่างเล็กพูดตอบ เร็นจิได้พุ่งไปยังบนฟ้าอีกครั้งแต่ยังคงไม่ข้ามไปยังเขตที่เหล่าอารันคาร์สู้กัน
    สายตาได้ส่องหา เพราะคิดว่าอาจจะเจอ

    ///นั้นมัน///

    ได้เห็นอะไรบางอย่าง จึงพุ่งไปหา
    เมื่อขาทั้ง 2 ได้แตะลงที่พื้น รู้สึกว่าหัวใจเริ่มเต้นรัวจนเจ็บอก เลือดที่ไหลนองเต็มพื้นอาคาร
    ผมสีส้มประกายและร่างที่บอบบาง ชุดเสื้อสีขาวแต่กลับเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเพราะเลือดที่ไหลซึมเข้ามา
    เร็นจิเริ่มตัวสั่นอย่างเห็นได้ชัด เขาค่อยๆเดินไปหาร่างกายที่ไร้วิญญาณนั้น

    “อิจิโกะ...”

    ร่างสูงถึงกลับทรุดลงไปนั่ง มือใหญ่ได้คว้าจับมือบางที่เริ่มเย็นตามเวลาของร่างที่ตายไป

    “อ๊ะ”

    ลุเคียที่ตามมาถึงกลับอึ้ง ศพของอารันคาร์ตนนี้ ร่างกายที่ชุ่มไปด้วยเลือดสีสด
    กลางอกมีรูโหว่ที่โดนทะลวงเข้ามาดูแล้วช่างน่ากลัว

    “เร็นจิ นี้เจ้ารู้จักกับอารันคาร์ตนนี้ด้วยหรือ”

    เด็กสาวได้ถาม เพราะเห็นเร็นจิจับมือของอิจิโกะไว้แน่น

    “อืม....”

    เร็นจิพยักหน้า เขาคว้าร่างนั้นเข้ามากอดเบาๆ
    .
    .
    .
    .
    .
    ในที่สุดเรื่องที่ข้ากลัว
    ก็ได้มาถึง
    ข้ากลัวที่จะเห็นเจ้าตาย
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    ถึงแม้คนที่ฆ่าเจ้าไม่ใช่ยมทูต
    ก็ตามที
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    เบียคุยะที่ยืนมองเขาได้ถอนหายใจ
    อารันคาร์ที่ดูน่าสนใจกลับต้องจากไปเสียแล้ว
    เขาเองก็รู้สึกเสียใจนิดๆ
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    “ย๊ากกกกกกกกก!!!!!”

    การโจมตียังคงต่อเนื่อง ทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็อยู่ในระดับความเร็วที่สุดยอด
    กรงเล็บของราชายังคงไล่ขีดข่วนและแรงตบนั้นมหาศาลยิ่งนัก
    แต่อุลคิโอร่ากลับเหนือกว่าหลายขุม ร่างสูงได้ขยับปีกให้เกิดลมพายุ สายลมนั้นกรีดตามร่างของกริมจอว์

    “ดูท่าจะเสียเวลามากไปแล้ว”

    อุลคิโอร่ากล่าว เขายกมือของตนแล้วชี้ไปทางกริมจอว์

    “ซีโร่ ออสคิวรัส”

    จู่ๆ ลำแสงซีโร่สีดำได้พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว

    “!?”

    ตูม!!!!!!!

    แรงระเบิดทำเอาสถานรอบข้างกระจาย ผู้คนที่ไม่รู้เรื่องก็โดนลูกหลงจนล้มตายไปจำนวนมาก

    “อึก....พลังระดับนี้”

    ลูเคียยกแขนกำบังแรงลม รวมทั้ง เบียคุยะกับเร็นจิ ยมทูตแดงได้เอาแขนบังให้อิจิโกะอีกด้วย
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    “แหมๆ สู้กันดุเดือดจังเลยนะครับ”

    ในที่ฮุเอโก้มุนโด้ งินพูดกับไอเซ็น อย่างสนุก เขาทั้งคู่พากันมอง ถาพนั้นจากทางมิติ
    จากการใช้พลังของ โทเซ็น คานาเมะ

    “จะรอดูว่าตอนจบจะเป็นยังไงหละนะ”

    ไอเซ็นกล่าวอย่างยิ้มๆ

    “ศึกแย่งชิงนางซินะ”

    งินพูดแล้วหัวเราะเบาๆ เหมือนจะสนุกกับเหตุการณ์แบบนี้ซะเหลือเกิน
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    พลัง ลำดับต่างชั้นกันเยอะมาก จากการโจมตีของอุลคิโอร่าส่งผลให้กริมจอว์ถึงกับเจ็บปางตาย
    ร่างของราชา กำลังกลับเข้าสภาพเดิม ทั้งตัวมีแต่เลือดและรอยแผลขนาดใหญ่

    “ขะ...ข้าไม่ให้อภัยเจ้าเด็ดขาด ข้าไม่ให้....”

    แค่ลุกเดินก็ย่ำแย่ ขาทั้ง 2 สั่นจนกระทั้งไม่ไหว เลยล้มลงสลบไปทันที

    “.........”

    อุลคิโอร่าเองก็กลับสู่สภาพเดิมเช่นกัน เขาเคลื่อนตัวเองลงมาจากบนฟ้า
    เอสปาด้าหนุ่มเดินเข้ามาใกล้ๆกริมจอว์
    ร่างสูงที่มีกำลังเหนือกว่า ก้มลงไปพูดกระซิบเบาๆที่ข้างหู

    “ฝากอิจิโกะด้วยนะ”

    “!?”
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    ดอกไม้ที่โดดเดี่ยว
    เจ้าโกรธข้าหรือเปล่า
    ต้องขอโทษเจ้า
    ที่ข้าไม่อาจปกป้องดั่งที่ข้าเคยสัญญาไว้
    เจ้าดอกไม้ที่น่าสงสาร
    เจ้ายังคงเหลือแค่ดอกเดียวในโลกนี้
    และเจ้าจะยังคงอยู่ต่อไป
    ถึงแม้ข้าไม่อยู่แล้วก็ตาม
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    อุลคิโอร่าหายไปจากพื้นที่นั้น
    ก่อนจะโผล่ออกมาท่ามกลาง ยมทูตทั้ง 3คน

    “!?”

    ด้วยความตกใจ แต่เบียคุยะกลับไม่ใช่ เขาชักดาบออกมาเพื่อเตรียมพร้อมกับสถานการณ์

    “อย่าตื่นไป ข้าไม่ได้คิดฆ่าพวกเจ้า”

    เสียงทุ้มกล่าวด้วยใบหน้าที่เย็นชา ร่างสูงโปร่งชูนิ้วชี้ไปทางเร็นจิที่อุ้มอิจิโกะอยู่

    “สิ่งนั้น ข้าขอก่อนได้ไหม”

    “!?”

    ทั้งลูเคียและเบียคุยะ พากัน งง เร็นจิเองก็ทำท่าไม่ให้ มือแกร่งจับกอดไว้แน่น

    “เจ้าเป็นคนที่ฆ่าเขาแท้ๆ เจ้ายังจะคิดทำอะไรอีก”

    ยมทูตผมแดงตะคอกใส่ แต่แล้วก็ต้องหยุดเมื่อมีมือของใครบางคนมาจับที่ไหล่

    “อ๊ะ!!หัวหน้า”

    “ให้เขาไปเถอะ”

    เบียคุยะสั่ง เร็นจิทำหน้าไม่ค่อยพอใจ แต่เขาก็อุ้มส่งให้อีกฝ่าย
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    อุลคิโอร่าก้มมอง ใบหน้าของคนที่เขาคิดว่านี้คือหัวใจของเขาเอง
    ใบหน้าที่เขาไม่มีทางลืมลง

    “อิจิโกะ”

    ปากได้เอ่ยชื่อเรียกหา

    “ข้าจะให้ชีวิตของช้า ให้เจ้านะอิจิโกะ”

    อุลคิโอร่าวางอิจิโกะบนพื้นเบาๆ มือแกร่งได้ชูขึ้นมาแล้วแทงเข้าที่รูอกของตน

    “!?”

    ยมทูตทั้ง 3 พากันตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นข้างหน้า

    “อ่ะ....”

    ร่างสูงโปร่งอุทานออกมา เขาจับก้อนอะไรบางอย่างรูปร่างคล้ายผลึกออกจากรูอก
    แล้วเอาผลึกนั้นวางทาบบนรูอกของอิจิโกะ

    “นั้นมัน.....”

    ลูเคียได้ถามเบียคุยะ

    “ผลึกมิติ สิ่งนั้นคือสิ่งหล่อเลี้ยงชีวิตของพวกอารันคาร์ จะอยู่ตามรูที่โหว่ เราไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า”

    ผู้เป็นพี่ได้ตอบ

    “แบบนั้นก็.......”

    “ถ้าให้กันแบบนั้น คนที่ให้ก็ต้องตายแทน”

    “!?”

    .
    .
    .
    .
    .
    .
    มือขาวซีดจับลูบไล้ใบหน้าของอีกฝ่ายเหมือนอย่าง ถนุถนอม

    “ถ้ายังไง ก็ให้อิจิโกะกลายเป็นยมทูตไปก็ได้ ข้าไม่ว่าอะไรหรอกนะ”

    ร่างสูงพูด เร็นจิและลูเคียเริ่มเห็นอาการของอุลคิโอร่าแล้ว
    การสลายเริ่มอย่างรวดเร็ว ลำตัวของอุลคิโอร่าเริ่มหายไปทีละนิด ทีละนิด

    “ต่อจากนี้ไป.......ข้าอยากให้เจ้ามีความสุขมากกว่าใครๆ อิจิ..................
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    ลาจากเจ้าดอกไม้ของฉัน
    จากนี้ไป อยากให้เจ้าอยู่อย่างเข้มแข็ง
    จากนี้ไป อยากให้เจ้ามีความสุข
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    หยาดน้ำตารินไหล
    อารันคาร์หนุ่มเหมือนรับรู้

    “ท่าน.....อุลคิโอร่า.....”

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    10 ปี ต่อมา โซลโซไซตี้

    “เฮ้ ได้เวลาไปทำงานแล้ว อิจิโกะ”

    เสียงพูดดังลั่น ร่างสูงเปิดประตูเข้ามาโดยที่เจ้าของยังไม่ได้อนุญาต

    “ท่านกริมจอว์ ทีหลังเวลาเข้ามาหัดเคาะเรียกก่อนซิครับ”

    อิจิโกะที่กำลังนั่งจัดแจงของตัวเอง ได้พูดแบบไม่พอใจ

    “ หา...แค่นี้ไม่เห็นต้องโกรธเลยนี่นา”

    ร่างสูงยังคงทำแบบไม่รู้สำนึกในความผิด

    “โกรธครับ ถ้าเข้ามาแล้วไม่ถอดรองเท้าด้วยเนี่ย”

    “ชะอุ่ย”

    กริมจอว์ อุทานแล้วรีบวิ่งออกไปถอดรองเท้าข้างนอกบ้าน
    อิจิโกะเองก็เก็บของเรียบร้อย

    “งานวันนี้....”

    ร่างบางเดินไปหยุดตรงตู้เก็บของ มือบางเปิดตู้ออก นำของบางสิ่งออกมา
    สิ่งนั้นเป็นผงเล็กๆที่อยู่ในขวดแก้วเล็ก

    “นั้นมัน”

    “อ๋อ...เศษผลึกมิติของท่านอุลคิโอร่าครับ”

    เสียงหวานตอบ

    “มันไม่ได้หายไปหมดหรือไง”

    กริมจอว์ยังคงถาม

    “ดูท่าจะเป็นแบบนั้นนะครับ”

    ร่างบางเก็บขวดแก้วนั้นไว้ในเสื้อของตนเอง
    ชุดสีขาวที่เคยใส่ บัดนี้กลับกลายเป็นสีดำของยมทูตไปซะแล้ว
    ความทรงจำมิอาจหายไปได้ และเขาทั้ง 2 ก็ไม่ได้เป็นนักโทษเลย การกระทำที่ผ่านมาถึงจะเป็นอารันคาร์
    แต่ไม่เคยได้ฆ่าใคร เบียคุยะได้รับกริมจอว์และอิจิโกะเข้ามาในหน่วยของเขา
    ช่วงแรกที่เข้ามาก็โดนดูถูก โดนว่า แต่นานๆไป เขาทั้งคู่ก็ทำงานอย่างจริงใจจนเป็นที่ยอมรับของเหล่ายมทูต
    ร่างกายของเขาทั้ง 2 ก็เป็นร่างกายของยมทูตไปแล้ว จากการช่วยเหลือของอุราฮาร่า คิสึเกะ นั้นเอง


    “ท่านกริมจอว์ งานครั้งนี้ไปที่โลกมนุษย์ใช่ไหมครับ”

    “อา...ไปที่โลกมนุษย์”

    ร่างสูงพูดแล้วเสยผมสีฟ้าให้ตั้งขึ้นตามแบบฉบับเดิม อิจิโกะเองก็สะพายดาบใหญ่ที่มีผ้าพันรอบๆ
    แต่เมื่อใดที่เขาได้ปลดปล่อย ดาบนี้ก็จะกลายเป็นดาบเรียวสำดำสนิท
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    “ไปกันเลย”

    “ครับ”
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    ตามที่สัญญา อุลคิโอร่า
    ข้าจะดูแลสิ่งนี้ตามที่เจ้าบอกไว้
    แต่ถึงเจ้าไม่บอก
    ข้าก็จะดูแลเองอยู่แล้ว
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    ณ ที่โลกมนุษย์

    ตรงถนนลานกว้าง ผู้คนก็ยังดำเนินชีวิตไปตามแต่ละคน

    ฟึบ!!!

    “!?”

    เด็กหนุ่ม รู้สึกได้ยินเสียงอะไรบางอย่างจึงหันหน้าไปมอง
    แต่สิ่งที่เห็นคือความว่างเปล่า

    ///อะไร....คิดไปเองมั้งเรา///

    “เฮ้ อุลมัวยืนดูอะไร เดี๋ยวก็ปล่อยทิ้งซะหรอก”

    กลุ่มเพื่อนๆที่เดินนำต่างพากันตะโกนเรียก เด็กหนุ่มผมสีดำสนิทที่ยืนอยู่คนเดียว

    “อ๊ะ รอด้วยซิ”

    ว่าแล้วก็รีบวิ่งตามกลุ่มเพื่อนไปทันที

    “ฮึ ความทรงจำไม่มีเหลือเลยซินะ”

    “ดีแล้วหละครับ”

    กริมจอว์และอิจิโกะ ได้มองยืนดูจากบนอาคารบ้านหลังหนึ่ง

    “แต่ว่าเกิดมาเป็นมนุษย์ พลังวิญญาณก็อยู่ในระดับสูงทีเดียวนะเนี่ย”

    “แต่ก็ยังมองไม่เห็นพวกเราซินะครับ”

    “ไม่แน่หรอก ถ้าเจ้านอนเจอพวกเรา เจ้าหละจะเป็นยังไง”

    กริมจอว์ได้ตั้งประเด็นถาม

    “ข้า...คงต้องเห็นเขาเป็นเพื่อนคนนึงเท่านั้นหละครับ”

    อิจิโกะเอ่ยเสียงเบาๆ เขาก้มหน้าแต่ก็ยังคงจ้องมองไปทางที่กลุ่มเด็กเหล่านั้น

    “ยินดีที่ท่านกลับมานะครับ ท่านอุลคิโอร่า”
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    “!?”

    อุลยังคงหันหลังไปมองอีกครั้ง

    “มีอะไรอีกหละ”

    เพื่อนคนนึงได้ถาม

    “เปล่าหรอก แค่รู้สึกเหมือนได้ยินอะไรซักอย่าง”

    “ผีหรือ”

    “เฮ้ย จะบ้ารึไง ยังไม่มืดเลยผีจะออกมาได้ไงหละ”

    ทั้งกลุ่มต่างพากันโต้เถียงกันตามประสาเด็กๆที่ไม่รู้เรื่องอะไร

    “สิ่งที่ฉันได้ยิน รู้สึกว่าเสียงนั้นคุ้นเคยยังไงไม่รู้”

    “อืม....”

    ทั้งกลุ่มต่างพากัน งง แต่ก็พยักหน้ารับรู้ ในเมื่อไม่รู้พวกเขาก็หันเหไปทางอื่นจะดีที่สุด
    อุลเองก็ด้วย แต่เขาก็ยังหน้าไปมองเป็นระยะ
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    เสียงที่ฟังแล้วคุ้นหู
    เสียงที่ดูจะเรียกเขา
    เสียงที่ฟังแล้วเหมือนจะเศร้าๆ
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    แต่เสียงนั้น เขาช่างคิดถึงซะเหลือเกิน
    .
    .
    .
    .
    .

    End .

    By.So_OneZ.
    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ต่อไปก็หาเวลา วาดโด ต่อค้างมาหลายและ แต่ถ้าผู้ช่วยว่างนะ

    คิดว่ามีภาคต่อไปป๊ะ 5555+ รอดูคนเม้น ฟิค ที่จะแต่งกะเป็น กริมจอว์ อิจิ เหอๆๆๆ

    แต่ตอนนี้อยากบอกทุกคนว่า

    ขอบคุณนะครับ ขอบคุณที่ติดตามกันมา ขอบคุณจริงๆ 123456781.gif

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


    --------------------
    My vacand mind,don't
    have fellings and temper.
    (จิตใจของฉันที่ว่างเปล่า ไร้ความรู้สึกและอารมณ์)By.อุลคิโอร่า

    And you that i will want to know,that make
    my person has recorered.

    และนายที่ฉันอยากรู้จัก คนที่ทำให้ฉันรู้สึกตัว....คุโรซากิ อิจิโกะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×