ให้รัก...พาไป - ให้รัก...พาไป นิยาย ให้รัก...พาไป : Dek-D.com - Writer

ให้รัก...พาไป

โดย gabiNl

แล้วเราจะเอาไงดีละพี่ แม่ก็ย้ายบ้านหนี ญาติก็ไม่มี เราชายหนุ่มสองพี่น้องนั่งปรึกษากันที่หน้าคลินิกแพทย์โยชิดะ ไม่รู้ดิโยชิดะนั่งครุ่นคิดอยู่นานจึงได้คำตอบ จะคิดให้ยุ่งยากอะไร ก็ให้อยู่กับเราซะเลยสิ และตามด้วยรอยยิ้มอันสดใสในคำตอบของตัวเอง

ผู้เข้าชมรวม

484

ผู้เข้าชมเดือนนี้

4

ผู้เข้าชมรวม


484

ความคิดเห็น


0

คนติดตาม


0
เรื่องสั้น
อัปเดตล่าสุด :  2 มี.ค. 53 / 09:48 น.


ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ

    ยัยบ้าเอ้ย รีบไปเลยนะ นังตัวดีหญิงวัยกลางคน ทุบตีเด็กสาว พร้อมกับด่าทอ เป็นพัลวัน

    มากิ มิโกะ ในชุดนักเรียนสุดแสนจะมอมแมม ล้มลุกคลุกคลานที่จะพยายามออกจากบ้าน ด้วยแรงทุบตีของแม่ ทั้งที่ปากก็ด่าไล่ไปให้พ้น แต่มือกลับดึงรั้งไว้และทุบตีเธอ

     

    นี้ๆ เงียบกันได้แล้วคุณครูสาวตะโกนเสียงดัง ในห้องเรียนอันแสนวุ่นวาย วันนี้มีนักเรียนใหม่นะทุกคน ทุกคนปรบมือให้อย่างยินดี ครูโผล่หัวออกไปนอกห้องและเข้ามาพร้อมกับนักเรียนหนุ่ม แนะนำตัวสิจ๊ะ

    ชื่อ คายาชิ นีอีตะ เสียงทุ่มต่ำเอ่ยจบ ทุกคนส่งเสียงฮือฮา และแตกตื่นกันอย่างมาก

    นีอีตะ จากคุโดวะ น่ะนะ เสียงใสๆดังขึ้นอย่างลืมตัว

    ปัง นีอีตะทุบโต๊ะอย่างเหลืออด ใช่ แล้วจะทำไม นีอีตะมองผู้หญิงคนนั้นด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว

    อะ เอาล่ะจ๊ะ ครูว่าเธอไปนั่งที่ของเธอได้แล้วนะ ไหนมากิ ยกมือขึ้นสิ เด็กหญิงที่โดนขานชื่อสะดุ้งเล็กน้อยแล้วค่อยๆยกมือขึ้น นั้นที่นั่งข้างๆมากิ เป็นของเธอ นีอีตะค่อยๆเดินไปนั่งโต๊ะของตัวเองหลังห้อง เอาละเราจะเริ่มเรียนกันแล้ว เงียบๆหน่อย คุณครูหันหน้าใส่กระดานเริ่มต้นสอนต่อไป

    เธอชื่ออะไรนะ ฉันฟังไม่ถนัด นีอีตะเริ่มบทสนทนากับมิโกะที่หน้าตามอมแมมเหลือเกินหลังจากที่นั่งเงียบกันมานาน

    ... มิโกะยังคงเงียบและตั้งใจเรียนต่อไป

    นี่ ฉันพูดกับเธออยู่นะ นีอีตะกระชากปากกาของมิโกะออกจากมือเพื่อเรียกร้องความสนใจ หูหนวกรึไงฮะ นีอีตะเผลอตัวตะคอกออกไป จนครูหันมาดุ พร้อมกับเสียงหัวเราะคิกคักของเพื่อนร่วมห้อง เจอดีแน่ พร้อมกับคว้างปากกาที่แย่งมาใส่หน้ามิโกะ

     

    ว่าไงนีอีตะ ไม่ได้เจอกันตั้งนานนะเสียงใสๆของเด็กหญิงดังขึ้นหลังจากที่ออกไปจากห้องเพื่อพักเที่ยงของวัน เธอค่อยๆเดินเข้ามาที่ที่นีอีตะนั่งพร้อมกับเพื่อนสองคนที่ยืนขนาบข้างอยู่

    ออกไปสิยะ ยัยขยะ หนึ่งในนั้นกรีดเสียงแหลมไล่มิโกะออกไปจากโต๊ะของเธอ ไป๊ พร้อมกับเท้าที่มาปะทะกับสีข้างของมิโกะอย่างแรงทำให้เธอตกจากเก้าอีก และถูกเตะไล่ให้ไปไกลๆ

    นีอีตะมองมิโกะที่โดนกระทำอย่างไม่รู้สึกอะไร และหันไปมองเด็กผู้หญิงคนนั้นที่เข้ามาทักเขาอย่างพิจารณา ฉันรู้จักเธอด้วยรึ

    ก็แน่ละสิ เธอจำฉันไม่ได้หรอกเธอนั่งแทนที่มิโกะ ที่ตอนนี้มิโกะโดนสมุนสองคนของเธอแกล้งอย่างสนุกสนาน ฉันชื่อทสึคิมิ ซากุระ  ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้ง ซากุระยื่นมือทำความรู้จักกันไปทานข้างเที่ยงด้วยกันไหม มื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง ยินดีต้อนรับไง ซากุระเอ่ยชักชวนอย่างร่าเริง

    ซ่า!’ มิโกะถูกสาดน้ำจนตัวเปียก ด้วยฝีมือของเพื่อนทั้งสองของทสึคิมิ

    อะไรของเธอสองคนนี้ เลอะเทอะหมดแล้ว ไปๆ ทสึคิมิปัดมือไล่สองคนนั้นออกไปแล้วตามไปด้วยนีอีตะ แต่ทสึคิมิกลับค้นกระเป๋าหนังสือของมิโกะและหยิบกล่องๆหนึ่งออกมา

    กินข้าวให้อร่อยนะ ทสึคิมิพูดเสียงเรียบๆ พร้อมกับเปิดฝากล่องแล้วเทลงบนตัวมิโกะ แล้วพวกเขาก็เดินจากไปอย่างมีความสุข มิโกะที่นั่งน้ำซึม กลับไม่แยแส และไม่คิดที่จะโต้กลับเลยสักนิด ลุกกลับไปนั่งโต๊ะของตัวเองเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     

    ฮ่าๆฮ่า ยัยมิโกะหน้าโง่ นีอีตะส่งเสียงเฮฮาแต่เช้า

    ตุ้ย นีอีตะถุยหมากฝรั่งใส่หน้ามิโกะและกระเด็นตกพื้น มองอะไรอยู่ละ เก็บขึ้นมากินสิ นีอีตะสั่งมิโกะด้วยน้ำเสียงเฮฮา และเธอก็ได้ทำตามที่สั่งอย่างว่าง่าย ดีมากเจ้าหมาของฉัน

     

    ตานแน่ สายแล้วเรา มิโกะวิ่งหน้าตั้งไปยังโรงเรียนที่เห็นประตูอยู่ลิบๆ... และเธอก็วิ่งใกล้จะถึงแล้วในไม่ช้าแต่...

    พลั่ก!’ มิโกะเซถลาล้มไปตามแรงชนที่มหาศาล

    โอ้ยยยย! เดินไม่ดูตาม้าตาเรือรึไง คนยิ่งรีบ กลับเป็นชายคนนั้นที่ส่งเสียงโอดครวญขึ้น อ้าว ยัยขยะนี้เอง โธ่เอ้ย ชนจนเสื้อยับหมดแล้ว ยัย -*-” นีอีตะเตรียมท่าจะรีบวิ่งไปที่ประตูโรงเรียนแล้ว แต่เขาวิ่งกลับมาอีกครั้ง

    อยากขาดสอบสักครั้งรึเปล่า นีอีตะยิ้มเยาะ และกระทืบอย่างแรงเข้าที่ข้อเท้าของมิโกะ เธอสะดุ้งกับความเจ็บเล็กน้อย และรีบถอยเท้าเข้าชิดตัวเอง

     

    มาสายหมดสิทธิ์สอบ คุณครูคุมสอบบอกเสียงเฉียบ มิโกะยืนทำหน้าละห้อยมองเข้าไปในห้อง ที่ทุกคนตั้งใจทำข้อสอบ แต่ทสึคิมิกลับมองเธอด้วยสายตาอาฆาต

     

    โครม!’ เสียงอึกทึกดังขึ้นภายในห้องเรียนที่นักเรียนกลับบ้านกันหมดแล้ว

    ฉันบอกเธอแล้วใช่ไหมว่าสอบครั้งนี้สำคัญแค่ไหน ฉันไม่ให้อภัยเธอแน่ ทสึคิมิ ไม่ยั้งมือที่จะตบ ต่อย ทุบ จิก เตะ หรือทุกๆอย่างที่เธอจะทำให้มิโกะเจ็บไปมากกว่านี้ ด้วยความคับแค้นใจ จนมิโกะสลบคามือ

    พอเถอะซากุระ เดี๋ยวขยะของเราจะตายซะก่อน นีอีตะเดินเข้ามาห้าม และจูงมือซากุระออกไปจากห้องเรียนห้องนี้ ห้องที่ๆมิโกะนอนซมอย่างไม่รู้สึกตัว

     

    หนอย! ยัยเด็กเมื่อวานซืน กลับอะไรเอาป่านนี้ ออกไปจากบ้านฉันเลยไป๊ ถือซะว่าฉันไม่มีลูกอย่าแก ยัยหน้าโง่ แม่ของมิโกะปาข้าวของของเธอ ออกมานอกบ้าน และผลักไสมิโกะออกไปด้วย โง่ๆอย่างแก เสียเงินค่าเลี้ยงดูของฉันไปเปล่าๆ ขนของไปซะ จะไปอยู่ไหนก็ตามสบายเลย ปัง!’

    มิโกะล้มลงอย่างหมดแรง และเก็บข้าวของมารวมๆกัน ด้วยน้ำตาที่ท่วมทะลัก สุดจะอดกลั้น ในความอดทนครั้งสุดท้าย เธอเคยโดนไล่ออกจากบ้านมาก็หลายครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหนที่จะแรงเท่ากลับครั้งนี้อีก เธอคงจะกลับมาไม่ได้อีกแล้ว แม่คะ หนุรักแม่นะ ลาก่อนมิโกะค่อยเดินออกมาจากบ้านหลังใหญ่ของเธออย่างทุลักทุเล นี้ก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว เธอใช้เวลาเกือบทั้งชั่วโมงที่จะลากขาที่เจ็บจากการกระทืบของนีอีตะ และเขียวช้ำไปทั้งตัวด้วยน้ำมือของทสึคิมิ และบ้านจากโรงเรียนก็ไม่ใช่ใกล้ๆพร้อมทั้งเงินก็ไม่มี มิโกะค่อยๆเดินออกมาจากบ้านด้วยหน้าที่อาบน้ำตา และปากที่เปื้อนเลือดของเธอ จากฝ่ามือของทสึคิมิและแม่ของเธอเอง

     

    โอ๊ย! เจ็บ มิโกะร้องเบาๆอย่างลืมตัว ด้วยน้ำเสียงหวานของเธอ ไกลเท่าไรแล้วที่เธอค่อยๆเดินมาอย่างทุลักทุเล ตอนนี้น้ำตาได้เหือดแห้งไปหมดแล้ว แต่คราบเลือดยังคงเกาะอยู่อย่างนั้นตามเนื้อตามตัวของเธอ

    กริ๊งๆมิโกะหันไปมองตามเสียงนั้นอย่างตกใจ เฮ้ หลบหน่อยเบรกไม่มี *0* จักรยานคันนั้นเข้าพุ่งชนตัวเธออย่างแรงอีกครั้ง

    โอยยยยยย! วันนี้ชนมากี่รอบแล้ววะเนี้ย นี้เธอบอกให้หลบทำไมไม่หลบฮะ ยืนเซ่ออยู่ได้เสียงของชายหนุ่มหันไปว่าทอให้มิโกะที่นอนคว่ำอย่างไร้ท่าอยู่ข้างๆ ฉันพูดกับเธออยู่นะ เค้าค่อยๆลุกขึ้นเดินไปหามิโกะด้วยอาการแปลกใจ นี่เธอ ได้ยินรึเปล่า ชายหนุ่มค่อยๆพลิกตัวมิโกะขึ้นมา

    เฮ้ย มิโกะ!!” นีอีตะ ตะโกนอย่างตกใจ

     

    เป็นไงมั้งพี่ ยัยโง่นี้จะตายไหมนี้

    เฮ้ย แค่รถจักรยานชนไม่ถึงตายหรอก แต่จะตายเพราะน้ำมือคนนี้สิ เฮ้อ!” คายาชิ โยชิดะ ส่ายหัวอย่างเบื่อหน่าย พวกนายเป็นคนรึเปล่าวะ ทำกันได้ลงน่ะฮะ โยชิดะเค้นเสียงอย่างดุดัน

    เฮ้ยๆ เปล่านะๆ ผมแค่ยืนดูอยู่เฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรนะ นีอีดะ บอกปัด

    ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงโว้ย ยืนดูอยู่ทำไมไม่เข้าไปห้าม ชีวิตคนทั้งชีวิต เอ้า ถ้าฉันโดนซ้อมปางตาย ไม่มีใครช่วย นายจะทำไง จะยืนดูเฉยๆงั้นรึโยชิดะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่คำถามกลับแทงใจดำเหลือเกิน

    จะบ้าหรือ พี่ทั้งคนก็ต้องช่วยสิ นีอีตะตอบอย่างขำๆกับคำถามไร้สาระ

    เอ้า พี่ก็คน เด็กนี้ก็คน ทำไมไม่ช่วยทั้งสองละ อย่าทำอะไรครึ่งๆกลางๆสิวะ ชีวิตคนเรามันสั้นนะโว้ย โยชิดะลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินไปตบไหล่นีอีตะเบาๆ

    ขอโทษครับพี่ ผมจะดูแลเธอเอง นีอีตะ พึมพำเบาๆ

    ว่าไงนะ ไม่ได้ยินเลยวะโยชิดะ ตะเบ็งเสียงดัง

    ขอโทษครับพี่ชาย ผมจะดูแลมิโกะอย่างดีครับ มดไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม...

    ไม่ต้องหรอกคะ ฉันดูแลตัวเองได้ น้ำเสียงหวานๆของมิโกะเอ่ยขึ้นเบาๆอย่างหมดเรี่ยวแรง ชายทั้งสองหันไปตามเสียงนั้นอย่างอึ้งๆ

    ฟื้นแล้วหรือ เอาละ งั้นขอตรวจอาการหน่อยก็แล้วกันนะ ...เฮ้ย นายออกไปข้างนอกโยชิดะหันไปไล่นีอีตะให้ออกไป

    “ว่าไงพี่ เข้าไปนานสองนาน อาการหนักมากรึไง”นีอีตะถามอย่างให้ความสนใจ หลังจากที่โยชิดะเข้าไปตรวจอาการของมิโกะนานเกือบชั่วโมง

    “ไม่หรอก”

    “เอ้า แล้วเป็นอะไรละ บอกมาเร็วๆดิ” นีอีตะถามอย่างใจร้อน

    “บอกไม่ได้โว้ย ถามไม่ตอบเลยวะ” โยชิดะ วิตกหนัก

    “เอ้า ก็เห็นพูดอยู่นิ”

    “พี่ก็ไม่เข้าใจวะ เอาเป็นว่า ไม่มีอะไรมากหรอก ข้อเท้าก็แค่แพลงมากๆแค่นั้นเอง ถ้าปล่อยไว้นานคงได้ผ่าตัด ตามตัวก็ฟกช้ำธรรมดา ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงมากกว่านี้หรอก สบายใจเถอะแก”โยชิดะตบไหล่นีอีตะเบาๆ แล้วเดินจากไป ทิ้งให้นีอีตะ นั่งหน้าซีดอยู่ที่เดิม

    ข้อเท้าเกือบได้ผ่าตัด - -“ ทำเกินไปรึเปล่าวะเรา

     

    “เฮ้ ยัยมิโกะ ตื่นได้แล้ว จะนอนไปถึงไหน” นีอีตะตะโกนก้องอยู่หน้าห้องของมิโกะพร้อมกับรัวมือเคาะประดูเสียงดัง  มิโกะจะกินนอนกินบ้านกินเมืองรึไง ตื่นซะทีเซ้ นีอีตะยืนรอเด็กหญิงมาเปิดประตูอยู่นานสองนาน แต่ประตูก็ไม่ขยับเขยื้อนเลยสักนิด

    โห ตัวร้อนจี๋เลย... นีอีตะจับแขนของมิโกะที่ร้อน

    เฮ้ นีอีตะจะไปไหมโรงเรียน สายแล้วนะ โยชิดะส่งเสียงร้องเร่งนีอีตะจากชั้นล่าง นีอีตะปล่อยมือจากมิโกะแล้วเดินลงไปอย่างเงียบๆ

     

    (ว่าไงนะ มิโกะหายไป!) นีอีตะตะโกนอย่างลืมตัวเมื่อรับสายเข้าของโยชิดะ ละห้องคาราโอเกะ ที่เพื่อนๆกำลังร้องเพลงสนุกสนานออกมาโดยไม่บอกไม่กล่าว ด้วยฝีเท้าที่คิดว่าวิ่งเร็วที่สุดในชีวิต

     

    แฮ่กๆ แม่ขา เปิดประตูให้หนูหน่อย แม่ขา... มิโกะที่กำลังนอนซมอยู่หน้าประตูบ้านหลังเดิมของเธอหลังจากที่ใช้เวลาเกือบทั้งวันเพื่อจะเดินกลับบ้านด้วยอาการไข้ขึ้นสูง มือที่ไร้เรี่ยวแรงพยายามทุบประตูบานนี้ให้มีเสียง แม่ขา หนูกลับมาแล้ว

    ประตูค่อยๆเปิดออกเผยให้เห็นหญิงวัยกลางคน รูปร่างอ้วนยืนอยู่

    มาหาใครจ๊ะหนูหญิงคนนั้นกล่าวทักด้วยหน้าตายิ้มแย้ม

    แม่หนูอยู่ไหนคะ แม่อยู่ข้างในรึเปล่า ออกมาหาหนูหน่อย แม่ขามิโกะคลานเข้าไปเกาะชายกระโปรงของหญิงคนนั้นแล้วยื่นหน้าเข้าไปตะโกนร้องเรียก

    เอ่อ หนูจ๊าหนูหมายถึงคุณนายมากิรึเปล่าหญิงคนนั้นก้มลงมาคุณกับมิโกะด้วยสายตาเวทนา มิโกะพยักหน้ารับทันนี้

    เอ่อ คือว่า...คุณนายมากิเพิ่งจะย้ายออกจากบ้านนี้เมื่อเช้าเองจ๊ะ ป้าก็เพิ่งจะย้ายเข้ามา แต่ป้าก็ไม่รู้หรอกนะว่าคุณนายมากิย้ายไปไหน เสียใจด้วยนะจ๊ะ ป้าต้องขอตัวก่อน เธอจับมิโกะเลื่อนออกไป แล้วปิดประตูลงทันที

     

    มิโกะ เธออยู่แถวนี้รึเปล่า เฮ้ นีอีตะตะโกนออกไปอย่างไร้จุดหมาย พร้อมๆกับเดินไปที่ที่เจอกับมิโกะครั้งแรก เฮ้  ยัยมิโกะ ถ้าฉันเจอเธอ ฉันจะจับเธอตีก้นให้ลายไปเลย ออกมาเดี๋ยวนี้นะ  นับหลายชั่วโมงที่นีอีตะและโยชิดะช่วยกันตามหามิโกะภายในเมืองเล็กๆแห่งนี้ นีอีตะและโยชิดะหยุดพักอยู่เก้าอี้อย่างเหนื่อยล้า ที่สุดซอยเสียงร้องไห้ของเด็กสาวที่จากหลังถังขยะอันแสนสกปรกดังสะอื้นเบาๆอยู่แต่เพียงผู้เดียว

    ยัยบ้าเอ้ย ไปไหนก็ไม่บอกไม่กล่าว เจอหน้าจะซัดให้หายเหนื่อยเลยเชียวนีอีตะบ่นพึมพำพร้อมกับกระดกเบียร์ที่เพิ่งซื้อมาเย็นๆอย่างกระหาย

    เหอะน่า ช่วยกันตามหาเดี๋ยวก็เจอโยชิดะพูดอย่างใจเย็น

    ถ้าไม่เห็นว่าไม่สบายละก็ น่าดูแน่ บทสนทนาจบด้วยความเหนื่อยล้า เสียงลมพัดของหน้าหนาวใกล้จะมาถึงในไม่กี่สัปดาห์พัดหวีดหวิว นำพาเศษใบไม้ร่วงลงมาจากต้นของมัน

    ไปกันได้รึยังโยชิดะเอ่ยขึ้นพร้อมกับลุกจากเก้าอี้สาธารณะ

    ไปก่อนเลยพี่ เดี๋ยวตามไปโยชิดะพยักหน้ารับแล้วค่อยเดินจากไป เหลือไว้แต่ความเงียบสงัดกับใบไม้ที่ปลิดปลิวล้นร่วงจากต้นของมัน เสียงสะอื้นเบาๆดังมาจากข้างในซอยเล็กๆ นีอีตะเดินตามเสียงไปด้วยความแปลกใจ จนมาถึงถังขยะใบใหญ่ที่บรรจุเต็มไปด้วยขยะนานาชนิด

    มิโกะ!”นีอีตะร้องด้วยความตกใจ วิ่งเข้าหามิโกะด้วยความเป็นห่วง นีอีตะค่อยๆนั่งลงข้างๆและยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆมิโกะเพื่อจะได้เห็นหน้าชัดๆจากแสงไปสลัวๆ ผมที่ยุ่งเหยิง ใบหน้าสุดแสนจะมอมแมมที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา มิโกะมองนีอีตะที่อยู่ตรงหน้าอย่างไร้ความรู้สึกด้วยน้ำตาที่ยังไหลไม่มีหยุด

    แม่ขามิโกะสวมกอดนีอีตะด้วยความยินดี แม่กลับมาแล้ว แม่ขา

     

    แล้วเราจะเอาไงดีละพี่ แม่ก็ย้ายบ้านหนี ญาติก็ไม่มี เราชายหนุ่มสองพี่น้องนั่งปรึกษากันที่หน้าคลินิกแพทย์โยชิดะ

    ไม่รู้ดิโยชิดะนั่งครุ่นคิดอยู่นานจึงได้คำตอบ จะคิดให้ยุ่งยากอะไร ก็ให้อยู่กับเราซะเลยสิ และตามด้วยรอยยิ้มอันสดใสในคำตอบของตัวเอง

    เฮ้ย ไม่ได้นะพี่ ถ้ามีคนมาเห็นแล้วนึกว่าพี่เลี้ยงเด็กขึ้นมา จะไม่มีใครเข้าคลินิกนะพี่นีอีตะบอกปัดอย่างใหญ่โต

    ไม่เห็นเป็นอะไรเลย งานที่โรงพยาบาลมีเยอะแยะ นั่งอยู่บ้านเฉยๆก็ยังมีคนโทรเรียกให้ไปรักษาคนเล้ย

    เอางั้นก็ได้ ตกลง โยชิดะยิ้มอย่างดีใจ แล้วพี่จะให้เธอนอนห้องไหนอ่ะ

    ก็นอนห้องข้างๆแกไง ฮ่าๆฮ่า โยชิดะลุกขึ้นเดินผ่านหน้านีอีตะที่พูดไม่ออกไปอย่างสรวนเสเฮฮา คืนนี้ให้นอนห้องของแกก่อนก็แล้วกันนะน้องชาย โยชิดะที่เดินจากไปด้วยความรื่นรมย์ ปล่อยให้นีอีตะคิดทวนคำพูดของพี่ชายซ้ำแล้วซ้ำอีก

     

    อืม...นุ่มจัง อุ่นด้วย ฉันค่อยๆลืมตาขึ้น และต้องตกตะลึงกับภาพที่อยู่ตรงหน้า? นีอีตะ 0x0ทำไมนายมาอยู่ตรงนี้เนี่ย

    โครม!

    โอ้ย เจ็บ เตียงสูงจังแฮะ เราก็ตกลงมาได้

    นั้นเธอลงไปทำอะไรข้างล่างน่ะ

    เอ่อ ตกเตียงน่ะ นีอีตะหันไปมองดูนาฬิกาที่วางอยู่บนหัวเตียงและหลังจากนั้นเขาก็ร้องเอะอะโวยวายเสียงดัง วิ่งโล่ไปนู้นมานี้อยู่นานแล้วออกจากห้องนี้ไปปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียว ฉันนั่งมองอยู่นานจนรู้สึกว่ามีสายอะไรสักอย่างแกว่งไปแกว่งมาอยู่ข้างตัวฉัน ฉันมองขึ้นไปตามสายนั้นเรื่อยๆ ก็เจอกับถุงน้ำเกลือที่มีทั่วไปเหมือนในโรงพยาบาล แล้วทำไมไปห้อยอยู่บนนั้นละ? ฉันลองมองตามสายน้ำเกลือและสิ้นสุดที่ปลายเข็มแทงเข้าไปในหลังมือของฉันอยู่ แหม!เห็นแล้วเจ็บแปลบๆแฮะ ฉันพยายามจะลุกขึ้นยืนให้ได้หลายต่อหลายครั้ง แต่ทว่าขาของฉันเจ็บตลอดทุกการเคลื่อนไหวเลยทีเดียว

    ก๊อกๆ

    เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น และค่อยๆเผยออกจนเห็นชายหนุ่มเข้าใจว่าน่าจะเป็นโยชิดะพี่ชายของนีอีตะแน่นอน

    ว่าไงมิโกะ เจ็บเท้ารึเปล่า พี่ชายของนีอีตะเดินเข้ามาลงนั่งข้างๆฉันแล้วจับที่ข้อเท้าของฉันเบาๆ

    ก็เจ็บค่ะ

    ถือนี่ไว้นะ แล้วชูขึ้นสูงๆ พี่ของนีอีตะลุกขึ้นหยิบถุงน้ำเกลือแล้วส่งมาให้ฉัน ฉันรับไว้แล้วชูขึ้นสูงๆตามที่บอก แล้วตัวฉันก็ลอยขึ้นด้วยสองแขนของพี่นีอีตะ เขาอุ้มฉันไว้แล้วพาเดินออกจากห้องห้องนี้ไปยังชั้นล่างที่คล้ายๆเหมือนที่นัดพลคนเยอะๆและมีห้องแยกซอยออกไปอีกสามห้องเล็กๆ ข้างหน้าเป็นเคาเตอร์และทางด้านหลังเป็นตู้ยาขนาดยักษ์หลายชนิด เป็นร้านขายยาหรือเนี่ย

    ที่นี้ไม่ใช่ร้านขายยาหรอกนะ แต่ที่นี้เป็นคลินิกแพทย์รักษาคน พี่เป็นเจ้าของเองแหละ ส่วนข้างบนที่เราลงมาเป็นห้องนอนของแต่ละคน ห้องพี่อยู่ทางขวาของห้องนีอีตะ ส่วนด้านหลังตรงนี้...คือบ้านของเธอเองพี่นีอีตะอุ้มฉันไปยังห้องโถงด้านหลังของคลินิกเข้าไปเป็นห้องนั่งเล่นที่กว้างมาก เต็มไปด้วยโซฟาหลายสี ชั้นหนังสือ และข้างๆเป็นห้องครัวเล็กๆ พี่ของนีอีตะวางฉันลงโซฟาหน้าทีวี แล้วเอื้อมมือไปกดรีโมทโทรทัศน์ให้ฉายจอ

    นั่งอยู่นี้แหละ ไม่ต้องไปไหนนะ พี่ไปทำงานก่อนละกันสายมากแล้ว แล้วพี่ชายของนีอีตะก็เดินจากฉันไป ปล่อยให้ฉันมองโทรทัศน์ที่กำลังดำเนินรายการข่าวประจำวันอยู่

    อ่ะ... นี่มาม่า และนี่ยา กินซะ! ฉันไปละเดี๋ยวสาย เข้าสอบไม่ทันนีอีตะที่โผล่มาจากที่ไกลโพ้น วางมาม่าชามใหญ่ไว้ให้ฉันและวิ่งจากไป ฉันจึงลงมีกับชามมาม่าทันที

     

    นี่แน่ะ...มิโกะ ห้ามหลับสบายอย่างนี้นะ ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นจากการนอนหลับอันยาวนานของฉัน นี่ก็เที่ยงแล้วสินะ แล้วทำไมนีอีตะมาอยู่นี่ละ คนอื่นเค้าต้องไปต่อสู้ที่โรงเรียนอย่างยากลำบากในแต่ละชม. แล้วเธอมานอนสบายใจเฉิบได้ยังไง นีอีตะพูดสีหน้าจริงจัง

    แล้วจะให้ฉันทำอะไรละคะ? สีหน้านีอีตะเปลี่ยนไปทันทีที่ฉันกล่าวเสร็จ

    เอาไว้เธอหายดีก่อน... นี่ข้าวเที่ยงฉันต้องไปละ เดี๋ยวครูที่โรงเรียนจับได้แล้วนีอีตะก็วิ่งหายไปอีกครั้ง และเป็นอย่างนี้ทุกวัน จนกระทั่งวันนี้วันที่ฉันได้รับอนุญาตจากพี่ของนีอีตะให้ไปโรงเรียนได้แล้วหลังจากที่ขาดเรียนเกือบทั้งอาทิตย์ เพราะการบาดเจ็บที่ข้อเท้าซึ่งเป็นฝีมือของนีอีตะเอง เขาทั้งสองได้จัดห้องส่วนตัวให้ฉันหนึ่งห้องและบอกกับฉันว่าเธอจะอยู่กับเราที่นี่ตลอดไปฉันเข้าใจความหมายดี หลังจากที่แม่ทิ้งฉันไปเมื่อไม่นานมานี่เอง ตอนนี้ฉันกำลังใส่ชุดนักเรียนตัวใหม่ ที่พี่โยชิดะ(เรียกพี่ของนีอีตะไม่ได้แล้ว)ซื้อให้

    ระวังบันไดนะ เดี๋ยวล้มลงมา ตอนนี้พี่ต้องไปแล้วแหละ วันนี้มีเวรแต่เช้า พี่โยชิดะนั่งใส่รองเท้าอย่างรีบร้อน

    สายเพราะมัวแต่โม้เนี่ยแหละพี่ ห้าห้าห้า...เอ้า ยัยมิโกะรีบลงมาซักที เดี๋ยวก็ไปสายกันพอดีนีอีตะเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมด้วยถ้วยมาม่า ฉันรีบเดินขโยกเขยกลงบันไดมาอย่างรีบร้อนจนทำให้ฉันสะดุดขาตัวเองพร้อมที่จะเอาหน้าถุกับพื้นตลอดเวลาแต่... นีอีตะวิ่งมาอย่างหน้าตาตื่นมารับร่างอันบอบบางของฉันไว้ด้วยมือข้างเดียว

    เฟอะฟะจริงนะเธอ!” นีอีตะขึ้นเสียงใส่ฉันด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

    ขอโทษค่ะ...

    นายนี่ก็ดุจริงเชียว มิโกะกลัวหมดละนั่น พี่โยชิดะลุกขึ้นอย่างรีบรอนและหายไปหลังประตูบานนั้น

     

    กริ๊ง ง งง  กริ๊งง ง งง !!~

    เฮ้นีอีตะซัง วันนี้เดินกับแฟนหรอจ๊ะเสียงกริ่งรถจักรยานดังมาแต่ไกลและมาจอดข้างๆฉันที่ยืนดูอยู่ แต่นีอีตะเดินไปอย่างไม่สนใจอะไร ชายหนุ่มบนจักรยาน หน้าตาเปื้อนยิ้มคนนี้ ยิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตร ฉันจึงต้องยิ้มกลับไปอย่างเลี่ยงไม่ได้

    แฟนนายเวลายิ้มน่ารักดีนะ ขอได้ป่ะ?~” เพื่อนของนีอีตะเอ่ยด้วยน้ำเสียงกวนๆ ก่อนที่จะเร่งจักรยานไปจอดอยู่ข้างๆนีอีตะและคำพูดนั้นทำให้ฉันหุบยิ้มทันที

    ขอร้อง ไม่ใช่แฟน!!~ เป็นแค่คนอยู่ร่วมชายคาเดียวกันเข้าใจมั๊ย ไอ้ฮิคารุเวนเอ๊ยนีอีตะแยกเขี้ยวแถมตาเขียวปั๊ดใส่เพื่อนของเขา

    ว่าไงสาวน้อยชื่ออะไรหรอ ขาเป็นอะไรน่ะทำไมเดินขโยกเขยกอย่างนั้นเพื่อนของนีอีตะถอยรถลงมาเพื่อคุยกับฉันอย่างสนิทสนม แล้วอะไรเนี่ย ถือกระเป๋าสองใบ... เฮ้! นีอีตะซงทำไมให้สาวน้อยถือกระเป๋าหนักๆได้ละเนี่ย วางไว้บนตะแกรงหน้ารถฉันสิจะได้ไม่ต้องถือ เพื่อนของนีอีตะตอนนี้เหมือนกำลังเล่นตลกให้ดูเลย เดี๋ยวหันมาคุยกับฉันดีๆเดี๋ยวก็หันไปเอ็ดนีอีตะ

    เออ...ดีเหมือนกันเอายัยนี่ไปส่งโรงเรียนเลยแล้วกัน รำคาญเวียงเดิน ลากเท้าอยู่ได้ นีอีตเดินกลับมาหาที่ฉันแล้วหิ้วปีกฉันขึ้นไปนั่งบนเบาะรถจักรยานของเพื่อนของเขา เอาไปส่งให้ถึงโรงเรียนนะโว้ยฮิคารุ

     

    ฮึ๊ย!ยัยมิโกะตัวแสบนั่งจักรยานมาแท้ๆหายไปไหนนะ กระเป๋าฉันก็ไม่มีอย่าให้รู้นะว่าหนีไปไหนไม่งั้นมีเฮแน่นอน ยัยบ้าเอ๊ย ผมเดินไปในห้องเรียนที่มีเสียงเอะอะเอ็ดตะโร

    นีอีตะซัง วันนี้มาแต่เช้าเชียวนะ ยัยซากุระวิ่งโร่มาหาผมอย่างหยุดไม่อยู่และใช้มือทั้งสองข้างมาเกาะแขนผมให้ไปโดนหน้าอกของเธออย่างหน้าตาเฉย แล้วยัยคู่ขาสองตัวนั้นไปไหนนะ มีอะไรแปลกๆแฮะผมก้มลงมองถุงเท้าของซากุระ

    เอ้า... นีอีตะซังจะรีบไปไหนน่ะ ใช่แน่!ถุงเท้าเปื้อนฝุ่นขนาดนั้นต้องมีเรื่องกับยัยมิโกะแน่ๆ อ๊ะนั่นไง คู่ขายัยซากุระ มัวมาเดินอะไรแถวนี้นะ

    นี่เธอสองคนน่ะเห็นซากุระมั๊ย

    เห็นๆ เห็นเดินอยู่แถวหลังโรงเรียนตรงสวนดอกไม้ นั่นไงล่ะโดนเข้าให้แล้ว ซากยัยมิโกะกองอยู่กับพื้นจมกองเลือดอยู่ ให้ตายสิ อยากจะฆ่ายัยซากุระให้ตายคามือจริงเชียว แต่มันไม่ใช่ตอนนี้สินะ ผมนอนเฝ้ามิโกะอยู่นานจนพักเที่ยงจึงไปหาซื้อราเม็ง มากินที่นี่ซะเลย เผื่อกลิ่นราเม็งจะช่วยให้มิโกะตื่นได้ซักที ได้ผลแฮะ ยัยนี่ทำจมูกฟุตฟิตใหญ่เลย

    มิโกะ เฮ้ยัยขยะตื่นมากินราเม็งเร็ว ผมเรียกเธอเบาๆ

     แม่ให้มิโกะกินราเม็งหรอคะ? ดีจัง อะไรกันไม่ยอมตื่นแถมยังละเมออีกเออ... งั้นกินเลยละกันไม่เหลือให้หรอก

    ฮ้าอิ่มจังเลยเอ้ายัยมิโกะนอนลืมตาแป๋วเชียว ตื่นเมื่อไหร่เนี่ย แต่แผนนี้ก็ได้ผลแหะ

    นี่ไปทำอีท่าไหนให้ยัยซากุระรุมกระทืบได้เนี่ย เออ ช่างเหอะ แล้วเมื่อกี้ฝันว่าอะไรมั่งล่ะจะสะดุ้งอะไรนักหนาเนี่ย พูดทีสดุ้งที

    ฝัน! ฝันหรือคะ...เมื่อกี๊... ฝันว่าได้ทานราเม็งด้วยค่ะ

    อร่อยมั๊ยละ

    อร่อยมากเลย แต่ไม่รู้ว่าของจริงจะอร่อยรึเปล่า ห๊ะหมายความว่าไง ยัยนี่ไม่เคยกินราเม็งรึไงเนี่ย

    หุบปากซะ!” ว่าแล้วผมก็รีบวิ่งออกจากห้องพยาบาลไปยังโรงอาหารอย่างด่วนจี๋ เห็นยัยซากุระถือชามราเม็งมาพอดีเลยแหะ

    ขอราเม็งชามนี้นะซากุระซัง ว่าแล้วผมก็กระชากราเม็งมาจากมือยัยซากุระ (นี่เขาจะรู้ตัวเปล่าเนี่ยว่าผมมองเขาเหมือนแมลงสาปตัวนึงเท่านั้น) พร้อมกับเสียงกรี๊ดลั่นโรงอาหาร ซวยละตู แต่ประโยคต่อท้ายทำให้ผมโล่งใจ นีอีตะเรียกฉันว่าซากุระซังอ๊ะ

    อ่ะ ราเม็งนี่ให้เธอยัยขยะผมกระแทกชามราเม็งลงที่โต๊ะจนน้ำกระเซ็นออกมา แล้วทำให้เธอยิ้มอย่างไม่ทันตั้งตัว จนทำให้ผมอดยิ้มตามไม่ได้ ก็ดีเหมือนกันแฮะ ทำอะไรดีๆให้ใครซักคนมีความสุขก็ไม่เลวเหมือกัน

     

    ตรงนี้เจ็บไหม? พี่โยชิดะใช้มือจิ้มที่ขาฉันเบาๆแต่ก็ทำให้เจ็บไม่น้อย

    แล้วตรงนี้ล่ะฉันพยักหน้ารับทันที

    แล้วตรงโน้น นี่ นั้น ฯลฯ เป็นอย่างนี้เรื่อยไปจนทำให้ใครบางคน ที่ยืนดูอยู่ทนไม่ไหวกับการเล่นละครใบ้ของงฉัน จึงมีการปฏิวัติเกิดขึ้น

    ต่อไปนี้ถ้าใครถามแล้วเธอไม่เอ่ยปากตอบ ฉันจะกินเธอเข้าใจมั๊ย?ฉันได้แต่หลบน้ำลายที่สาดกระเซ็นอย่างเลี่ยงไม่ได้ เข้าใจมะ

    นีอีตะย้ำอีกครั้งเพื่อจะให้ฉันตอบคำถามของเขา

    ค...ค่ะ

    กริ๊งๆ ตึกๆ ตักๆ

    มิโกะจัง คิดถึงจังเลย ฮิคารุโผล่มาจากหลังประตูแล้วรีบวิ่งแจ้นเข้ามาหาฉัน พร้อมกับหอมแก้มฉันไปฟอดใหญ่ซึ่งทำให้ฉันหน้าแดงเท่าลูกตำลึงเลยมั้ง ครั้งแล้วสินะที่มีคนมาหอมแก้มฉัน

    นี่ พวกนายน่ะ มารุมลวนลามสาวน้อยผู้น่ารักของฉันได้ไงออกไปเดี๋ยวนี้นะและหลังประตูบานนั้นก็เผยให้เห็นหญิงสาวผู้เลอโฉมพร้อมกับเดินวางกล้ามเข้ามาหาฉัน ผลักนีอีตะไปซ้ายที ผลักฮิคารุไปขวาที พร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างมาหยิกแก้มของฉันด้วยวามมั่นเขี้ยว

    ชื่อะไรหรือจ๊ะ สาวสวยถามฉัน ฉันหันไปมองนีอีตะอีกครั้ง ว่าไงจ๊ะ แล้วนีอีตะก็แยกเขี้ยวให้ฉันทันที

    มะ...มิโกะค่ะ  มากิ  มิโกะ

    กรี๊ดดดด...เสียงหวานจังเลยพี่สาวทำท่าทางกระดี๋กระด๋าใหญ่เชียว พี่ชื่อซายะซังนะ เรียกซายะซังเฉยๆก็ได้ ไหนลองเรียกซิ

    ซายะซัง แล้วซายะซังก็ลงไปดีดดิ้นอยู่ข้างล่าง

    นายสองคนห้ามเข้าใกล้มิโกะของฉันเป็นอันขาดเข้าใจไหม ส่วนโยชิดะนายอย่าฝันเลยว่าจะได้กินเด็ก ฮ่าๆฮ่า

    ซายะ เพลาๆมือหน่อยนะมิโกะไม่ใช่ตุ๊กตาของเธอนะ แล้วตอนนี้มิโกะก็เจ็บมากๆด้วย ดูที่แก้มสิเป็นรอยมือเลย แล้วเธอยังไปหยิกแก้มอีกแน่ะ น่าสงสารมิโกะ โธ่ พี่โยชิดะตีสีหน้าเศร้าแล้วลูบหัวฉันเบาๆ เธอนี่ช่างจุ่นจ้านจริงเชียว พี่โยชิดะแลบลิ้นปลิ้นตาล้อเลียนซายะซังอย่างสนุกสนาน

    ว่าไงนะ ไอหมอนรก ซายะซังวิ่งไล่ตีพี่โยชิดะอย่างเอาเป็นเอาตาย

    ทำไมพี่นายน่ากลัวอย่างนี้ละฮิคารุ มีแฟนอย่างนี้ขอตายดีกว่า นีอีตะที่นั่งดูอยู่อย่างหดหู่

    ฉันก็สงสารตัวเองนะที่มีพี่แบบนี้ ฮิคารุตอบด้วยหน้าตาอันเศร้า

     

    โห...น่ารักจังเจ้าฮิคารุ แกจะเกินหน้าเกินตาฉันไปไหนวะ จะว่าไปผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าก็น่ารักจริงๆแฮะ ไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นยัยโงมิโกะของคนที่โรงเรียน

    เป็นไงละ ฝีมือฉัน อึ้งกันไปเลยละสิ แหมเจ๊ซายะชมไม่ได้เลยนะ มิโกะที่อยู่ในชุดเดรสสีชมพูหวานๆ หน้าที่แต่งเติมสีสันอ่อนๆลงไป ผมสีดำที่ถูกมัดรวบแบบลวกๆอย่างเป็นทรงไว้ข้างหลัง น่ารัก

    คนนี้ผมจอง มั่นไส้ไอ้เจ้าฮิคารุจริงแฮะ สงสัยรักจริง ประกาศคำมั่นซะขนาดนี้

     

    นี่ เธอน่ะนั่งรอเจ้าฮิคารุอยู่ตรงนี้นะ ฉันไปก่อนละ อยู่กับเธอแล้วรำคาญ อะไรกัน ฉันก็นั่งอยู่เฉยๆของฉัน ทำไมต้องรำคาญฉันด้วยละ เสียใจจัง...นีอีตะเดินจากฉันไปแล้ว สักพักชายหนุ่มหน้าตาเปื้อนยิ้มก็ปั่นจักรยานมาหยุดที่ฉัน เราคุยกันอย่างสนุกสนานจนมาถึงโรงเรียน ที่ที่นีอีตะยืนรอด้วยหน้าตาบึ้งตึง

    มีความสุขกันจังนะ ปล่อยให้คนอื่นเค้ายืนรอเนี่ย...ลงมาสินีอีตะพูดด้วยอารมณ์บูดพร้อมส่งสายตาพิฆาต

    เดี๋ยวสิมิโกะ อะไรติดแก้มน่ะ ฮิคารุฉุดมือฉันไว้

    จุ๊บ

    เรียนหนังสือให้สนุกนะ ไปละฮิคารุปล่อยมือฉันแล้วปั่นจักรยานจากไป

    อย่าให้เกินหน้าเกินตากันนักสิ  ไอ้บ้านีอีตะตะโกนไล่หลังไปด้วยใบหนาแดงกล่ำ แล้วเดินเข้าโรงเรียนไป แล้วเค้าหน้าแดงทำไมนะ ตามมาสิยัยโง่ ไม่เรียนรึไง...

     

    ใครน่ะนีอีตะยัยซากุระวีนแตกใส่ผมแต่เช้าเลย

    ใคร? หมายถึงอะไร ผมหันซ้ายหันขวามองหาใครคนนั้น

    ก็ยัยคนนั้นที่ยืนหลบหลังเธออยู่ไงซากุระชี้มาที่ผม ซึ่งก็หมายถึงคนที่ยืนอยู่ข้างหลังนั้นเอง

    นี่เธอ...จำไม่ได้รึไง ก็ยัยขยะของพวกเธอไงละเอ่ยชื่อนี้แล้วอารมณ์เสีย ผมแย่งกระเป๋ามาจากมิโกะแล้วเดิมไปนั่งโต๊ะของผม คนทั้งห้องฮือฮาหลังจากที่ผมพูดจบ พวกผู้ชายกระดี๋กระด๋ากันใหญ่ ชิ แล้ววันนี้ทั้งวันก็ทำให้ผมเรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง (ปรกติก็ไม่เรียนอยู่แล้วละนะ) เรื่องเมื้อตอนเช้ามันยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของผมไม่ไปไหนเลย ปวดหัวโว้ยยยยย

    ตักๆๆๆๆ  เสียงฝีเท้าวิ่งซอยยิบอยู่หลังผม ตามมาด้วยเสียงหอบแฮ่กๆที่อยู่ข้างๆผมแล้วตอนนี้

    นีอีตะ รอด้วย นึกว่าใคร มิโกะเจ้าเดิม ผมซอยเท้าถี่ยับเพื่อไม่ให้มิโกะตามทัน ตักๆๆๆ...ฮ่าๆฮ่า ตามไม่ทันหรอกยัยบ้า อ่า...เสียงเงียบไปสงสัยเลิกตามแล้วมั้ง ผมหันไปมองข้างหลังว่าทิ้งห่างได้ไกลรึยัง เฮ้ย...ทำให้ผมต้องวิ่งกลับไปอีกครั้งเมื่อเห็นมิโกะนั่งตะครุบหนูด้วยสีหน้าเจ็บปวด
                   
    ล้มตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่เรียกฮะ ผมเอ๊ดตะโรใส่มิโกะเป็นการใหญ่ ขึ้นหลังซะ ... ยังไม่ขึ้นอีก เธอค่อยๆคลานมาเกาะหลังผมแล้วปีนขึ้นช้า ตัวเบาจริงแฮะ เธอ...มีอะไรก็ให้เรียกฉันนะ รู้ไหม ผมบอกด้วยความเป็นห่วงนะเนี่ย

    นีอีตะ มิโกะกระซิบที่ข้างหูผมเบาๆ ช่วยมิโกะด้วยหือ...

     

    ฮ่าๆฮ่า สะใจจริงโว้ย เจ้าฮิคารุตกกระป๋องซะแล้ว อุวะฮ่าๆสะใจหมอก็คราวนี้ละวะ แล้วมิโกะชอบใครมั้งละจ๊ะ มิโกะก้มหน้าอย่างเขินอาย

    มิโกะก็ชอบพี่โยชิดะกับซายะซังไงคะ

    แล้วเจ้านีอีตะละ เจ้าตัวสะดุ้งเฮือกเชียว หลังจากที่เครียดมาทั้งวันแล้ว เรื่องนี้คลายเครียดเลยแฮะ

    ก็...มิโกะกลัวมากกว่านั้น...เจ้านีอีตะตาเขียวปั๊ดใส่มิโกะทันควัน จี้เป็นบ้า

    ได้ยินใช่ไหมนีอีตะ แกทำให้มิโกะกลัววะ ฮ่าๆฮ่า

     

    นี่กล่องอะไรน่ะมิโกะผมมองกล่องเล็กๆตรงหน้าที่ห่อด้วยผ้าลวดลายด้วยงามด้วยความสงสัย

    ข้างกลางวันไง จะได้ไม่ต้องไปแย่งกันซื้อที่โรงเรียน เธอหันมาหาผมด้วยผ้ากันเปื้อนลายหน้ารัก สวรรค์ ในชีวิตนี้ไม่เคยกินข้าวกล่องเลยอ่ะ

    เฮ้...พี่ไปแล้วนะพี่โยชิดะตะโกนมาจากประตู

    อ่ะ...เดี๋ยวค่ะ อย่าเพิ่งไปมิโกะคว้ากล่องที่ใหญ่ที่สุดวิ่งเอาไปให้พี่โยชิดะที่รับด้วยความแปลกใจ ข้างกล่องไงคะทันทีที่ได้รับคำตอบโดยไม่ต้องถาม พี่แทบกระโจนทั้งกอดทั้งหอมแก้ม อิจฉาาาาา

    นี่ มิโกะ เธอยังไม่บอกฉันเลยนะ ซากุระตีเธอทำไมผมทำเสียงคาดคั่น มิโกะก้มหน้าแล้วเริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ผมฟัง

    เลวมาก เพิ่งจะรู้ว่ายัยซากุระเลวกว่าที่คิดไว้ ที่สอบได้คะแนนสูงสุดของห้องที่แท้ก็แค่...ยืมมือคนอื่นด้วยอำนาจของตัวเอง ยัยมิโกะก็ยอม บ้าเอ้ย อะไรกันยอมให้ยัยซากุระเปลี่ยนกระดาษคำตอบกับตัวเอง โง่ๆโง่ คิดแล้วโมโห

    เธอชื่ออะไรน่ะเฮ้ย...นั่นมัน

    เอ๊ะ...มิโกะหันซ้ายหันขวาใหญ่เชียวหลังจากที่มีรุ่นพี่สุดหล่อมาถามชื่อ มากิ มิโกะค่ะ

    วันเสาร์นี้ ฉันจะรอเธออยู่ที่นี้หน้าโรงเรียน เก้าโมงเช้านะแล้วไอ้รุ่นพี่คนนั้นก็คว้ามือเธอมาจุ๊บอ่ะ เกินหน้าเกินตากันอีกแล้ว ไอ้คนคนนี้ที่อยู่บ้านด้วยกันทำไมไม่มีโอกาสอย่างนั้นบ้างนะ ชิ

    จะทำอะไรก็ตามใจเธอเถอะผมประชดโดยไม่มองหน้าเธอสักนิดแล้วเดินจากไป

     

    ตึกๆๆ

    มิโกะผมรู้หมดแล้วซายะจังบอกผมแล้วเจ้าฮิคารุวิ่งน้ำตาคลอเบ้าเข้ามาในบ้านผม

    เฮ้ นี้บ้านฉันนะ ไม่ใช่สนามเด็กเล่นผมหันไปพูดหยอกๆกับมันซะหน่อยแต่ได้แค่หมัดกลับมา

                    ทำไมกัน ทั้งที่ผมพยายามขนาดนี้ มิโกะทำไม ทำไมกันโอ้เจ้าฮิคารุฟิวล์แตกแล้ว เพิ่งเคยเห็น

                    ไม่ต้องถามหรอก พรุ่งนี้เธอนัดกับชายหนุ่มสุดหล่อของโรงเรียนไว้แล้วหนิ ไม่แปลกที่นายตกกระป๋องหรอก ทำใจซะเถอะฮิคารุ เรามันก็แค่ตัวสำรอง ใส่สีเข้าไป แย่แน่ยัยซากุระ เสน่ห์แรงดีนัก

    ไม่ใช่อย่างนั้นนะฮิคารุ อย่าไปฟังนีอีตะนะมิโกะหน้าซีดเผือด

    ก็ได้ครับ ผมจะเป็นคนไปเอง หาคนอื่นก็ได้ ผู้หญิงมีเยอะแยะ แล้วอย่ากลับมากอดขาผมก็แล้วกันถ้าเจ้ารุ่นพี่คนนั้นหักอกมา โป้งมิโกะแล้วเจ้าฮิคารุก็สะบัดแฮร์จากไป ทิ้งไว้แต่ความเงียบงันกับความงงงวย

    ขอบคุณนะ ที่ทำให้เรื่องแย่ลงมิโกะหันมาขอบคุณผมด้วยหน้าตาไม่ปราศรัย

    ไม่เป็นไร มันเป็นเรื่องถนัดของฉันอยู่แล้ว

     

    แกว่าไงนะ พูดใหม่อีกทีสิ คิดคิดหรือว่าจะได้ออกไปง่ายๆ ไม่มีทางหรอกนะ

    แต่...

    ยังไงก็จะออกให้ได้สินะ แต่ขอให้นายทำงานนี้เสร็จก่อนเถอะ แล้วค่อยว่ากันอีกที

    ก็ได้ครับ ตกลง

     

    ไปแล้วนะคะโห...ไปอะไรแต่เช้า จะบ้ารึเปล่าเนี่ย ยัยมิโกะบ้าไปแล้ว

    เธอสองคนมีปัญหาอะไรกันรึเปล่าวะพี่โยชิดะเริ่มบทสนทนาทันทีที่มิโกะไป

    ก็ไม่มีนี่พี่ คิดมากไปรึเปล่า ระวังแก่เร็วนะผมทำทีกลบเกลื่อนความผิดไป

    แล้วไป

     

    นี่แก ลุกขึ้นมาสินั่งเป็นนางกวักอยู่ได้ซากุระวิ่งโล่มาจิกผมฉันทันทีที่เห็น

    โอ้ย...ปล่อยนะ

    หนอย เดี๋ยวนี้กล้ามีปากเสียงหรอ มันจะมากไปแล้วซากุระจับฉันโขกโต๊ะด้วยเสียงอันดังทำให้ทุกคนหันมามองด้วยความสนใจ ว่าไงละ ตอนนี้อะไรก็ดีไปหมดนะ หนุ่มๆงี้ตอมกันหึ้งเชียว คงจะมีความสุขมากสินะ โดยเฉพาะแฟนของฉัน

    ใครแฟนเธอฉันถามด้วยความสงสัย

    ก็นีอีตะซังไง ยัยโง่หน้าของฉันชาอย่างกับเพิ่งโดนตบหน้ามายังไงยังงั้นแหนะ รู้แล้วว่าทำไมเค้าต้องตะคอกฉัน ทำไมต้องโมโหฉันบ่อยๆทั้งที่นั่งอยู่เฉยๆ รู้แล้วว่าทำไมต้องคอยแกล้งฉัน ก็ฉันโง่เองนี่

    แต่ทำไมดูเธอสองคนเหมือนไม่ได้รักกันเลยละ อ่ะไม่สิเหมือนนีอีตะไม่รักเธอมากกว่า เปี้ยะ  ปากหนอปากโดนตบจนได้

    ปากดีนักนะ นี่เอากรรไกลมาสิซากุระหันไปสั่งลูกน้องของเธอ ผมสวยๆของเธอ คงจะหวงมากสินะ แต่เอ๊ะ มันยาวมากไปรึเปล่าดูสิ ผมยาวอย่างนี้ดูแลยากซะด้วยนะ ฉันตัดให้เธอก็แล้วกันซากุระดึงผมของฉันไปตัดเป็นว่าเล่น และฉันที่พยายามขัดขืนทั้งข่วนทั้งถีบแต่ก็ถูกยัยลูกน้องของซากุระจับไว้ นี้ ผมยาวมากนักใช่ไหม สวยนักใช่ไหม ได้ยินข่าวว่ารุ่นพี่โทจินัดเดทเธอด้วยนิ คราวนี้ละ เธอคงจะไม่เหลือสารรูปไปให้รุ่นพี่ดูแล้วสินะ ซากุระหยุดตัดผมของฉันแล้ว ไม่น้าาาาา ผมของฉัน ฉันได้แต่นั่งก้มหน้าร้องไห้เงียบๆคลอไปกับเสียงหัวเราะของซากุระ

    ซากุระ นั้นเธอทำอะไรน่ะเสียงอันค้นหูดังขึ้น นีอีตะเดินมาหาซากุระด้วยหน้าตาเอาเรื่อง นี้เธอเค้ามองฉันด้วยสายตาสมเพช

    อะไรละนีอีตะ จะด่าฉันว่าอะไรอีกละ ตอนนี้เธอยังเป็นแฟนฉันอยู่รึเปล่า ทำไมเธอต้องคอยปกป้องยัยโง่นี่ด้วย ทำไมซากุระทุบอกนีอีตะเป็นการใหญ่ แล้วยืนร้องไห้สะอื้นอยู่อย่างนั้น

    ขอโทษนะซากุระนีอีตะลูบหัวซากุระอย่างเอ็นดู ไปเถอะเรามีเรื่องต้องคุยกันอีกเยอะเค้าโอบไหล่ซากุระแล้วเดินจากไป...

     

    เกิดอะไรขึ้นน่ะมิโกะฮิคารุที่เปิดประตูบ้านต้อนรับฉันด้วยสีหน้าตกใจกับผมทรงใหม่ของฉันที่ไม่ค่อยจะเป็นทรงเท่าไหร่...

    บ้านอันอบอุ่น มีพ่อและแม่ที่คอยยินดีกับความสำเร็จของเรา และคอยปลอบใจเราเมื่อยามเสียใจ มีพี่ที่คอยช่วยเหลือเรายามเดือดร้อน บ้านที่ที่มีห้องของเรามีคนที่เรารักรออยู่ที่นี้ ฉันอยากมีมั้งจัง

    นั่งคิดอะไรอยู่จ๊ะมิโกะซายะซังนั่งลงข้างๆฉันขณะที่ฉันปล่อยความคิดให้ลอยไปรวมถึงเรื่องที่ไม่อยากคิดด้วย ยังไม่ชินกับผมทรงใหม่ละสิท่า ทรงนี้กำลังฮิตเลยนะ เค้าเรียกว่าทรงอะไรน้า เทอะไรน้า ช่างมันเถอะ แต่พี่ว่านะ มิโกะเหมาะกับผมสั้นมากกว่านะเนี่ย

    ไปกันเถอะมิโกะ เดี๋ยวพี่โยชิดะเป็นห่วงฮิคารุเรียก ฉันบอกลาทุกคนแล้วเดินไปพร้อมๆกับฮิคารุ

    ขอบคุณนะ ที่ช่วยเหลือฉันเสมอ

    อะไรกัน เรื่องแค่นี้เอง ยังไงฉันก็เป็นทั้งเพื่อนเธอและเพื่อนนีอีตะอยู่แล้วอ่า...นีอีตะอีกแล้ว ฉันไม่อยากได้ยินชื่อนี้เลย แต่ผมนี้เข้ากับเธอดีนะ ดูสวยไปเลยละ ฮิคารุจับผมฉันเบาๆ

    ก็ดีกว่าก่อนหน้าที่ไปหาเธอละนะ แต่คนอื่นคงหาว่าฉันแปลก คนอะไรผมข้างหน้าข้างหลังไม่เท่ากัน ฮ่าๆฮ่า

    นั้นน่ะสิ ฮ่าๆฮ่า เราสองคนคุยไปเดินไปอย่างสบายอารมณ์จนมาถึงบ้านของฉัน(มั้ง)

    เข้าไปดื่มอะไรก่อนสิ เดี๋ยวชงชาให้

    ดีเลยฮิคารุทำหน้าตาระรื่นกับคำชวนของฉัน ฉันไขกุญแจบ้านเข้าไป เสียงของผู้หญิงดังแว่วมาจากในห้องนั่งเล่นอย่างสนุกสนาน ฉันค่อยๆผลักประตูออก...มันทำให้เท้าของฉันหนักอึ้งก้าวต่อไปข้างหน้าก็ไร้เรี่ยวแรง ถ้าจะก้าวกลับไปก็ไม่มีแรงซะแล้ว

    มีอะไรหรือมิโกะฮิคารุผลักประตูให้เปิดกว้าง แต่ฮิคารุกลับไม่รู้สึกอะไรเลย เพียงแค่ฮิคารุเคาะประตูให้ดัง และหยุดการกระทำทั้งหมดลง

    อ้าว ว่าไงฮิคารุ ไม่เจอกันนานนะเพื่อนนีอีตะผละจากซากุระออกทันทีที่ได้ยินเสียง แล้วเดินเข้ามาทักฮิคารุ ว่าไงมิโกะ ผมใหม่ของเธอก็ไม่เลวนี้ อะไรกันเห็นคนจูบกันแค่นี้ทำไมต้องอึ้งนานขนาดนี้ละ เธอยังไม่ชินรึไง จูบกับเจ้าฮิคารุบ่อยไม่ใช่รึ

    เพี้ยะ

    อ่า...ฉันตบหน้านีอีตะเต็มแรงเท่าที่ฉันจะทำได้แล้ว ฉันเกลียดเธอ

    เพี้ยะ

    เหมือนตัวฉันเบาหวิวไปตามแรงตบของนีอีตะจนล้มไปชนเข้ากับประตู

    โอ้ย

    ฉันก็เกลียดเธอเหมือนกันละน่านีอีตะยืนดูฉันอย่างสมเพช

    ไปซะยัยโง่ซากุระโผล่มาจากข้างหลังของนีอีตะแล้วปิดประตูอัดหัวฉันเต็มแรง

    มิโกะ เป็นอะไรมากรึเปล่า มิโกะเสียงเรียกของฮิคารุเป็นเสียงสุดท้ายที่ฉันได้ยิน ตายละเลือดออกเต็มเลย ทำไงดีละฉัน...

    ,อู้ย...ปวดหัวจัง แก้มก็ปวด อ่ะ...มือใครน่ะ,ฮิคารุนั่งกุมมือฉันไว้ไม่ขยับไปไหน หลับสินะ หนาวจังเลย ฉันเอาผ้าห่มของฉันไปห่มให้ฮิคารุ เพราะฉันไม่จำเป็นต้องใช้มันแล้ว ฉันลุกไปจากเตียง ออกไปจากห้องนอนและเดินออกไปจากบ้านหลังนี้ บ้านหลังที่สองของฉัน ฉันกำลังจะไปที่ไหนกันนะ แต่ในใจของฉันมันร่ำร้องหาที่ที่ฉันรักและคิดถึงที่สุด แก้มบวมๆของฉันกับหัวที่มึนยังไม่หาย และสองเท้าค่อยๆพาฉันเดินออกไป ออกไป...

    ฉันยืนอยู่หน้าบ้านของฉัน ไม่สิ บ้านที่เคยเป็นที่ซุกหัวนอนของฉัน ที่ที่แม่ยอมให้ฉันอยู่ด้วย ถึงแม้ว่าฉันจะคอยถ่วงท่าน แต่แม่ของฉันก็คอยอบรมฉันอยู่เสมอ(ถึงจะแรงไปหน่อย) ตอนนี้แม่ของฉันอยู่ที่ไหนนะ แม่อยู่ที่ไหน  อ่า...ปุยนุ่นสีขาวค่อยๆร่วงลงมาสู่พื้นดิน ไม่ใช่สิ นี้หิมะ ว้าว...หิมะตกแล้ว ฉันค่อยๆนั่งลงพิงกำแพงบ้านที่เคยเป็นบ้านของฉันและนั่งมองหิมะที่ทยอยตกลงมา หนาวจัง ฮ้าว...ง่วงซะแล้วสิขอหลับมันตรงนี้แหละ ท่ามกลางหิมะสีขาวโพลน

    นี่เธออย่าหลับนะ ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้ ตื่นสิ ฉันบอกให้ตื่น เสียงใครกัน ฉันจะนอนนน...

     

    ฉันกลับมาอยู่ที่นี่ได้ไงเนี้ย โอย ปวดหัว ตัวร้อน ใครกันที่ปลุกฉันเมื่อคืน กำลังฝันดีเชียว

    กริ๊ง ง ง กริ๊ง ง ง กริ๊ง ง ง

    สวัสดีค่ะ คลินิกโยชิดะมีอะไรให้รับใช้คะ

    ตื่นแล้วหรือ ดีใจที่เธอไม่เป็นอะไรมากนะ

    ไม่ทราบว่าใครคะ ไม่บอกฉันจะวางแล้วนะโทรศัพท์โรคจิตรึเปล่านะ

    ฉันไง...คนที่บ้านนั้นปลายสายทำเสียงเข้ม

    ฉันนึกว่าคุณจะดีใจซะอีกที่เห็นฉันเป็นอะไร ไม่ว่าจะโดนตีจนตายใช่ปลายสายคือนีอีตะ

    ตามใจ ฉันไม่แคร์ว่าเธอจะคิดยังไงกับฉันในตอนนี้ แต่หลังจากนี้ขอให้เธอฟังให้ดี อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะได้คุยกับฉันนีอีตะเสียงแผ่วลง ฉันขอโทษที่ทำให้เธอเสียใจ ฉันขอโทษที่ไม่อาจปกป้องเธอได้ไม่ว่าจากอะไรก็ตาม ฉันขอโทษ ขอโทษจริงๆ

    นีอีตะ เธออยู่ไหนน่ะฉันตะโกนถามไปอย่างไม่คาดหวังอะไร

    ฉันไม่อาจกอดเธอได้ ไม่สามารถหอมแก้มของเธอได้ และไม่กล้าที่จะจูบเธอ ฉันมันไม่เอาไหน ฉันไม่อาจขอให้เธอเข้าใจเรื่องทั้งหมดที่ฉันพูด แต่อยากให้เธอรู้ไว้ แค่นี้ก็พอ...เรื่องราวทั้งหมดฉันจำเป็นต้องทำ ฉันไม่อาจปฏิเสธได้

    นีอีตะ เธออยู่ไหน บอกฉันมานะ เค้าวางสายไปแล้ว ไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้ว เค้าจะทำอะไรของเค้านะ แต่ช่างเถอะ วันนี้วันเสาร์นะ ฉันรีบวิ่งไปหารุ่นพี่คนนั้น ที่ยืนรอฉันอยู่ก่อนแล้วด้วยหน้าตายิ้มแย้มเมื่อเห็นฉัน

    ฉันคงไปกับรุ่นพี่ไม่ได้ ขอโทษนะคะ ฉันโค้งหัวแทบชนเข่าให้รุ่นพี่ แล้วรีบวิ่งหนีมาทันที ฉันไม่ได้เกลียดรุ่นพี่นะคะแต่ว่าฉันต้องการกลับบ้านของฉัน ฉันอยากอยู่ที่บ้านของฉัน บ้านของเรา

    ฉันนั่งรอคนทั้งสองที่ยังไม่โผล่หน้ามาให้เห็นเลยทั้งวัน โทรศัพท์แปลกๆจากนีอีตะเมื่อเช้า กับกระเป๋าใบใหญ่ของพี่โยชิดะเมื่อสองวันก่อน หรือพวกเค้าจะจากฉันไปอีก โอ๊ย ไม่จริงมั้ง พวกเค้าทั้งสองคนอาจจะยังทำธุระไม่เสร็จ ฉันนั่งคิดแล้วคิดอีกอยู่ทั้งวันจนลืมว่าตัวเองเป็นไข้ไปเลย หิมะที่ตกไม่หยุดตั้งแต่เมื่อคืนกองทับถมกันหนาขึ้นหนาขึ้น พวกเค้าไปไหนกันนะ

    นี่ก็หนึ่งทุ่มแล้วทำไมยังไม่มาอีก ทั้งพี่ทั้งน้องเลย  ไปทำอะไรที่ไหนนะ ฉันร้องไห้จนเหนื่อยแล้วนะ ฮือๆๆ

    กริ๊งๆ

    อ่ะ...พวกเค้ามากันแล้ว เย้ ฉันรีบวิ่งไปที่ประตูปาดน้ำตาไปให้หมดแล้วเปิดประตูต้อรับเค้าทั้งสอง

    สวัสดีมิโกะ แต่ฉันต้องผิดหวังเมื่อคนที่ฉันรอคอยกลับไม่ใช่สงพี่น้องตระกูลนี้

    ซายะอย่าสงเสียงดังสิ...เข้าไปกันเถอะ อยู่ข้างนอกหนาวมากๆเลย

    โฮ่ๆโฮ่ๆฮิคารุถึงกับผงะเมื่อเห็นฉันปล่อยโฮออกมาแบบไม่ตั้งตัว

    โอ๋ๆ อย่าคิดมากน่ามิโกะ เดี๋ยวพวกเค้าก็มา ซายะซังกอดปลอบฉันอย่างอ่อนโยน

    นั่งก่อนนะมิโกะเดี๋ยวผมจะทำคุกกี้ให้กินฮิคารุถือถุงอุปกรณ์ต่างๆเข้าไปในครัว

    ไหนดูสิ ตาบวมหมดแล้ว เห็นไหม หนุนตักพี่มาซายะซังนั่งลูบผมของฉันอยู่อย่างนั้นแล้วฮัมเพลงไปเรื่อยๆ จนฉันเผลอหลับไป

    กริ๊งๆ

    ฮิคารุนายไปดูสิ

    ผมไม่ว่างขนาดนั้นนะ

    ฉันลุกขึ้นทันที แล้วรีบเดินไปที่ประตูเพื่อเปิดต้อนรับสองพี่น้อง ใช่ ต้องเป็นพวกเค้าสิ

    อึก ฮือๆโฮ่ฉันยืนปล่อยโฮ่อีกรอบ

    ร้องทำไมกัน อย่าร้องนะพี่โยชิดะโอบกอดฉัน

    เข้าไปข้างในเถอะนีอีตะเดินแทรกตัวเข้าไป

     

    ว่าไงฮิคารุทำคุกกี้เสร็จยัง

    ยังเลย อีกแป๊บเดียวก็เสร็จแล้วละเจ้าฮิคารุโผล่หัวที่เต็มไปด้วยแป้งขึ้นมาแล้วมุดกลับลงไปเหมือนเดิม

    ว่าไงนีอีตะ เรียบร้อยดีไหมพี่ซายะถามผมอย่างเป็นห่วง

    เรียบร้อยแล้วพี่ ไม่ต้องห่วง ตอนนี้ห่วงอยู่แค่เรื่องเดียวเท่านั้นเองผมมองหาใครคนนั้นที่กำลังเดินจูงมือพี่โยชิดะเข้ามาด้วยหน้าตาระรื่น เธอนั่งลงข้างๆผมแต่ยังคงคุยกับพี่โยชิดะต่อไป แต่เธอหยุดคุย และหันมาแล้ว เธอหันมาหาผมแล้ว ผมรีบหยิบหลอกยาแก้ฟกช้ำมาทาแก้ขัด(เขิน)ให้ไม่ว่างมือ เธอหันมามองผมด้วยสายตามีเลศใน คือ ฉันไปเคลียงานมานิดหน่อยน่ะ เลยต้องเรียกพี่โยชิดะไปคอยเก็บซากยืมตัวแค่วันเดียวก็ไม่น่าจะหวงขนาดนี้นี่ ผมทายาที่หน้าของผมอย่างมั่วๆ แต่เธอกลับแย่งหลอดยาของผมไปแล้วทายาอย่างเบามือให้ผม

    ออกมาได้ก็ดีแล้ว ไอ้แก๊งบ้าๆนั้น ไม่รู้ว่าแกทนอยู่ไปได้ไงพี่โยชิดะนั่งบ่นงุบงิบกับพี่ซายะ

    ผมก็ไม่อยากอยู่นักหรอก แต่ไอ้เจ้าหัวหน้านี่สิประสาทตั้งกฎบ้ากฎบออะไรก็ไม่รู้ บอกว่าแฟนของเพื่อนก็คือแฟนของเรา คงหาแฟนเองไม่เป็นมั้งเลยตั้งกฎเข้าข้างตัวเอง ขอออกก็ยากแล้วนะ ยังแถมงานให้ก่อนออกอีกยากเป็นบ้าเลย ต้องไปหลอกยัยซากุระให้เผยความลับนี้สิ ยากโคตร พอตอนจะออกยังให้คนมารุมตืบผมอีก ใครจะไปอยู่

    ก็ดีแล้วนิ แกก็ไม่ต้องหาแฟนเองให้ยากไม่ใช่รึวะดูพี่โยชิดะหาเรื่องตายอีกแล้ว

    ก็ผม...

    เธอทำไมมิโกะถามขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว

    ก็ฉันไม่อยากใช้เธอร่วมกับใครน่ะสิมิโกะหยุดทายาให้ผมทันทีที่พูดจบ เฮ้ เธอจะร้องไห้ทำไมน่ะ หยุดนะ หยุดเดี๋ยวนี้ผมทำอะไรไม่ถูกได้แต่ใช้มือปาดน้ำตาให้เธอที่ไหลออกมาไม่หยุด

    เฮ้ นีอีตะ แกล้งมิโกะอีกแล้ว ปล่อยมือออกจากมิโกะซะเจ้าฮิคารุรีบวางจานคุกกี้ลงทันทีที่ได้ยินเสียงมิโกะร้องไห้

    เฮ้ย ฮิคารุอย่าไปยุ่ง ออกมาเดี๋ยวนี้นะขอบคุณครับพี่ซายะ ที่กรุณาลากมันไปไกลๆ

    เฮ้ อย่าร้องสิ เงียบได้แล้วผมบอกเธอแต่ยังไงเธอก็ไม่ยอมเลิกซะที เอาละอย่าหาว่าฉวยโอกาสก็แล้วกัน ผมโอบกอดเธอเบาๆให้เธอซบอกของผม เผื่อไออุ่นจากตัวผมจะทำให้เธอไม่รู้สึกโดดเดี่ยว ลูบผมเธอเบาๆเพื่อให้เธอรู้สึกสบายใจที่ได้อยู่กับผม และ...กระซิบว่า

    ฉันรักเธอนะเพื่อเธอจะได้รู้ว่ายังมีผมคนนี้ที่ยืนอยู่เคียงข้างเธอ...

     

    ซากุระผลสอบปีนี้เธอจะครองโหล่แทนมิโกะแล้วรึไงครูประจำชั้นพูดเสียงดังขณะแจกกระดาษคำตอบสอบย่อยบอกคะแนน หลังจากที่เปิดเผยความจริงของยัยซากุระทั้งหมด

    มิโกะ เธอมีตาทิพย์รึเปล่านะมิโกะวิ่งโล่ไปรับกระดาษคำตอบใบแรกของเธอด้วยความดีใจ

    โห มิโกะได้เต็มร้อยอ่ะผู้หญิงในห้องตะโกนลั่นหลังจากแอบดูคะแนนของมิโกะ ทำให้ทุกคนฮือฮาทั้งห้อง...ส่วนผมน่ะหรือสงสัยต้องให้มิโกะติวเข้มให้ซะแล้วสิ ฮ่าๆฮ่า

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น

    ×