มงคลชีวิต

ลำดับตอนที่ #3 : มงคลที่ ๑ ไม่คบคนพาล

มงคลที่ ๑ ไม่คบคนพาล
อะเสวะนา จะ พาลานัง
การไม่คบคนพาล เป็นมงคลอย่างสูงสุด

“ปลาร้าพันห่อด้วย ใบคา
ใบก็เหม็นคาวปลา คละคลุ้ง
คือคนหมู่ไปหา คบเพื่อน พาลนา
ได้แต่รายร้ายฟุ้ง เฟื่องให้เสียพงศ์”
(สุภาษิตโคลงโลกนิติ)

 

คนพาล  คือใคร

คนพาล คือ คนที่มีใจขุ่นมัวเป็นปกติ เป็นผลให้มีความเห็นผิด ยึดถือค่านิยมผิดๆ และมีวินิจฉัยเสีย คือไม่รู้ว่าอะไรดี ชั่ว ควร ไม่ควร เช่น บัณฑิตเห็นว่า “เหล้า” เป็นของไม่ดี ทำให้ขาดสติ นำความเสื่อมมาให้นานัปการ แต่คนพาลกลับเห็นว่า “เหล้า” เป็นของประเสริฐ เป็นเครื่องกระชับมิตร เป็นต้น ขึ้นชื่อว่าพาลแล้ว ถึงแม้จะมีความรู้มีความสามารถก็ไม่ใช้ความรู้ความสามารถในทางที่ถูกที่ควร เพราะเขาแสลงต่อความดี เหมือนคนไข้แสลงต่อน้ำเย็น

ลักษณะของคนพาล

1.      ชอบคิดชั่วเป็นปกติ ได้แก่ คิดละโมบอยากได้ในทางทุจริต คิดพยาบาทปองร้าย คิดเห็นผิดเป็นชอบ ฯลฯ

2.      ชอบพูดชั่วเป็นปกติ ได้แก่ พูดปด พูดคำหยาบ พูดส่อเสียดยุยง พูดเพ้อเจ้อ ฯลฯ

3.      ชอบทำชั่วเป็นปกติ ได้แก่ เกะกะเกเร กินเหล้าเมายา ชอบล้างผลาญชีวิตคนและสัตว์ ลักทรัพย์ ฉุดคร่าอนาจาร ฯลฯ

 

โทษของความเป็นคนพาล

1.      มีความเห็นผิด ก่อทุกข์ให้ตนเอง

2.      เสียชื่อเสียง ถูกติฉินนินทา

3.      ไม่มีคนนับถือ ถูกเกลียดชัง

4.      หมดสิริมงคล หมดสง่าราศี

5.      ความชั่วเภทภัยทั้งหลาย จะไหลเข้ามาหาตัว

6.      ทำลายประโยชน์ของตนเองทั้งโลกนี้และโลกหน้า

7.      ทำลายวงศ์ตระกูลของตนเอง

8.      เมื่อละโลกไปแล้วมีอบายภูมิเป็นที่ไป ฯลฯ

 

วิธีสังเกตคนพาล

1.      ชอบชักนำในทางที่ผิด

2.      ชอบทำในสิ่งที่ไม่ใช่ธุระ เกะกะเกเร หน้าที่การงานของตน ไม่พยายามจัดการให้เรียบร้อย แต่ชอบไปก้าวก่ายหน้าที่การงานของผู้อื่น

3.      ชอบแต่สิ่งผิดๆ ชอบถือเอาสิ่งที่ชั่วว่าเป็นสิ่งที่ดี เช่น ชอบเล่นไพ่ ชอบสูบบุหรี่ ฯลฯ เห็นคนทำถูกเป็นคนโง่ เห็นคนกลัวผิดเป็นคนขี้ขลาด

4.      แม้พูดดีๆ ก็โกรธ เช่น เตือนให้ดูหนังสือตอนใกล้สอบก็โกรธ

5.      ไม่ยอมรับรู้ระเบียบวินัย

 

พฤติกรรมที่เรียกว่า “คบ” คืออย่างไร

- ร่วม เช่น ร่วมกิน ร่วมนอน ร่วมก่อการ ร่วมหุ้น ร่วมลงทุน
- รับ เช่น รับเป็นเพื่อน รับเป็นภรรยาหรือ รับฟัง สิ่งที่คนพาลพูดหรือเขียน
- ให้ เช่น ให้ความไว้วางใจ ให้หยิบยืมสิ่งของ ให้การสนับสนุน

โบราณท่านให้คติเตือนใจไว้ว่า ห่างสุนัขให้ห่างศอก ห่างวอกให้ห่างวา ห่างพาลา ให้ห่างหมื่นโยชน์แสนโยชน์

โทษของการคบคนพาล

1.      ย่อมถูกชักนำไปในทางที่ผิด

2.      ย่อมเกิดความหายนะ การงานล้มเหลว

3.      ย่อมถูกมองในแง่ร้าย ไม่ได้รับความไว้วางใจจากบุคคลทั่วไป

4.      ย่อมอึดอัดใจ เพราะคนพาลแม้เราพูดดีๆ ด้วยก็โกรธ

5.      หมู่คณะย่อมแตกความสามัคคี เพราะการยุยงและไม่ยอมรับรู้ระเบียบวินัย

6.      ภัยอันตรายต่างๆ ย่อมไหลเข้ามาหาตัว

7.      เมื่อละโลกแล้ว ย่อมมีอบายภูมิเป็นที่ไป ฯลฯ

 

ประเภทของคนพาล

1.      พาลภายนอกคือคนพาลทั่วไป ซึ่งแม้จะร้ายกาจเพียงใด เราก็ยังมีทางหลีกเลี่ยงได้

2.      พาลภายใน คือตัวเราเองขณะที่คิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่ว ครั้งใดที่เราทำ เช่นนี้ ครั้งนั้นเราเองนั่นแหละคือตัวพาล ต้องรีบแก้ไข

 

หลักปฏิบัติในชีวิตประจำวัน

1.      หมั่นห้ามใจตนเองจากความชั่วแม้เพียงเล็กน้อย ก่อนที่มันจะลุกลามต่อไป เช่น ไม่นอนตื่นสาย

2.      อย่าตามนึกถึงความชั่ว ความผิดพลาดในอดีต ถือเป็นบทเรียนที่จะไม่ยอมทำซ้ำอีก แล้วตั้งใจทำความดีใหม่ให้เต็มที่

3.      ตั้งใจให้ทาน รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนาอย่างสม่ำเสมอ

4.      หลีกเลี่ยงการอ่าน การฟัง การพูด เรื่องเกี่ยวกับคนพาล พยายามสะสมแต่ความคิดที่ดีงามโดยการอ่าน การฟัง การพูด แต่สิ่งที่ดีงาม เช่น อ่านหนังสือธรรมะ ฟังเทศน์ สนทนาธรรม พูดถึงคนที่ทำคุณความดี ฯลฯ

5.      ถ้าจำเป็นต้องอยู่ใกล้คนพาลอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ ต้องระลึกอยู่เสมอว่า เรากำลังอยู่ใกล้สิ่งที่เป็นอันตราย ต้องระวังตัว คือระวังความเป็นพาลของเขาจะมาติดเราเข้า ต้องหมั่นให้ทาน รักษาศีล ทำสมาธิ เพื่อให้ใจผ่องใสอยู่เสมอ

6.      เราต้องระลึกเสมอว่า หน้าที่อันยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดในชีวิต ไม่มีอะไรยิ่งไปกว่าการปราบพาลภายในตัวเราเอง

 

อานิสงส์การไม่คบคนพาล

1.      ทำให้ไม่ถูกชักจูงไปในทางที่ผิด

2.      ทำให้สามารถรักษาความดีเดิมไว้ได้

3.      ทำให้สามารถสร้างความดีใหม่เพิ่มขึ้นได้อีก

4.      ทำให้ไม่ถูกคนพาลทำร้าย

5.      ทำให้ไม่ถูกตำหนิ ไม่ถูกใส่ความ

6.      ทำให้ไม่ถูกมองในแง่ร้าย ได้รับความไว้วางใจจากบุคคลทั่วไป

7.      ทำให้มีความเจริญก้าวหน้า สามารถตั้งตัวได้เร็ว

8.     ทำให้มีความสุขทั้งตนเอง ครอบครัว และประเทศชาติ เป็นการตัดกำลังไม่ให้เชื้อพาลระบาดไป เพราะขาดคนสนับสนุนฯลฯ