Shrewish girl! ยัยปากร้ายvsนายปากเสีย - Shrewish girl! ยัยปากร้ายvsนายปากเสีย นิยาย Shrewish girl! ยัยปากร้ายvsนายปากเสีย : Dek-D.com - Writer

    Shrewish girl! ยัยปากร้ายvsนายปากเสีย

    จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเธอ'ปากร้าย'และนาย'ปากเสีย'มาเจอกันแล้วเรื่องความรักล่ะจะเป็นยังไง มาอ่านกันเลย!

    ผู้เข้าชมรวม

    212

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    212

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  26 มี.ค. 57 / 13:21 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    เธอ ...ชิโลห์....หญิงปากจัดที่สุดของห้อง(หรือจะระดับชั้น?)หาเรื่องใครได้ไม่ซ้ำวัน มีอิทธิพลและอำนาจ บ้านรวยแถมยังเรียนเก่ง หน้าตาก็ไม่แย่นะ

    เขา ...โอเล็น...ชายที่หน้าตาดีมีเสน่ห์หล่อเซ็กซี่ ฐานะทางบ้านรวยล้นฟ้า เรียนห้องAA เกรดไม่เคยต่ำกว่า 3.99 เสียอย่าเดียว ปากไม่ต้อนรับใครที่เขาไม่ชอบ เขาจะพูดให้คนๆนั้นดูแย่ที่สุด นิสัยแย่ๆไม่ได้มีแค่นี้ ยังมีอีกเพียบ แล้วพบกันในเรื่องจ้าา

    ตัวละครประกอบ 

    ริน เพื่อนซี้สุดขั้วของชิโลห์คลั่งไคล้รุ่นพี่หล่อๆเป็นชีวิตจิตใจ
    ซิลลิซ เพื่อนรองสนิทที่ช่วยทำทุกอย่างให้ชิโลห์เป็นคนดีที่สุดในกลุ่มเพราะรับฟังคำบรรชาของทุกคน
    เพื่อนคนอื่นๆในกลุ่ม
    โจนิน(หัวหน้าห้องที่เป็นคนมีความรับผิดชอบสูงและบ้าบอคอแตกพอๆกัน)
    โคเช(สาวน้อยตัวเล็กชอบอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ)
    แจน(สาวขี้วีนมีฉายาว่า ยัยใฝ)
    เพื่อนในห้อง
     
    ต้า(ฉายา ตัวป่วนประจำห้อง หรือ ไอ่บ้า!)
    จอร์จ(ฉายา หยอยอะวอร์ดแห่งปี หยอยได้ไม่รู้ลืม)

    ปล.หาอิมเมจมาให้เฉยๆจ้าถ้าไม่ถูกใจก็มองผ่านๆไปจ้า ^^
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      เย้ เฮ !!

      ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงงงงง....วันปัจฉิมนิเทศจบม.3ของฉัน ฉันกำลังนั่งกินเลี้ยงกับเพื่อนสนิทสุดติ่งจิงกาเบลและฟังเพลงอย่างครึกครื้นแต่แล้วไอ่เจ้าต้าก็พูดขึ้น

      “วันนี้วันดี ต้องเล่นอะไรสนุกๆเด้ ใช่ป่ะ”

      ฉันก็ไม่สนใจอะไรเพราะรู้ว่าไอ่คนพูดมันเป็นตัวป่วนประจำห้อง ชอบสรรหาเกมที่ไร้สาระมาเล่นตลอด

      “เกมอะไรของนาย ถ้าเป็นเกมปัญญาอ่อน ฉันไม่เอาด้วยหรอกนะ!”  ยัยใฝเพื่อนในกลุ่มฉันตะโกนออกไป

      “ต้องเป็นเกมที่น่าเล่นอยู่แล้วจ้า น้องใฝ จุ้บๆ”  ไอ่บ้าตัวป่วนพูดด้วยสายตาหวานเยิ้มจนฉันอยากอ้วกเป็นกระตุ๊งหมา(มันคือไรอ่ะ?) สุดท้ายในเมื่อทุกคนเห็นด้วยเนื่องจากเป็นวันสุดท้ายที่อยู่ร่วมกัน (แต่ฉันไม่เห็นด้วย!) ก็มาตั้งวงกันเหมือนเล่นไพ่ในบ่อนจิ่งหลีดแมว

      แปะๆ

      เสียงปรบมือของไอ่บ้าดังขึ้นเพื่อเรียกความสนใจ

                  “เกมนี้เรียกว่าเกมคิงแอนด์คิง คุกกี้แอนด์ครีม แอนด์เดอะฟอสเฟส” เกมบ้าอะไรของมันฟะ!

                  “เกมนี้มีอยู่ว่าถ้าใครจับได้ไพ่คิงจะสามารถสั่งให้เบอร์ที่เลือกหนึ่งเบอร์ทำตามคำสั่งได้หนึ่งอย่าง!” เออ! ตั้งชื่อง่ายๆก็จบจะมาฟอสเฟส ฟอสแฟสอะไรของมัน - - 

                  “แต่มีข้อแม้! ถ้าไม่ทำตามคำสั่งต้องจ่ายเงิน300บาท โดยไม่ขัดข้อง อ๊ะๆ เดี๋ยวๆ ยังไม่จบ เงินนี้จะเอาไปซื้อของขวัญขอบคุณครูประจำชั้นของพวกเรา ไม่เอาไปเล่นไฮโลหรอกเฟ้ย!

                  “แล้วจะเริ่มได้ยัง ไหนการ์ดอ่ะ แจกดิ สามเกมจบนะเฟ้ย ฉันไม่มีตังค์!” ไอ่จอร์จหรือหัวหยอยพูดขึ้น

      หลังจากที่ทุกคนสุ่มหยิบการ์ดกันขึ้นมาก็ได้เบอร์ของแต่ละคนและไอ่หัวหยอยก็ได้ไพ่คิง ไอ่นี่มันต้องแอบกั๊กตอนที่มันแจกไพ่แน่ๆ - -*

                  “เอาล่ะ ฉันขอสั่งให้เบอร์เจ็ด.......ใครเบอร์เจ็ดอ่ะ ลุกดิ!” โอยไม่นะ ฉันอ่ะ! ฉันกระพริบตาถี่ๆมองไปที่ไพ่ของฉันว่ามันใช่เบอร์เจ็ดรึป่าว 7 ตัวเลขใหญ่ๆอยู่ในไพ่ TT หลังจากนั้นก็ลุกขึ้นตามที่ไอ่หยอยบอก

                  “อ้าว ชิโลห์นี่หว่า อย่างงี้ต้องจัดสักหน่อย หึหึ”

                  “จัดอะไรฮะ ไอ่หยอย ถ้าแกสั่งอะไรแย่ๆแกโดนแน่!”  หึ่ย! กล้ามากนะ!  อย่าให้ได้เป็นคิงบ้างล่ะ  ฉันจะสั่งให้แกไปกระโดดบ่อขี้เลยไอ่หยอยเอ้ย!

                  “ใจเย็นสิ ฉันไม่เอาอะไรมากหรอก ง่ายๆ พี่คนนั้นอ่ะ เธอเห็นปะ ไปขอให้เขาเขียนเสื้อให้สิแล้วเธอจะได้ไม่ต้องจ่ายเงิน300” ไอ่หยอยยักคิ้วอย่างชอบใจ เหอะ! ไม่เฟ้ย ฉันจะจ่ายสามร้อยบ้านรวยมีไรปะ? บังเอิญวันนี้ไม่ได้ใช้เงินเลยมีเงินเหลือ แกหน้าหงายแน่ หึ! ระหว่างที่ฉันคิดอยู่ฉันก็เอามือล้วงหากระเป๋าตังค์ อ้าว! ชิบแล้วอ่ะ กระเป๋าตังค์อยู่บ้านค่ะทุกคนนนนนนนน แง่มมมมมมม อุส่าห์เอาวางไว้หน้าประตูบ้านแล้วนะ ลืมจนได้!

                  “ว่าไงจ๊าาาา ไม่มีตังค์หรอออ เสียใจด้วยน้า” ไอ่หยอยพูดเยาะเย้ย

                  “เฮ้ยๆ รินขอยืมเงินหน่อยดิ เดี๋ยวฉันคืนให้นะๆ “ ฉันกระซิบกับเพื่อนซี้ตาปลาหมอ

                  “ฉันไม่มีย่ะ เอาไปซื้อตุ๊กตาให้รุ่นพี่เทพบุตรสุดสะดุ้งกุ้งเต้นหมดแล้ว” จิ๊! ยัยบ้านี่ บ้าผู้ชายจริงๆเลยอ่ะ ไม่มีใครให้ยืมเงินเลยหรอออออ เออวะ ทำก็ทำ ดูเหมือนไอ่พี่คนนั้นมันก็ไม่ได้มีพิษมีภัยอะไรนี่

                  “เออๆ ทำก็ได้ฟะ เชอะ” หลังจากนั้นฉันก็เดินสะบัดตูดแล้วมายืนตรงหน้าพี่คนนั้น ไอ่พี่นั่นก็มองแบบงงๆฉันเลยพูด

                  “พี่คะเขียนเสื้อให้หน่อยค่ะ” หน้าฉันเป็นงี้ >>>> ( -_- )

                  ฮิ้ววววววววววว

      เห้ย! อะไรอ่ะ ทำไม มันกรี๊ดทำไม มันโห่ทำไม ไอ่หยอยมันไม่ได้บอกว่ามันต้องโห่นี่! แบบนี่เขาก็จะคิดไปไกลได้อ่ะดิ ม่ายยยยยยยย

                  “เธอ....ทำไมคนอย่างฉันต้องเขียนให้คนอย่างเธอด้วยล่ะ?” มองหน้าแบบกวนๆ

                  “ทำไม! คนอย่างฉันมันทำไมฮะ!?

                  “ก็ป่าวนี่ ก็แค่(ไล่มองตั้งแต่หัวจรดเท้า) เธอมันธรรมดาเกินไป...เท่านั้นเอง” พูดแล้วก็ยักไหล่เดินไปแบบไม่ใส่ใจ โว้ยยยยยยยยย ควันออกหู! เกินไปแล้วนะ ไอ่ปากปีระกา+ปีจอนี่มันเป็นใครที่ไหน กล้ามากนะที่มาด่าฉัน ฉันก็ไม่ได้ว่าฉันน่าตาไม่ดีหรืออะไรนะ แต่ไอ่บ้านี่มันตาถั่วต่างหากเล่า!(หรออออออ)

      หลังจากที่งานเลี้ยงปัจฉิมจบ ฉันก็กลับบ้านทันทีเพราะพ่อโทรมาบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะบอก ฉันเดินด่า   นายปากปีจอนั่นตั้งแต่เดินเข้าประตูมา

                  “นายปากปีจออย่าให้ได้เจอนะนายตายแน่!  กล้าทำให้ฉันขายหน้าไอ่หยอยเรอะ! ไอ่บ้า

      ไอ่หอยหลอด ไอ่ปากปลากระป๋องเน่า ไอ่หมูหมัก ไอ่@#$%^&*W

                  “ชิลห์เป็นอะไรลูก อารมณ์เสียจากใครมากอีกแล้วเรอะ?” ชายวัยกลางคนพูดขึ้น

                  “ช่างมันเถอะค่ะพ่อ มันไม่สำคัญอะไรหรอก แล้วพ่อมีอะไรถึงโทรเรียกชิลห์กลับมาเร็วขนาดนี้คะ?

                  “วันพรุ่งนี้พ่อมีนัดกับ วินเซนด์ ที่บ้านของเขาน่ะ เขาจะมาร่วมธุรกิจรักษ์สิ่งแวดล้อมกับเราแล้วเขาขอพบลูกด้วยนะ พ่อรู้ว่าลูกชอบโปรเจกต์นี้ พ่อเลยให้ลูกกลับมาเตรียมพร้อมสำหรับนัดวันพรุ่งนี้น่ะ”

      ฉันชอบที่จะได้มีส่วนร่วมกับธุรกิจของพ่อเพราะว่าฉันอยากเป็นนักธุรกิจที่มีความยุติธรรมและรักษาสิ่งแวดล้อมไม่ให้ได้รับผลกระทบจากพวกนักธุรกิจหน้าเลือดที่คิดจะเอากำไรอย่างเดียวไม่คิดถึงสิ่งแวดล้อม

                  “ได้ค่ะ นั้นชิลห์ไปเตรียมข้อมูลกับเอกสารสำคัญก่อนนะคะ” เย้! ดีใจจัง ที่ยังมีนักธุรกิจเห็นความสำคัญของสิ่งแวดล้อม

                  “น้องชิลห์คะคุณพ่อให้พี่เอาเสื้อผ้าของวันพรุ่งนี้มาให้ค่ะ” ฉันเงยหน้าขึ้นจากแฟ้มเอกสารและมองไปที่ชุดเดรสสีชมพูหวานแหวว มันทำให้ฉันเกิดอาการอ้วกแตกทันที สีชมพู ม่ายยยยยย ฉันเกลียดมัน เอามันออกปายยยยยยย

                  “เอ่อ พี่แตงไทยคะ ช่วยไปเอากางเกงขาเดปโนบอดี้กับเสื้อเชิตลาคอสมาดีกว่าค่ะแล้วเอาไอ่เจ้าชุดบ้านั่นไปให้เด็กข้างบ้านก็ได้นะคะ หรือถ้าพี่แตงไทยชอบก็เก็บไว้ใส่เองได้เลยค่ะ ^^*

                  “มะ....มันจะดีหรอคะ คุณท่านสั่งมานะคะน้องชิลห์” พี่แตงไทยทำหน้าหวาดๆ กลัวว่าพ่อของฉันจะว่าอะไร

                  “ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่แตงไทย พ่อไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ เชื่อชิลห์ได้!

                  “นั้นก็ได้ค่ะ เดี๋ยวพี่จะเอาชุดที่น้องชิลห์สั่งมาให้นะคะ” พี่แตงไทยพูดแล้วเดินกลับไปเงียบๆ เฮ้อพ่อนี่ก็ช่างสรรหาเสื้อผ้าแบบนี้มาให้จริงๆก็บอกว่าไม่ชอบๆ(- -) พีแตงไทยเป็นหัวหน้าคนใช้ในบ้านของฉันเองแต่ฉันไม่ชอบให้ใครเรียกว่าคุณหนูมันพูดยากและดูอึดอัดเลยบอกให้เขาเรียกน้องกับพี่เอา

                  เช้าวันต่อมา

                  “พ่อคะ พร้อมแล้วค่ะ^^” วันนี้ฉันยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นพิเศษเนื่องจากโปรเจกต์ค่อนข้างดำเนินไปได้สวยและดูเหมือนจะมีนักธุรกิจอีกหลายๆคนมาร่วมด้วย คนขับรถใช้เวลาไม่นานก็มาถึงคฤหาสน์สุดหรูออกแบบสไตล์ยุโรป ฉันกับพ่อเดินเข้าไปข้างในก็เจอชายอายุไล่เลี่ยกับคุณพ่อของฉันนั่งอยู่ตรงห้องโถงสุดอลังการ แต่ยังไงบ้านฉันอลังการกว่าย่ะ (อิจฉาเขาสินะ)

                  “ว่าไง โจเซฟ มานั่งก่อนๆ” คุณวินเซนด์พูดขึ้นเมื่อเจอเราสองคน

                  “สวัสดีค่ะ คุณวินเซนด์ หนูชื่อ ชิโลห์ค่ะ^^” ฉันยกมือไหว้และยิ้มแย้มแบบตื่นเต้นสุดๆดูเขาจะเป็นนักธุรกิจที่ดีหรือก็คือ คนแก่อารมณ์ดีนี่เอง

                  “สวัสดีจ่ะ ^^

                  “ไง นายบอกอยากเห็นลูกสาวฉันนักหนา พามาแล้วนะ”

                  “ดีแล้วล่ะ จะได้รู้จักกันไว้ ไหนขอดูเอกสารเกี่ยวกับโปรเจกต์หน่อยสิ”

                  “นี่ค่ะ” ฉันพูดพร้อมกับยื่นเอกสารซองสีน้ำตาลไปให้พร้อมกับแฟ้มเอกสารอีกหนึ่งเล่ม แต่อยู่ๆฉันก็ได้ยินเสียงฝีเท้าใครเดินมาจากทางซ้ายมือ ฉันละสายตาจากเอกสารไปมองดูคนตรงหน้า เห้ย! O.O

      “นายปากปีจอ!”  ฉันพูดแล้วทำหน้าโกรธสุดๆ หมดแล้วอารมณ์นักธุรกิจของฉัน เพราะไอ่บ้านี่คนเดียว โว้ยยยยยย โกรธ นึกแล้วก็ยังแค้นไม่หาย หนอยยย ฉันจะแก้แค้นนายแน่! นายปากปีจอทำหน้างงๆหลังจากที่ฉันพูดออกไป แต่ก็ยิ้มให้และหันไปมองพ่อของฉัน

      “สวัสดีครับ คุณลุง ^^” พ่อของฉันรับไหว้และยิ้มให้ แปลก! ทำไมเขาทำเหมือนไม่รู้จักฉัน พูดกับฉันไว้ขนาดนั้นแล้วยังมีหน้ามายิ้มให้พ่อฉันอีกนะ! โว้ยยยยยย อารมณ์เสียเฟ้ยยยยยยยย

      “มะกี้หนูชิโลห์ว่าอะไรนะลูก” คุณวินเซนด์ถามงงๆ

      “อะ เอ่อ...อ้อ พอ ดีว่าอยากกินหอยจ๊อน่ะค่ะ แหะๆ” ฉันพูดแก้ตัวได้น่าเกลียดมากอ่ะ TT แต่

      คุณวินเซนด์เขาก็ไม่ได้ติดใจอะไร

                  “ดูเหมือนหนูจะรู้จักเอ็มเลย เคยเจอกันหรอลูก” คุณวินเซนด์ถามต่อ ฉันมองไปที่นายปากปีจอแต่เขาก็พูดขึ้น

                  “พ่อฮะ ถามอะไรแปลกๆ ผมไม่เคยเจอเธอซะหน่อย ” นายปากปีจอ! จำฉันไม่ได้! หรือว่าโดนปลาวาฬงับหัวจนสมองเสื่อมอ่ะ ก็ดีแต่ทำไมไม่งับให้ตายไปเลย เหอะไอ่สมองขี้มดเอ้ย

                  “อ้าวเรอะ โอเคๆ ไปตามเอ็นมาได้ละให้แขกมารอได้ยังไงเสียมารยาท” คนแก่ใจดีพูดพร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อยใส่ลูกชาย

                  “ได้ฮะ ขอตัวแปปนึงนะฮะ^^” นายปากปีจอมันบ้ารึป่าวอ่ะ ยิ้มหน้าบานเป็นจานบินเลยนะ ผิดปกติจริงๆ! หรือว่ามันยิ้มเยาะเย้ยฉัน ที่ทำให้ฉันเสียฟอร์ม โว้ยยยยยยยยย ฉันอยากจะสับนายให้เละแล้วโยนลงบ่อขี้ให้กลายเป็นอาหารของแบคทีเรียจริงๆเลย!

                  “ชิลห์ ชิลห์ ได้ยินพ่อมั้ยลูก?” พ่อฉันพูดแล้วโบกมือไปมาข้างหน้าฉัน

                  “ฮะ เอ่อ ค่ะ นั้นเรามาคุยกันต่อเถอะค่ะ^^” หลังจากนั้นเราคุยเรื่องธุรกิจได้สักพักชายหนุ่มสองคนที่หน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกันสุดๆก็ปรากฏตัวขึ้น เอ้ะ! หรือว่าคนที่ฉันด่ามะกี้ จะเป็นพี่น้องฝาแฝดของนายปากปีจออ่ะ! นายปากปีจอทำหน้าอึ้งๆไม่แพ้ฉัน หึๆ นายเสร็จฉันแน่ๆ!(แอบทำหน้าโรคจิต)

                  “มาแล้วหรอ มานั่งนี่สิ ฉันจะแนะนำลูกชายฉันให้รู้จัก คนนี้โอเล็นลูกชายคนโตของฉัน ส่วนคนนี้โคเอ็มลูกชายคนเล็ก” หมดอารมณ์ค่ะ หมดจริงๆ ด่าผิดคน โอ้ยยยยยยยย ฉันมองหน้านายปากปีจอด้วยอารมณ์ฉุนสุดๆ 

                  “คุณลุงคะ บ้านคุณลุงมีหอยจ๊อมั้ยคะ พอเห็นหน้าลูกชายคนโตของคุณลุงแล้วอยากกินมากเลยค่ะ^^” จัดไปหนึ่งดอก หึ!

                  “ขอโทษที พอดีบ้านฉันไม่ใช่ร้านขายอาหารตามสั่ง ไม่มีหอยจ๊อหรอกนะ ถ้าอยากได้ก็ไปบดหอยกินเองสิ!” โว้ย ไอ่บ้า ปากทำด้วยอะไรฮะ! คนแก่ใจดีมองพวกเราแบบตกใจปนงงๆแล้วถามขึ้น

                  “สองคนรู้จักกันด้วยหรอเนี่ย”

                  “ไม่ค่ะ/ไม่ครับ” ฉันกะนายปากหอยจ๊อ(ขอเปลี่ยนฉายา)พูดขึ้นพร้อมกัน

                  “อะ อ้อ สองคนนี้อยู่โรงเรียนเดียวกันนี่นะ^^*” ลุงวินเซนด์พยายามพูดสงบศึก

                  “คุณลุงคะ นั้นชิลห์ขอไปเดินเล่นในสวนได้มั้ยคะ พอดีไม่อยากอยู่แถวนี่น่ะค่ะ” ฉันพูดแล้วปรายตาใส่นายปากหอยจ๊อ

                  “นี่ๆ อย่าเดินไปเรื่อยล่ะ เดี๋ยวสวนจะรก!” แง้ ไอ่บ้า ว่างๆฉันจะเอาบาซูก้ามาถล่มบ้านนาย!

                  “เดี๋ยวมานะคะพ่อ คุณลุง” ฉันก้มหัวเป็นเชิงอนุญาตแล้วเดินออกมา เชอะ!

                  “บ้านไม่ใช่ร้านขายอาหารตามสั่งนะ เดินดีๆเดี๋ยวสวนรก โว้ย ไอ่บ้า ฉันคนนะไม่ใช่บับฟาโล่ ไอ่ปากหอยจ๊อ!” แต่แล้วฉันก็หยุดกึกทันทีเมื่อเดินเข้ามาในสวนแล้วรู้สึกเหมือนมีคนตามมา เมื่อฉันหันไปก็เจอกับ

                  “นายหอย..เอ้ย โคเอ็ม” ขอโทษนะที่มะกี้นายรับสายตาอาฆาตแทนพี่นายไปเต็มๆ

                  “ผมเอง ^^ พอดีว่าผมกลัวเธอหลงทางน่ะ ก็เลยเดินตามมา” จ้ะ ขอบคุณมาก นี่ก็อีกคน! ฉันไม่ใช่เด็กปัญญาอ่อนที่อมนิ้วหัวแม่ตรีนตัวเองนะเฟ้ย อะไรจะจำทางไม่ได้ขนาดนั้น ฉันไม่พูดอะไรแล้วเดินไปนั่งที่ม้านั่งยาวๆ แล้วเขาก็ตามมานั่งข้างๆ

                  “เธอรู้จักพี่ชายผมหรอ” เขาถามขึ้น

                  “ก็ไม่เชิงหรอก จริงๆถ้าเป็นไปได้ฉันไม่อยากรู้จักเลยล่ะ!

                  “ดูเหมือนเธอจะไม่ชอบพี่ชายผมแฮะ นั้นก็ชอบผมแทนก็ได้นี่นะ ^^” เย้ย! อะไรของเขา บ้าทั้งคู่ทั้งพี่ทั้งน้อง แต่ยังไงน้องก็ดีกว่าพี่อ่ะนะ

                  “บ้า พูดอะไรของนายฮะ! - - (แอบเขิน)”

                  “ผมไม่ได้บ้านะ แต่เธอหน้าแดงอ่ะ ^^” แง้มมม ไอ่บ้า ไม่ต้องพูดฉันก็รู้เฟ้ยยย ก็ปกติฉันไม่เคยโดนใครพูดแบบนี้ด้วยนี่!

                  “นี่ อยู่เงียบๆเป็นมั้ยฮะ!” ฉันตะคอกใส่เขาเล็กน้อยแก้เขิน แต่เขาคอตกไปเลยอ่ะ รู้สึกผิด (รู้สึกเป็นด้วยหรอ)

                  “ละ..แล้วนายอายุเท่าไหร่ล่ะ” ฉันแกล้งถามเพื่อจะได้ไม่รู้สึกผิด แต่เขากลับยิ้มเหมือนเด็กได้ลูกอม

                  “อ่า ถ้าปีนี้ผมก็อายุ16แล้วล่ะ แล้วเธอล่ะ”

                  “เท่ากัน”

                  “ว้าว เยี่ยมเลย!

                  “เยี่ยมอะไรของนาย” เขามองหน้าฉันแบบแปลกๆก่อนที่จะเขยิบใบหน้าเข้ามาใกล้ๆฉัน ฉันถอยหลังหนีทันที

                  “ผมว่านะ....ผมคงชอบเธอแล้วล่ะ” 

                   “ห้ะ! เดี๋ยวนะ มะ..เมื่อกี้ นะ..นายพูดว่าอะไรนะ?!

                “ผมบอกว่า ผมชอบเธอ น่ะ” เขาพูดแล้วก็ยิ้มจนตาหยี น่ารักง่ะ เย้ย เผลอคิดอะไรไปฟะเนี่ยยยย

                  “เอ่อ....” เกิดอาการพูดไม่ออก บอกไม่ถูก ตูดไม่มี มี๊มี๊มี๊ (มันคือ? - -) พอเขาเห็นฉันเกิดอาการเป็นใบ้ชั่วขณะจิต เขาก็พูดขึ้น

                  “แหะๆ ขอโทษที ผมทำเธอตกใจสินะ สงสัยผมพูดอะไรเร็วไปหน่อย”  เอ่อ ฉันว่าไม่หน่อยแล้วอ่ะเร็วโคตะระจ้ะ - - ผู้ชายอะไรฟะ เจอกันแปบเดียวก็บอกชอบละ ไม่ติดว่าเขาน่าตาดีฉันคงกระโดดถีบแล้วเพราะว่า....เขิน อิอิ

                  “.....”

                  “เงียบแบบนี้สงสัยเธอคงรับไม่ได้ ไม่เป็นไร ผมก็ไม่ได้หวังอะไรมากหรอก เธอคงคิดว่าผมใจเร็วสินะ แต่ไม่ต้องห่วงถ้าเธอไม่ชอบผมยังไงมันก็ไม่กระทบกับธุรกิจของพ่อเธอกับพ่อผมแน่นอน เพราะผมไม่เอาเรื่องแบบนี้ไปเกี่ยวกับงานอยู่แล้วล่ะ ^^” เขาพูดออกมาเป็นชุดประดุจหนังตอนของแฮรี่พอร์ตเตอร์แต่ก็ดูมีเหตุผลแล้วก็สุภาพเอามากๆ ถ้าชั้นบอกว่าฉันก็รู้สึกดีนิดๆ นิ๊ดดดดเดียวจริงๆนะ  มันจะดูไม่ดีรึป่าวง่ะ

                  “ไม่ใช่รับไม่ได้หรอก.....แค่งงๆอยู่น่ะ”

                  “เอ๋....นั้นก็แปลว่า....ผมชอบเธอได้งั้นสิ” เขาพูดพร้อมกับใบหน้าที่ดูมีหวังสุดๆ แล้วอย่างงี้ฉันจะปฎิเสธได้ไงเล่า?!

                  “ก็ไม่เชิงแต่ก็...คงงั้นมั้ง”

                  “เฮ้อ ค่อยยังชั่ว ผมนึกว่าเธอจะด่าผมซะอีก”

                  “ใครจะทำอย่างงั้นเล่า เสียความรู้สึกหมดน่ะสิ” จริงๆแล้วคนเราน่ะต้องรู้สึกดีอยู่แล้วที่มีคนรู้สึกดีๆกับเรา จะพูดปฎิเสธแบบนั้นไปมันคงเป็นการกระทำที่โหดร้ายไปหน่อยนะ เหมือนพี่ชายนายน่ะ เชอะ!

                  “อ่า เธอห่วงความรู้สึกผมด้วยแฮะ ฮิฮิ ^^

                  “เดี๋ยวป๊าบเข้าให้ ใครห่วง ขี้โม้จริงๆ”

                  “อ้าวหรอ ผมนึกว่าเธอห่วงผมซะอีกอ่ะ TT” คิดเองเออเองจริงๆ

                  “อืม จะว่าไป นายกับพี่นายหน้าเหมือนกันมากๆเลยเนอะ ถ้าวันนี้นายแต่งตัวเหมือนพี่ชายนายนะ ฉันคงจำไม่ได้แน่ๆ”

                  “นั้นผมจะบอกอะไรให้ ผมมีแผลป็นที่ไหล่ซ้าย นั่นคงจะแตกต่างจากพี่ผมล่ะนะ ถ้าเธออยากเห็นเธอคงต้องถอดเสื้อผมดูล่ะ ฮ่าๆ”

                  “บรึ๋ยย ฉันไม่โรคจิตแบบนั้นหรอกเฟ้ย แล้วแผลนายไปโดนอะไรมา” เขาเงียบไปสักพักทำหน้าเหมือนกำลังคิดหนัก

                  “เอ่อ...ถ้าไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอกก็ได้ฉันไม่ได้อยากรู้ขนาดนั้นหรอก”

                  “ไม่ๆผมอยากบอกเธอ แต่คิดอยู่ว่าจะเริ่มจากตรงไหน เธอเป็นคนพิเศษนะ ไม่บอกได้ยังไงล่ะ  ^^   อืม.... ตอนนั้นผมอายุแค่สิบเอ็ดขวบ แม่ผมไปดูการก่อสร้างของพ่อเพราะวันนั้นพ่อผมเป็นไข้เลยไปไม่ได้ ผมเลยขอไปด้วย ระหว่างที่แม่ผมดูงานอยู่ผมหันไปเห็นเหล็กเส้นใหญ่ๆกำลังจะหล่นลงมาตรงที่แม่ผมยืนอยู่ ผมเลยวิ่งเข้าไปดึงแม่ออกมาดีที่แม่ผมไม่เป็นอะไรแต่ผมรู้สึกเจ็บๆที่ไหล่มาดูอีกทีเป็นแผลลึกเลย คงจะกระแทกกับบรรไดช่างก็เลยเป็นแผลป็นนี่ล่ะ”

                  “โห นับถือๆเจ๋งจริงๆ”

                  “เป็นใครๆก็ทำทั้งนั้นแหละ เห็นคนที่เรารักอยู่ในอันตรายทำไมจะไม่ช่วยล่ะ”

                  “นั่นสิ เป็นฉันก็ทำงั้นเหมือนกัน” หลังจากนั้น บรรยากาศก็เงียบลงเหมือนซาฟารีเวิด์ล(ซาฟารีมันเงียบตรงไหนฮะ?) ฉันก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี

                  “ว่าแต่ วันพรุ่งนี้เธอว่างรึป่าวล่ะ” อยู่ๆเขาก็ถามขึ้น

                  “อ้อ วันอาทิตย์ขอคิดก่อนนะ ถ้าไม่นับเวลาอ่านหนังสือตอนเช้า ก็ว่างยาวเลย ทำไมหรอ”

                  “ผมว่าผมจะชวนไปเที่ยวน่ะ ผมเพิ่งกลับมาจากอังกฤษ ยังไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนเลย ผมให้เธอพาผมไปเที่ยวตามใจเลย” คือให้ฉันเป็นไกด์นำเที่ยวนายสินะ

                  “อืมมมมม(ทำท่าคิดหนัก).....ก็ได้ เพราะยังไงพ่อฉันก็สนิทกับพ่อนาย ช่วงนี้ฉันก็ไม่ได้ไปเที่ยวไหนเท่าไหร่ นั่งทำหน้าหมูอยู่บ้านทุกวันเนี่ย”

                  “ฮ่าๆๆๆ หน้าหมู เหมือจริงๆด้วย”

                  “อะไรฮะ ฉันเปรียบเทียบเฟ้ย ไม่ได้ให้มาดูว่าหน้าฉันเหมือนหมูมั้ย นายก็เหมือนกันหน้าเหมือนหมีเลย!

                  “งั้นหรอ โฮกกกกกกก”

                  “ก๊ากกกก นายทำเสียงอะไรของนายเนี่ย” เสียงโคตะระฮาเลยอ่ะ 555555555

                  “อ้าว ก็เสียงหมีไง โฮกกก เธอไม่เคยได้ยินหรอ”

                  “ไม่เคยอ่ะ นี่ครั้งแรก ฮ่าๆๆๆ”  จากนั้นเราสองคนก็นั่งหัวเราะกันนานมาก อยู่ๆฉันก็ได้ยินเสียงคนเดินมาจากด้านหลัง

                  “นี่...ไม่ได้อยากมาขัดจังหวะหรอกนะ แต่พ่อเธอน่ะ ทำธุระเสร็จตั้งนานละ กลับไปได้แล้ว”

                  “แล้วไง ชิ! นายปากหอยจ๊อ ฉันก็จะไปอยู่แล้วย่ะ น้องนายต่างหากคุยกับฉันเอง ช่วยไม่ได้! ฉันพูดพร้อมหยักไหล่แบบไม่แคร์แล้วเบ้ปากใส่

                  “ฮะ ผมคุยกับเธออยู่ฮะพี่ เดี๋ยวเธอก็จะไปแล้วล่ะ นั้นสรุปพรุ่งนี้เจอกันตอนบ่ายนะ” เขาหันมาพูดกับฉันต่อ

                  “โอเค อ้อ นายอย่าลืมซื้อตระกร้อครอบปากมาให้พี่ชายนายด้วยนะ เดี๋ยวจะไปกัดชาวบ้านเค้า” ฉันพูดพร้อมกับปรายตาใส่นายโกเด้ง(คิดชื่อได้เนอะ) ก่อนที่จะเดินออกมา

                  “ฮ่าๆๆๆ อะเค ฮ่าๆๆ”

      “หยุดหัวเราะเลยนะ ไอ้น้องบ้า” ฉันได้ยินเสียงแว่วๆจากนายหอยจ๊อพูดกับน้องตัวเอง หลังจากนั้นไม่นานฉันก็เดินไปถึงห้องโถงห้องเดิม

      “อ้าวลูกมาแล้วเรอะ มาลาวินเซนด์ก่อนเร็ว”

      “สวัสดีค่ะคุณลุง ขอบคุณที่ร่วมธุรกิจกันนะคะ อย่างน้อยก็ยังมีนักธุรกิจดีๆแบบนี้อยู่บนโลก”

      “ไม่ขนาดนั้นหรอกจ้ะ เราก็ชมเกินไป เอ้า ลาล่ะโจเซฟ ว่างๆแล้วมาดื่มชาด้วยกันอีกนะ”

      “ได้ แล้วเจอกัน” หลังจากที่คนแก่สองคนบอกลากันเสร็จ ฉันกับพ่อก็เดินทางกลับบ้านทันทีเพราะดูเหมือนฝนจะตก เมื่อถึงบ้านฉันก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืดกับกางเกงสามส่วนที่ชอบใส่ปกติเวลาอยู่บ้าน

      ฟุบ ~

      อยู่ๆก็มีกระดาษใบนึงตกออกมาจากกระเป๋ากางเกงฉัน ฉันเลยหยิบขึ้นมาดู

                  “อ้อ เบอร์ของนายโคเอ็มนี่” ฉันลืมไปสนิทว่านายนั่นให้เบอร์มาด้วย เพราะจะได้โทรนัดกันได้วันพรุ่งนี้

      คฤหาสน์วินเซนด์

                  “พ่อฮะ ผมตัดสินใจแล้วฮะ ผมจะเรียนโรงเรียนเดียวกับพี่ฮะ” ลูกคนเล็กที่สุดของบ้านพูดขึ้น

                  “ตัดสินใจได้แล้วเรอะ ไม่ต้องรีบก็ได้ พ่อไม่ได้ว่าอะไร”

                  “ฮะ ผมว่าผมจะไปเรียนที่นั่นฮะ จะได้รับส่งง่ายๆด้วย เพราะไปทางเดียวกันกับพี่”

                  “เอางั้นก็ได้ แล้วลูกจะให้พ่อทำเรื่องเมื่อไหร่ล่ะ” ชายผู้เป็นพ่อถามขึ้น

                  “วันพรุ่งนี้เลยฮะ ผมรีบ”

                  “วันพรุ่งนี้เลยเรอะ เร็วไปหน่อยมั้ย อาทิตย์หน้าเป็นไง”

                  “นะฮะ พ่อ ผมอยากเรียนที่นู่นจริงๆ ผมกลัวจะหลุดรายชื่อนักเรียนน่ะฮะ จริงๆเขาเปิดรับนักเรียนตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้วละฮะ”  เขาทำหน้าอ้อนสุดๆและแน่นอนพ่อของเขาแพ้ลูกอ้อนเขาอยู่แล้ว

                  “เอ้า เอางั้นก็ได้”

                  “เย้! ขอบคุณฮะพ่อ ^^

      จริงๆแล้วเขาตั้งใจที่จะเรียนที่เดียวกับเธอต่างหากล่ะ ถ้าเป็นเรื่องโรงเรียนไม่ว่าโรงเรียนไหนเขาก็สอบเข้าได้สบายๆอยู่แล้ว ระดับไอคิว190อย่างเขาไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้หรอก^^

      อยู่ๆน้องชายเขาดันมาชอบเธอซะได้ แล้วเขากับเธอจะลงเอยกันได้ยังไง ติดตามกันต่อนะคะ ^^ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้า

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×