รักนี้คือสัญญา
อันนี้เรื่องที่ 2 นะคะ ช่วยกันเข้ามาอ่านแล้วเม้นท์กันเยอะนะคะ...อิอิ
ผู้เข้าชมรวม
460
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
“รักนี้คือสัญญา(ระหว่างสองเรา)”
วันนี้วันเปิดเทมอวันแรกเราก็ทำเรื่องจนได้เพราะดันไปทำตัวเซ่อซ่าต่อหน้านักเรียนแลกเปลี่ยนคนใหม่ที่มาจากเกาหลีเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนกับเพื่อนสนิทของฉันซะอีก ยัยฝนยัยเพื่อนตัวแสบมาบอกว่าถ้าเขากลับมาแล้วไม่เห็นฉันกับนายนักเรียนแลกเปลี่ยนคนนี้เป็นแฟนกันยัยนี่จะเลิกเป็นเพื่อนกับฉัน ตัดขาดกับฉันและเดิมพันโดยเงิน 3000 และเบอร์ของดาวดังประจำโรงเรียนที่อยู่ห้องเดียวกันชื่อ “เติ้ล วัชรพล อรุณนภา”
ฉันเลยต้องทำตัวตีสนิทกับนายนี่ให้เร็วที่สุดแต่ไม่รู้จะทำยังไงดีใครก็ได้ช่วยที การเริ่มต้นตีสนิทกับนายนี่คือการคุยกับนายนี่แต่วันนี้เป็นวันแรกที่นายนี่จะมาห้อง ม.5.3 เราจัดการเตรียมที่ให้นายนี่นั่งข้างเราพอดี ตอนเช้าหลังเข้าแถวเสร็จเราเดินเข้ามานั่งในห้องด้วยความเหนื่อยจากการเดินขึ้นบันไดและการที่เข้าแถวกลางสนามร้อน ๆ แดดเผา พอเข้ามานั่งที่ครูประจำชั้นก็เดินเข้ามาแล้วบอกว่า
“วันนี้มีนักเรียนแลกเปลี่ยนจากเกาหลีมาเรียนวันแรกชื่อ คิมเทจุน ชื่อไทยชื่อว่า เคน อัครวุฒิ เอี่ยมสำอางค์ เข้ามาได้เลยคิมเทจุน”
พอพูดจบคิมเทจุนก็เดินเข้ามาแล้วพูดว่า
“อันย้ง ฮันเซโย้ คิมเทจุนฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”
หลังจากพูดจบสาว ๆ ทั้งหลายที่อยู่ในห้องก็กรี๊ดกับความหล่อและความน่ารักที่เขามีแต่ยกเว้นฉัน ครูพูดว่า
“หยุดกรี๊ดกันได้แล้ว จะนั่งไหนดีนะ อ๋อ...ไปนั่งข้างนภัสสรไป”
“ครับ”
จากนั้นเคนก็เดินผ่านท่ามกลางสาว ๆ มาจนถึงที่ฉันที่อยู่ประมาณหลังห้อง เคนวางกระเป๋าแล้วหันมามองหน้าฉันพร้อมกับยิ้มให้ ฉันก็เลยยิ้มกลับไปให้ เคนนั่งลงแล้วหันมาถามฉันว่า
“เธอชื่ออะไรนะ”
“ฉันชื่อ แพท นภัสสร จิรพรนภา”
“อ๋อ...ชื่อเล่นชื่อแพท โอเคจำได้แล้ว”
เราทั้งสองคนคุยกันไปเรื่อย ๆ จนครูเข้ามาสอน ชั่วโมงแรกวิชาภาษาไทย ครูก็เลยให้เราสอนเคนเพราะเคนเพิ่งมาใหม่ถึงแม้ว่าจะเป็นคนไทยก็เถอะแต่เคนไปโตที่เกาหลีภาษาไทยก็เลยไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไร เราเลยต้องดูแลใกล้ชิดหน่อยทำให้เราได้เปรียบและมีเคล้าว่าเราจะชนะเดิมพันครั้งนี้ซะด้วย เราสอนเคนทุกวิชาเลยเพราะว่าครูไว้ใจเรามากและเราก็ได้คะแนนมากที่สุดในห้องและทุกวิชาด้วย วิชานี้วิชาสุดท้ายเป็นวิชาประวัติศาสตร์ครูให้ทำรายงานส่งเป็นเล่ม ครูให้เราจับคู่กับเคนเพราะว่าครูไม่ไว้ใจคนอื่น ครูบอกว่าให้ไปค้นรายงานที่ห้องสมุด เราทั้งสองคนเลยเดินไปด้วยกันแต่ระหว่างทางที่เราเดินไปมีแต่สาว ๆ กรี๊ดเคนแต่เคนก็ไม่ได้สนใจอะไร ฉันรู้สึกว่าตอนที่เดินมาจะมีคนซุบซิบกันว่า
“น่าตบยัยนี่จัง เสนอหน้าอยู่ข้าง ๆ คนหล่ออยู่ได้”
เราทั้งสองคนเดินมาถึงห้องสมุดระหว่างทางเราคิดเรื่องที่ยัยพวกนั้นพูดกันเราก็เลยไม่ทันได้ดูทางล้ม เข่าถลอกเคนเลยช่วยประคองมาที่ห้องพยาบาลครูบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก พอทำแผลเสร็จลงมาจากห้องพยาบาลกำลังจะใส่รองเท้า เคนก็พูดขึ้นว่า
“เธอเป็นอะไร คิดอะไรอยู่หรอ ทำไมถึงหกล้มได้???”
“ก็ไม่เป็นอะไรมากหรอกแค่คิดอะไรเพลินไปหน่อยเลยสะดุดพื้นล้มน่ะ”
เราคุยกันไปจนเดินถึงห้องสมุดแต่คาดว่าจะไม่แคล้วจากการโดนกรี๊ดเลยแต่ก็ไม่ถึงกับกรี๊ดออกมาหรอกเพราะว่าอยู่ในห้องสมุดเลยได้แค่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เฉย ๆ ตอนที่เคนเดินผ่าน เรานั่งโต๊ะที่เงียบที่สุดเพราะไม่อยากให้เสียงซุบซิบมากวนสมาธิในการทำรายงาน เราได้รายงานเรื่อง “ประวัติของเทพเจ้าแห่งความรักและความเดียวดาย” เราทั้งสองคนเดินไปทางหมวดประวัติของเทพเจ้า แล้วก็ค่อย ๆ หาไปเรื่อย ๆ เพราะว่าหลังจากพักเสร็จแล้วคาบต่อไปก็เป็นคาบว่างเราเลยค้นหาข้อมูลไปเรื่อย ๆ แต่ติดอยู่ตรงที่ว่านายนี่อ่านหนังสือภาษาไทยไม่ค่อยคล่องเท่าไรทำให้เราต้องหาคนเดียวแล้วก็มาให้นายนี่ช่วยนิดหน่อยแต่นายนี่เก่งคอมพิวเตอร์ฉันก็เลยยกหน้าที่พิมพ์งานให้นายนี่เลย ตอนเย็นเราแยกย้ายกันกลับบ้าน ถึงบ้านแล้วเราก็รีบเดินขึ้นไปบนห้องนอนแล้วปล่อยกายและใจให้หล่นลงไปบนที่นอนแสนนุ่มด้วยความอ่อนล้าสุด ๆ แล้วก็ตกอยู่ในห้วงแห่งภวังค์ เช้าอันแสนสดใส เราเข้าห้องน้ำอาบน้ำ แต่งตัวและทำผมเสร็จสรรพ เราเดินขึ้นไปบนรถเมล์ก็เจอกับเคน แล้วเคนก็ตะโกนเรียกเราดังลั่นรถเมล์มีแต่คนมองเรากับเคนสลับกันไปมาโดยไม่วางตา เราเอามือปิดหน้าเล็กน้อยแล้วเดินมาทางเคนก่อนจะพูดว่า
“นายจะตะโกนทำไมล่ะ นี่มันบนรถเมล์นะไม่ใช่ที่โรงเรียน ทีหลังถ้านายอยากเรียกฉันนายก็โบกมือเรียกก็ได้”
“อือ...เข้าใจแล้วให้โบกมือใช่มั้ย”
แล้วเราสองคนนั่งด้วยกันสักพักก็ถึงหน้าโรงเรียน เดินเข้าไปในโรงเรียนก็มีแต่ผู้หญิงยืนต้อนรับนายนั่นอยู่ ฉันก็เลยรีบเดินเลี่ยงออกมาทันทีแต่ก็ต้องหยุดชะงักลงเพราะมีเสียงผู้ชายคนหนึ่งเรียกฉันไว้
“เอ้า...รีบไปไหนล่ะ รอด้วยสิ”
พอพูดจบเขาก็รีบวิ่งมาด้วยท่าทางที่เหนื่อยมากเพราะว่าทางที่ฉันยืนอยู่กับทางที่เขายืนอยู่ก็ไกลกันพอสมควร
“จะรีบวิ่งมาทำไมกัน นายน่าจะอยู่อีกสักพักให้พวกนั้นกรี๊ดกันให้พอแล้วค่อยมาก็ได้นี่”
“เธอหึงหรอ”
“เปล่าสักหน่อย ทำไมฉันต้องหึงนายล่ะ ฉันแค่เบื่อเสียงกรี๊ดทุกวันเนี่ย”
แล้วเราก็เดินจนถึงห้องเรียนจนได้ พอเดินเข้าไปในห้อง ก็เห็นเพื่อน ๆ กำลังนั่งคุยกันอยู่แต่ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นบนกระดานว่า “ให้เคนเป็นหัวหน้า ให้แพทเป็นรองหัวหน้า” ทั้งสองมองหน้ากันแล้วเดินไปไม่ได้สนใจอะไร พอวางกระเป๋าเสร็จเราก็เดินมาเล่นสักพักแล้วก็ได้เวลาเข้าแถว เรากับเคนเดินไปด้วยกันที่แถวแล้วต้องทำหน้าที่เช็คชื่อคนในแถวให้ครบแล้วเราก็ทำหน้าที่ไปเรื่อย ๆ จน
“แพท...เคน...ระวังข้างหน้า”
แต่ไม่ทันเสียแล้วเราทั้งสองคนเดินชนกันแล้วแพทก็ล้มลงไปกองกับพื้นส่วนเคนยืนอยู่เฉยเหมือนไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลย
“แพทเป็นไงบ้าง เราขอโทษ”
“ไม่เป็นไรหรอก เราเดินไม่ดูเองแหละ”
“ขอโทษนะ ขอโทษจริง ๆ”
“ถ้านายพูดคำว่าขอโทษอีกทีนะ ฉันจะโกรธนาย”
“โอเค ๆ ก็ได้”
แล้วเคนก็ยื่นมือมาให้ แต่แพทปัดมือออกแล้วบอกว่า
“ขอบใจแต่ไม่เป็นไรย่ะ”
แล้วแพทก็ลุกขึ้นเองแต่เคนจับมือแพทเอาไว้แล้วพูดว่า
“เรามีอะไรต้องคุยกันซะแล้วนะ หลังเลิกแถวเจอกันที่ต้นไม้ใหญ่”
พอเสร็จแล้วเราก็เดินมาที่ใต้ต้นไม้ต้นใหญ่ ใต้ต้นไม้เคนนั่งรอเราตรงที่นั่ง เราเดินเข้าไปแล้วพูดว่า
“มีอะไรหรอ เรียกเรามาทำไม”
“เธอเป็นอะไรของเธอพักเนี้ยไม่เห็นร่าเริงเลย”
“เปล่าสักหน่อย ไม่ได้เป็นอะไร อย่าถามมากได้ไหม”
แล้วแพทก็เดินจากเคนไปโดยไม่พูดอะไรสักคำแม้แต่คำล่ำลาก็ตาม
2 อาทิตย์ผ่านมา แพทคอยแต่หลบหน้าเคนตลอดเพราะกลัวว่าสาว ๆ ที่อยู่รอบข้างเคนจะกรี๊ดกันไม่พอแล้วก็เวลาเช็คชื่อตอนเช้าแพทก็จะเดินคนละฝั่งกับเคนตลอด แพทต้องพยายามทำตัวห่างเหินกับเคนมากขึ้นเพราะว่าต้องหวั่นไหวให้เคนเห็น ไม่นานก็มีคนมาบอกว่าชอบเคนแล้วขอเคนเป็นแฟน เคนควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้ากันแม้แต่วันเดียวเลย นั่นก็เป็นอีกเหตุผลนึงที่จะทำให้แพทต้องห่างไกลจากเคนเข้าไปอีก
วันนี้ยัยฝนกลับมาแล้ว เราควรจะดีใจหรือเสียใจดีเนี่ย พวกเราไปรับยัยฝนที่สนามบิน แล้วยัยฝนก็ยืนรอเราอยู่พอยัยนี่เห็นหน้าฉันยัยนี่ก็กระโดดกอดฉันใหญ่ แต่คำแรกที่ยัยนี่ทักฉันคือ “เป็นแฟนกับนักเรียนแลกเปลี่ยนคนใหม่หรือยัง” ฉันอึ้งไปกับคำถามของยัยฝนแทนที่เพื่อน love ได้เห็นหน้าเพื่อน love ทั้งทีก็น่าจะทักกันด้วยคำทักทายสิไม่ใช่มายิงคำถามใส่กันแบบนี้ ยัยเพื่อนบ้าเอ๊ย ยังเห็นฉันเป็นเพื่อนอยู่หรือเปล่าเนี่ย เรากลับถึงบ้านกันสักทีแต่ยัยฝนก็เฝ้าแต่ถามอยู่ได้คำถามเดียว ฉันก็ไม่ตอบอะไรเงียบอย่างเดียว
เช้าวันใหม่ฉันไปโรงเรียนพร้อมยัยฝน พอเดินขึ้นบันไดไปถึงห้องเรียน ยัยฝนก็เอาแต่ร้องเพลงแต่ฉันเงียบอย่างเดียว ยัยฝนเลยถามว่า
“แพท เป็นอะไรมากป่ะ”
“ก็มีเรื่องไม่สบายใจนิดหน่อยน่ะ”
“เรื่องอะไรล่ะ บอกเพื่อน love อย่างเค้าได้ป่ะ”
“อืม...มันจะดีเหรอ เดี๋ยวแกไม่สบายใจเอานะ”
“เออ...บอกมาเหอะ ยังไงเราก็เพื่อนกันนะ”
แล้วแพทก็เล่าทุกอย่างให้ฝนฟังอย่างละเอียดฝนเงียบไปพักนึงแล้วบอกว่า
“เอาเหอะ แล้วแต่แก ทำตามที่ใจตัวเองบอกแล้วกัน ฉันไม่อยากบังคับแกแล้วว่ะ พนงพนันอะไรนั่นลืมไปได้แล้วนะ ไม่ต้องไปจำมัน ถ้าแกต้องทำแล้วมันไม่มีความสุขก็ไม่ต้องทำ”
“ขอบคุณแกมากนะที่แกไม่โกรธฉัน”
“อือ...ยังไงเราก็เพื่อนกัน”
ในที่สุดแพทก็เคลียร์กันฝนจบกัน แล้วก็กลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมแต่แพทก็ยังไม่ได้เคลียร์กับเคนเลยสักที แล้วฝนก็นัดเคนกับแพทให้มาเจอกันโดยนัดไม่ให้ทั้งสองคนรู้ตัว แพทมาเจอกับเคนที่ห้องดนตรีชมรมดนตรีสากล เมื่อทั้งสองเข้าไปในห้อง
“แพท”
“เคน”
แล้วแพทก็เตรียมหันหลังกลับออกจากห้องแต่เคนวิ่งมาจับมือแพทไว้ก่อนแล้วพูดว่า
“แพท...ทำไมต้องหนีหน้าเราด้วย”
“...”
“แพท...เธอพูดอะไรสักคำได้ไหม ฉันไม่ชอบเลยที่เห็นเธอเป็นแบบนี้”
“นายไม่ชอบนายก็ไม่ต้องมายุ่งกับฉันสิ นั่นไงแฟนนายมาแล้ว ฉันไม่อยากให้แฟนนายเข้าใจผิด”
พอพูดจบแพทก็วิ่งออกมาข้างนอกพร้อมกับน้ำตาที่ไหลพรากออกมาอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว แล้วแพทก็พูดว่า
“ทำไมเราต้องเสียใจขนาดนี้ด้วยล่ะ ในเมื่อเรากับเค้าก็ไม่ได้เป็นอะไรกันไม่ใช่หรอ”
แพทวิ่งมาจนถึงสนามฟุตบอลซึ่งเป็นที่ประจำของทั้งแพทและฝน พอฝนเห็นแพทก็ตกใจและวิ่งเข้ามาหาแพทแล้วพูดว่า
“แพท...เป็นอะไรมา เคนทำอะไรเธอ”
“...”
“บอกมาสิแพท เธอเงียบอย่างนี้ฉันไม่สบายใจเลยนะ”
“เปล่า ฉันไม่ได้เป็นอะไร เคนก็ไม่ได้ทำอะไรฉันด้วย แค่...”
“แค่อะไร”
“แค่ไม่อยากให้เขาเห็นฉันตอนที่ฉันหวั่นไหวหรือตอนที่ฉันมีน้ำตาก็เท่านั้นแหละ”
“แพท...นี่เธอชอบเคนเข้าแล้วใช่ไหม”
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่เวลาเจอเคนควงกับสาว ๆ มันทำให้ฉันเจ็บจี๊ดเข้าไปถึงข้างในใจทุกที”
“งั้นถ้าเธอยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ ฉันก็จะให้เวลาเธอคิด 3 วันจนกว่าจะได้คำตอบก็แล้วกัน ถามใจตัวเองให้ดีก็แล้วกันนะ แล้วฉันจะรอคำตอบจากเธอแล้วกันนะเพื่อน lovely ของฉัน”
แล้วฝนก็เดินจากไปแล้วทิ้งไว้แค่เพียงคำถามในการที่จะให้แพทถามใจตัวเองเท่านั้น ทุกคืนแพทเฝ้าแต่ถามตัวเองว่า เรารักเคนหรือเปล่า แล้วเราหวั่นไหวเพราะเคนใช่ไหม ทำไมเห็นเคนควงผู้หญิงคนอื่นเราต้องเจ็บจี๊ดเข้าไปข้างในใจด้วย แต่แล้วแพทก็ได้คำตอบจากใจตนเองว่า แพทรักเคนเข้าแล้วจากความใกล้ชิดระหว่างทั้งสองคน เช้าวันที่ 3 ซึ่งเป็นวันที่แพทต้องให้คำตอบกับฝนว่าใจตนเองคิดยังไง
“ว่าไง เป็นไงบ้างแพทได้คำตอบจากใจตนเองหรือยัง”
“อือ...เราชอบเคน แต่เธอห้ามไปบอกเคนนะเพราะฉันยังไม่รู้ว่าเคนเขาชอบฉันหรือเปล่าแล้วอีกอย่างแฟนเขาก็มีตั้งหลายคน ฉันยังไม่อยากตายเร็วนะ”
“แหมอารมณ์ดีจริงนะ เห็นเศร้าอยู่ได้ตั้งนาน แต่เห็นเธออารมณ์ดีอย่างนี้ฉันก็มีความสุขแล้ว”
“อือ...ขอบใจมากนะเพื่อนที่เป็นห่วง แต่อย่าลืมที่สัญญากันไว้กันแล้วกัน”
“เออ...รู้แล้วน่า”
พอพูดจบเราก็เดินกอดคอกันลงมาเข้าแถวข้างล่างแต่ก็ต้องเจอกับเคนซึ่งเดินตรงมาข้างหน้าแพทพอดี แต่แพทก็เดินหนีแล้วก็เดินหน้าต่อไปอย่างไม่สนใจใยดี เคนเลยสักนิดเดียว
จนมาถึงวันนี้วันที่ซวยสุด ๆ สำหรับแพท แพทกับเคนโดนครูเรียกพบไปที่ห้องพักครูแต่พอไปถึงเมื่อทั้งสองคนเดินมาพบกันที่หน้าห้องพักครู แพทก็เดินหนีแล้วไม่เข้าไปพบอาจารย์ในห้องแต่เคนก็มาจับมือแพทเอาไว้แล้วบอกว่า
“แพท...ทำไมเธอต้องหลบหน้าฉันด้วย”
“...”
“ฉันไม่สบายใจเลยที่เห็นเธอเป็นแบบนี้เลย เรามาคุยกันให้รู้เรื่องเถอะนะ”
“ก็...”
แพทต้องหยุดชะงักไปเมื่อแฟนของเคนมา
“เคน ทำอะไรอยู่หรอ เรากลับบ้านกันเถอะ”
“เดี๋ยวสิ ยังไม่ว่างอยู่เห็นมั้ย”
“นายคงไม่อยากจะฟังคำตอบจากฉันแล้วสินะ เชิญนายกลับบ้านไปพร้อมกับแฟนนายเถอะ”
พอแพทพูดจบ แพทก็เดินจากเคนไปพร้อม ๆ กับน้ำตาที่ไหลพรากออกมาจากตาอันใสซื่อของแพท เธอร้องไห้ไปวิ่งไปอย่างไร้จุดหมายยิ่งวิ่งไปไกลเท่าไรก็ยิ่งเศร้ามากขึ้นเท่านั้น แพทวิ่งไปได้ไกลพอสมควรก็ต้องหยุดวิ่งเพราะแพทเห็นเคนอยู่กับแฟนของตนเองกำลังทำอะไรกันอยู่แล้วแพทก็ทรุดตัวนั่งลงแล้วน้ำตาก็ไหลออกมา ซึ่งขณะนั้นเองฝนก็เดินผ่านมาแถวนั้นเห็นแพทร้องไห้อยู่ก็วิ่งเข้ามาแล้วพูดว่า
“แพทเป็นอะไร”
แพทชี้ไปทางที่เคนกับแฟนกำลังทำอะไรกันอยู่ ฝนต้องหยุดชะงักแล้วเดินเข้าไปกระชากผู้หญิงคนนั้นออกจากเคน แล้วตบหน้าผู้หญิงคนนั้นกับเคนไปคนละที แล้วพูดว่า
“เธอเป็นผู้หญิงภาษาอะไรทำอะไรไม่อายฟ้าอายดินบ้างหรือไง หน้าด้านชะมัด”
แล้วผู้หญิงคนนั้นก็วิ่งหนีไป แล้วฝนก็พูดขึ้นว่า
“นายก็อีกคนนะเคน ไม่เคยรู้เลยหรือไงว่าที่แพทเค้าไม่คุยกับนายเพราะอะไรแล้วนายรู้มั้ยว่าเธอต้องเสียน้ำตาให้กับผู้ชายเลว ๆ อย่างนายเนี่ยกี่ครั้งแล้ว เธอรักนายมาได้ยินมั้ย แพทรักนายมาก”
เคนอึ้งไปกับคำตอบแล้วทรุดตัวลงนั่งด้านตรงข้ามกับแพท แล้วเคนก็เดินมาทางแพทพร้อมกับพูดว่า
“แพท...เคนขอโทษ ต่อไปเคนจะดูแลแพทให้ดีกว่านี้”
“...”
“แพท ยกโทษให้เคนนะ ขอโทษจริง ๆ ถ้าแพทไม่ยกโทษให้เคน เคนจะ...”
แล้วเคนก็วิ่งไปที่ต้นไม้พร้อมกับกำหมัดขึ้นมาแล้วต่อยรัวเข้าไปที่ต้นไม้จนเลือดออกเต็มมือเลย แพทวิ่งเข้าไปหาเคนด้วยความตกใจแล้วจับมือเคนไว้พร้อม ๆ กับน้ำตาที่ไหลพรากออกมาแล้วแพทก็นำมือเคนมาแนบกับแก้มแล้วพูดว่า
“เคนนายจะทำอย่างนี้ให้มันได้อะไรขึ้นมาฮะ”
“...”
“ฉันยกโทษให้นายก็ได้”
“^-^ จริงหรอ ฉันสัญญานะฉันจะดูแลเธอให้ดี ^-^”
แล้วฝนก็เดินเข้ามาบอกว่า
“นายห้ามทำให้เพื่อน lovely ของฉันร้องไห้เด็ดขาดแล้วก็ห้ามทำให้เธอเสียใจเพราะนายอีก นายต้องดูแลเธอให้ดีและสัญญาว่า จะรักเธอตลอดไป”
“ได้สิ ฉันสัญญา”
“ลูกผู้ชายสัญญาแล้วไม่คืนคำเด็ดขาดนะ”
“ผมขอสัญญาด้วยเกียรติของลูกผู้ชายครับ”
แล้วฝนก็เดินจากไป จากนั้นแพทก็ฉีกชายเสื้อแล้วมาพันแผลให้เคน เราทั้งสองคนพากันขึ้นแท็กซี่ไปที่โรงพยาบาลเพื่อทำแผล พอถึงโรงพยาบาลเคนก็พูดขึ้นว่า
“ แพท...เธอต้องอยู่ข้าง ๆ ฉันตลอดไปนะ”
“ได้สิ เพราะยังไงตอนนี้ฉันก็มีแค่นายคนเดียวเท่านั้นอยู่แล้ว แต่ว่านายต้องเคลียร์กับกิ๊กและแฟนของนายทั้งหมดให้เรียบร้อยนะ”
“แน่นอน ฉันจะจัดการให้เรียบร้อย”
“สัญญาแล้วนะ”
“อืม...สัญญา”
ตอนนี้เรากำลังเดินเข้าไปในห้องทำแผล เคนกำมือแพทไว้แน่น แพทก็เช่นกัน พอทำแผลเสร็จแพทก็เดินไปรับยาให้เคนที่ช่องรับยา แล้วแพทก็พูดว่า
“ฉันจะไปส่งนายที่บ้านนะ”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันไปส่งเธอเองดีกว่า เพราะตอนนี้ก็ค่ำแล้วเธอเป็นผู้หญิงเดี๋ยวมันก็ไม่ปลอดภัยหรอก”
“แต่นายเจ็บอยู่นี่”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันไปส่งเธอเอง”
เราขึ้นรถแท็กซี่กลับบ้านกันพอถึงหน้าบ้าน เคนเดินลงมาส่งฉันตรงหน้าประตูบ้านแล้วบอกว่า
“หลับฝันดีนะแพทยิ่งฝันถึงผมจะดีมาก”
“รู้แล้วนายก็เหมือนกันนะ อ้อ...แล้วอย่าลืมกินข้าวกินยาด้วยนะเดี๋ยวจะหายช้า”
“รู้แล้วครับ องค์หญิงของผม”
แล้วแพทก็โบกมือให้เคนก่อนที่เคนจะขึ้นรถแท็กซี่จากนั้นรถแท็กซี่ก็วิ่งไปอย่างเร็วและหายไปไกลลับจากสายตาของแพท แพทเดินขึ้นห้องนอนแล้วก็หลับไป
เช้าวันรุ่งขึ้น วันที่สดใสพร้อมกับจะเผชิญกับสิ่งต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น ขณะขึ้นรถเมล์ไปโรงเรียนแพทก็เจอกับเคนระหว่างทางที่ขึ้นรถเมล์ เราไปไหนมาไหนด้วยกันทุกวันจนเป็นสิ่งที่ธรรมดาสำหรับคนที่พบเห็นทั่วไปในโรงเรียน กินข้าวเราก็ไปกินด้วยกัน เวลาจะทำอะไรก็ทำด้วยกันยกเว้นเรื่องส่วนตัวเฉพาะระหว่างหญิงและชายเท่านั้น 3 อาทิตย์ผ่านมาแล้วที่เราคบกับเคนอย่างจริงจังและเปิดเผย จนมาวันนี้เป็นวันที่ซวยที่สุดสำหรับแพท
คนเดียวเท่านั้น ตอนเช้ามีพวกผู้หญิงแฟนเก่าของเคนมาหาเราบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วยนัดเจอกันที่หลังโรงเรียนตอนเย็นหลังเลิกเรียน
ตอนเย็นหลังเลิกเรียน
“นี่เธอใช่แฟนเคนหรือเปล่า”
“ใช่ค่ะ”
“ยัยนี่เองน่ะหรอแฟนเคน หน้าจืดขนาดนี้เนี่ยนะ”
“ใช่แล้วเธอจะทำไมฉันล่ะ”
“ก็จะทำอย่างนี้ไง”
แล้วผู้หญิงพวกนั้นก็วิ่งเข้ามาตบฉันอย่างไม่ไว้หน้ากัน มีทั้งมือและเท้าที่เข้ามารุมฉัน แล้วใครคนหนึ่งในนั้นก็พูดว่า
“ฉันขอให้เธอเลิกยุ่งกับเคนซะ ไม่อย่างนั้นเธอเจอหนักกว่านี้แน่เพราะนี่แค่ครั้งแรกเท่านั้นนะ จำใส่หัวที่มีแต่ขี้เลื่อยของเธอไว้ด้วย”
“แล้วทำไมฉันต้องเชื่อเธอด้วยล่ะ”
“ก็แล้วแต่เธอสิ แต่ถ้าไม่เชื่อฉันเธออาจจะตายภายในวันสองวันนี้ก็ได้”
แล้วยัยพวกนั้นก็เดินหนีไปอย่างรวดเร็ว ฉันค่อย ๆ พาร่างอันไร้เรี่ยวแรงออกมาจากหลังโรงเรียนแล้วก็มาเจอเคนเข้า พอเคนเห็นฉันในสภาพแบบนี้เขาก็วิ่งเข้ามาอุ้มฉันให้อยู่ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า
“ใครทำอะไรเธอฮะ บอกฉันมานะ บอกมานะแพทฉันจะไปแก้แค้นแทนเธอเอง”
“ก็แฟนเก่านายทั้งหลายไงล่ะ นัดฉันไปเจอที่หลังโรงเรียนแล้วก็รุมฉันจนมีสภาพแบบนี้แหละ”
“ฉันเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอเจ็บใช่ไหม ฉันจะแก้แค้นคืนให้เธอเอง”
“ไม่ต้องหรอก อย่าไปยุ่งกับพวกนั้นดีกว่า”
แล้วเคนก็อุ้มแพทพาไปโรงพยาบาล ตอนนี้สภาพแพทมีแต่เลือดเต็มตัวเคนคอยจับมือแพทอยู่ตลอดเวลา แล้วแพทก็สลบไป พอตื่นขึ้นมาก็พบว่าแพทมาอยู่ในห้องคนไข้ของโรงพยาบาลแล้วก็มีเคนนอนก้มหน้าจับมือของแพทอยู่ข้าง ๆ เธอ พอเธอขยับตัวก็ทำให้เคนตื่นและรู้สึกตัวทันที เคนเห็นแพทฟื้นก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แล้วบอกว่า
“แพทรอเดี๋ยวนะ เดี๋ยวผมไปตามหมอมาก่อน”
“อือ...”
แล้วสักพักเคนก็วิ่งมาพร้อมกับหมอและพยาบาล หมอตรวจเช็คร่างกายจนเสร็จแล้วบอกว่า
“น่าจะให้แฟนคุณพักอีกสัก 2-3 วันนะ เพราะร่างกายยังบอบช้ำอยู่มาก ดูแลแฟนคุณให้ดีนะครับ หมอขอตัวก่อน”
“ขอบคุณค่ะ/ครับ”
พอหมอเดินออกไปจากห้อง เราทั้งสองคนก็คุยกันว่า
“เคนเมื่อกี้หมอบอกให้นายดูแลแฟนนายให้ดีใช่ไหมแล้วใครเป็นแฟนนายกัน”
“ก็เธอไง แฟนฉัน”
“หรอ เพิ่งรู้ว่ารัก”
“อือ...รู้แล้วก็จำให้ขึ้นใจด้วยนะจ๊ะ ดาร์ลิ้งค์”
แล้วเคนก็คอยดูแลแพทมาตลอดเวลาที่อยู่โรงพยาบาลจนแพทออกมาจากโรงพยาบาลก็ยังมาส่งแพทที่บ้านแล้ววันไปโรงเรียนหลังจากที่ออกมาจากโรงพยาบาล เคนก็มารับแพทที่บ้านตอนเช้า ตอนที่มารับ
“ใครให้นายมารับฉันเนี่ย ฉันไม่ได้ขอร้องสักหน่อย”
“อ้าว...เป็นแฟนกันก็ต้องดูแลกันให้ดีสิ ใครจะปล่อยให้แฟนตัวเองมาโรงเรียนคนเดียวทั้ง ๆ ที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลเมื่อวานล่ะจ๊ะ”
แล้วเราก็เดินออกมารอรถเมล์ที่ป้ายรถเมล์ซอยหน้าบ้าน พอรถเมล์มาเคนก็หลบให้แพทเดินขึ้นก่อนแล้วค่อยเดินตาม เรามาถึงหน้าโรงเรียนก็มีแต่คนมองเราทั้งสองคนไม่มั่นใจว่า มองฉันที่เจ็บอยู่หรือว่ามองเคนที่มาประคองฉันอยู่แล้วหมั่นไส้ก็ไม่หมั่นใจเหมือนกัน ตลอดทางที่ผ่านมามีแต่แฟนเก่าของเคนอยู่ตลอดทาง ฉันก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่า ฉันจะโดนรุมอีกรอบนึงรึเปล่า
ห้องเรียน
“อ้าว...ยัยฝนมาแต่เช้าเลยนะยะ”
“แล้วถ้าฉันมาสาย ฉันจะได้เห็นพวกเธอสองคนสวีทหวานกันหรอยะ”
“เคนนายกลับห้องได้แล้วเดี๋ยวก็เข้าห้องสายเก็บกระเป๋าไม่ทันหรอกนะ ฉันอยู่กับยัยฝนได้ ไม่ต้องเป็นห่วง”
“ต้องเป็นห่วงสิ เพราะฉันกำลังจะลงไปข้างล่างแล้ว”
“ฝนอยู่เป็นเพื่อนฉันก่อนสิ จะได้ไม่ต้องรบกวนเคน”
“ไม่ได้ฉันมีนัดข้างล่างเดี๋ยวนี้แล้วตอนนี้ฉันก็สายมากแล้วด้วย เคนอยู่เป็นเพื่อนแพทด้วยนะ ฝากเพื่อนฉันด้วย”
“อือ...ได้เลยจะดูแลให้เป็นอย่างดี”
เคนอยู่เฝ้าฉันแบบที่ว่าอยากได้อะไรให้สั่งเขาเลย เขาทำได้ทุกอย่างแหละ
“เคนทำไมนายต้องดูแลฉันขนาดนี้ด้วย ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วนะ”
“ก็ฉันสัญญากับฝนแล้วก็เธอแล้วนี่ว่าฉันจะดูแลเธออย่างดี”
“แล้วถ้านายไม่ได้สัญญากับยัยฝนว่าจะดูแลฉัน นายจะดูแลฉันอีกมั้ย”
“ก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“นายตอบมาให้ดี ๆ นะ”
“ก็ตอบดีแล้วนี่”
“แต่นายตอบไม่ตรงคำถามนี่ แล้วอย่างนี้นายบอกว่านายตอบดีงั้นหรอ”
“ก็อาจจะดูแลมั้ง ถ้าฉันชอบเธอนะ”
แล้วทั้งสองคนก็เงียบไปพักนึงแล้วก็คุยกันต่อ คุยกันไปเรื่อยจนได้เวลาเข้าแถว เคนค่อย ๆ ประคองแพทลงมาจนถึงข้างล่างแล้วก็มาส่งถึงที่แถวแล้วเวลาเข้าแถวยังมาคอยดูแลข้าง ๆ อีก ฉันว่านายคงจะบ้าไปแล้วไปแล้วแน่ ๆ เลยเคน ฉันไม่ได้ใกล้ตายสักหน่อย
“นี่นายจะบ้าหรอฉันไม่ได้ใกล้ตายนะ”
“ถึงบ้าก็บ้ารักเธอนะ ล้อเล่นน่ะ แค่อยากดูแลเธอให้ดีที่สุดเท่าที่ฉันจะทำได้ก็เท่านั้นแหละ ฉันไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นคนผิดสัญญานะ”
“อือ...นายอยากทำอะไรก็ทำไปเลย”
เคนคอยดูแลแพทตลอดเหมือนเงาตามตัวเลยก็ว่าได้ไปไหนมาไหนก็ไปด้วย จนทุกคนคิดว่าเป็นแฟนกันไปซะแล้ว
วันนี้แพทซวยตั้งแต่เช้าเลย โดนแม่ว่าก่อนออกจากบ้าน แล้วตอนไปถึงโรงเรียนก็ลืมทำการบ้านของครูไหวใจร้ายอีกก็เลยทำให้ไม่ได้ส่งการบ้านของครูไหว กลับบ้านตอนเดินออกมาจากหน้าโรงเรียน แพทเดินมาคนเดียวเพราะเคนต้องอยู่ติวต่อที่โรงเรียน ยัยพวกนั้นมันมายืนรอแพทอยู่ที่หน้าโรงเรียน แล้วแพทก็เดินผ่านพวกมันไปแต่มีใครคนหนึ่งมาดึงมือเธอไว้ ทำให้เธอเซไปข้างหลังชนกับยัยนั่น
“นี่เธอหาเรื่องฉันหรอ”
“เปล่าซักหน่อยก็เธอเล่นดึงฉันไปข้างหลังเองนี่ ฉันก็เลยล้มทับเธอ”
“เธอไม่ต้องมาแก้ตัวเลยนะ”
“ฉันไม่ได้แก้ตัว แล้วเธอมายุ่งอะไรกับฉันอีกเนี่ย”
“ก็แค่มีเรื่องอยากจะตกลงกันหน่อยน่ะ”
“เรื่องอะไรอีกล่ะ”
“เรื่องเคนไง พวกเราได้ข่าวมาว่าเธอคบกับเคนหรอ”
“...”
“ตอบฉันมาสิ”
“ถ้าใช่แล้วจะทำไมล่ะ”
“ก็ไม่ทำไมหรอกแค่อยากให้เธอเลิกยุ่งกับเคนของฉันก็เท่านั้นแหละ”
“ฉันไม่ได้ไปยุ่งกับเคนของพวกเธอเลยนะ เขามายุ่งกับฉันก่อนต่างหาก”
“จริงหรอ ฉันไม่เชื่อหรอก อย่างเคนน่ะนะจะมายุ่งกับผู้หญิงที่แสนจะจืดชืดอย่างเธอ”
“อ้าว...แล้วพวกเธอมารู้ความรู้สึกของเคนได้ยังไงกัน”
“นี่เธอพูดให้ดี ๆ นะอยากมีเรื่องอีกใช่ไหม”
“ก็แล้วแต่จะคิดสิ”
“ตอนนี้ฉันไม่ว่างที่จะมีเรื่องกับพวกเธอตอนนี้ ฉันกลับก่อนนะ แล้วเจอกัน เออ...ว่าแต่ว่าไม่เจอกันน่ะดีแล้ว”
“เดี๋ยวสิ!!!”
หลังจากที่สิ้นเสียงยัยพวกนั้น แพทก็เดินออกไปแล้ว ยัยพวกนั้นจึงพูดขึ้นว่า
“งั้น...ขอร้องเธอไม่ได้ ไปขอร้องเคนแทนดีกว่า”
“แล้วเคนจะยอมหรอ” เสียงคนในกลุ่มเดียวกัน
“ก็ใช้ยัยนี่เป็นตัวประกันสิ พรุ่งนี้ก็จับยัยนี่แล้วก็ทำให้ยัยนี่สลบ เสร็จก็พาไปหาเคนพร้อมกับพวกเรา”
“แผนนี้นี่เลวสุด ๆ เลยว่ะ เพื่อน”
“จะคิดว่าเป็นคำชมแล้วกันนะ”
หลังจากนั้นพวกยัยนี่ก็เริ่มว่างแผนตั้งแต่นัดฉันมาอีกรอบแล้วจัดการทำให้สลบ จากนั้นก็นัดเคนออกมาเจอเพื่อจะให้เคนมาช่วยยัยนี่ แล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามแผน เคนมาหายัยนี่เพื่อมาช่วยฉันจริง ๆ”
“พวกเธอส่งตัวแพทมาได้แล้ว ฉันมารับเธอแล้ว”
“ถ้าฉันให้นายไปง่าย ๆ ก็ไม่ใช่พวกฉันสิ ฉันมีข้อแลกเปลี่ยนกับอิสรภาพของยัยนี่ นายต้องเลิกยุ่งกับยัยนี่เด็ดขาดเลย”
“แล้วทำไมฉันต้องเชื่อคนเลวอย่าพวกเธอด้วย เอาแฟนฉันคืนมานะ”
“ก็ถ้านายไม่ฟังนายก็ไม่ได้แฟนนายคืนไป แล้วยัยนี่ก็จะต้องตายด้วยเนื้อมือของพวกเราทั้ง ๆ ที่นายไม่ได้ช่วยอะไรเลย แล้วหลังจากนั้นเธอก็จะตายต่อหน้านาย นายจะได้อำลาเธอเดี๋ยวนี้เลยไง จะทำตามมั้ย”
ตอนที่ยัยพวกนั้นพูดก็มีคน ๆ นึงในกลุ่มเอามีดมาจี้ที่คอของแพท ทำให้เคนต้องยอมยัยพวกนั้น
“โอเค...ฉันยอมพวกเธอแล้ว” เคนพูดพร้อม ๆ กับน้ำตาที่ไหลพรากออกมาทันที เมื่อเห็นคนที่เรารักต้องตายไปต่อหน้าต่อตาด้วยเงื้อนไขที่บีบบังคับจิตใจกันมาก
“นายยอมแล้วใช่มั้ย งั้นก็ดี ต่อไปนี้นายห้ามมายุ่งกับเธออีก นายต้องมาอยู่กับพวกเรา”
“แล้วพวกเธอจะปล่อยให้เธออยู่อย่างนี้เหรอ นี่ฝนมันจะตกแล้วนะ”
“ฉันไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอกเดี๋ยวฉันจะให้ลูกน้องฉันไปส่งเธอที่บ้านเอง”
“แล้วฉันจะเชื่อเธอได้ยังไง”
“ลูกผู้หญิงอย่างฉันพูดแล้วไม่คืนคำอยู่แล้ว นายก็อย่างลืมสิ่งที่นายแลกกับอิสรภาพของเธอด้วยละกัน”
“ฉันไม่ลืมหรอก เธอต้องดูแลเธอให้ดีเท่าชีวิตของเธอนะ”
แล้วฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก เคนและยัยพวกนั้นวิ่งไปหลบฝนอยู่ที่ใต้ต้นไม้ต้นใหญ่ ส่วนแพทก็นั่งตากฝนอยู่ที่เก้าอี้
“นี่พวกเธอไม่ทำตามสัญญานี่ ไหนบอกว่าจะดูแลเธอให้ดีเท่าชีวิตไง แต่นี่เธอปล่อยให้เขาตากฝนนะ”
“นี่พวกเธอ ออกไปลากตัวยัยนั่นเข้ามาในนี้สิ ก่อนที่เคนสุด love ของฉันเขาจะขาดใจก่อน”
“ค่ะ”
แล้วยัยพวกนั้นก็วิ่งออกไปลากตัวแพทเข้ามา พอใกล้จะถึงใต้ต้นไม้ยัยนั่นก็ผลักแพทให้เข้ามาในร่ม ดีที่เคนรับแพทไว้ทันในอ้อมแขนอุ่น ๆ พอดี เคนบอกว่า
“พวกเธอทำอย่างนี้กับแพทไม่ได้นะ”
“ก็ทำไมพวกเราจะทำ มีอะไรหรือเปล่า”
“ไม่มีอะไรหรอกก็แค่อยากจะบอกว่าเธอผิดคำสัญญากับฉัน”
“ผิดคำสัญญาอะไร ก็ฉันแค่บอกว่าฉันจะไปส่งเธอให้ถึงที่บ้านมันก็เท่านั้น”
“แต่เมื่อกี้ พวกเธอเกือบทำให้แพทหกล้มนะ”
“ไม่ต้องสนใจหรอก แต่ตอนนี้เธอต้องไปกับฉันเดี๋ยวยัยนี่ฉันจะให้ลูกน้องไปส่งเธอเอง”
แล้วเคนก็โดนยัยพวกนั้นลากตัวไปแล้วปล่อยให้แพทยืนอยู่กับยัยพวกนั้น 2 คน เคนค่อย ๆ หายไปไกลลับตาจนมองไม่เห็น ยัยพวกนั้นจับตัวแพทแล้วพาไปที่ไหนสักแห่งก่อนจะลงมือซ้อมแพทจนปางตายแล้วพาไปส่งโรงพยาบาล จากนั้นก็โทรเรียกเพื่อนสนิทของแพทมาซึ่งก็คือยัยฝนนั่นเอง ยัยฝนเปิดประตูเข้ามาในห้องพักคนไข้ของโรงพยาบาลแล้วต้องทรุดตัวลงนั่งกับพื้นพร้อมกับน้ำตาที่อาบแก้มทั้งสองข้าง แล้วยัยฝนก็พูดพึมพรำอะไรสักสักอย่างแต่ประโยคที่ได้ยินชัดที่สุดคือ
“แพท ฉันไม่น่าปล่อยให้แกไปคนเดียวเลย เป็นความผิดของฉันเอง ฉันขอโทษนะ ฉันจะไม่ให้อภัยตัวเองเลย”
แล้วแพทก็ตื่นมาได้ยินคำนั้นพอดี
“ไม่ใช่ความผิดของแกหรอกยัยฝน ทั้งหมดมันไม่ใช่ความผิดของใครทั้งนั้น เป็นความผิดของฉันคนเดียว”
“อ้าว...เป็นไงบ้างเพื่อน”
“นี่ฝนแกร้องไห้เหรอวะ”
“เปล่าสักหน่อย” ฝนพูดพลางบาดน้ำตาที่เลอะเปื้อนใบหน้าของเธออยู่
“ฝนแกไม่ต้องเสียใจหรอกนะ เดี๋ยวฉันก็ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ว่าแต่เคนอยู่ไหนล่ะ”
“ไม่รู้ดิ แล้วแกจะถามทำไม”
“ก็ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่สงสัยว่าเขาหายไปไหน”
..เธอรักฉันประชดใคร ไม่ดีเลยนะเธอ อย่าทำแบบนี้เลยแบบนี้ไม่เข้าใจ.....
เสียงโทรศัพท์ของฝนดังขึ้น แล้วฝนก็รับโทรศัพท์
“ฮัลโหล”
“@#$%!!
@#$%!!”
“ได้ ๆ เดี๋ยวไปนะ”
หลังจากที่ฝนวางโทรศัพท์
“แพท ฉันกลับก่อนนะ พอดีว่ากิ๊กโทรมาตาม”
“เออ...ว่าแต่แกมีกิ๊กตั้งแต่เมื่อไหร่วะ”
“เดี๋ยวเล่าให้ฟังแล้วกันนะเพื่อน love บ๊าย บาย จ้ะ”
แล้วฝนก็วิ่งออกไปจากห้อง ฝนไปเที่ยวกับกิ๊กที่ห้างแล้วก็ไปเจอเคนกับยัยปิ๊ง(แฟนเก่า) กำลังซื้อของให้กันอยู่ที่ร้านกิ๊ฟช็อปในห้าง พอฝนเห็นฝนก็เดินเข้าไปตบหน้าเคนอย่างแรงแล้วบอกว่า
“นี่เคน นายทำอย่างนี้กับเพื่อนฉันได้ไง เพื่อนฉันโดนรุมทำร้ายจนต้องเข้าโรงพยาบาลแต่นายกลับมาเสวยสุขอยู่กับแฟนนายอย่างนี้เนี่ยนะ นายไม่ใช่ลูกผู้ชายนี่ ไอ้สารเลว”
ฝนรีบเดินออกมาจากห้างโดยมีกิ๊กเดินตามหลังมา เคนยืมอึ้งกับคำพูดของฝนแล้วหันไปพูดกับยัยปิ๊ง
“นี่ปิ๊ง ไหนเธอบอกว่าเธอจะไปส่งเขาให้ถึงที่ไง”
“ก็ถึงที่ไม่ใช่หรอ ที่โรงพยาบาลต่างหากล่ะ”
“แต่ที่เธอสัญญากับฉัน เธอบอกว่าเธอจะไปส่งแพทให้ถึงบ้านไม่ใช่หรอแล้วนี่ทำไมเป็นแบบนี้ฮะ” เคนตะโกนใส่ยัยปิ๊งอย่างดังจนคนที่เดินผ่านไปผ่านมามอง
“นี่นายทำไมต้องตะโกนด้วยล่ะ”
“ก็เธออยากผิดสัญญาเอง แล้วทุกอย่างที่ฉันทำฉันก็ต้องฝืนทำด้วยไม่ใช่เต็มใจ เธอไม่เคยอยู่ในสายตาฉันเลย เข้าใจมั้ย ไม่เคยเลยจริง ๆ”
“สงสัยนายคงอยากให้แฟนนายเจ็บหนักมากกว่านี้ล่ะมั้ง”
“ก็ได้ ฉันจะไม่พูดตะโกนใส่เธออีกก็ได้ แต่ฉันขอไปดูแพทที่โรงพยาบาลได้มั้ย ฉันอยากไปดูว่าเธอเป็นยังไงบ้าง”
“นายอยากไปไปสิ แต่แค่ 5 นาทีเท่านั้นนะ ฉันจะรออยู่ข้างหน้าโรงพยาบาล”
แล้วเคนกับยัยปิ๊งก็เดินไปเรียกรถแท็กซี่ จากนั้นก็ไปที่โรงพยาบาล
“เคนนายรีบไปรีบมานะ ฉันจะรออยู่ข้างล่าง เสร็จแล้วฉันจะไปเที่ยวต่อ”
“อืม”
เคนวิ่งขึ้นลิฟต์ไปถึงชั้น 5 แล้วเดินต่อไปที่ 502 ด้วยความรวดเร็ว พอเปิดประตูเข้าไปก็เจอแพทกำลังหลับอยู่บนเตียง เคนค่อย ๆ เดินเข้ามาหาแพทก่อนที่จะนั่งลงบนเก้าอี้พร้อมกับน้ำตาที่ค่อย ๆ รินไหลออกมาจากตา
“แพทวันนั้นผมไม่น่าปล่อยคุณให้อยู่กับยัยพวกนั้นเลย ฮือ...ฮือ ผมขอโทษนะ” เคนพูดพร้อมกุมมือแพทเอาไว้ เสียงโทรศัพท์ของเคนดังขึ้น
.....อยากบอกว่ารักใจจะขาด รักใจจะขาด แต่มันต้องห้ามใจไว้ให้ได้....
“ฮัลโหล”
“นี่นายเสร็จรึยังเนี่ย ฉันรอนานแล้วนะ”
“เออ...เดี๋ยวลงไป”
“เร็ว ๆ นะ”
ตู๊ดด ตู๊ดด ตู๊ดด
“นี่นายกล้าตัดสายทิ้งใส่ฉันงั้นหรอ”
ยัยปิ๊งวิ่งไปที่ประชาสัมพันธ์
“คุณพยาบาลคะ ไม่ทราบว่าคุณนภัสสรพักอยู่ห้องไหนคะ”
“ห้อง 502 ค่ะ เดินไปขึ้นลิฟต์ทางด้านนู้นอยู่ชั้น 5 ค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ”
ปิ๊งวิ่งไปขึ้นลิฟต์
ติ๊ง...
“ถึงชั้น 5 แล้วหรอเร็วจัง”
ปิ๊งวิ่งไปเรื่อย ๆ จนถึงห้อง 502 ปิ๊งเปิดประตูเข้าไปเจอเคนอยู่กับแพทกำลังจับมือกับอยู่
“เคนนี่เธอทิ้งฉันตั้งนานเพื่อมาอยู่กับยัยหน้าจืดเนี่ยนะ เธอไม่ควรปล่อยให้แฟนเธอรอนาน ๆ นะ”
“ใครแฟนเธอล่ะ ลงไปรอข้างล่างก่อนไป”
“ถ้ายัยหน้าจืดนี่เป็นฉัน นายก็คงไม่ปล่อยให้เธอรอนานอย่างนั้นสิ”
“ใช่”
“งั้น...ยัยนี่ก็คงมีความสำคัญกับนายมากสินะ”
“ก็ใช่อีกนั่นแหละเพราะแม้ชีวิตฉันก็ให้เธอได้”
ยัยปิ๊งเดินเข้ามาด้วยความโกรธ พอมาถึงเตียงก็กระชากผมแพทอย่างแรง ตบหน้าแพท เคนเดินเข้ามาห้ามเมื่อเห็นสีหน้าของแพทที่เจ็บปวดมาก
“นี่เธอทำอะไรของเธอน่ะ เธอเป็นบ้าไปแล้วรึไงฮะ”
“นี่นายเห็นยัยนี่สำคัญกว่าฉันใช่มั้ย”
“ถ้าเธอทำอะไรแฟนฉันแม้แต่นิดเดียวนะ เธอตายแน่”
“นี่แฟนนายหรอ ฉันเพิ่งรู้”
“กรุณาจำใส่สมองของเธอเอาไว้ด้วยนะ”
“งั้นนายเตรียมตัวรับความเจ็บปวดเอาไว้ได้เลย”
แล้วยัยปิ๊งก็เดินออกไปจากห้องด้วยความโกรธและโมโหมาก ในห้องพักผู้ป่วยตอนนี้มีแค่เคนกับแพทอยู่สองคน แพทน้ำตาซึมทันที
“แพทคุณเป็นไงบ้าง เจ็บมากมั้ย”
“ฮือ...ฮือ”
“โอ๋...โอ๋ อย่าร้องไห้เลยนะ คนดีของผม”
“แล้วนายมากับยัยนั่นได้ไง”
“ก็แค่เจอกันกลางทางเท่านั้น”
“เหรอ”
“แพทพักผ่อนเยอะ ๆ นะ”
“อือ แต่ถ้าฉันตื่นมาฉันต้องเห็นหน้านายเป็นคนแรกนะ”
“แน่นอนจ้ะ ที่รักของผม”
แพทตื่นมาก็พบเคนนอนอยู่ข้างเตียงด้วย กุมมือเธออยู่ เธอยิ้มเมื่อเห็นเช่นนั้น หลังจากนั้น 2-3 วันเธอก็ออกจากโรงพยาบาลแล้วมาโรงเรียนตามปกติ เธอสงสัยตั้งแต่เดินเข้ามาในโรงเรียนว่าทำไมมีแต่คนมองเธอแบบนั้น พอเธอเดินเข้ามาในห้องเรียน เธอก็เจอยัยปิ๊งกับเคนกำลังคุยกันอย่างสนิทสนม เกาะแขนกันเหมือนกับแฟนกัน
เธอตัดสินใจที่จะไม่เดินเข้าไปในห้องแล้ววิ่งลงมาจากอาคารด้วยน้ำตาที่ไหลพรากลงมา เธอมาหลบอยู่ข้างหลังอาคารเรียนแล้วนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่คนเดียว
ฝนเดินเข้ามาในโรงเรียนแล้วเดินไปที่ห้องก็ไม่พบกับแพท ฝนเดินตามหาแพทเรื่อย ๆ จนมาพบกันคนที่นั่งร้องไห้อยู่หลังอาคารเรียน
“นี่เธอเป็นอะไรมากรึเปล่า”
“ฝนช่วยเราด้วย ฮือ...ฮือ...”
“เธอเป็นอะไรแพท ใครทำอะไรเธอหรือว่ายัยพวกนั้นมันมารังแกเธออีก”
“เปล่าหรอกไม่มีใครทำอะไรฉัน ฝน...เคนกับยัยปิ๊งเป็นอะไรกัน”
“ก็...ก็”
“ก็อะไรล่ะ”
“ก็เราได้ยินข่าวมาจากเพื่อน ๆ ยัยปิ๊งน่ะสิว่า เคนยอมคบกับยัยปิ๊งแล้ว...แล้ว”
“แล้วอะไร”
“แล้วเธอก็เป็นยัยโง่อยู่คนเดียวน่ะสิ แพท”
แพทไม่พูดอะไรสักคำ เอาแต่ร้องไห้อย่างเดียวเลย
“แพทเธอไม่เป็นอะไรมากใช่ไหม”
“อือ...ไม่เป็นอะไรแล้ว เราไปเรียนกันเถอะ”
เมื่อมาถึงห้องเรียน
“ขออนุญาตเข้าห้องค่ะครู”
“เข้ามาได้เลยจ้ะ”
“ขอบคุณค่ะ”
แล้วแพทก็เดินไปที่ที่นั่งของตัวเองที่อยู่ข้างเคน ตอนเดินไปเขายิ้มให้เธอแต่เธอก็ทำหน้าเฉย ๆ เธอขยับโต๊ะออกมาให้ห่างจากโต๊ะของเคนพอสมควรแต่เคนจะดึงโต๊ะเธอกลับ
“เอาโต๊ะมานั่งข้าง ๆ ฉันเดี๋ยวนี้”
“ทำไมล่ะฉันไม่ได้เป็นอะไรกับนายสักหน่อยทำไมฉันต้องฟังนายด้วย”
แพทพูดพลางนั่งลงที่เก้าอี้ข้าง ๆ ฝน ในเวลาเรียนแพทไม่ได้ฟังที่ครูพูดเพราะภาพของยัยปิ๊งกับเคนเมื่อตอนเช้ายังวนเวียนอยู่ในสมองของเธอตลอดเวลาและคำพูดที่ฝนบอกเธอ พอหมดภาคเช้าได้เวลากินข้าว
“แพท เราไปกินข้าวกันเถอะ”
“...”
“แพท แพท เธอฟังที่ฉันพูดมั้ยเนี่ย”
“อืม...ว่าไงนะ”
“เธอยังคิดเรื่องเมื่อเช้าอยู่ใช่มั้ย”
“เปล่าสักหน่อยไม่ได้คิด”
“แพทแกอย่ามาโกหกฉันดีกว่า ฉันรู้น่า”
“...”
“ไปกินข้าวกันเหอะ หิวแล้ว”
“อือ”
แล้วทั้งสองคนก็เดินมากินข้าวที่โรงอาหาร พอทั้งสองคนซื้อข้าวเสร็จก็จะมานั่งกินที่โต๊ะ แพทเจอเคนกับยัยปิ๊งนั่งกินข้าวกันอยู่สองคน ป้อนข้าวให้กัน แพทเห็นเช่นนั้น ทำให้จานข้าวที่แพทถือมาหล่นจากมือ เคนที่อยู่ในโรงอาหารมองมาเต็มไปหมด เคนกับยัยปิ๊งก็เช่นกัน เคนเห็นแพทก็ลุกขึ้นยืนแต่ไม่ทันซะแล้วเพราะ
แพทร้องไห้แล้ววิ่งไปที่หลังอาคารเรียนที่เดิมเหมือนตอนเช้าแล้วฝนยังยืนดูสองคนนั้นอยู่ว่าจะทำยังไงต่อไปอีก เคนวิ่งตามแพทไปแต่โดนฝนดึงแขนไว้ก่อน
“นายทำบ้าอะไรของนาย
“เดี๋ยวนะฝน ฉันขอตามแพทไปก่อนได้มั้ย”
เคนวิ่งตามแพทไปที่หลังอาคารโรงเรียน เคนพบกับแพทที่นั่งก้มหน้ากอดเข่าตัวเองอยู่ เขาวิ่งเข้าไปหาแพท พอแพทเงยหน้าขึ้นปุ๊บก็เจอกับเคน เธอกำลังจะวิ่งหนีแต่เคนจับมือเธอไว้ก่อน
“ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ”
“เธอจะไปไหนแพท”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายด้วย”
“เกี่ยวสิ เพราะว่าเธอกำลังเข้าใจฉันผิดอยู่”
“ฉันไม่ได้กำลังเข้าใจผิด แต่ฉันเข้าใจถูกทุกอย่าง นายคงคิดว่าฉันโง่มากสินะที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ฉันรู้หมดทุกอย่างแล้วตั้งแต่นายคบกับยัยปิ๊ง นายคงคิดว่าฉันโง่สิ ฉันโง่...โง่มากด้วยที่ไปหลงรักคนอย่างนายเข้า ตอนที่ฉันอยู่โรงพยาบาล ฉันหวังมากเลยนะหลังจากที่ฉันเข้าห้องทำแผลว่าจะได้เจอกับนายเป็นคนแรกแต่ก็ต้องผิดหวังเพราะคนที่ฉันเจอคนแรกคือยัยฝนแต่ฉันก็ยังโกหกตัวเองว่านายคงติดงาน แล้วตอนที่ยัยปิ๊งมาโวยวายใส่ฉัน ฉันก็เชื่อนายที่นายบอกว่าเจอกันโดยบังเอิญ ฉันโง่มากจริง ๆ”
แล้วแพทก็วิ่งหนีเคนไป
“แพทเดี๋ยวสิ ฟังผมอธิบายก่อน”
“ฉันไม่อยากฟังอะไรจากคนอย่างนายอีกแล้ว ห้ามตามฉันมานะ”
แพทวิ่งหนีไปอย่างไร้ทิศทาง ภาพของยัยปิ๊งกับเคนยังคงวนเวียนไม่ลางเลือนจากสมองของแพท เธอเอาแต่ร้องไห้ ภาคบ่ายก็ไม่ยอมไปเรียน หลายวันแพทไม่เข้าเรียน จน 1 อาทิตย์ผ่านไป แพทก็ยังไม่มาโรงเรียน ฝนจึงตัดสินใจไปหาแพทที่บ้านก็พบว่า แพทไปเรียนต่อที่เมืองนอกแล้วแล้วฝากจดหมายกับแม่บ้านเอาไว้ให้ฝน ฝนเปิดอ่าน
ถึง ยัยฝนเพื่อนรัก
ฝนถ้าแกได้รับจดหมายฉบับนี้ฉันคงจะไปเรียนต่อที่เมืองนอกแล้ว ขอโทษนะที่ฉันไม่ได้บอกแกก่อนเพราะฉันไม่อยากไปเจอหน้าใครบางคน ลาก่อนเพื่อน แล้วเดี๋ยวฉันจะโทรไปหาแกนะ ลาก่อนเพื่อน
เบอร์โทรศัพท์ฉัน 01-0463Xxx อย่าลืมโทรมาคุยกันนะ
จาก แพท นภัสสร
ฝนอ่านจดหมายไปร้องไห้ไป
“เป็นอะไรรึเปล่าคะ คุณหนูฝน”
“เปล่าค่ะ ขอบคุณนะคะสำหรับจดหมาย ไม่ทราบว่า แพทเค้าไปตั้งแต่วันไหนคะ”
“สักสองสามวันที่ผ่านมาเนี่ยคะ”
“ขอบคุณค่ะ”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณหนู กลับบ้านดี ๆ นะคะ”
“ค่ะ”
ฝนเดินกลับบ้านด้วยความอ่อนล้า เช้ามาตอนที่เธอไปโรงเรียน เธอเดินเข้าห้องเรียนก็พบว่า เคนนั่งอยู่ในห้องคนเดียว
“ฝน แพทเป็นยังไงบ้าง ทำไมไม่มาโรงเรียน”
“แล้วเขาจะมาได้ไงเล่า ในเมื่อเขาไม่อยู่ที่นี่”
“แล้วเขาอยู่ที่ไหน”
“เขาไปเมืองนอกแล้ว”
“ไปเมื่อไร ทำไมไม่รู้เลย”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไปตั้งแต่เมื่อไร พอไปถึงก็ได้รับจดหมายจากแม่บ้านบ้านของแพท”
“เธอไปแล้วทำไมเธอไม่บอกเรา”
“ก็เพราะเขาไม่อยากเห็นภาพนายกับยัยปิ๊งกำลังจู๋จี๋กันล่ะมั้ง สงสัยแพทคงจะกลัวว่าเห็นภาพที่เสียดแทงหัวใจก่อนไปล่ะมั้ง”
แล้วฝนก็เดินไปนั่งที่ตัวเอง
“เคนแล้วแฟนนายล่ะ”
“...”
“เคน...เคน”
“หา...เมื่อกี้เธอพูดอะไรนะ”
“เฮ้อ...ตอนเขาอยู่ทำเป็นไม่สนใจแต่พอเขาไปก็อาลัยอาวรณ์อยู่ได้”
ฝนนั่งบ่นอุบอิบอยู่คนเดียว เคนเป็นโรคซึมเศร้าตั้งแต่ที่แพทจากไป
2 ปีแล้วสิที่แพทไม่ได้กลับไปที่เมืองไทยได้แต่โทรคุยกับยัยฝนทางโทรศัพท์อย่างเดียว บางทียัยฝนก็โทรมาแต่บางทีแพทก็โทรไปหา แพทเรียนจบที่นี่แล้วกำลังจะกลับเมืองไทยในวันพรุ่งนี้
เมืองไทย...ยัยฝนมารับแพทพร้อมกับแฟนยัยฝนเองชื่อ “เจ” ดูท่าทางสองคนนี้จะรักกันมากซะด้วย แพท
เดินออกมานอกสนามบินก็เจอกับคนหน้าตาคุ้นเคยคนนึง แต่เธอก็ไม่ได้เอะใจอะไรมากมาย
บ้านแพท...
“อ้าว!!ฝนแฟนแกวะ”
“ฉันให้กลับไปแล้ว”
“ดูท่าทางแกสองคนจะรักกันมากเลยเนอะ”
“ไม่ต้องพูดมากเลยแก แล้วแกล่ะไม่คว้าฝรั่งมาสักคนสองคนวะ”
“ไม่เอาฉันไม่ชอบของฝรั่ง”
“ถึงว่า (เคนเอเชียจะตายไป)”
“ถึงว่าอะไร”
“เปล่า”
“แล้วเคนเป็นไงบ้าง”
“ก็ดี แล้วแกถามทำไม”
“ก็แค่อยากรู้ว่าแกดูแลเขาดีรึเปล่าก็เท่านั้นแหละ”
“ดูแลดีสิ แกรู้รึเปล่าตอนนี้เขากลายเป็นเพลย์บอยประจำโรงเรียนไปแล้วนะ ไปถามในห้องได้เลยถ้าใครไม่เคยเป็นแฟนกับเค้านี่คงจะเป็นเด็กใหม่แน่เลย แต่ยกเว้นฉันกับแกสองคนนี่แหละ”
“แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนล่ะ”
“เขากลับไปเรียนต่อที่เกาหลีแล้ว”
ไม่นานแพทก็หมั้นกับคนที่พ่อแม่เธอหาไว้ให้แล้วเคนก็เป็นคาสโนว่าประจำโรงเรียนไปเลยทั้งที่ไทยแล้วก็ที่เกาหลีด้วย
ความรักเป็นเรื่องที่ไม่เข้าใครออกใครเสมอ กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์มันเอง
ผลงานอื่นๆ ของ รักเทอเสมอแม้เทอจะรักใคร ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ รักเทอเสมอแม้เทอจะรักใคร
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น