ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
ใครบอกว่าโลกใบนี้ไม่ยุติธรรม,,,มันก็ไม่ใช่อย่างนั้นเสมอไปหรอกนะ
ฉันว่าโลกใบนี้ยุติธรรม.... และฉันก็เป็นหนึ่งในคนที่โดนฤทธิ์ความยุติธรรมของโลกใบนี้เล่นงานแล้วล่ะ
ฉันชื่อ ยูซองอึน ซองอึนที่แปลว่าพรจากสวรรค์ ฉันเป็นลูกครึ่งเกาหลี ฮ่องกง อิตาลี เกิดที่อเมริกาตอนที่พ่อแม่ไปทำธุรกิจที่นั้นแล้วคลอดฉันออกมา พออายุได้ห้าขวบก็ถูกส่งกลับบ้านที่ฮ๋องกง และอายุได้สิบขวบ ฉันก็ตัดสินใจเดินทางกลับบ้านที่เกาหลีด้วยตัวคนเดียว เพื่อไปอยู่ดูแลคุณตา คุณยาย
ฉันเริ่มรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมือนคนอื่นตอนอายุสองขวบ ฉันไม่ชอบวิ่งเล่นเหมือนเด็กคนอื่น แต่กลับชอบขลุกอยู่กับกองหนังสือและห้องสมุด ชอบขีดๆเขียนๆ วาดรูปไปเรื่อยตามประสาเด็กคนหนึ่งที่ไม่มีอะไรทำ แรกๆก็วาดเหมือนเด็กคนอื่นๆทั่วไป แต่พอเวลาผ่านไปไม่นานก็เริ่มวาดรูปที่ลงรายละเอียดมากขึ้น และยากขึ้นเรื่อยๆ จำมาจากในหนังสือที่อ่านบ้าง รูปภาพที่แขวนตามผนังบ้าง พ่อกับแม่ก็ชมว่าฉันอาจมีพรสวรรค์ด้านนี้ มันก็คงจะดีถ้ามันหยุดอยู่แค่นี้ แต่มันกับลามไปถึงด้านอื่นๆด้วย ไม่ว่าจะเรียนดนตรีชนิดไหน เรียนเต้นประเภทใด ฉันก็มักจะทำมันได้ดีเสมอๆ แม้กระทั่งการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ใช่แต่งเพลงเอง หรือคิดท่าเต้นเอง ฉันมองว่ามันธรรมดา ก็ทำไมละฉํนจำท่าเต้นได้หมดเมื่อจะดูเพียงครั้งเดียวอาจจะเต้นตามได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ฉันก็จำมันได้หมด หรือแม้กระทั้งการแยกเสียง จำโน๊ต จำทำนอง ฉันก็จดจำมันได้ดี เวลาเต้นหรือเล่นดนตรี ก็แค่ทำตามความรู้สึกของตัวเองมันเลยเกิดเพลงใหม่ขึ้นมา เพลงตามความรู้สึกของฉัน คนรอบๆตัวเริ่มมองว่าฉันแตกต่าง ไม่น่าจะมีเด็กที่ไหนทำได้ ฉันไม่ชอบเล่นกับเด็กคนอื่นๆ แต่กับชอบตามพ่อกับแม่ไปที่บริษัท ชอบนั่งอ่านหนังสือ และชอบนั่งฟังพูดใหญ่คุยกัน ยิ่งโตขึ้นฉันก็ยิ่งพูดได้น้อยลง ฉันรู้สึกว่าฉันสื่อสารกับเด็กในรุ่นราวคราวเดียวกันไม่รู้เรื่อง ก็เลยตัดสินใจไม่พูดมันซะ แต่ใช้ว่าเวลาพูดใหญ่คุยกันฉันจะไม่เข้าใจ แรกๆอาจงงบ้างแต่พอไปบ่อยๆเข้าก็ชินกับมัน พ่อกับแม่ฉันทำงานออกแบบ บริษัทออกแบบแลก่อสร้างรายใหญ่แห่งหนึ่ง พ่อเป็นวิศวกร แม่เป็นสถาปนิกควบคู่กับมัฑนกร ทำให้ต้องติดต่อสื่อสารกับลูกค้าจากหลายที่ๆ และเดินทางไปหลายๆประเทศ และแน่นอนฉันชอบติดสอยห้อยตามไป เพราะมันทำให้ฉันได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆโดยเฉพาะภาษายังไงล่ะ ฉันจดจำมันได้ดี และเข้าใจมันได้ไม่ยาก จนทำให้พ่อกับแม่สังเกตเห็นความสามารถฉันมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ท่านก็ตัดสินใจส่งฉันกลับบ้านที่ฮ่องกงเมื่อพบว่า ฉันพูดได้มากกว่า สามภาษา เพราะพวกท่านรู้ความจริงแล้วยังไงละ ความจริงที่ว่าฉันไม่ได้มีแค่พรสวรรค์ แต่ฉันเป็น...อัจริยะ
ใช่ที่ว่ามาทั้งหมดคือเรื่องของฉัน... เหมือนจะดีใช่มั๊ย อัจริยะ บ้านรวย พ่อแม่รัก
แต่ก็อย่างที่บอก โลกใบนี้ยุติธรรมเสมอ แม้ฉันจะอัจริยะ พูดได้หลายภาษา จดจำทุกอย่างได้ดี
แม้จะเหมือนว่าโลกรักฉันแค่ไหน แต่คงไม่ดีเท่าไหร่ที่ฉัน...รู้เวลาสุดท้ายของตัวเอง...ใช่แล้วโลกใบนี้ยุติธรรมเสมอ
แต่ก็ช่างมันเถอะ....ถึงจะรู้วันตายของตัวเองแล้วยังไงล่ะ... เจ็บปวดไปก็เท่านั้น เพราะฉะนั้น ขอใช้เวลาในชีวิตที่เหลือ สนุกให้สุดๆละกันนะ
ฉันว่าโลกใบนี้ยุติธรรม.... และฉันก็เป็นหนึ่งในคนที่โดนฤทธิ์ความยุติธรรมของโลกใบนี้เล่นงานแล้วล่ะ
ฉันชื่อ ยูซองอึน ซองอึนที่แปลว่าพรจากสวรรค์ ฉันเป็นลูกครึ่งเกาหลี ฮ่องกง อิตาลี เกิดที่อเมริกาตอนที่พ่อแม่ไปทำธุรกิจที่นั้นแล้วคลอดฉันออกมา พออายุได้ห้าขวบก็ถูกส่งกลับบ้านที่ฮ๋องกง และอายุได้สิบขวบ ฉันก็ตัดสินใจเดินทางกลับบ้านที่เกาหลีด้วยตัวคนเดียว เพื่อไปอยู่ดูแลคุณตา คุณยาย
ฉันเริ่มรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมือนคนอื่นตอนอายุสองขวบ ฉันไม่ชอบวิ่งเล่นเหมือนเด็กคนอื่น แต่กลับชอบขลุกอยู่กับกองหนังสือและห้องสมุด ชอบขีดๆเขียนๆ วาดรูปไปเรื่อยตามประสาเด็กคนหนึ่งที่ไม่มีอะไรทำ แรกๆก็วาดเหมือนเด็กคนอื่นๆทั่วไป แต่พอเวลาผ่านไปไม่นานก็เริ่มวาดรูปที่ลงรายละเอียดมากขึ้น และยากขึ้นเรื่อยๆ จำมาจากในหนังสือที่อ่านบ้าง รูปภาพที่แขวนตามผนังบ้าง พ่อกับแม่ก็ชมว่าฉันอาจมีพรสวรรค์ด้านนี้ มันก็คงจะดีถ้ามันหยุดอยู่แค่นี้ แต่มันกับลามไปถึงด้านอื่นๆด้วย ไม่ว่าจะเรียนดนตรีชนิดไหน เรียนเต้นประเภทใด ฉันก็มักจะทำมันได้ดีเสมอๆ แม้กระทั่งการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ใช่แต่งเพลงเอง หรือคิดท่าเต้นเอง ฉันมองว่ามันธรรมดา ก็ทำไมละฉํนจำท่าเต้นได้หมดเมื่อจะดูเพียงครั้งเดียวอาจจะเต้นตามได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ฉันก็จำมันได้หมด หรือแม้กระทั้งการแยกเสียง จำโน๊ต จำทำนอง ฉันก็จดจำมันได้ดี เวลาเต้นหรือเล่นดนตรี ก็แค่ทำตามความรู้สึกของตัวเองมันเลยเกิดเพลงใหม่ขึ้นมา เพลงตามความรู้สึกของฉัน คนรอบๆตัวเริ่มมองว่าฉันแตกต่าง ไม่น่าจะมีเด็กที่ไหนทำได้ ฉันไม่ชอบเล่นกับเด็กคนอื่นๆ แต่กับชอบตามพ่อกับแม่ไปที่บริษัท ชอบนั่งอ่านหนังสือ และชอบนั่งฟังพูดใหญ่คุยกัน ยิ่งโตขึ้นฉันก็ยิ่งพูดได้น้อยลง ฉันรู้สึกว่าฉันสื่อสารกับเด็กในรุ่นราวคราวเดียวกันไม่รู้เรื่อง ก็เลยตัดสินใจไม่พูดมันซะ แต่ใช้ว่าเวลาพูดใหญ่คุยกันฉันจะไม่เข้าใจ แรกๆอาจงงบ้างแต่พอไปบ่อยๆเข้าก็ชินกับมัน พ่อกับแม่ฉันทำงานออกแบบ บริษัทออกแบบแลก่อสร้างรายใหญ่แห่งหนึ่ง พ่อเป็นวิศวกร แม่เป็นสถาปนิกควบคู่กับมัฑนกร ทำให้ต้องติดต่อสื่อสารกับลูกค้าจากหลายที่ๆ และเดินทางไปหลายๆประเทศ และแน่นอนฉันชอบติดสอยห้อยตามไป เพราะมันทำให้ฉันได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆโดยเฉพาะภาษายังไงล่ะ ฉันจดจำมันได้ดี และเข้าใจมันได้ไม่ยาก จนทำให้พ่อกับแม่สังเกตเห็นความสามารถฉันมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ท่านก็ตัดสินใจส่งฉันกลับบ้านที่ฮ่องกงเมื่อพบว่า ฉันพูดได้มากกว่า สามภาษา เพราะพวกท่านรู้ความจริงแล้วยังไงละ ความจริงที่ว่าฉันไม่ได้มีแค่พรสวรรค์ แต่ฉันเป็น...อัจริยะ
ใช่ที่ว่ามาทั้งหมดคือเรื่องของฉัน... เหมือนจะดีใช่มั๊ย อัจริยะ บ้านรวย พ่อแม่รัก
แต่ก็อย่างที่บอก โลกใบนี้ยุติธรรมเสมอ แม้ฉันจะอัจริยะ พูดได้หลายภาษา จดจำทุกอย่างได้ดี
แม้จะเหมือนว่าโลกรักฉันแค่ไหน แต่คงไม่ดีเท่าไหร่ที่ฉัน...รู้เวลาสุดท้ายของตัวเอง...ใช่แล้วโลกใบนี้ยุติธรรมเสมอ
แต่ก็ช่างมันเถอะ....ถึงจะรู้วันตายของตัวเองแล้วยังไงล่ะ... เจ็บปวดไปก็เท่านั้น เพราะฉะนั้น ขอใช้เวลาในชีวิตที่เหลือ สนุกให้สุดๆละกันนะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น