ลำดับตอนที่ #22
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : นางกาลอัจนา : รามเกียรติ์ (100%)
มีใครรู้จักนางกาลอัจนากันบ้างเอ่ย? ใครไม่รู้จักไรเตอร์ก็เอาประวัติมาให้อ่านเลยค่ะ อ่านโลด!!!
นางกาลอัจนา...ถูกฤาษีโคดมเสกขึ้นมาจากกองไฟเพื่อมาเป็นภรรยา นางกาลอัจนามีรูปโฉมงดงามเป็นสาวแรกรุ่น...ในขณะที่ฤาษีโคดมแก่ชราหนวดยาวเพราะบำเพ็ญเพียรมานาน ทำให้นางกาลอัจนาไม่ค่อยรักสามีเท่าใดนัก อยู่กินด้วยก็เพราะหน้าที่
ต่อมา นางกาลอัจนาได้ให้กำเนิดบุตรสาวให้กับฤาษีโคดม ให้นามว่า "นางสวาหะ" (มารดาของหนุมาน)
เมื่อบุตรสาวเริ่มโต ดูแลตนเองและมารดาได้พอสมควรแล้ว ฤาษีโคดมก็เข้าป่าไปบำเพ็ญเพียร ให้กาลอัจนาอยู่อาศรมเฝ้าอาศรมให้ พร้อมบอกว่าจะรีบกลับอาศรมมาหานางและสวาหะ ให้ทั้งสองแม่ลูกดูแลตัวเองดีๆด้วย
ระหว่างที่ฤาษีโคดมไม่อยู่...พระอินทร์ได้เหาะลงมาเยี่ยมชมโลกมนุษย์ได้พบกับกาลอัจนาก็หลงรัก จึงลงมามีสัมพันธ์กับนาง ซึ่งนางกาลอัจนาก็ยินยอมให้มีสัมพันธ์ด้วยทั้งๆที่มีฤาษีโคดมเป็นสามีอยู่แล้ว...
เรื่องที่กาลอัจนามีชู้นั้น นางสวาหะผู้เป็นบุตรสาวรู้และเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง...
ต่อมาเมื่อฤาษีโคดมกลับมาอาศรม นางกาลอัจนาก็ทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นางสวาหะก็ไม่กล้าบอกเรื่องแม่มีชู้กับพ่อ
ต่อมานางกาลอัจนาก็ตั้งครรภ์และมีบุตรชายสีกายเขียวเหมือนพระอินทร์ ฤาษีโคดมเห็นบุตรชายก็นึกว่าเป็นลูกของตัวเอง ให้นามว่า "พาลี" (บิดาองคต)
ไม่นานนัก...ฤาษีโคดมก็ออกเดินทางไปบำเพ็ญเพียรอีกครั้ง...ทิ้งให้กาลอัจนากับสวาหะอยู่เฝ้าอาศรมกันสองคน ซึ่งคราวนี้พระอาทิตย์ที่ขึ้นม้าเทียมราชรถเหาะผ่านมา และพอใจในตัวนางกาลอัจนา จึงได้มีสัมพันธ์กัน ซึ่งกาลอัจนาเองก็เต็มใจ เหตุการณ์เหล่านี้...ถูกบันทึกไว้ในความนึกคิดของสวาหะผู้เป็นบุตรสาวจนหมดสิ้น...
เมื่อฤาษีโคดมกลับมา นางกาลอัจนาก็มีบุตรชายกายสีแดงเพลิงเหมือนพระอาทิตย์ ฤาษีโคดมที่คิดว่าเป็นบุตรของตัวเองก็ให้นามว่า "สุครีพ"
ฤาษีโคดมรักบุตรชายมากกว่าบุตรสาวมาก นางสวาหะนึกน้อยใจที่พ่อเห็นลูกคนอื่นสำคัญกว่าตน วันหนึ่งฤาษีโคดมพาลูกทั้งสามไปเล่นน้ำที่ริมน้ำ โดยอุ้มสุครีพไว้ ให้พาลีขี่หลัง ส่วนสวาหะบุตรสาวแท้ๆของตนกลับให้เดินตามต้อยๆ...
นางสวาหะเห็นดังนั้นก็น้อยใจ จึงกล่าวเปรยๆขึ้นมาว่า
"เฮ่อ! คนเรานะคนเรา...ทีลูกคนอื่นล่ะรักอุ้มชู...ทีลูกตัวเองกลับให้เดินตามต้อยๆ"
ฤาษีโคดมได้ฟังดังนั้นก็แปลกใจและไม่เข้าใจ จึงบอกให้สวาหะเล่าเรื่องราวให้ฟัง นางสวาหะก็เล่าให้ฟังจนหมดสิ้น...
ฤาษีรู้เรื่องก็โมโหมาก จึงเรียกกาลอัจนาภรรยาตัวดีมาที่ริมน้ำ พร้อมกล่าววาจาว่า
"ให้เด็กทั้งสามนี้ลงน้ำไป...หากคนไหนเป็นลูกของข้าให้ว่ายกลับมาหาข้าโดยปกติ...แต่ถ้าไม่ใช่ลูกข้าจงว่ายไปอีกฝั่งแล้วกลายเป็นลิงป่าซะ!"
ผลปรากฎว่ามีเพียงสวาหะเท่านั้นที่ว่ายกลับมาหาฤาษีโคดม ส่วนพาลีและสุครีพกลายเป็นลิงหนีเข้าป่าอีกฝั่งไป...
ฤาษีโคดมโกรธนางกาลอัจนามากจึงสาปนางว่า
"ข้าอุตส่าห์หลงรักเจ้ามานาน...ถนอมเจ้าอย่างดีเเต่เจ้ากลับริไปมีชู้...ข้าขอสาปเจ้าให้กลายเป็นหินรอพระรามหรือนารายณ์อวตารมานำหินอย่างเจ้าไปถมเป็นถนนข้ามไปกรุงลงกาในอนาคต!!!"
ว่าแล้วฤาษีโคดมก็เหาะหนีไปทันที นางกาลอัจนาก็คว้าแขนสวาหะลูกสาวตัวดีปากสว่างไว้พร้อมกล่าวอย่างโกรธเคือง
"จะไปไหน! นางสวาหะ...นางลูกเลว! ข้าอุตส่าห์เลี้ยงเจ้ามาตั้งแต่เล็กจนโต แต่เจ้ากลับเอาความลับของข้าไปบอกให้พ่อเจ้ารู้จนข้าต้องถูกสาปแบบนี้! ข้าขอสาปเจ้าบ้าง...ข้าขอสาปให้เจ้าไปยืนขาเดียวเหนี่ยวกินลมอยู่เชิงเขาจักรวาล...จนกว่าเจ้าจะมีลูกเป็นลิงมีฤทธิ์เจ้าจึงจะพ้นคำสาปของข้า!!!"
หลังจากนั้นนางกาลอัจนาก็กลายเป็นหินไป...ส่วนนางสวาหะก็ต้องคำสาปของแม่ จนพระพายมาช่วยเหลือเเละมีบุตรเป็นลิงเผือกมีฤทธิ์ คือ "หนุมาน" ทหารเอกของพระรามที่เรารู้จักกันดีนั่นเอง...
นางกาลอัจนา...ถูกฤาษีโคดมเสกขึ้นมาจากกองไฟเพื่อมาเป็นภรรยา นางกาลอัจนามีรูปโฉมงดงามเป็นสาวแรกรุ่น...ในขณะที่ฤาษีโคดมแก่ชราหนวดยาวเพราะบำเพ็ญเพียรมานาน ทำให้นางกาลอัจนาไม่ค่อยรักสามีเท่าใดนัก อยู่กินด้วยก็เพราะหน้าที่
ต่อมา นางกาลอัจนาได้ให้กำเนิดบุตรสาวให้กับฤาษีโคดม ให้นามว่า "นางสวาหะ" (มารดาของหนุมาน)
เมื่อบุตรสาวเริ่มโต ดูแลตนเองและมารดาได้พอสมควรแล้ว ฤาษีโคดมก็เข้าป่าไปบำเพ็ญเพียร ให้กาลอัจนาอยู่อาศรมเฝ้าอาศรมให้ พร้อมบอกว่าจะรีบกลับอาศรมมาหานางและสวาหะ ให้ทั้งสองแม่ลูกดูแลตัวเองดีๆด้วย
ระหว่างที่ฤาษีโคดมไม่อยู่...พระอินทร์ได้เหาะลงมาเยี่ยมชมโลกมนุษย์ได้พบกับกาลอัจนาก็หลงรัก จึงลงมามีสัมพันธ์กับนาง ซึ่งนางกาลอัจนาก็ยินยอมให้มีสัมพันธ์ด้วยทั้งๆที่มีฤาษีโคดมเป็นสามีอยู่แล้ว...
เรื่องที่กาลอัจนามีชู้นั้น นางสวาหะผู้เป็นบุตรสาวรู้และเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง...
ต่อมาเมื่อฤาษีโคดมกลับมาอาศรม นางกาลอัจนาก็ทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นางสวาหะก็ไม่กล้าบอกเรื่องแม่มีชู้กับพ่อ
ต่อมานางกาลอัจนาก็ตั้งครรภ์และมีบุตรชายสีกายเขียวเหมือนพระอินทร์ ฤาษีโคดมเห็นบุตรชายก็นึกว่าเป็นลูกของตัวเอง ให้นามว่า "พาลี" (บิดาองคต)
ไม่นานนัก...ฤาษีโคดมก็ออกเดินทางไปบำเพ็ญเพียรอีกครั้ง...ทิ้งให้กาลอัจนากับสวาหะอยู่เฝ้าอาศรมกันสองคน ซึ่งคราวนี้พระอาทิตย์ที่ขึ้นม้าเทียมราชรถเหาะผ่านมา และพอใจในตัวนางกาลอัจนา จึงได้มีสัมพันธ์กัน ซึ่งกาลอัจนาเองก็เต็มใจ เหตุการณ์เหล่านี้...ถูกบันทึกไว้ในความนึกคิดของสวาหะผู้เป็นบุตรสาวจนหมดสิ้น...
เมื่อฤาษีโคดมกลับมา นางกาลอัจนาก็มีบุตรชายกายสีแดงเพลิงเหมือนพระอาทิตย์ ฤาษีโคดมที่คิดว่าเป็นบุตรของตัวเองก็ให้นามว่า "สุครีพ"
ฤาษีโคดมรักบุตรชายมากกว่าบุตรสาวมาก นางสวาหะนึกน้อยใจที่พ่อเห็นลูกคนอื่นสำคัญกว่าตน วันหนึ่งฤาษีโคดมพาลูกทั้งสามไปเล่นน้ำที่ริมน้ำ โดยอุ้มสุครีพไว้ ให้พาลีขี่หลัง ส่วนสวาหะบุตรสาวแท้ๆของตนกลับให้เดินตามต้อยๆ...
นางสวาหะเห็นดังนั้นก็น้อยใจ จึงกล่าวเปรยๆขึ้นมาว่า
"เฮ่อ! คนเรานะคนเรา...ทีลูกคนอื่นล่ะรักอุ้มชู...ทีลูกตัวเองกลับให้เดินตามต้อยๆ"
ฤาษีโคดมได้ฟังดังนั้นก็แปลกใจและไม่เข้าใจ จึงบอกให้สวาหะเล่าเรื่องราวให้ฟัง นางสวาหะก็เล่าให้ฟังจนหมดสิ้น...
ฤาษีรู้เรื่องก็โมโหมาก จึงเรียกกาลอัจนาภรรยาตัวดีมาที่ริมน้ำ พร้อมกล่าววาจาว่า
"ให้เด็กทั้งสามนี้ลงน้ำไป...หากคนไหนเป็นลูกของข้าให้ว่ายกลับมาหาข้าโดยปกติ...แต่ถ้าไม่ใช่ลูกข้าจงว่ายไปอีกฝั่งแล้วกลายเป็นลิงป่าซะ!"
ผลปรากฎว่ามีเพียงสวาหะเท่านั้นที่ว่ายกลับมาหาฤาษีโคดม ส่วนพาลีและสุครีพกลายเป็นลิงหนีเข้าป่าอีกฝั่งไป...
ฤาษีโคดมโกรธนางกาลอัจนามากจึงสาปนางว่า
"ข้าอุตส่าห์หลงรักเจ้ามานาน...ถนอมเจ้าอย่างดีเเต่เจ้ากลับริไปมีชู้...ข้าขอสาปเจ้าให้กลายเป็นหินรอพระรามหรือนารายณ์อวตารมานำหินอย่างเจ้าไปถมเป็นถนนข้ามไปกรุงลงกาในอนาคต!!!"
ว่าแล้วฤาษีโคดมก็เหาะหนีไปทันที นางกาลอัจนาก็คว้าแขนสวาหะลูกสาวตัวดีปากสว่างไว้พร้อมกล่าวอย่างโกรธเคือง
"จะไปไหน! นางสวาหะ...นางลูกเลว! ข้าอุตส่าห์เลี้ยงเจ้ามาตั้งแต่เล็กจนโต แต่เจ้ากลับเอาความลับของข้าไปบอกให้พ่อเจ้ารู้จนข้าต้องถูกสาปแบบนี้! ข้าขอสาปเจ้าบ้าง...ข้าขอสาปให้เจ้าไปยืนขาเดียวเหนี่ยวกินลมอยู่เชิงเขาจักรวาล...จนกว่าเจ้าจะมีลูกเป็นลิงมีฤทธิ์เจ้าจึงจะพ้นคำสาปของข้า!!!"
หลังจากนั้นนางกาลอัจนาก็กลายเป็นหินไป...ส่วนนางสวาหะก็ต้องคำสาปของแม่ จนพระพายมาช่วยเหลือเเละมีบุตรเป็นลิงเผือกมีฤทธิ์ คือ "หนุมาน" ทหารเอกของพระรามที่เรารู้จักกันดีนั่นเอง...
*****************************
ฟังและดูทางนี้ก่อนค่า!!!
คราวนี้มีรูปนางกาลอัจนามาให้ดูกัน เลื่อนไปข้างล่างเลยค่ะ
ไม่รู้ว่าถูกใจรีดเดอร์หรือเปล่า?
ขอบคุณรูปภาพจาก www.google.co.th ค่ะ^^
คราวนี้มีรูปนางกาลอัจนามาให้ดูกัน เลื่อนไปข้างล่างเลยค่ะ
ไม่รู้ว่าถูกใจรีดเดอร์หรือเปล่า?
ขอบคุณรูปภาพจาก www.google.co.th ค่ะ^^
ยังไงก็เม้นท์เป็นแฟนคลับกันเยอะๆน้า จะได้มีกำลังใจลงตอนต่อไป~
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น