ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เฮฮาประสาสามก๊ก

    ลำดับตอนที่ #23 : ข้อสัญนิฐานใหม่เกี่ยวกับสาเหตุการตายของโจโฉ(คิดเอาเอง)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.98K
      9
      1 ม.ค. 55

     
           เงยหน้ามองผ่านความมืดอันอ้างว้าง
    พลางพินิจแท่นอาสน์อย่างโหยหา
    รู้ซึ้งว่าสิ่งใดหายไปจากตา
    ที่พึ่งข้าถูกพรากไปแสนไกล
           ดวงวิญญานหลุดลิ่วออกจากร่าง 
    ลอยไกลห่างเกินกว่าจะคว้าไหว
    หมดสิ้นแล้วที่ซึ่งเป็นร่มไทร 
    มีแต่น้ำใสใสไหลจากตา
           ฝูงกวางดงร้องเหมือนจะกรรแสง       
    สายลมแรงสั่นไหวใบพฤษา
    เหล่าปักษินวินว่อนเต็มท้องฟ้า         
    ดั่งสีดำฉาบทาให้มืดลง
           หัวใจข้าสั่นไหวแลหวิววาบ             
    ดุจทุกข์ทาบถาโถมเหมือนสาปส่ง
    ทั้งตรอมตรมขมขื่นและมึนงง          
    แต่ผู้คงรู้ใจกลับไม่มี
          วันเวลาสายน้ำรีบผ่านพัด                  
    เหมือนเร่งรัดความชรามาเร็วรี่
    โอ้ ผมข้าขาวเร็วถึงเพียงนี้                   
    ไม่กี่ปีก็งอกแล้วชั่งเร็วไว
           ข้าคร่ำครวญหวนไห้ถวินหา                
    โอ้ บิดาท่านถูกพาไปแห่งไหน
    คำอวยพรให้อายุยืนกว่าใคร                    
    ใยมันไม่โอบอุ้มคุ้มครองเธอ

         
    นี่คือบทกวี "ต่วนเกอสิ่ง" โดย โจผี ซึ่งตัวผม--นายซามมาเอล ซิน พยายามรักษาเนื้อหาให้ใกล้เคียงกับต้นฉบับมากที่สุด เนื่องจากบทกวีนี้แม้จะเป็นบทกวีวรรคละสี่พยางค์แต่ทว่า, ถ้อยคำที่ใช้เขียนนั้นมีความหมายลึกซึ้งมาก ผมจึงต้องเขียนเป็นกลอนสุภาพแทนเพื่อบรรยายอารมณ์ให้ครบถ้วน เป็นบทกวีที่โจผีพรรณาความรู้สึกของเค้าที่ต้องสูญเสียโจโฉไปอย่างไม่มีวันกลับ ต่อมากลายเป็นเพลงเค้าเล่นดนตรีและขับร้องเอง เป็นเพลงที่ไพเราะมากแต่เย็นเยือกและหดหู่  โจโฉเคยสั่งแบบทีเล่นทีจริงว่า "ถ้าคิดถึงพ่อจริงๆ ก็ให้เอาที่แต่งไว้บรรเลงหน้าศพมาขับร้องในช่วงต้นเดือนและงานเทศกาล แล้ววิญญานพ่อจะแวะมาเยี่ยม" ปรากฏว่าพอโจโฉตายไปโจผีดันเอาเพลงที่แต่งนี้มาร้องตามคำสั่งนี้ทุกประการ(คงอยากเจอพ่อมั้ง) ไม่เว้นแม้แต่เทศกาล โชคดีที่วิญญานของโจโฉไม่เคยปรากฏให้เห็น(ไม่ว่าจะมาเยี่ยมลูกจริงหรือไม่) ไม่งั้นคงทำให้ข้าราชสำนักจับไข้หัวโกร๋นกันหมดแน่ เพราะลำพังเอามาร้องในงานเทศกาลก็แย่พอแล้ว เพลงอะไรจะเศร้าสร้อยปานนั้น แบบนี้งานรื่นเริงก็กร่อยหมดสิ


    เพื่อให้เข้ากับบทกวีนี้ เรื่องที่ผมจะเล่าก็เลยเป็นเรื่องเกี่ยวกับการตายของโจโฉ ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายคนคุ้นเคยดีอยู่แล้วจากนิยายของหลอกว้านจงว่า "โจโฉมีอาการปวดหัว ก็ให้หมอหัวโถมารักษา หมอหัวโถเสนอผ่าสมองทำให้โจโฉระแวงให้เอาหมอไปประหาร หลังจากนั้นโจโฉก็ตายตกตามหมอไป" ครับ ที่คุ้นเคยกันมานั้นคือโจโฉตายด้วยโรคปวดหัว  และจากอาการที่ "หลอกว้านจงว่าเอาไว้" ไม่ใช่ประวัติศาสตร์ว่าไว้นั้นระบุว่าโจโฉมีอการเห็นภาพหลอนช่วงอาการหนักและตายอย่างทรมาน ทำให้มีการสันนิฐานว่าโจโฉน่าจะเป็น "โรคน้ำในสมอง" หรือไม่ก็ "เป็นเนื้องอกในสมอง" ทั้งนี้ล้วนสันนิฐานจากสามก๊กฉบับหลอกว้านจงทั้งสิ้น แต่บ้างก็แย้งว่าโจโฉน่าจะเป็น "กามโรค" ตายมากกว่า เพราะนิสัยสำส่อนของเจ้าแมวร่านสวาทตัวนี้ชวนให้เชื่อเช่นนั้น และคนที่เป็นกามโรคและมีอาการปวดหัวเห็นภาพหลอนก็เป็นได้ว่าเพราะเชื้อมันขึ้นสมอง และทั้งหมดทั้งสิ้นนี้เป็นข้อสันนิฐานที่มาจากอาการในนิยายทั้งนั้น

     
    อันที่จริงหลักฐานร่วมสมัยไม่ได้พูดถึงการตายอันทรมานของโจโฉแม้แต่น้อย แม้จะเป็นความจริงว่าโจโฉมีอาการปวดหัวบ่อยๆ และบางคืนก็ถึงกับสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะปวดหัวด้วย แต่ถ้าเราจะเชื่อคำของหมอหัวโถในประวัติศาสตร์ โรคของโจโฉเกิดจากภาวะเครียดสะสม และช่วงอายุประมาณหกสิบสองเป็นต้นไปโจโฉได้วางงานส่วนใหญ่ให้กับโจผีทำโดยตนเองมีหน้าที่ตรวจทานอย่างเดียว ภาวะเครียดของโจโฉก็ลดลง และไม่ปรากฏอาการปวดหัวอีก หรือพูดง่ายๆ  ถ้าว่ากันตามประวัติศาสตร์โจโฉไม่น่าจะตายเพราะปวดหัวเพราะเขาหายจากอาการปวดหัวมากว่าสามหรือสี่ปีแล้ว และเค้าก็ไปสงบมากไม่ได้ทุรนทุรายเหมือนในนิยาย  ที่สำคัญเหมือนเค้าจะมีลางสังหรณ์ด้วยซ้ำว่าจะอยู่ได้อีกไม่นาน เพราะเค้าให้ความสำคัญกับการที่คนจะอยู่โดยไม่มีเค้ามากขึ้นและเริ่มเตรียมตัวสำหรับการตาย ซึ่งตอนนั้นใครๆ ก็มองว่าเค้าโอเว่อร์ไปหน่อยหรืออาจต้องการเรียกร้องความสนใจ เพราะอายุหกสิบก็นับว่าแก่พอที่จะเริ่มเป็นโรคหลงบ้างแล้ว แถมรูปร่างหน้าตาที่ยังแดงระเรืองเหมือนอายุไม่ถึงห้าสิบและดูอ่อนผิดจากคนอื่นนั้นย่อมไม่มีใครคิดว่าวุ่ยอ๋องจะอายุสั้น การลาโลกของโจโฉจึงเป็นอะไรที่ทุกคนไม่ได้เตรียมทำใจไว้เลย

     
    อ้าว... ถ้าโจโฉไม่มีอาการปวดหัวแล้วแถมยังสุขภาพดีขนาดนั้นอยู่ๆ จะตายได้ยังไง? ประวัติศาสตร์ก็ไม่พูดการลอบสังหารด้วย(ถ้าตำนานอาจจะมีเป็นบางเรื่อง) ตอนนี้สาววายทั้งหลายอาจจะจิ้นกันสนุกว่าโจโฉตายเพราะคิดถึงกวนอู แหม... ทำไงได้เพราะมันชัดมากที่ว่าโจโฉตายหลังจากได้รับกระเช้าผูกริบบิ้นใส่หัวกวนอูมาจากซุนกวนเพียงสองเดือนเท่านั้น แต่ผมไม่ได้คิดแบบนั้นหรอก(ขอโทษที่ขัดใจขาวายทั้งหลายนะครับ) เพราะมีบันทึกบางอย่างที่คลี่คลายปริศนาการเสียชีวิตของโจโฉได้ดียิ่งกว่าจินตนาการอันพ้อฝัน ซึ่งสมมติฐานของผมเกี่ยวกับการตายของโจโฉนี้ อาจจะไม่ถูกต้องทั้งหมดแต่ก็เป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ศึกษาประวัติศาสตร์


    ถ้าใครเคยอ่านสามก๊กฉบับพิศวาสเรื่อง "ชีวิตรักของโจโฉ" อาจจะจำเหตุการณ์ที่โจโฉกำลังจะตายได้ มีการเล่าย้อนหลังว่าโรคปวดหัวของเค้ากำเริบเพราะหกล้ม  นี่แหละเรื่องสำคัญ! แม้หัวกวนอูจะไม่ได้แสดงปาฏิหารย์อะไรแต่ที่โจโฉล้มและหัวฟาดพื้นนั้นเป็นเรื่องจริงในประวัติศาสตร์ และเป็นเหตุการณ์ที่แม้แต่ "จอมราชัญอหังการ" และสามก๊กอีกหลายเวอร์ชั่นไม่ได้ทิ้งแม้แต่น้อย  เพราะตามประวัติศาสตร์... หลังจากการล้มครั้งนั้นโจโฉก็ล้มหมอนนอนเสื่อถึงสองเดือนก่อนจะโบกมือบ๊ายบายอันแปลว่า "ลาก่อน" ในปี ค.ศ. 220 ซึ่งหากหักออกจากปีเกิดคือ ค.ศ. 155 ก็จะได้เท่ากับหกสิบห้าปี(นับแบบจีนโจโฉจะอายุหกสิบหก) แต่ประวัติศาสตร์ระบุว่ามันหลังตรุษจีนเพียงไม่กี่วัน ซึ่งยังไม่ครบวันเกิดด้วยซ้ำ แสดงว่าโจโฉตอนที่ตายนั้นในความเป็นจริงแล้วเค้าเพียงหกสิบสี่ปีเท่านั้นเอง  นับเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก  แต่ทำไงได้ละครับ  แม้โจโฉจะได้ชื่อว่าเป็นแมวเก้าชีวิต  แต่จากประวัติที่ผ่านมาคงใช้หมดไปแปดชีวิตแล้ว

    ประวัติศาสตร์กล่าวถึงการล้มของโจโฉในวัยชราอยู่หลายครั้ง ซึ่งบางครั้งก็มาจากความดัน บางครั้งก็เหยียบชายเสื้อตัวเอง(พอเริ่มแก่ก็เริ่มเซ่อมากขึ้น) แต่ดูเหมือนจะไม่ได้สร้างความกระทบกระเทือนอะไรมาก  กระนั้นก็ดี, เป็นที่รู้กันดีว่าคนแก่ล้มไม่ใช่เรื่องธรรมดาเพราะนั่นอาจจะถึงขั้นนอนโรงพยาบาลเป็นเดือนได้เพราะร่างกายเปราะบางมากเมื่อเทียบกับเด็กๆ และฟื้นตัวช้า  การล้มครั้งสุดท้ายของโจโฉจึงกลายเป็นการล้มครั้งใหญ่ที่สุดเพราะมันรุนแรงถึงขึ้น "คร่าชีวิต" เค้าไปด้วย  ประวัติศาสตร์ระบุว่าเป็นช่วงที่ฝนตก(ตกทั้งๆ ที่เป็นหน้าหนาว) พระเจ้าเว่ยหวู่ตี้เสด็จออกจากห้องบรรทมกลางดึก แล้วลื่นตกจากระเบียงล้มลงไปฟาดกับพื้นหิน หมดพระสติไปจนถึงเช้าถึงมีคนมาพบ  ครับ... ลื่นตกจากระเบียงลงไปกระแทกกับพื้นหิน  หัวฟาดกับพื้นหิน นอนสลบบนพื้นหินเย็นๆ ในหน้าหนาว ท่ามกลางฝนด้วย!? แล้วอายุตั้งหกสิบสี่นะครับไม่ใช่พึ่งสี่สิบหก! ผมว่าอยู่มาได้ตั้งสองเดือนก็นับว่าปาฏิหารย์มากแล้วสำหรับสมัยที่การแพทย์ไม่เจริญมากเท่าสมัยนี้  แล้วถ้าจำไม่ผิด ส่วนที่ฟาดกับพื้นแรงมากคือศีรษะซึ่งนั่นอาจจะรุนแรงถึงขั้นเลือดคั่งในสมองด้วย เพียงแต่โจโฉไม่ตายทันทีเพราะคนเราเมื่ออายุมากสมองจะหดตัวลง(ก็คือสมองฝ่ออ่ะนะ) ทำให้เกิดที่ว่างระหว่างสมองกับกะโหลกศีรษะ ทำให้ไม่ได้รับอันตรายถึงชีวิตในตอนนั้น แต่ถ้าไม่เจาะเอาเลือดที่คั่งออกสิ่งที่ตามมาก็คือภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดรวมทั้งอาการอักเสบบริเวณจุดอื่นที่ได้รับบาดเจ็บ  ผมไม่รู้ว่าสุสานโจโฉที่ถูกอ้างว่าพบเป็นของจริงหรือไม่  แต่, ถ้ากระดูกเป็นของจริงก็น่าเป็นไปได้ที่จะพบรอยแตกร้าวที่บริเวณกะโหลก อันนี้เป็นการบ้านสำหรับคนที่อ่านบทความนี้ ไปหามาแลกเปลี่ยนกันหน่อยนะครับ

     <อาจจะเลือดท่วมหัวเลยก็ได้ ใครจะรู้?

    ก่อนหน้าที่จะประสบอุบัติเหตุที่น่ากลัวนี้โจโฉเคยพูดและเขียนคำสั่งเสียหลายครั้ง แม้แต่ในวันที่เค้ากำลังจะตายก็ยังสั่งเสียไม่รู้กี่รอบ ซึ่งทั้งหมดของคำสั่งเสียก็คือนโยบายเกี่ยวกับการเมืองและครอบครัว เค้าสั่งให้ฝังศพเค้าโดยให้แต่งชุดธรรมดา ไม่ให้สร้างสุสานในที่ๆ ผู้คนทำการเกษตรแต่จงฝังในที่คนไม่ใช่ประโยชน์ใดๆ ไม่ต้องก่อดินหรือทำป้ายหลุมศพ ไม่ต้องเอาสมบัติใดๆ มาฝังรวมกับศพ ไม่ต้องหยุดงานเพื่อร่วมพิธีไว้อาลัย แล้วยังบอกอีกว่า "ข้าพเจ้าตายแล้วอย่างได้ร้องห่มร้องไห้ แต่ให้ถอดทุกข์โดยเร็วเพราะบ้านเมืองเรายังไม่สงบ ทหารและข้าราชการทั้งหลายให้ทำหน้าที่ตามปกติ" สำหรับภรรยาทั้งหลายก็สั่งว่า "ข้าพเจ้าอนุญาตให้พวกเธอมีผัวใหม่ได้ทุกคน" โจโฉป่วยมากว่าสองเดือน กินอะไรก็ไม่ค่อยได้ก็ผอมลงๆ จนซีดเซียวแทบจะเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก  จากแมวร่านสวาทที่น่ารักน่ากรี๊ดมีสาวมะรุมมะตุ้มตรึม(แม้จะเลยหกสิบแล้ว)ก็กลายเป็นซากแมวไป และหลังจากนอนให้อีหนูหยอดน้ำข้าวต้มมานาน  ในที่สุด... ท่ามกลางบทเพลงที่ขับกล่อมอย่างเสนาะ โจโฉก็จากโลกนี้ไปอย่างสงบในอ้อมแขนของโจผีที่ถูกทิ้งให้กอดศพพ่อร้องไห้ระงม ซึ่งตอนต่อไปเราจะมาพูดคุยเกี่ยวกับโจผีที่แสนจะน่ารักน่าชังผู้นี้กัน ซึ่งมีอะไรน่าสนใจเกี่ยวกับท่านมากทีเดียว

    แม้จะเป็นสุสานที่เรียบง่ายแต่ก็ไม่ได้ถูกลืมเลือน  สมัยนั้นยังมีเอกสารมากมายให้สืบค้น และพระเจ้าถังไท่จงมหาราชจึงเสด็จไปคารวะสุสานของโจโฉได้อย่างถูกต้องและอาจจะสั่งให้ทหารขุดเข้าไปเพื่อ "สร้าง" หรือ "ตกแต่ง" บ้างรึเปล่าไม่รู้ ทราบเพียงว่าเมื่อเข้าสมัยราชวงศ์แมนจู ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ตั้งของสุสานกลับเลือนหาย ทำให้ข้อความในนิยายที่หลอกว้านจงระบุว่าโจโฉสั่งให้สร้างสุสานลวงถึงเจ็ดสิบสองแห่งนั้นถูกเชื่ออย่างแพร่หลาย(ทั้งที่เป็นแค่นิยายแท้ๆ)

     
    สำหรับโจโฉนั้น  เมื่อตายไปแล้วก็ได้รับการอวยยศย้อนหลังโดยโจผี--ลูกชาย, ใช้เป็นพระเจ้า "เว่ยหวู่ตี้" หรือ "สมเด็จพระจักรพรรดิราวีราช" เป็นกษัติย์ที่ถนัดเรื่องสงคราม  ว่ากันว่าตอนนี้มีการค้นพบสุสานของท่านรวมทั้งซากแมว เฮ้ย! พระศพของพระเจ้าโจโฉเข้าให้แล้ว แต่ใช่ของจริงหรือไม่ก็ไม่ทราบ  แต่ผมทราบอย่างหนึ่งคือถ้าเป็นของจริง เมื่อนักโบราณคดีและนักวิทยาศาสตร์ตรวจแล้วต้องระบุออกมาว่า "เจ้าของร่างอายุประมาณหกสิบปี  มีความสูงไม่เกิน 157 cm ในวัยหนุ่ม และประมาณ 140 cm ขณะเสียชีวิต  จากกระดูกมีร่องรอยบอกชัดว่าเคยบาดเจ็บสาหัสมาหลายครั้ง(ซึ่งเกิดจากการฟันแทงหรือแตกหัก และต่อมาสมานตัวในภายหลัง) ที่กระโหลกศีรษะมีร่องรอยที่บอกชัดว่าถูกกระแทกอย่างแรงกับของที่แข็งมาก" รบกวนเพื่อนๆ รองไปหาขอมูลมาแลกกันหน่อยนะครับว่า ศพที่พบมีข้อมูลพวกนี้บ้างรึเปล่า(^_^)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×