[Kagerou Project] วันที่เหน็ดเหนื่อยของคิโดะ - [Kagerou Project] วันที่เหน็ดเหนื่อยของคิโดะ นิยาย [Kagerou Project] วันที่เหน็ดเหนื่อยของคิโดะ : Dek-D.com - Writer

    [Kagerou Project] วันที่เหน็ดเหนื่อยของคิโดะ

    สมาชิกคนอื่นๆบอกจะกลับมาช้า หัวหน้าอย่างคิโดะก็ต้องเตรียมอาหารเย็นไว้รอสิ ก็เลยต้องเหนื่อยไปเดินซื้อของทำกับข้าว กิจกรรมของสมาชิกที่เหลือคืออะไรกัน

    ผู้เข้าชมรวม

    1,260

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    1.26K

    ความคิดเห็น


    9

    คนติดตาม


    12
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  23 พ.ค. 57 / 22:32 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ฟิคเรื่องแรกค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวและฝากฟิคด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ อาจจะยาวไปหน่อยนะค่ะ
    Tags: Anime, Enomoto Takane, Kagerou Project, Pixiv Id 2798666, Amamiya Hibiya, Kido Tsubomi, Asahina Hiyori
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       อาจจะยาวหน่อยนะค่ะ ขอให้สนุกค่ะ   
      --- --- --- --- --- --- --- --- --- --- --- --- --- --- ---
               ตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มถูกย้อมด้วยสีแดงและส้ม พระอาทิตย์ก็ใกล้จะตกดินแล้ว ดังนั้นเวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะสมกับการทำอาหารเย็นและกินข้าว พนักงานบริษัทที่พึ่งทำงานเสร็จก็มาของกินกัน พวกคุณแม่บ้านทั้งหลายออกมาซื้อของทำอาหารเย็นกันที่ตลาดเยอะมาก แต่ว่าไม่ต้องไปถึงตลาดก็มีแฟมิลี่มาร์ตให้ซื้อวัตถุดิบได้ ถึงจะมีของไม่มากเท่าตลาดก็เถอะ

               
               "ขอบคุณมากค่า โอกาสหน้าเชิญใหม่นะค่ะ"
                กริีง
           ลูกค้าสาวหน้าตาเย็นชาผมยาวสีเขียวใส่ฮู้ดสีม่วงเดินออกจากร้านไปพร้อมถุงใส่วัตุถิบทำอาหารเย็นสักสี่ห้าใบ เธอเดินผ่านคนมากมายที่ออกมาของกิน เข้าไปในตรอกข้างทาง แล้วเดินออกมา เธอยังคงเห็นผู้คนเดินหาของกินเหมือนเดิม แต่ตอนนี้ไม่มีใครเห็นเธอเลย....
               
               "
      เฮ้อ หวังว่าตอนกลับไปแล้ว ทุกคนคงจะกลับกันมาหมดนะ" เด็กสาวบ่นเบาๆระหว่างรอสัญญานไฟข้ามถนน 

           ชีวิตการเป็นหัวหน้าของคิโดะ สึโบมิ มันช่างยากลำบากนัก เธอต้องดูแลสมาชิกทุกคนและงานบ้านเกือบทุกอย่าง ถึงจะมีเซโตะกับมารีที่คอยช่วยบ้าง เซโตะก็ช่วยได้จริงๆ แต่มารีนี้สิ...พอจะช่วยทีไรก็มักจะจบลงด้วยการทำแก้วแตกสักใบสองใบ 

           แต่คนที่ทำให้เหนื่อยใจก็ไม่ได้มีแค่แมรี่หรอก ยังมีจอมตะกละอย่างโคโนฮะ ที่กินข้าวเท่าไรก็ดูท่าจะไม่อิ่มสักที แล้วพอกินเสร็จแล้ว ก็ไปนอนต่ออีกกว่าจะปลุกได้....

           แล้วยังมีชินทาโร่กับเอเนะ ที่ทะเลาะกันได้ทุกวัน...ความจริงก็ไม่ได้ทะเลาะ แต่เอเนะดันชอบไปแกล้งนีทนั้นนะ 

           ยังไม่หมด ยังมี คาโนะ เจ้าบ้าโกหกนั้น ชอบเล่นอะไรแผลงๆ จนเธอต้องใช้หมัดจัดการให้หยุดพูดอะไรไร้สาระ ปวดหัวจริงๆเลย 

           โมโมะกับฮิบิยะก็ใช่ย่อย ฮิบิยะก็ไร้มารยาทจริงๆไปว่าผู้หญิงอย่างนั้น ความจริงแล้วไม่เห็นต้องสนใจก็ได้ แต่โมโมะดันโมโหชวนตีกันทุกรอบ 
           .....คนที่ดูมีประโยชน์พึ่งได้ไม่สร้างปัญหาเยอะก็คงมีแต่เซโตะสินะ....

           วันนี้อากาศสดใสตั้งแต่เช้า โมโมะบอกว่าจะพามารีไปเที่ยวถึงเย็น แต่ว่าดูเหมือนจะวางแผนไปซื้ออะไรสักอย่าง 
               "หัวหน้าค่ะ เดี๋ยวฉันจะพามารีจังไปเปิดหูเปิดตาสักหน่อยนะค่ะ จะกลับมากินข้าวเย็นฝีมือ           หัวหน้าแน่นอนค่ะ"

           เซโตะก็รีบออกจากบ้านไปสายกว่าปกติ เจ้าคาโนะก็หายตัวไปหลังกินข้าวเที่ยงและทิ้งโน้ตไว้ว่า จะกลับมาเย็นๆ เซโตะก็คงจะกลับมาเย็นเหมือนกัน 

           ชินทาโร่ก็เอาแต่บ่นว่าอยากใช้คอมจนไม่ทำอะไร โคโนะฮะก็ยังคงคอนเซ็ปต์ กินเสร็จก็ต้องนอน...สุดท้ายเอเนะก็ต้องบังคับให้ออกไปเดินข้างนอกโดยขู่ชินทาโร่ว่าถ้าไม่ออกไปจะให้ทุกคนได้รู้ไฟล์ลับอะไรก็ไม่รู้ แล้วลากโคโนฮะไปด้วย 
                    "อาจเย็นหน่อยแต่จะกลับมากินข้าวเย็นให้ทันค่ะ คุณหัวหน้า เอ้า เร็วไปกัน"

           ส่วนเจ้าหนูฮิบิยะก็วิ่งออกไปหลังจากพวกเอเนะไม่นาน เห็นทำท่าวอร์มร่างกาย ดูท่าจะรีบมากด้วย
              "เดี๋ยวผมจะกลับมาเย็นๆ เตรียมชั้นเก็บของให้สักชั้นที"
           
           ....
      ทำอะไรกันอยู่น้า เจ้าพวกนั้น พร้อมใจกันกลับเย็นจริงๆเลย...

           คิโดะถอนหายใจออกมาดังๆ แล้วมุ่งหน้าเดินข้ามทางม้าลายกลับฐานทัพลับต่อไป 

           เดินเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวามาได้ไม่นานก็ได้ยินเสียงฮือฮามาจากตึกข้างๆ พอหันไปดูก็เห็นเวทีการแข่งขันตอบคำถามกับเวทีการแข่งขันกินข้าวหน้าหมูทอดขนาดจัมโบ้ ซึ่งตอนนี้บนเวทีมีสมาชิกสองคนที่เธอเป็นห่วงอยู่

           ชินทาโร่กำลังตอบคำถามอย่างเบื่อหน่ายแข่งกับผู้เข้าแข่งขันคนอื่น คะแนนของเขานำเป็นอันดับหนึ่งด้วยคะแนน เก้าจากสิบ ส่วนคนอื่นๆยังมีคะแนนกันแค่ 5-6 คะแนน ดูจากหน้าเบื่อโลกก็รู้คงคิดว่าคำถามมันง่ายเกินไปไม่สร้างความตื่นเต้นสินะ....สำหรับนายคนเดียวเถอะ


           ทางด้านโคโนฮะซึ่งตอนนี้กำลังก้มหน้าก้มตาเขมือบข้าวหมูทอดขนาดจัมโบ้ชามที่ 12 อยู่ด้วยความเอร็ดอร่อย พอกินหมดก็เงยหน้าขึ้นมาบอกว่า อร่อย พร้อมกับมีแสงเปล่งประกายจากหน้าของโคโนฮะ เสร็จก็ขอชามต่อไปอีก กินเก่งเป็นที่หนึ่งจริงๆ


           เมื่อเห็นอย่างนี้แล้ว คิโดะก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเอเนะผู้ลากจอมตะกละกับนีทนั้นคงนั่งดูทั้งสองคนอยู่ในมือถือชินทาโร่ พร้อมทั้งขำท่าทางกินของโคโนฮะกับหน้าเบื่อโลกของชินทาโร่


           คิโดะสายหน้าอย่างเอือมระอากับสมาชิกทั้งสามก่อนจะเดินจากไป พร้อมกับเสียงฮือฮาและเสียงเชียร์ผู้เข้าแข่งขันทั้งสองงาน


            เดินมาได้ซักพักเธอก็เดินผ่านร้านหนังสือแถวๆฐานทัพ ซึ่งมีคนซื้อหนังสือน้อยมาก โมโมะชอบมาร้านนี้เพราะมีหนังสือการ์ตูนให้อ่านเยอะแล้วยังคนน้อยอีก...ลองเข้าไปหาหนังสืออ่านเล่นสัก 5 นาทีดีกว่า...เธอคลายพลังลง แล้วเดินเข้าไปในร้าน 
            
           
      ระหว่างที่เดินหาหนังสืออยู่ คิโดะก็เห็นผมฟูๆสีขาวกับร่างที่สวมฮู้ดสีชมพูยืนอยู่ข้างกันตรงมุมหนังสือการ์ตูน

           ..นั่นมันโมโมะสินะ แนะนำหนังสือให้มารี เป็นความคิดที่ดี ว่าแต่มันการ์ตูนที่เหมาะสมจะแนะนำให้มารีอ่านหรือเปล่าเนี่ย..

           คิโดะใช้พลังอีกครั้ง ถึงจะไม่อยากใช้เพื่อการแอบส่องกิจกรรมคนอื่นก็เถอะ เธอเดินเข้าไปใกล้สองคนนั้นแล้วดูหนังสือที่ตอนนี้ถูกอ่านโดยนักอ่านที่ตั้งใจอย่างยิ่งพร้อมกันถึงสองคน 

           ..ชื่อเรื่อง...คือ...............!!!!! นี้โมโมะแนะนำหนังสือติดเรทให้มารีอ่าน แถมยังเป็นแบบ yaoi อีก!!!! ไม่ดีแล้ว เซโตะต้องช็อกแน่ถ้ารู้....จะเอาไปบอกใครก็ไม่ได้ด้วย....ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นก็แล้วกัน.....

           เมื่อรับรู้ความจริงที่ว่าความบริสุทธิ์ของมารีได้ถูกกลืนกินไปแล้ว คิโดะก็รีบตรงกลับฐานทันที แต่ว่าหางตาดันไปเห็นเงาของเจ้าเตี้ยคนหนึ่งเดินเข้าไปร้านขายเสื้อผ้าหญิงและชาย เธอจึงแอบเดินตามเข้าไปทันที 

           ตอนนี้เจ้าเตี้ยที่คิโดะตามอยู่ก็เดินผ่านเสื้อผ้าผู้ชายไปที่ฝั่งเสื้อผ้าผู้หญิง หันไปมองเสื้อตัวนู่นทีตัวนี้ที สุดท้ายก็ตรงไปหยิบชุดเดรสสีม่วงน่ารักตัวหนึ่งซึ่งขนาดเหมาะให้คิโดะใส่ได้พอดี คิโดะรีบเดินไปยืนดูข้างๆทันที

           คาโนะ มันก็ตาถึงน่าดู เลือกเดรสได้น่ารักทีเดียว ว่าแต่จะเอาไปให้ใครใส่กัน....มารีก็ตัวเล็กเกินไปที่จะใส่..โมโมะก็ดูจะใส่แล้วไม่เข้า..แล้วใครกัน.....


           ระหว่างที่เธอกำลังสงสัยอยู่ ก็เหมือนสวรรค์บรรดาลคำตอบมาให้ผ่านทางปากของคนที่คิโดะอยากจะต่อยให้ขึ้นสวรรค์จริงๆเลย


                "อือ ชุดนี้เหมาะกับคิโดะมากเลย ใส่เดรสอย่างนี้คงน่ารักน่าดู แต่ว่านิสัยเจ้าตัวตอนนี้ไม่ค่อยชอบ     ด้วยสิ ถ้าเป็นเมื่อก่อนนะให้คิโดะใส่ ต้องน่ารักมากแน่ บวกกับนิสัยเมื่อก่อนน่ารักกว่าเดี๋ยวนี้เยอะเลย             คิกคิก นึกภาพเดี๋ยวนี้คิโดะใส่เดรสนี้ไม่ออกเลย อุ้บ"


           คาโนะพยายามปิดปากตัวเองเพื่อกลั้นหัวเราะ โดยไม่รู้เลยว่าข้างๆของตนมีคนที่เขากำลังพูดถึงอยู่ซึ่งตอนนี้แผ่รังสีอัมหิตออกมาอย่างล้นลาม แม้ตาจะมองไม่เห็นแต่รับรองได้ว่าพนักงานและลูกค้าในร้านต้องขนลุกไปตามๆกัน ขนาดคาโนะยังสะดุ้งเพราะความรู้สึกที่น่าขนลุกอยู่ข้าง
                   
                "อู้ยย รังสีอัมหิตแบบคิโดะนี้มันอะไรกัน เราแน่ใจแล้วนะว่าคิโดะน่าจะกำลังทำอาหารเย็นอยู่ที่                     บ้าน น่ากลัวจริงๆ สงสัยช่วงนี้โดนคิโดะแผ่รังสีใส่บ่อยๆ จนเบลอแน่เลย อ้ะ ตัวนี้คิโดะใส่ก็น่าจะโอเคนะ"
                

           คาโนะเดินไปดูเสื้อแขนกุดสีม่วง ที่เป็นผ้าเนื้อบางใส่แล้วโปร่งสบาย ซึ่งขนาดก็พอดีกับตัวเธออีกเช่นกัน เขายกขึ้นมาดูรอบทั้งข้างหน้าข้างหลัง แล้วกลั้นหัวเราะอยู่คนเดียว
               
                ..ถ้าตอนนี้เราไม่ได้มาแอบดูเขาอยู่ละก็...นายโดนแน่ คาโนะ ต้องรีบกลับไปทำอาหารเย็นก่อนละ



           .....และแล้วชะตาชีวิตของคาโนะผู้น่าสงสารก็รอดพ้นไปจากน้ำมือของท่านคิโดะไปได้อย่างน่ายินดี.....

           คิโดะรีบตรงกลับบ้านทันทีไม่อยากเสียเวลาเจออะไรอีก แต่ดูท่าวันนี้จะไม่จบง่ายๆแค่นี้ เพราะระหว่างโดนกลับทางเก่าซึ่งผ่านร้านหนังสือที่มารียังอยู่ตอนนี้ ก็ดันไปเห็นเซโตะกำลังเดินตรงไปร้านหนังสือพอดี

                ทำไงดีละ ถ้าเซโตะรู้ว่ามารีอ่านอะไรอยู่...จะต้องช็อกมากแน่ ถ้าจะเดินเข้าไปบอกมารีว่า

                      "นี้ มารี เซโตะมานะ รีบๆเก็บหนังสือติดเรทของเธอไว้บนชั้น แล้วรีบออกไปสิ"

                ....มีหวังโดนโมโมะมองว่าเป็นพวกแอบสะกดรอยตาม แถมมารีจะอายจนซุ่มซ่ามล้มตอนหนีอีก ไม่ทันหนีเซโตะแน่.....

                ถ้างั้น....

                .....ก็ต้องจัดการที่เซโตะสินะ!!!!

                ตอนนี้คิโดะอยู่ห่างจากเซโตะ 8 เมตร และอีก 2 เมตร เธอคิดแผนได้แล้วก็คลายพลังลง เดินเข้าไปตรอกข้างทางได้สักพักก็รีบเดินออกมาตรงไปหาทำภารกิจปกป้องความบริสุทธิ์ของมารีทันที เซโตะก็จะเดินเข้าไปร้านหนังสือแล้ว คิโดะรีบดึงแขนเสื้อของเขาเพื่อให้เขาหยุดหันมาคุยกับเธอก่อน

                       "ไง เซโตะ"
                       "อ้าว คิโดะ ออกมาซื้อของทำข้าวเย็นสินะ พอดีจะอ่านหนังสือก่อนนะ เดี๋ยวก็จะกลับแล้ว"
                       "เซโตะ นายต้องมากับฉันเดี๋ยวนี้"   คิโดะจ้องหน้าอย่างบังคับ
                       "ตะ แต่ว่าผมอย่างอ่านหนังสือเรื่องนี้มากเลย พอดีว่าผมสงสัยเรื่องสายพันธุ์ของกวางนะครับ                     ขอโทษนะครับคิโดะ"   เซโตะก้มหัวขอโทษ แล้วหันหลังจะเดินกลับเข้าร้านต่อ

               .....เราไม่อย่างทำตามแผนที่คิดเอาไว้เลย.....แต่เพื่อมารี ถึงต้องทำท่าน่าอายแบบนั้นก็ต้องทำ เราต้องปกป้องมารีในฐานะหัวหน้า!!  เพื่อมารี ท่องไว้......

                       "เซโตะ ฉันชอบแมวตัวหนึ่งในตรอกด้านข้างนี้มากเลย ช่วยพาฉันไปเล่นกับมันหน่อยสิ นะ เซโตะ"

               เซโตะอึ้งกับท่าทางการอ้อนวอนของคิโดะมาก ปกติพอคาโนะล้อว่าชอบแอบไปเล่นกับแมวทีไร คิโดะต้องต่อยคาโนะแล้วรีบปฏิเสธทันที   นี้มันอะไรกัน

                .....คาโนะเพื่อนรัก....ในที่สุด...คิโดะก็ยอมรับแล้ว เสียดายที่นายไม่อยู่แถวนี้  ไม่งั้นมีหวังนายต้องตาค้างนอนไม่หลับกับท่าอ้อนอย่างนี้ไปอีกหลายวันแน่....

                สุดท้ายเซโตะก็ได้แต่ส่งความคิดไปถึงคาโนะซึ่งตอนนี้คงคิดแผนแกล้งคิโดะแบบต่างๆ แล้วเดินเข้าตรอกไปกับคิโดะ 

                       "เฮ้ออ เหนื่อยจริงๆ ขอถอนความคิดเรื่องเซโตะไม่สร้างปัญหาทิ้งเถอะ หวังว่าจะไม่เจออะไรอีกนะ"

                ตอนนี้เธอแยกกับเซโตะแล้ว หลังจากเล่นกับแมวน้อยน่ารักข้างทาง ซึ่งมันก็น่ารักจริงๆ เซโตะไม่เข้าร้านหนังสือเพราะเขาต้องรีบไปซื้อขนมร้านโปรดของมารีซึ่งจะปิดในอีก 10 นาทีและคิโดะก็กำชับไว้ว่าซื้อเสร็จแล้วให้รีบกลับไปกินข้าวเย็นทันที ห้ามแอบมาร้านหนังสือต่อ 

                คิโดะรีบใช้พลังและเดินตรงกลับฐานทัพอีกครั้ง เธอพยายามไม่สนใจสิ่งรอบข้าง รีบเดินผ่านร้านเสื้อผ้า ผ่านร้านหนังสือ  ตอนนี้กำลังเดินผ่านร้านขายของเก่า
       
                และกำลังจะเดินผ่านไปแล้วถ้าไม่มีลูกค้าที่เพิ่งเดินออกจากร้านขายของเก่ามาชนเธอเข้า ผู้ชายคนนั้นตกใจเพราะอยู่ดีๆก็เดินชนเด็กสาวที่โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ ขอโทษสักสองสามทีแล้วเดินไปเลย คิโดะรีบใช้พลังอีกรอบ เธอตกใจเหมือนกันที่มีคนมาเดินชนเธอจนพลังคลายลง คงเป็นเพราะเธอเดินโดยไม่มองรอบข้างเลย

                ร้านขายของเก่าของคุณลุงแก่ๆคนหนึ่งสินะ....ดูท่าจะขายดีด้วยสิ.....เอ๊ะ นั้นมัน ฮิบิยะนิ!!!

                เงาเด็กผู้ชายคุยกับเจ้าของร้านอย่างสนิทสนมในร้านขายของเก่าทำให้เธอสงสัย เธอแอบเปิดประตูร้านเบาๆ แล้วเดินเข้าไปดูว่าฮิบิยะทำอะไรอยู่ในร้านขายของเก่า ทั้งทีไม่อยากยุ่งเรื่องใครแล้วแท้ๆ แต่ถ้าเป็นเรื่องของสมาชิก เธอก็อยากรู้เหมือนกัน

                       "นี้นะ ฮิบิยะคุง ฉันเอาของที่เธอว่ามาให้แล้วนะ แหม กว่าจะขอคุณพ่อเธอไปหยิบของมาให้ได้ นี้มัน     ยากลำบากจริงๆ"    คุณลุงหน้าตาใจดีส่งลังพร้อมยิ้มให้ฮิบิยะ
                       "ขอบคุณมากครับ ผมไม่อยากรบกวนหรอกครับ แต่ว่า...มันเป็นของที่มีความทรงจำเกี่ยวกับเธอ มัน     สำคัญกับผมมากครับ"
                       "ไม่เป็นไรๆ เพื่อนบ้านกัน ฉันนะเห็นเธอมาตั้งแต่ตัวยังเล็ก โตขึ้นเยอะแล้วนะเรา"

                 คิโดะเดินออกมาจากร้านทันทีหลังจากฟังบทสนทนาได้ไม่นาน และไม่ลืมที่จะปิดประตูอย่างเบามือ เธอไม่อยากจะล่วงล้ำเรื่องเด็กผู้หญิงที่ฮิบิยะชอบมากนักหรอก ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าทำไมฮิบิยะถึงได้ขอชั้นเก็บของ

                 .....ไว้เป็นชั้นเก็บของสำหรับเก็บความทรงจำไว้สินะ.....

                 เธอตัดสินใจวิ่งกลับอย่างจริงจังและคราวนี้เธอจะไม่วอกแวกแล้ว ต้องรีบกลับไม่งั้นทุกคนจับได้แน่ว่าแอบเดินจนเกือบมืดขนาดนี้  รีบกลับ จะได้รีบทำดีกว่า

      19.00 น. ที่ฐานทัพลับ
                         "กลับมาแล้วค่าา วันนี้หัวหน้าทำอะไรกินคะเนี่ย กลิ่นหอมเชียว"  โมโมะตะโกนลั่นห้อง 
                         "เสียงดังจริงๆเลย คุณป้าา"  การทะเลาะระหว่างวัยรุ่นต่างวัยก็ได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง
                  ตอนนี้ทุกคนกลับมาครบกันหมดแล้ว บนโต๊ะมีหม้อไฟใส่ผักหลากชนิดและเนื้อสัตว์ กลิ่นอาหารลอยไปทั่วห้อง จานชามจัดเตรียมเรียบร้อยหมดแล้ว ทุกคนนั่งประจำตำแหน่งเรียบร้อย ก็ได้เวลาทานอาหารเย็นแล้ว
                           "ทานแล้วนะครับ/ค่ะ"  
                   กินกันไปได้ซักพัก คาโนะก็เริ่มโวยวาย  
                           "นี้ คิโดะ มาแย่งเนื้อหมูของผมทำไมกัน ผมกำลังเล็งชิ้นนั้นไว้"  คิโดะส่งสายตาอัมหิตให้เป็นคำ         ตอบ ขนาดคนทั้งโต๊ะถึงกับขนลุก
                           "คิโดะ โกรธอะไรผมอีกละเนี่ย เน้ ผมทำอะไรให้คิโดะโกรธ ว่าไง"  คาโนะตื้อจะเอาคำตอบ ผลก็       ออกเช่นเดิม คิโดะส่งสายตาอัมหิตมาให้อีกครั้ง
                           "เอ่อ นี่ วันนี้คิโดะไปเดินทำอะไรอยู่เย็นมากแล้วยังไม่กลับ" เซโตะพยายามเปลี่ยนเรื่อง
                           "อะ เออ"
                  จะให้ตอบได้ยังไงเล่า ว่าไปเดินดูทุกคนมา กลับมาเย็นถึงต้องรีบทำหม้อไฟ โชคดีที่เลือกหม้อไฟแต่แรก กลับมาก็รีบต้มน้ำ ใส่ผักใส่เนื้อทันที ทำไงดี
                           "พอดีซื้อของเยอะมาก แล้วมันมีของที่ต้องหานานมากด้วย ก็เลย...กลับมาช้า" เธอตอบเบาๆ
                           "นี้คาโนะนายต้องไม่เชื่อแน่ว่า คิโดะไปเล่นกับแมวด้วย แถมยังขอให้ฉันเป็นล่ามด้วย" เซโตะพูด       อย่างภาคภูมิ ผลก็คือสมาชิกแต่ละคนต่างสำลักอาหารและมองคิโดะกันเป็นตาเดียว
                           "แหม คิโดะ ชอบแม- อ้อก" คาโนะพูดไม่ทันจบก็โดนต่อยเข้าที่ท้องเต็มๆ 
                           "ฉันไม่ได้ชอบแมวนะ ไอ้บ้าคาโนะ!!!" บทสนทนาระหว่างมื้ออาหารก็จบลงทันทีพร้อมภาพคาโนะนอนอยู่ที่พื้นร้องโอดครวญถึงคิโดะตอนเด็กๆ สุดท้ายก็โดนเตะซ้ำอีก
                    ......และวันอันแสนเหน็ดเหนื่อยของคิโดะก็จบลง.....
      --- --- ---  --- --- --- --- --- --- --- --- --- --- --- ---
      ขอบคุณค่าา ยาวไปหน่อย แต่ก็ขอบคุณค่ะ เม้นให้หน่อยก็ได้นะค่ะ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×