ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic: Sengoku Basara [High School Love ข้ามมิติมาพบรัก Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #2 : ...ตอนที่ 1 อดีต...

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.66K
      21
      25 ต.ค. 52

    ในอดีตอันแสนไกล เหล่าผู้คนต่างรบราเพื่อเกียติยศ บ้างก็เพื่อศักดิ์ศรี บ้างก็เพื่อความเป็นใหญ่ จนในที่สุดก็ได้มีจอมอสูรที่มั่กใหญ่ใฝ่สูง ต้องการครองทุกสิ่งทุกอย่าง นามอันลังลือถึงความโหดเหี้ยมอำมหิตนั้นคือ โอดะ โนบุนากะที่มีความอำมหิตและเป็นที่หวาดกลัว รวมไปถึงมนตร์ดำที่ทำให้ตนอยู่ยงคงกระพัน

    จนมีซามุไรและเหล่าผู้กล้าต่อกรจนได้รับชัยชนะ แต่ด้วยพลังอำนาจที่มากหล่น จึงทำได้เพียงสะกดวิญญาณตนนั้นให้ไม่ได้ไปผุดไปเกิด วิญญาณตนนั้นจึงได้ลันวาจาและสาปแช่งนักรบคนหนึ่งจากกลุ่มที่ปราบเขาลงได้โดยการบังคับให้ดื่มเลือดของเขา

    “ข้าจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด!!จนกว่าโลกนี้จะเป็นของๆข้า!!และเจ้าซานาดะ ยูคิมูระข้าขอสาปแช่งเจ้าขอให้เจ้าต้องตายในวัยอายุครบ 17ไปทุกภพทุชาติด้วยน้ำมือของคนที่เจ้ารักหรือไม่ก็ต้องตายด้วยหัวใจถูกบีบกระชากอย่างทุกข์ทรมาน!!ฮ่าๆๆๆๆ!!!!!!!!” สิ้นเสียงหัวเราะอันหน้าหวาดกลัว ทำให้ผู้คนกลับมาเป็นเหมือนเดิมทุกอย่าง

    แต่มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น ตามความคิด ก็เพราะในศึกตัดสินของกองทัพดาเตะกับทาเคตะ ผลออกมาคือทาเคตะพ่ายแพ้และได้เสียแม่ทัพคนสำคัญ ซานาดะ ยูคิมุระ ไปด้วยน้ำมือของ ดาเตะ มาซานุเมะ ซึ่งใครๆ หลายคนต่างเข้าใจดีว่า มันเป็นธรรมดาที่เกิดในสงคราม แต่มันไม่เป็นแบบนั้น...

     

    ---------------------------------------------=========================-----------------------------------------

     

    บนถูขาที่มีเนินยื่นออกมารับแสงแดดส่องสว่างเป็นทิวทัศที่สามารถมองเห็นแม่น้ำ และป่าไม้ได้ดี มีทวนปักเป็นอนุสรณ์ของวีรชนคนหนึ่งไว้ ซึ่งชายหนุ่มคนหนึ่งเดินมาหยุดตรงหน้านั้นด้วยใบหน้าคมคายมีผ้าปิดตาข้างขวาไว้ แต่ดวงตาอีกข้างที่เหลือดูเศร้าหม่อง ในมือกำสิ่งหนึ่งไว้แน่น

    “เจ้า...สู้กับข้าอย่างองอาจและจากไปด้วยรอยยิ้มจนหน้าหงุดหงิดและน่าสงสัยนัก...และตอนนี้ข้าก็รู้แล้วว่าทำไม...” ชายหนุ่มเดินมาใกล้กับทวนและลงนั่งคุกเข่าลง พลางเปิดมืออกมาให้เห็นสร้อยคอเหลียนทอง 6 อัน ร้อยอยู่


    “เพราะเจ้ากำลังจะตายด้วยคำสาป...แต่ว่าข้าคิดถึงเจ้า ยูคิมูระข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน...ยูคิมูระข้ารักเจ้ามากมายนัก และก็รู้สึกตัวตอนที่เจ้าจากไป” ชายหนุ่มเอยขึ้นด้วยเสียงสั้นไหวพลางลูบทวนที่แดง อันเป็นอาวุธของผู้เป็นที่รัก อย่างทนทุกข์ พลางนึกไปถึงวันที่เขารู้ความจริงเมื่อ
    3 วันก่อน

     

    ---------------------------------------------====================-------------------------------------------------

     

    //เมื่อ 3 วันก่อน//

    “ท่านมาซานุเมะ...ท่านเจ้าอาวาสแห่งวัดไดเมียวจิโกะขอให้ท่านไปพบครับ...เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญมากเกี่ยวเนื่องกับโนบุนากะด้วยครับ” ชายคนหนึ่งรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าคมสันชมชายชาตรี มีบาดแผลที่แก้มซ้ายเอยขึ้น บอกผู้เป็นเจ้านาย

    O.K. งั้นก็ไป” ผู้เป็นนายเอยขึ้นพลางลุกขึ้นยื่น เดินนำลูกน้องไปเพื่อพบกับผู้ที่เรียกตัวเขา

     

    พอไปถึงที่หมายก็พบกับเหล่าคนที่รู้จักกันดี เพราะเป็นคนที่ร่วมต่อสู้กับจอมมารอสูรโนบุนากะมาด้วยกันทั้งนั้น


    “นึกว่าท่านจะไม่มาซะแล้ว...ท่านมังกรตาเดียว” ชายร่างสูงใหญ่ ใบหน้าติดทะเล้นผมยาวสีดำอมม่วงรวบเป็นหางม้ายาวเอยขึ้น ติดตลก

    “ใครบอกกันล่ะว่าจะไม่มานะ...มาอิดะ เคจิ” ชายหนุ่มตอบแบบกวนๆ กลับไปเช่นกันจนก่อเกิดรังสีคุกคามเตรียมมีเรื่องกันเต็มที่

    “อ้าวๆ อย่าพึ่งมากัดกันตรงนี้ซิ...เจ้าอาวาสท่านมารออยู่นะ” ชายหนุ่มผู้มีผมสีเทาขาวเอยขึ้นมีผ้าปิดตาข้างซ้ายขัดขึ้นขัดห้ามทัพก่อน ซึ่งทั้งคู่ก็ยอมเลิกรากันมานั่งประจำที่ของตนเอง

    ชายชราในชุดเจ้าอาวาสกับชายหนุ่มอีกคนที่แต่งกายในชุดองเมียวเห็นว่ามากันพร้อมเพียงกันแล้วจึงเริ่มเปิดการชุมที่เรียกพบ

    “ต้องขอประทานโทษที่เรียกพวกท่านมาในวันนี้ด้วย...เนื่องจากว่าท่านองเมียวไดโคสุเกะ มานาบุ มีเรื่องต้องบอกพวกท่านเกี่ยวกับจอมปิศาจโนบุนากะให้พวกท่านทั้งหลายทราบ” ท่านเจ้าอาวาสเปิดประเด็นขึ้นอย่างไม่รีรอ ซึ่งทุกคนต่างรู้ทันทีว่าคงจะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก

    “ข้าอยากขอบคุณที่พวกท่านจัดกับปิศาจชั่วนั้นได้...แต่ว่าเราต้องเสียผู้คนอันเป็นกำลังสำคัญไปมากมายเช่นกัน” นักองเมียวเอยขึ้นอย่างเศร้าใจเป็นอย่างยิ่ง

    “ข้าว่าท่านพูดมาเลยดีกว่าที่เรียกมามีอะไร!!!” มาซานุเมะเอยขึ้นตัดบทอย่างนึกรำคาญใจ

    “...งั้นข้าจะไม่พูดอ้อมค้อมเลยล่ะกัน ผนึกที่ได้กักขังโนบุนากะมันไม่สมบูรณ์อย่างถึงที่สุด จึงเป็นเหตุได้ว่าสักวันมันจะทำลายออกมาได้” คำอธิบายของนักองเมียวเอยขึ้นทำเอาบรรดาคนฟังต่างตกใจไม่น้อย

    “ทำไมถึงไม่สมบูรณ์!!ตอนนั้นพวกเราทุกคนทำตามที่เจ้าว่าและก็สำเร็จไม่ใช้รึ?!!” ชายหนุ่มผู้มีผมและดวงตาสีน้ำตาลเอยขึ้นอย่างขัดใจ โดยมีชายหนุ่มผมขาวพยายามห้ามให้ใจเย็นๆ

    “ใช้...พวกท่านทำตามและทำได้สำเร็จเพียงแต่ว่าเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นนะ...” องเมียวหนุ่มเอยขึ้นต่ออย่างนุ่มนวล


    “หมายความไง
    ?” เคนจิเอยอย่างสงสัยเป็นอันมาก


    “ตอนที่กำลังจะผนึกข้าจับจิตชั่วร้ายได้ สองจุด...จุดแรก คิดว่าคงเป็นท่านหญิงโนฮิเมะ ภรรยาจอมมาร ที่หนีรอดไปได้และได้รับพลังปิศาจมาด้วย...” คำอธิบายดังต่อชวนให้บรรยากาศเริ่มตรึงเครียด


    “...แล้วอีกจุดละท่าน
    ?” เคนจิเอยต่อ


    “รองแม่ทัพทาเคดะ ซานาดะ ยูคิมูระ
    !!!!” ชื่อที่ดังออกมาทำให้ทุกคนต่างตกใจมากกว่าเก่า โดยเฉพาะแม่ทัพดาเตะ ที่ตกใจจนเริ่มทนไม่ไหว 


    “ที่ท่านพูดหมายความว่าไงนะ
    !!เจ้านั้นกับข้าเป็นคนจัดการกับจอมปิศาจนั้นไม่ใช้รึ?!!” มาซานุเมะเอยขึ้นถามอย่างสงสัยเป็นอันมาก ถึงความเกี่ยวข้องนี้


    “ใช่...ท่านซานาดะกับท่านเป็นคนจัดการ แต่ท่านซานาดะโดนคำสาปมาด้วย และยังเป็นคำสาปที่เลวร้ายมาก” คำอธิบายที่ดังขึ้นนั้น แม้แต่นักองเมียวยังนึกสงสารและเห็นใจมาก


    “คำสาป
    ?


    “โนบุนากะได้สาปให้ท่านซานาดะตายในวัยครบ
    17 ปีโดยการการทรมาณจากหัวใจถูกบีบกระชากหรือตายด้วยน้ำมือคนรักทุกชาติทุกภพไป...” คำอธิบายดังต่อมาทำเอาทั้งห้องนั้นเงียบกริบ อย่างไม่เชื่อหูตนเองว่าจะมีเรื่องบ้าๆ นั้นได้


    “พะ...พูดอะไรของเจ้านะ
    !!จะเป็นอย่างงั้นไปได้ยังไงกันล่ะก็ในเมื่อข้าเป็นคน...?!!” แม่ทัพหนุ่มแห่งดาเตะเริ่มทนไม่ไหวกระชากคอเสื่อนักองเมียวมาใกล้ๆ แต่ในใจก็หวั่นเกรงอยู่ลึกๆ


    “ในวันที่นายท่านยูคิมูระต่อสู้และสิ้นลมนั้นตรงกับวันที่ท่านครบ
    17 ขวบปีพอดี...ท่านองเมียวพูดถูกคำสาปนั้นมิได้โกหกแต่อย่างใด ข้าขอรับรอง...” เสียงหนึ่งเอยขึ้นจากฟากของประตู เป็นนินจาหนุ่มในชุดลายพลางผมและดวงตาสีน้ำตาลอ่อน นั่งมองมาที่ทุกคนในห้อง


    “เจ้านินจาองค์รักษ์ซานาดะ ซารุโทบิ ซาสุเกะ...เจ้าพูดเป็นความจริงรึ
    ?” มาซานุเมะเอยขึ้นอย่างไม่ค่อยเชื่อเท่าไร


    “ขอรับเป็นความจริง” นินจาหนุ่มรับคำ ทำเอามาซานุเมะเข่าอ่อนยวบลงนั่ง อย่างไม่เชื่อกับสิ่งที่รับรู้ตอนนี้เท่าไรนัก ถ้าจะให้คิดว่าเป็นความบังเอิญนั้นก็ทำไม่ได้ เพราะต่อที่สู้และจบลง ชายหนุ่มนั้นก็ได้จากเขาไปพร้อมกับรอยยิ้มและคำพูดที่เขายังจำได้ไม่ลืม


    “...และเพราะเหตุนี้เราจึงได้รู้ว่าพลังมารนั้นถูกแบ่งออกไปนั้นทำให้ผนึกไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร แต่มันก็ทำให้ผนึกพลังของเจ้าปิศาจนั้นนานนับสิบๆ ปี แต่ทางที่ดีเราอยากให้พวกท่านจัดการกับท่านหญิงโยฮิเมะเพราะเธอเป็นคนเดียวที่มีพลังพอจะทำลายผนึกได้ ส่วนเรื่องท่านซานาดะนั้นเราจะหาทาจัดการเอง...” นักองเมียวเอยต่อ ทำให้มาซานุเมะถึงกับฉุนอีกครั้ง

    “จัดการงั้นรึ!!เจ้านั้นจากไปแล้วจะทำอันใดได้เหล่า!!” ชายหนุ่มเข้าไปกระชากเสื้ออีกครั้งทำให้คู่หูของตนต้องมาห้ามและพามานั่งที่ของตนอย่างยากลำบาก

    “ท่านอย่าประมาณพลังของพวกเราตำนักสิ...ในหมู่นักองเมียวก็มีพวกที่ทำนายการเกิดและการจุติได้ ถึงเราตายแต่ภารหน้าที่ของเรายังอยู่และมีผู้สานต่อจนกว่าจะทำสำเร็จ” นักองเมียวหนุ่มเอยขึ้นอย่างมาดมั่น ทำให้แม่ทัพหนุ่มยอมสงบลง แต่ในใจยังเจ็บปวดอย่างที่ตนไม่เข้าใจตนเอง

     

    พอการพบปะและหาข้อสรุปจบลงแม่ทัพหนุ่มแห่งดาเตะและนายทหารคู่ใจก็เดินมาพบกับนินจาหนุ่มที่กำลังรออยู่

    “ความจริงนายท่านไม่อยากให้ท่านรู้หลอก เพราะจะทำให้ไม่สบายใจ แต่ว่าข้ากลับคิดว่าดีแล้วที่ท่านรู้...เพราะถ้าเป็นไปได้ ท่านช่วยไปต่อว่าเขาหน่อย แบบนั้นคงจะดีไม่น้อย...” นินจาหนุ่มเอยขึ้นจากใจจริงๆ ก่อนจะส่งจมหมายฉบับหนึ่งให้กับมาซานุเมะ และจากไปในความมืด และเปิดออกมานั้นเป็นสร้อยคอร้อยเหลียนทอง 6 เหลียน ทำให้ดวงตาดำมั้นทอประกายด้วยความตกใจ ก่อนจะเอาเข้ามากุมไว้ที่อกอย่างนึกถึงคำพูดและการกระทำก่อนจากไปของซานาดะ ยูคิมูระ

     

    ...ดีใจที่ได้เจอกับท่าน...ดีใจที่ได้ต่อสู้ และได้มอบหัวใจดวงนี้ให้กับท่าน...ลาก่อนท่านดาเตะ มาซานุเมะ...

     

    -----------------------------------------------======================-----------------------------------------

     

    “ไอ้เจ้าซื่อบื้อ!!ไอ้บ้า...เจ้ามันโง่ที่มาหลงรักข้าที่เป็นศัตรูกันแบบนี้ซึ่งรวมถึงตัวข้าเองด้วย...ซึ่งเจ้าอาจจะคิดว่าเจ้านั้นตายด้วยมือข้าดีกว่าตายเพราะพิษคำสาป แต่ว่าคนที่รักเจ้าและสังหารเจ้านั้นกำลังทรมานยิ่งกว่าตายทั้งเป็นเจ้าอยากให้ข้าเป็นเช่นนั้นรึ ยูคิมูระ?!!” แม่ทัพหนุ่มแห่งดาเตะเอยขึ้น พร้อมกับความรู้สึกที่อัดอั้นมาโดยตลอด กับการจากไปของ รองแม่ทัพหนุ่ม ซานาดะ ยูคิมูระ

    “...ไม่สิ...เจ้าไม่อยากให้เป็นแบบนี้เพียงเพราะคำสาปจากเจ้าปิศาจที่ครอบครองเจ้าไว้...แต่ว่าสิ่งที่เจ้าทำนั้นทำให้ข้ายิ่งหลงใหลเจ้ามากขึ้นและอยากจะให้เจ้าต้องชดเชยในความรู้สึกที่ข้ามีต่อเจ้ายูคิมูระ...ไม่ว่าจะกี่ภพกี่ชาติข้าจะตามเจ้าไปทุกที่ และจะตามเจ้าไปเพื่อให้เจ้าชดใช้ในสิ่งที่เจ้าทำ ข้าจะทำให้เจ้าเป็นของข้าคนเดียวตลอดไป...ข้าขอให้คำสัตว์สาบาน” พูดจบแม่ทัพหนุ่มก็ลุกขึ้นและจากไปพร้อมกับทหารคู่ใจ และไม่มาเหยียบที่นั้นอีกเลย...

    จนเวลาล่วงเลยหลายสิบปี ดาเตะ มาซานุเมะ ยกตำแหน่งให้ลูกชายดูแลต่อจากเขา และในวันที่ใกล้สิ้นใจ ชายแก่หยิบเอาสร้อยคอของรักของหวงออกมาดู

    “โคจูโร่จงฟังถ้าข้าตาย...ให้เผาศพข้าพร้อมกับสิ่งนี้” ชายชราเอยขึ้นกับชายชราอีกคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ กันนั้น

    “ขอรับ...ท่านมาซานุเมะ” เสียงรับปากจากทหารคู่กายที่รวมรบกันมา ทำให้เขานั้นอุ่นใจและหลับจากไป เพื่อไปหาคนสำคัญในอีกชาติภพ....

    //TBC.//

    ----------------------------------+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++-----------------------------

    ส่งท้าย...มาตอนแรกของเรื่องนี้นะค่ะ อาจจะไม่เหมือนกับท้องเรื่องจริงๆ นะค่ะ แต่อาจจะมีเกี่ยวเนื่องมาบ้างเล็กน้อยนะค่ะ ยังก็อย่าลืมเม้นให้ด้วยนะค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×