ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    :: เพลงใบไม้ ::

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่สอง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 294
      0
      21 ต.ค. 47

    บทที่02



                          เช้าวันศุกร์ หรือว่าวันสุดท้ายของการทำงานในช่วงสัปดาห์ของวริตฐานั้น แม้จะเริ่มต้นด้วยการตื่นนอนตอนเช้าอย่างสดชื่น พร้อมความฝันที่เหมือนเรียกเวลาช่วงวัยเยาว์ที่เธอถวิลหาให้หวนมาก็ตาม  หากแต่สภาพการจราจรอันแสนวุ่นวายของเมืองหลวงในยามเช้านั้น ได้สร้างอารมณ์หงุดหงิดเหนื่อยหน่ายขึ้นมาจนแทบจะลืมความรู้สึกสดชื่นดังกล่าวไปเกือบหมด พอถึงอาคารทันสมัยสูงใหญ่ซึ่งเป็นที่ทำงานของเธอ ก็เล่นเอาหญิงสาวแทบหมดแรง  กาแฟแก้วเล็กพร้อมขนมปังปิ้งทาแยม หนึ่งในเมนูหลักของคนที่ไม่ค่อยจะมีเวลาว่างมากเช่นเธอ  ดูเหมือนจะให้พลังงานไม่พอนักในเช้านี้ เพราะหลังจากหอบแฟ้มงานจากรถคันเล็ก ขึ้นลิฟท์ไปจนถึงออฟฟิศได้  ครีเอทีฟสาวก็ยิ่งต้องวุ่นเป็นทวีคูณ เมื่องานที่สั่งไว้ไม่ตรงตามที่ต้องการ กว่าจะแก้ไข และจัดแจงงานที่ต้องทำได้ก็ปาเข้าไปครึ่งวัน  

                          เมื่อเวลาพักเที่ยงมาถึงหญิงสาวผมยาวแทบจะถอนหายใจโล่งอกกับเวลาที่หยุดเรื่องงานเอาไว้ได้  งานกองเบ้อเริ่มที่เหลือค้างอยู่ตรงหน้าถูกดันออกไปเพื่อให้มีที่สำหรับฟุบหน้าลงบนโต๊ะอย่างเหนื่อยอ่อน ดวงตากลมโต ใต้คิ้วเข้มที่ได้รูปโดยแทบไม่ต้องแต่งเติมอะไรมากนัก มองไปทางรูปถ่ายในกรอบสวยบนโต๊ะทำงาน ภาพตอนเด็กที่เธอถ่ายกับครอบครัวที่บ้านต่างจังหวัดนั้นเต็มไปด้วยความทรงจำ  ห้วงคำนึงทำให้คิดไปถึงใครบางคนที่ไม่ได้อยู่ในรูป  แม้ว่าเธอจะมาศึกษาต่อและเริ่มทำงานในกรุงเทพแล้ว หากแต่มารดาของปุยฝ้ายยังคงเลือกที่จะอยู่บ้านหลังเดิม ด้วยเหตุผลที่ว่าสงบและร่มรื่น ที่สำคัญคุณพรรณราย ก็สนิทสนมกับเพื่อนบ้านละแวกนั้นดี  เธอจึงเลี่ยงสังคมเมืองกรุงมาใช้ชีวิตที่ไม่วุ่นวายทางนี้แทน  ทุกครั้งที่หญิงสาวกลับไปเยี่ยมที่บ้าน เมื่อมีเวลาว่างเธอมักจะมองไปตามที่ ๆเคยไปประจำเสมอ เผื่อจะมีซักครั้งที่เพื่อนคนนั้นของเธอจะกลับมา

                       “ เหม่ออะไรอยู่จ๊ะ  ไม่ไปหาอะไรทานเหรอ  เดี๋ยวก็ปวดท้องหรอก ” หญิงสาวผมสั้นประบ่าเดินเข้ามาทักจากทางด้านหลังด้วยความสนิทสนม

                       “ ไม่มีอะไรหรอกกุล แค่เหนื่อยนิดหน่อยน่ะ  กุลอยากทานอะไรล่ะเดี๋ยวพวกเราได้ไปกัน แต่ฝ้ายไม่เอารถออกนะ  ไม่อยากมาแย่งที่จอดตอนเที่ยงอีก ” วริตฐาลุกขึ้นจัดแต่งเสื้อผ้าพลางคว้ากระเป๋าถือใบโปรด  ตั้งแต่โตขึ้นมาพอเข้ามหาวิทยาลัย จากชื่อเล่นเต็ม ๆปุยฝ้าย เธอก็บอกเพื่อน ๆเพียงว่าฝ้ายสั้น ๆ  เพื่อความสะดวกในการเรียกขาน แม้เพื่อนสนิทของเธออย่างคนข้าง ๆจะบอกเสมอว่า

                      “ ปุยฝ้ายน่ะออกจะน่ารัก  ให้เรียกฝ้ายเฉย ๆน่ะมันโหลนะ  ”





                       สองสาวเลือกร้านอาหารที่ห้างใหญ่ใกล้ที่ทำงาน เนื่องจากกุลวรินทร์ จะต้องหาหนังสือที่เอาไปใช้ทำงานต่อด้วยจึงเลือกมาที่นี่  หลังจากเลือกซื้อหนังสือที่ต้องการเสร็จทั้งคู่จึงหาร้านสบาย ๆที่คนไม่แน่นมากนักนั่งเพื่อจะได้กลับไปทำงานทัน  

                      “ เมื่อคืนฝ้ายแปลกมากเลยกุล  ฝันเห็นสมัยตอนเด็ก ๆที่อยู่ที่ต่างจังหวัดน่ะ  ฝันยาวเลยนะไม่รู้ทำไมจู่ ๆก็นึกถึงขึ้นมาได้ ” หญิงสาวผมยาวเริ่มบทสนทนาก่อน

                      “ สมัยที่มีเพื่อนคนนึง ที่ปุยฝ้ายชอบบอกว่าสนิทมาก ๆใช่มั้ย  จำได้ ๆ  บางทีอาจจะเพราะไปได้ดูรูปเก่า ๆเลยคิดถึงขึ้นมามั้ง ” เพื่อนสนิทที่เป็นเพียงไม่กี่คนที่เรียกวริตฐาด้วยชื่อเล่นเต็ม ๆตอบพลางนึกถึง  เรื่องที่เพื่อนชอบเล่าให้ฟัง พร้อมหยิบหนังสือเล่มใหม่ที่ซื้อขึ้นมาดู เพราะอีกฝ่ายเพียงตอบ มั้ง ก่อนจะเบนสายตาไปมองทางหน้าต่างของร้าน

                      “ นี่ขนาดวันธรรมดานะเนี่ย คนยังเยอะอยู่เลย ” สายตามองยาวออกไปเห็นกลุ่มวัยรุ่นจำนวนมากเดินกันไปมา

                      “ ก็นี่มันปิดเทอมแล้วนี่นา  เราได้ยินว่ามีศิลปินหน้าใหม่มาเปิดอัลบั้มข้างล่างด้วย  คนคงจะไปมุงดูกันล่ะมั้ง ” พูดจบก็ไม่ติดใจอะไรอีกเพราะรู้ว่าวริตฐานั้นไม่ใช่คนที่สนใจพวกศิลปินไทยที่ออกเทปกันเกลื่นกราดเท่าไหร่อยู่แล้ว พออาหารมาเสิร์ฟเรียบร้อยก็ไม่มีใครสนใจเรื่องกลุ่มคนด้านล่างกันอีก



                       บริเวณลานกว้างชั้นล่างของห้างสรรพสินค้าถูกจัดเป็นงานแถลงข่าวเปิดอัลบั้มใหม่ของศิลปินค่ายยักษ์ในวงการ  นักข่าวและผู้เกี่ยวข้องรวมถึงกลุ่มวัยรุ่นมากมายเบียดเสียดกันเข้ามาบริเวณหน้าเวทีซึ่งกำลังสัมภาษณ์โดยพิธีกรที่เป็นวีเจชื่อดัง  ตัวเวทีสร้างพื้นจากบล็อกให้สูงขึ้นระดับหนึ่ง ตกแต่งเวทีด้วยจอมอนิเตอร์ยักษ์สองข้าง ที่ถ่ายทอดไปออกทีวีเครื่องใหญ่ของห้าง  ชื่อศิลปินและชื่ออัลบั้มทำเป็นตัวอักษรขนาดใหญ่ติดเห็นชัดเจน รวมทั้งป้ายสปอนเซอร์ต่าง ๆ ติดเต็มฉากด้านหลังของเวที ส่วนอื่น ๆตกแต่งง่าย ๆให้ดูเป็นธรรมชาติเหมาะกับเพลงแนวสบาย ๆของอัลบั้มนี้

                       ชายหนุ่มหน้าตาดีเรือนผมดำเป็นเงา คิ้วเข้มในชุดสบาย ๆเสื้อคอวีสีเขียวขุ่นที่ขับผิวขาวออกเหลืองนิด ๆให้ดูผ่องใส  ที่ช่องแหวกของเสื้อมีจี้รูปใบไม้มีเขียวเข้มห้อยไว้ด้วยสายหนังสีดำดูมีสไตล์ กำลังยิ้มคำถามตอบพิธีกรบนเวทีอย่างเป็นกันเอง

                      “ ได้ยินว่าเพลงในอัลบั้มนี้แต่งเองทั้งหมดเลย จริงรึเปล่าคะ ” พิธีกรสาวถามคำถามต่อศิลปินหนุ่มด้วยท่าทางสบาย ๆเป็นกันเอง

                      “ ครับ เพลงในอัลบั้มชุดนี้ผมเขียนเองทั้งหมด มีบางส่วนให้พี่ ๆที่บริษัทมาช่วยเกลานิดหน่อย  ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะถูกใจคนฟังมากน้อยแค่ไหน  ยังไงก็ช่วยลองฟังกันหน่อยนะครับ ” รติพัทธ์ พูดพลางหันไปยิ้มกับทางคนดูเรียกเสียงกรี๊ดจากสาว ๆที่ติดใจเพลงเปิดตัวของเขาได้เป็นกอง

                      “ แหมไม่ต้องถ่อมตัวยังงั้นก็ได้ค่ะ  แค่เพลงเปิดตัวเพลงแรกของรติพัทธ์ก็มีคนพูดถึงกันทั่วประเทศแล้ว  ขึ้นชาร์ตอันดับหนึ่งติดกันตั้งไม่รู้กี่คลื่น  เพลงต่อ ๆไปยังไงก็คงขึ้นอันดับตาม ๆกันไปแน่ ๆ   โดยส่วนตัวเจนนี่ชอบมากเลยนะคะ แถมไอเดียเก๋มากด้วย มีการเอาใบไม้มาเป่าเป็นintroเพลง  ไม่ทราบได้ไอเดียดี ๆแบบนี้มาจากไหนคะ ”

                      “ ผมชอบธรรมชาติอยู่แล้วครับ  เพลงใบไม้นี่ก็เคยเอามาเป่าเล่นตั้งแต่เด็ก ๆ ” ชายหนุ่มตอบยิ้ม ๆ แต่แวบหนึ่งในสายตามีแววใคร่ครวญตระหวัดถึงความทรงจำในอดีต

                      “ เราคุยกันมาตั้งนานแล้ว  ทุกคนคงอยากฟังเพลงจากศิลปินหนุ่มสุดฮอตคนนี้กันแล้วใช่มั้ยคะ  งั้นต่อไปเราจะมาฟังเพลงจากเขากันเลยค่ะ กับเพลงเปิดตัวที่ดังที่สุดในขณะนี้ เพลงใบไม้ค่ะ  ”

                      ชายหนุ่มเริ่มบรรเลงเพลงช้าในจังหวะที่ถนัด แค่ขึ้น intro ของเพลงก็เรียกเสียงจากผู้ชมได้มากโขเสียงเพลงบรรเลงเบา ๆเพราะพริ้ง ผิดกับพวกเพลงทั่วไป ทั้งเสียงร้องและจังหวะที่นุ่มหูสามารถดึงดูดผู้ฟังได้อย่างดี จนเพลงจบลงเสียงตรบมือเกรียวขึ้นอย่างพร้อมเพรียง ชายหนุ่มยิ้มโบกมือลาแฟนเพลง แสงแฟลชวูบวาบติดต่อกันเป็นระยะจนเขาลับลงไปจากเวที



                      วริตฐา ออกจากร้านอาหารมาด้วยเวลาที่เลทกว่าที่คิดไว้มาก  แม้อาหารจะเสิร์ฟเร็วตามคาดหากแต่เมื่อเรียกเก็บเงิน หนักงานกลับทำบิลสลับโต๊ะกับโต๊ะข้าง ๆทำเอาเสียเวลาไปพอสมควร  กว่าจะออกมาได้ก็ทำให้หญิงสาวสองคนร้อนใจกลัวจะกลับไปทำงานไม่ทัน  ชั่วขณะหนึ่งเมื่อออกจากร้านและลงบันไดเลื่อนเพื่อไปเรียกแท็กซี่ ความรู้สึกบางอย่างก็สะกิดใจให้หญิงสาวเหลียวกลับไปมองทางเวทีเปิดตัวศิลปินอีกที  คนจำนวนมากเบียดเสียดกัน ทำให้เธอไม่ได้สังเกตอะไรมากนักก่อนจะตามเพื่อนสนิทไปเรียกรถกลับบริษัท



                       บริษัทโฆษณาที่ทั้งสองทำงานอยู่เป็นบริษัทชั้นนำในวงการ  งานและชิ้นที่เข้ามาจึงเป็นงานใหญ่ซะส่วนมาก  แม้จะเพิ่งเรียนจบมาไม่นานแต่ เกียรตินิยมอันดับสองของ วริตฐา ก็พาเธอเข้าไปรับมือกับงานระดับบิ๊กเหล่านั้นได้สบาย พอผ่านการทดลองงานช่วงแรกไปได้ ทุกคนก็ยอมรับฝีมือของเธอมากขึ้นเป็นลำดับ ขณะเดียวกันปริมาณงานก็มากขึ้นตามไปด้วย  

    เมื่อกลับไปถึง งานที่กองรอตรงหน้าก็แทบทำให้หญิงสาวไม่ได้กระดิกกระเดี้ยวตัวไปไหนตลอดบ่าย กว่าจะเสร็จงานได้ก็เลยเวลาเลิกงานไปเยอะพอควร  ทำเอาแทบหมดแรง ยังดีที่วันต่อไปเป็นวันหยุด และไม่ต้องกลับไปเยี่ยมมารดาที่ต่างจังหวัดหญิงสาวจึงเตรียมที่จะได้พักอย่างเต็มที่

                       ขึ้นรถขับกลับบ้านเครื่องเล่นCD เครื่องโปรดก็ดันมาเสียซะอีก วริตฐา หงุดหงิดขึ้นเต็มประดา ยิ่งเมื่อเข็มน้ำมันแจ้งว่าใกล้ได้เวลาแวะเข้าปั๊มแล้วเธอยิ่งถอนใจด้วยความเหนื่อยหน่าย จากที่จะขึ้นทางด่วนกลับคอนโดก็ต้องอ้อมไปตามทางธรรมดาเพื่อแวะปั๊มน้ำมันซะอีก และยิ่งการจราจรช่วงเย็นวันศุกร์ทำให้เธอเบื่อมากขึ้นเป็นลำดับ

                      มือเรียวขาวเอื้อมไปกดเปิดวิทยุที่ร้อยวันพันปีจะถูกใช้งานซักที เพลงที่เปิดเป็นเพลงไทยสากล ที่เธอไม่ได้ฟังบ่อยนัก แต่หญิงสาวก็เปิดฟังผ่านหูไปเรื่อย ๆ จนเมื่อดีเจผู้จัดรายการพูดขึ้นมาก่อนเพลงถัดไป

                     “ เพลงต่อไปเป็นเพลงที่ถูกรีเควสมามากที่สุดตอนนี้นะครับ  เชื่อว่าๆหลาย ๆคนคงจะรู้กันแล้วว่าเป็นเพลงอะไร  เราไปฟังกันเลยครับ ”

                      เสียง intro ที่ดังขึ้น ทำเอาหญิงสาวสะดุ้งได้พอดู เสียงเพลงแผ่วหวานดั่งเป่าลมผ่านใบไม้ ดังแว่วมาในโสตประสาท พอเสียงกีตาร์อะคูสติกดังขึ้นพร้อมเสียงทุ้ม นุ่มหวานก็สะกิดใจคนฟังได้ไม่น้อย อะไรบางอย่างกำลังเรียกหาอดีตที่ผ่านมาเบา ๆ

                      เสียงเคาะกระจกดังขึ้น เด็กปั๊มส่งเสียงเรียกเธอจากด้านนอก หญิงสาวจึงตัดสินใจปิดวิทยุลง เพื่อดับเครื่องหากใจยังเสียดาย เธอไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนี้กับเพลงมาก่อนเลย พอเติมน้ำมันเสร็จก็รีบเปิดวิทยุ เพื่ออย่างน้อยจะได้ฟังว่าชื่อเพลงอะไรหรือใครเป็นคนร้อง หากวิทยุทุกคลื่นยามนั้นล้วนกลายเป็นข่าวยามค่ำไปจนหมด  วริตฐาตัดใจขับรถขึ้นทางด่วนใกล้ตัวตรงกลับไปพัก โดยไม่ได้สังเกตว่าภาพของศิลปินที่ร้องเพลงที่เธอสะดุดใจนั้นกำลังเด่นชัดอยู่ตรงจอทีวียักษ์ของตึกใหญ่บริเวณนั้น มองผ่านหน้าจอมาด้วยรอยยิ้มสดใส.





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×