ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    :: เพลงใบไม้ ::

    ลำดับตอนที่ #13 : บทที่สิบสาม

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 179
      0
      6 มี.ค. 58

     บทที่12

     

    เสียงประตูบ้านเคลื่อนช้า ๆแว่วมาผ่านหู หญิงสาวร่างเล็กที่กำลังเดินลงบันไดมาชะงักชั่วครู่ เหลือบมองนาฬิกาที่ผนังชั้นล่างของบ้านที่กำลังบอกเวลาสี่นาฬิกากว่า ๆ  กุลวรินทร์ใจหายวาบ เวลาเช้าขนาดนี้ มีคนแอบย่องเข้าบ้าน มันต้องเป็นพวกมิจฉาชีพแน่ ๆ  เสียงย่องพร้อมเงาของอาคันตุกะผิดเวลาใกล้เข้ามามากกว่าที่คิด  ไม่มีเวลาวิ่งกลับไปหยิบโทรศัพท์แน่ หญิงสาวรีบหันไปรอบตัว คว้าแจกันใกล้มือมากระชับ  ในใจพลางคิดว่าฟาดไอ้คนตรงหน้าให้เสียจังหวะ แล้ววิ่งไปโทรแจ้งตำรวจน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด   เงาสูงยื่นตัวเข้ามาในระยะพอดี หญิงสาวยกมือคว้าอาวุธเตรียมเหวี่ยงเต็มที่   หากแต่มือใหญ่คว้าหมับที่ข้อมือเธอไว้ทัน ก่อนจะรีบเอาอีกข้างมาอุดปากเธอไว้ทันก่อนเสียงแปดหลอดจากปลุกคนทั้งบ้านขึ้นมาในยามเช้าตรู่

    เฮ้ย ยัยกุลใจเย็นก่อน นี่พี่เอง เจ้าของมือหนา รีบหันหน้ามาให้เธอเห็นชัด ๆ ดวงหน้ารกครึ้มของพี่ชายแท้ ๆ ทำเอาหญิงสาวโล่งอกลดมือลงได้

    โอ้ย พี่กัน  ทำไมเข้าบ้านมาเวลานี้นะ กุลละนึกกลัวว่าจะเป็นโจรขึ้นบ้านซะอีก นี่ถ้าไม่ทันล่ะก็ คงตีหัวแตกกันไปข้างแล้ว กุลวรินท์เดินเอาอาวุธในมือไปวางที่เดิม ก่อนหันมาบ่นพี่ชาย  นี่ไปดื่มกับเพื่อนถึงเช้าอีกล่ะสิ  ถ้าพ่อแม่รู้นะ โดนด่าอีกแน่

    เอาน่า นานๆที ว่าแต่เราเถอะลงมาทำอะไรเอาเวลานี้ นอนไม่หลับรึไง เดี๋ยวก็ลุกไปทำงานไม่ไหวหรอก

    ตื่นจนจะไปแล้วตะหาก  จำที่กุลขอข้อมูลท่องเที่ยวจากพี่กันได้มั้ยละ  โปรเจคยาวของยัยปุยฝ้ายจะเริ่มตระเวนถ่ายทำวันนี้แล้วค่ะ  นี่ก็ต้องรีบไปที่ออฟฟิศขึ้นรถตู้ไปด้วยกันเนี่ย  งวดนี้ไปหลายจังหวัดเลย  ...ไม่เสียเวลาแล้วพี่กัน  เดี๋ยวกุลรีบเรียกแทกซี่ก่อน ไปสายขึ้นมาโดนด่าตายเลย พูดพลางเตรียมเดินไปหยิบกระเป๋าที่วางเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อคืน

    ชายร่างสูงทำท่านึกนิดหนึ่งถึงเรื่องที่น้องสาวเคยมาขอให้ช่วย เรื่องงานของเพื่อนสนิทที่เขาเองก็รู้จักคุ้นเคยมาหลายปี  ก่อนเอ่ยปากอาสา   ที่ปุยฝ้ายต้องทำงานกับแฟนสมัยเด็กใช่มั้ย เออดี ๆ  ชักอยากเห็นหน้าแฮะ  มา งั้นพี่ไปส่งให้ละกัน  ไป ยัยกุลเก็บของขึ้นรถ

    โหยวันนี้พี่ชายชั้นใจดีแฮะ  ว่าแต่เจอหน้าแล้วอย่าไปทักแบบนี้เชียวนะพี่กัน  เค้ายืนยันว่าเป็นแค่เพื่อนสมัยเด็กเท่านั้น โอเคนะ? ว่าแล้วหญิงสาวก็หยิบกระเป๋าถือ เดินตามพี่ชายที่เดินหัวเราะเบา ๆ ตรงไปที่รถ.

     

     

     

    ทีมงานเดินมารายงานว่าของจัดเก็บขึ้นรถครบตามรายการแล้ว วริตฐาที่กำลังคุยเตรียมงานกับผู้กำกับจึงยุติการสนทนาเตรียมออกเดินทางไปยังโลเกชันที่ถ่าย  เสียงมือถือในกระเป๋าของเธอสั่นเบา ๆแจ้งว่ามีข้อความเข้า  คนส่งไม่ใช่ใครอื่นนอกจากคนพิเศษที่แยกกับเธอมานับสิบปีจนได้มาเจอกันไม่นานนี้   นทีส่งมาแกล้งตัดพ้อเบา ๆว่าอยากแวะมารับให้เธอนั่งรถเขาไปด้วยกัน  หญิงสาวอดส่ายหัวเบา ๆพร้อมอดยิ้มไม่ได้ ก่อนจะตอบไปว่าถ้าขืนชายหนุ่มมารับจริง คงเป็นประเด็นให้ทั้งกองได้เม้ากันสนุกปาก  สาย ๆถึงโลเกชันก็ได้พบกันแล้ว    ส่งเสร็จหญิงสาวอดเหลือบดูเวลาในหน้าจอไม่ได้ 

    ยัยกุล สายอีกแล้วเหรอเนี่ย มองหาเพื่อนสนิทได้ไม่นานก็เห็นหญิงสาวผมสั้นสะพายเป้กระหืดกระหอบวิ่งลงมาจากแทกซี  “ อ้าว ไหนส่งมาบอกว่าพี่กันจะมาส่งไงกุล

    ตอนแรกก็มากับพี่กันนี่แหละ  แต่ดั๊นออกมาไม่ทันพ้นหน้าซอย มีรถมาชนพอดีนี่สิ  คงเห็นถนนโล่งตอนเช้า ๆ เลยถอยไม่ดู   กว่าชั้นจะหาแทกซีได้แทบตายแน่ะ  รู้งี้เรียกรถมารับแต่แรกก็จบละ .... พร้อมค่ะพี่ไปได้เลยประโยคหลังเจ้าตัวหันไปบอกคนขับ หลังจากดันเพื่อนสาวเข้ารถ ก่อนจะรีบแทรกตัวเข้าไปพลางก้มหัวขออภัยคนอื่น ๆ ที่รออยู่แล้ว

    เสียงมือถือในมือคนข้างตัวสั่นเบา ๆ  โดยไม่ทันตั้งใจหญิงสาวเลยเห็นข้อความตอบกลับจากพรีเซนเตอร์หนุ่มที่กำลังจะทำงานด้วยส่งหาเพื่อนสนิท  กุลวรินท์จึงแกล้งยิ้มเจ้าเล่ห์มองหน้าวริตฐา อีกฝ่ายเลยเสมองทางอื่นก่อนบอกเบา ๆ บ้าแก ไม่มีอะไรหรอก

    วิวด้านนอกเริ่มเปลี่ยนไปช้า ๆ รถค่อย ๆเคลื่อนออกสู่ย่านชานเมือง โลเกชันแรกที่พวกเธอกำลังจะไปเป็นทุ่งดอกทานตะวัน ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก หากแต่ผู้กำกับอยากได้แดดสวย ๆจึงยกกองออกมาแต่เช้า พร้อมเตรียมเคลื่อนขบวนไปยังที่พักสำหรับจุดถ่ายถัดไปได้อีกด้วย

    วริตฐาเหม่อมองวิวไกลตาพลางคิดอะไรในใจไปเรื่อย  ห้วงความคิดย้อนกลับไปถึงช่วงเวลาไม่นานนี้ ช่วงเวลาที่เธอเคยรอคอย และไม่คาดฝันว่าจะเกิดขึ้น  คนบางคนที่เคยสำคัญมากในชีวิตที่หายไปได้กลับมาให้พบเจออีกครั้ง อีกทั้งเขายังคงให้ความสำคัญกับสิ่งที่เธอเคยให้เอาไว้ เก็บไว้อย่างดีจนเธอคาดไม่ถึง  นึกแล้วอดอมยิ้มกับตัวเองเบา ๆไม่ได้ หากจู่ ๆเธอก็รู้สึกเริ่มเวียนหัว อาจจะเพราะรถส่ายมากไปก็เป็นได้ พอหันกลับมาก็เห็นเพื่อนสนิทค้นกระเป๋าถือท่าทางวุ่นวาย

    หาอะไรเหรอกุล

    อีกฝ่ายหันมาเบ้ปากทำท่าจะร้องไห้ มือถือหายน่ะปุยฝ้าย  ตายแล้วทำไงดี บ่ายนี้มีเรื่องต้องโทรคอนเฟิร์มกับลูกค้าด้วย หัวหน้าด่าแน่เลย

    วริตฐาอดขำความโก๊ะของเพื่อนไม่ได้ ผ่านไปกี่ปีก็ไม่เคยเปลี่ยนไป  ก่อนจะหยิบมือถือลองกดเข้าเครื่องเพื่อนดู พบว่ามันตกอยู่ในรถของพี่ชายกุลวรินท์ ตอนรถชนเมื่อเช้า   อีกฝ่ายถามจุดถ่ายทำแรกสั้น ๆก่อนจะรับปากว่าจะตามเอามาให้ พร้อมอดขำท่าโล่งอกของคนข้าง ๆไม่ได้

     

     

    รติพัทธ์ยืนพิงรถส่วนตัวเหม่อสายตามองทุ่งดอกไม้ขนาดใหญ่ตรงหน้าด้วยสายตาดื่มด่ำคิดอะไรเงียบ ๆอยู่จนเสียงผู้จัดการสาวร้องทัก  เข้ามาหลบแดดซักหน่อยมั้ย  พี่ว่าแดดแรงแบบนี้เดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมาก็ไม่ต้องถ่ายทำพอดีนะ  แล้วรีบออกมาแต่เช้าขนาดนี้จะมาช่วยเค้าตั้งกองรึไงก็ไม่รู้

    ชายหนุ่มหันไปยิ้มตอบคนที่เขาเคารพดั่งพี่สาวก่อนตอบ  ผมเพิ่งเคยมาครั้งแรกนี่ครับพี่  ที่นี่สวยมากเลยนะครับพี่  ตั้งแต่กลับไทยมาผมก็ไม่ได้มาพักผ่อนหรือเที่ยวอะไรแบบนี้เลย ขอยืนรับลมตรงนี้อีกแปบละกันครับ พร้อมอีกคำตอบในใจที่ไม่ได้บอกออกมาว่า ที่เขารีบมาเช้าก่อนเวลานัดขนาดนี้ก็เพราะอยากเจอใครบางคนในทีมงานที่กำลังเดินทางมานั่นเอง

    ก็อย่านานนักละพ่อนักเรียนนอก  เดี๋ยวเหงื่อท่วมตัวมาทีมงานเค้าต้องหาชุดให้ใหม่วุ่นวาย เค้าจะมาหาว่าผู้จัดการไม่ดูแล ปรารถนาปากบ่นแต่ก็เดินเอาน้ำแช่เย็นมาส่งให้ชายหนุ่มถึงที่

    แหม ใครจะกล้าว่าผู้จัดการผมครับ มาๆถ้ามีนะเดี๋ยวผมจะจัดการซะเลย อีกฝ่ายส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะเห็นทีมงานที่มาเซตกองก่อนยกมือให้สัญญาณบอก เอ้านั่นทีมงานหลักมาถึงแล้วนี่ ไปเตรียมแต่งตัวแต่งหน้าเถอะ กองเค้าจะได้ไม่ช้า

    น้องพิณเค้ายังไม่มาเลยครับพี่  ผมขอแวะไปทักทายกลุ่มนั้นก่อนนะครับ  แป้บเดียวนะครับพี่นะ..
    ชายหนุ่มพูดเสียงอ้อน ๆแบบเด็กขอของ ก่อนรีบตรงรี่ไปหาครีเอทีพสาวที่กำลังก้าวลงจากรถ  ปรารถนามองตามพร้อมจับสังเกตบางอย่างได้ ก่อนถอนใจเบา ๆ

     

    ปุยฝ้ายเหนื่อยมั้ย อ้าวทำไมดูหน้าซีด ๆล่ะ เป็นอะไรรึเปล่า ประโยคทักทายดังขึ้นจากด้านหลังทำเอาหญิงสาวหันกลับไปหาพร้อมรอยยิ้ม  นทีมาเร็วจัง   สงสัยรถตู้โคลงไปหน่อยมั้ง

    ชายหนุ่มไม่ทันได้ถามอะไรต่อเนื่องจากผู้กำกับหันมาเห็นพอดีพร้อมทักทายอย่างร่าเริง เนื่องจากไม่ค่อยเห็นดาราคนไหนมากองก่อนเวลานานขนาดนี้  พูดคุยได้สักพักทีมงานก็มาเชิญเขาไปเตรียมแต่งหน้าทำผม  รติพัทธ์อดทำหน้าเสียดายไม่หายหันมามองเหมือนอยากอยู่คุยกับใครบางคนตรงนั้นต่อ  หากอีกฝ่ายโบกมือไล่เบา ๆ พร้อมทำปากให้อ่านได้ว่า ไปทำงานก่อนแล้วค่อยคุยกัน ชายหนุ่มจึงยอมไปแต่โดยดี  หญิงสาวแอบอมยิ้มน้อย ๆ นทีก็ยังคงเป็นนที เด็กชายแสนซนเพื่อนเล่นของเธอคนเดิมไม่เปลี่ยนไปจริง ๆ

     

    เวลาเซตอัพทุกอย่างในกองผ่านไปจนถึงเวลาที่เป็นคิวถ่ายทำที่เซตเอาไว้หากแต่ยังไม่มีวี่แววของนางเอกสาว จนทีมงานเริ่มลังเล เพราะหากเลทเกินอาจจะถ่ายได้ไม่ทันที่กำหนด จนผู้จัดการของนางแบบสาวที่ล่วงหน้ามาเองก่อนเพราะเจ้าตัวขอขับรถมาเองอดหลบฉากออกมาโทรตามไม่ได้

    พิณ อยุ่ไหนแล้วเนี่ย  ใกล้ถึงเวลาถ่ายแล้วนะ  ทีมงานเค้าพร้อมหมดแล้ว

    ใกล้แล้วค่ะพี่  เมื่อเช้าพิณแต่งตัวนานไปหน่อยเลยช้า  บอกเค้านะคะไม่นาน ๆ .....ว้าย เสียงสุดท้ายหลุดออกมาหลังจากที่เธอก้มมองนาฬิกาในรถว่าตนสายแค่ไหนจนไม่ทันเห็นว่ารถคันหน้ากำลังเบรค กว่าจะเงยมามองก็เหยียบเบรคตามไม่ทัน รถสปอร์ตคันสวยเลยเสยท้ายรถโฟร์วีลลูกกรังเขลอะคันหน้าเข้าไปเบา ๆ

    เป็นอะไรรึเปล่าพิณ เกิดอะไรขึ้น เสียงผู้จัดการแอบตระหนก หากแต่อีกฝ่ายตอบมาแค่ไม่มีอะไรจะจัดการเองแล้วรีบไปก่อนกดวางสาย   หญิงสาว หงุดหงิดฟึดฟัดในรถอยู่ครู่ จนเสียงเคาะกระจกดังขึ้น 

    ด้านนอกชายร่างโตหนวดเขียวครึ้มเคาะเบา ๆ ก่อนมองเข้ามายังนางแบบสาวในรถ  เจ้าของรถหรูหวีดแบบตกใจเบา ๆกับสารรูปที่ละม้ายโจรด้านนอก จนเสียงที่ลอบเข้ามาแว่วเข้าหู

    นี่คุณ  คุณขับมาชนรถผมนะครับ จะลงมาดูก่อนมั้ย

    หญิงสาวลังเลชั่วขณะ ก่อนจะเปิดกระเป๋าหยิบของ เขียนยุกยิกๆในเศษกระดาษก่อนเลื่อนกระจกลงแค่นิดเดียว  ไม่ลง ไม่ลง คุณเรียกประกันของคุณไปเลย  เอ้านี่ เบอร์โทรผู้จัดการชั้น เบอร์ทะเบียน เดี๋ยวชั้นแจ้งประกันชั้นเอง  ชั้นรีบอยู่

    ชายหนุ่มอดอึ้งกันการพูดรัวเร็วของอีกฝ่ายไม่ได้  สายตาเหยียด ๆที่มองมาเหมือนเห็นเขาเป็นโจรนั่นอีก ก่อนเสียงแหววๆจะตามมาอีกระลอก  เอ้าจะยืนรออะไรอีกคุณ ชั้นจะรีบ   อ่อ ค่าเสียเวลาสินะ เท่าไหร่ดี  อะ ชั้นมีเท่านี้เอาไปก่อนแล้วกัน คงพอนะ หญิงสาวพูดเองตัดสินเอง ก่อนคว้าแบงค์สีเทายัดใส่มือเขาแล้วรีบถอยลดขับออกไปโดยเร็ว ทำเอาอีกฝ่ายอึ้ง ไม่เพียงไม่ทันจะคืนเงินที่ไม่ได้อยากรับ ยังไม่ทันแม้แต่จะตอบด้วยซ้ำ  จนเขาอดบ่นกันตัวเองไม่ได้  ไม่น่ารับปากยัยกุลจะมาส่งเล้ยเมื่อเช้า....

     

    ที่กอง แดดแรงยามเที่ยงทำเอาทีมงานเหงื่อไหลไปตาม ๆกับ ไม่ต่างกันกับรติพัทธ์ที่ หลังจากแต่งหน้าเสร็จก็ต้องคอยซดน้ำเย็นตามเรื่อย ๆแก้ร้อน  ชายหนุ่มมองหาไปมาก่อนจะพบว่าคนที่ตามหาไปนั่งเล่นเชคโปรแกรมงานในมืออยู่ตรงศาลาหนึ่งไม่ไกลนัก  จึงแอบย่องตามไป

    วริตฐานั่งจดรายการที่ต้องเตรียมอยู่เงียบ ๆ ในศาลาข้างทาง ดีที่มีลมพัดเรื่อย ๆทำให้ไม่ร้อนมากนัก หญิงสาวชอบนั่งทำงานเงียบ ๆมากกว่าจะอยุ่ในกองที่คนพลุกพล่านมากนัก  จู่ๆเธอก็หนาววาบขึ้นมาที่คอ   ก่อนจะรีบหันไปขวับไปดูพบชายหนุ่มหน้าคอม ยืนยิ้มยื่นน้ำแช่เย็นที่เพิ่งหยิบจากคูลเลอร์มาให้

    เล่นอะไรน่ะนที  ตกลงใจหมด ดุไปงั้นแต่มือเธอก็รับขวดน้ำมา ก่อนที่คนส่งจะลงนั่งข้าง ๆ แวะมาส่งน้ำให้คนขยันไง  ปุยฝ้ายนี่ฟิตเนอะ มีอะไรทำตลอดเลย

    มันมีอะไรต้องเตรียมอีกหลายอย่างนี่นา  ว่าแต่นทีเถอะเดินไปเดินมาแบบนี้เดี๋ยวก็ต้องไปแต่งหน้าใหม่หรอก   อ่าวนั่นไงเหงื่อไหลแล้ว

    ชายหนุ่มฟังพลางจะมือยกเช็ด คนตรงหน้าทนไม่ได้เลยหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าขึ้นเช็ดให้  มานี่ๆปาดแบบนั้นเมคอัพก็เลอะหมดสิ  ชุ่ยจัง   นทีมองหน้ารูปไข่ที่เช็ดเหงื่อให้เขาพลางอมยิ้มน้อย ๆ

     

    ห่างไปไม่มากรถสปอร์ตคันสวยถอยเข้าจอดข้างทาง นางแบบสาวที่กำลังจะหยิบกระเป๋าลงจากรถ เห็นภาพตรงหน้าพลางหยุดมองก่อนจะเปิดประตู 

    แค่เพื่อนสมัยเด็กเหรอ เธอพูดกับตัวเองเบา ๆระหว่างมอภาพคนคู่นั้น

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×