คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : บทที่สิบสาม
เสียงประตูบ้านเคลื่อนช้า ๆแว่วมาผ่านหู หญิงสาวร่างเล็กที่กำลังเดินลงบันไดมาชะงักชั่วครู่ เหลือบมองนาฬิกาที่ผนังชั้นล่างของบ้านที่กำลังบอกเวลาสี่นาฬิกากว่า ๆ กุลวรินทร์ใจหายวาบ เวลาเช้าขนาดนี้ มีคนแอบย่องเข้าบ้าน มันต้องเป็นพวกมิจฉาชีพแน่ ๆ เสียงย่องพร้อมเงาของอาคันตุกะผิดเวลาใกล้เข้ามามากกว่าที่คิด ไม่มีเวลาวิ่งกลับไปหยิบโทรศัพท์แน่ หญิงสาวรีบหันไปรอบตัว คว้าแจกันใกล้มือมากระชับ ในใจพลางคิดว่าฟาดไอ้คนตรงหน้าให้เสียจังหวะ แล้ววิ่งไปโทรแจ้งตำรวจน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เงาสูงยื่นตัวเข้ามาในระยะพอดี หญิงสาวยกมือคว้าอาวุธเตรียมเหวี่ยงเต็มที่ หากแต่มือใหญ่คว้าหมับที่ข้อมือเธอไว้ทัน ก่อนจะรีบเอาอีกข้างมาอุดปากเธอไว้ทันก่อนเสียงแปดหลอดจากปลุกคนทั้งบ้านขึ้นมาในยามเช้าตรู่
“ เฮ้ย ยัยกุลใจเย็นก่อน นี่พี่เอง ” เจ้าของมือหนา รีบหันหน้ามาให้เธอเห็นชัด ๆ ดวงหน้ารกครึ้มของพี่ชายแท้ ๆ ทำเอาหญิงสาวโล่งอกลดมือลงได้
“ โอ้ย พี่กัน ทำไมเข้าบ้านมาเวลานี้นะ กุลละนึกกลัวว่าจะเป็นโจรขึ้นบ้านซะอีก นี่ถ้าไม่ทันล่ะก็ คงตีหัวแตกกันไปข้างแล้ว ” กุลวรินท์เดินเอาอาวุธในมือไปวางที่เดิม ก่อนหันมาบ่นพี่ชาย “ นี่ไปดื่มกับเพื่อนถึงเช้าอีกล่ะสิ ถ้าพ่อแม่รู้นะ โดนด่าอีกแน่ ”
“ เอาน่า นานๆที ว่าแต่เราเถอะลงมาทำอะไรเอาเวลานี้ นอนไม่หลับรึไง เดี๋ยวก็ลุกไปทำงานไม่ไหวหรอก ”
“ ตื่นจนจะไปแล้วตะหาก จำที่กุลขอข้อมูลท่องเที่ยวจากพี่กันได้มั้ยละ โปรเจคยาวของยัยปุยฝ้ายจะเริ่มตระเวนถ่ายทำวันนี้แล้วค่ะ นี่ก็ต้องรีบไปที่ออฟฟิศขึ้นรถตู้ไปด้วยกันเนี่ย งวดนี้ไปหลายจังหวัดเลย ...ไม่เสียเวลาแล้วพี่กัน เดี๋ยวกุลรีบเรียกแทกซี่ก่อน ไปสายขึ้นมาโดนด่าตายเลย ” พูดพลางเตรียมเดินไปหยิบกระเป๋าที่วางเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อคืน
ชายร่างสูงทำท่านึกนิดหนึ่งถึงเรื่องที่น้องสาวเคยมาขอให้ช่วย เรื่องงานของเพื่อนสนิทที่เขาเองก็รู้จักคุ้นเคยมาหลายปี ก่อนเอ่ยปากอาสา “ ที่ปุยฝ้ายต้องทำงานกับแฟนสมัยเด็กใช่มั้ย เออดี ๆ ชักอยากเห็นหน้าแฮะ มา งั้นพี่ไปส่งให้ละกัน ไป ยัยกุลเก็บของขึ้นรถ ”
“ โหยวันนี้พี่ชายชั้นใจดีแฮะ ว่าแต่เจอหน้าแล้วอย่าไปทักแบบนี้เชียวนะพี่กัน เค้ายืนยันว่าเป็นแค่เพื่อนสมัยเด็กเท่านั้น โอเคนะ? ” ว่าแล้วหญิงสาวก็หยิบกระเป๋าถือ เดินตามพี่ชายที่เดินหัวเราะเบา ๆ ตรงไปที่รถ.
ทีมงานเดินมารายงานว่าของจัดเก็บขึ้นรถครบตามรายการแล้ว วริตฐาที่กำลังคุยเตรียมงานกับผู้กำกับจึงยุติการสนทนาเตรียมออกเดินทางไปยังโลเกชันที่ถ่าย เสียงมือถือในกระเป๋าของเธอสั่นเบา ๆแจ้งว่ามีข้อความเข้า คนส่งไม่ใช่ใครอื่นนอกจากคนพิเศษที่แยกกับเธอมานับสิบปีจนได้มาเจอกันไม่นานนี้ นทีส่งมาแกล้งตัดพ้อเบา ๆว่าอยากแวะมารับให้เธอนั่งรถเขาไปด้วยกัน หญิงสาวอดส่ายหัวเบา ๆพร้อมอดยิ้มไม่ได้ ก่อนจะตอบไปว่าถ้าขืนชายหนุ่มมารับจริง คงเป็นประเด็นให้ทั้งกองได้เม้ากันสนุกปาก สาย ๆถึงโลเกชันก็ได้พบกันแล้ว ส่งเสร็จหญิงสาวอดเหลือบดูเวลาในหน้าจอไม่ได้
“ ยัยกุล สายอีกแล้วเหรอเนี่ย ” มองหาเพื่อนสนิทได้ไม่นานก็เห็นหญิงสาวผมสั้นสะพายเป้กระหืดกระหอบวิ่งลงมาจากแทกซี “ อ้าว ไหนส่งมาบอกว่าพี่กันจะมาส่งไงกุล ”
“ ตอนแรกก็มากับพี่กันนี่แหละ แต่ดั๊นออกมาไม่ทันพ้นหน้าซอย มีรถมาชนพอดีนี่สิ คงเห็นถนนโล่งตอนเช้า ๆ เลยถอยไม่ดู กว่าชั้นจะหาแทกซีได้แทบตายแน่ะ รู้งี้เรียกรถมารับแต่แรกก็จบละ .... พร้อมค่ะพี่ไปได้เลย” ประโยคหลังเจ้าตัวหันไปบอกคนขับ หลังจากดันเพื่อนสาวเข้ารถ ก่อนจะรีบแทรกตัวเข้าไปพลางก้มหัวขออภัยคนอื่น ๆ ที่รออยู่แล้ว
เสียงมือถือในมือคนข้างตัวสั่นเบา ๆ โดยไม่ทันตั้งใจหญิงสาวเลยเห็นข้อความตอบกลับจากพรีเซนเตอร์หนุ่มที่กำลังจะทำงานด้วยส่งหาเพื่อนสนิท กุลวรินท์จึงแกล้งยิ้มเจ้าเล่ห์มองหน้าวริตฐา อีกฝ่ายเลยเสมองทางอื่นก่อนบอกเบา ๆ “ บ้าแก ไม่มีอะไรหรอก ”
วิวด้านนอกเริ่มเปลี่ยนไปช้า ๆ รถค่อย ๆเคลื่อนออกสู่ย่านชานเมือง โลเกชันแรกที่พวกเธอกำลังจะไปเป็นทุ่งดอกทานตะวัน ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก หากแต่ผู้กำกับอยากได้แดดสวย ๆจึงยกกองออกมาแต่เช้า พร้อมเตรียมเคลื่อนขบวนไปยังที่พักสำหรับจุดถ่ายถัดไปได้อีกด้วย
วริตฐาเหม่อมองวิวไกลตาพลางคิดอะไรในใจไปเรื่อย ห้วงความคิดย้อนกลับไปถึงช่วงเวลาไม่นานนี้ ช่วงเวลาที่เธอเคยรอคอย และไม่คาดฝันว่าจะเกิดขึ้น คนบางคนที่เคยสำคัญมากในชีวิตที่หายไปได้กลับมาให้พบเจออีกครั้ง อีกทั้งเขายังคงให้ความสำคัญกับสิ่งที่เธอเคยให้เอาไว้ เก็บไว้อย่างดีจนเธอคาดไม่ถึง นึกแล้วอดอมยิ้มกับตัวเองเบา ๆไม่ได้ หากจู่ ๆเธอก็รู้สึกเริ่มเวียนหัว อาจจะเพราะรถส่ายมากไปก็เป็นได้ พอหันกลับมาก็เห็นเพื่อนสนิทค้นกระเป๋าถือท่าทางวุ่นวาย
“ หาอะไรเหรอกุล ”
อีกฝ่ายหันมาเบ้ปากทำท่าจะร้องไห้ “ มือถือหายน่ะปุยฝ้าย ตายแล้วทำไงดี บ่ายนี้มีเรื่องต้องโทรคอนเฟิร์มกับลูกค้าด้วย หัวหน้าด่าแน่เลย ”
วริตฐาอดขำความโก๊ะของเพื่อนไม่ได้ ผ่านไปกี่ปีก็ไม่เคยเปลี่ยนไป ก่อนจะหยิบมือถือลองกดเข้าเครื่องเพื่อนดู พบว่ามันตกอยู่ในรถของพี่ชายกุลวรินท์ ตอนรถชนเมื่อเช้า อีกฝ่ายถามจุดถ่ายทำแรกสั้น ๆก่อนจะรับปากว่าจะตามเอามาให้ พร้อมอดขำท่าโล่งอกของคนข้าง ๆไม่ได้
รติพัทธ์ยืนพิงรถส่วนตัวเหม่อสายตามองทุ่งดอกไม้ขนาดใหญ่ตรงหน้าด้วยสายตาดื่มด่ำคิดอะไรเงียบ ๆอยู่จนเสียงผู้จัดการสาวร้องทัก “ เข้ามาหลบแดดซักหน่อยมั้ย พี่ว่าแดดแรงแบบนี้เดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมาก็ไม่ต้องถ่ายทำพอดีนะ แล้วรีบออกมาแต่เช้าขนาดนี้จะมาช่วยเค้าตั้งกองรึไงก็ไม่รู้ ”
ชายหนุ่มหันไปยิ้มตอบคนที่เขาเคารพดั่งพี่สาวก่อนตอบ “ ผมเพิ่งเคยมาครั้งแรกนี่ครับพี่ ที่นี่สวยมากเลยนะครับพี่ ตั้งแต่กลับไทยมาผมก็ไม่ได้มาพักผ่อนหรือเที่ยวอะไรแบบนี้เลย ขอยืนรับลมตรงนี้อีกแปบละกันครับ ” พร้อมอีกคำตอบในใจที่ไม่ได้บอกออกมาว่า ที่เขารีบมาเช้าก่อนเวลานัดขนาดนี้ก็เพราะอยากเจอใครบางคนในทีมงานที่กำลังเดินทางมานั่นเอง
“ ก็อย่านานนักละพ่อนักเรียนนอก เดี๋ยวเหงื่อท่วมตัวมาทีมงานเค้าต้องหาชุดให้ใหม่วุ่นวาย เค้าจะมาหาว่าผู้จัดการไม่ดูแล ” ปรารถนาปากบ่นแต่ก็เดินเอาน้ำแช่เย็นมาส่งให้ชายหนุ่มถึงที่
“ แหม ใครจะกล้าว่าผู้จัดการผมครับ มาๆถ้ามีนะเดี๋ยวผมจะจัดการซะเลย ” อีกฝ่ายส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะเห็นทีมงานที่มาเซตกองก่อนยกมือให้สัญญาณบอก “ เอ้านั่นทีมงานหลักมาถึงแล้วนี่ ไปเตรียมแต่งตัวแต่งหน้าเถอะ กองเค้าจะได้ไม่ช้า ”
“ น้องพิณเค้ายังไม่มาเลยครับพี่ ผมขอแวะไปทักทายกลุ่มนั้นก่อนนะครับ แป้บเดียวนะครับพี่นะ.. ”
ชายหนุ่มพูดเสียงอ้อน ๆแบบเด็กขอของ ก่อนรีบตรงรี่ไปหาครีเอทีพสาวที่กำลังก้าวลงจากรถ ปรารถนามองตามพร้อมจับสังเกตบางอย่างได้ ก่อนถอนใจเบา ๆ
“ ปุยฝ้ายเหนื่อยมั้ย อ้าวทำไมดูหน้าซีด ๆล่ะ เป็นอะไรรึเปล่า ” ประโยคทักทายดังขึ้นจากด้านหลังทำเอาหญิงสาวหันกลับไปหาพร้อมรอยยิ้ม “ นทีมาเร็วจัง สงสัยรถตู้โคลงไปหน่อยมั้ง ”
ชายหนุ่มไม่ทันได้ถามอะไรต่อเนื่องจากผู้กำกับหันมาเห็นพอดีพร้อมทักทายอย่างร่าเริง เนื่องจากไม่ค่อยเห็นดาราคนไหนมากองก่อนเวลานานขนาดนี้ พูดคุยได้สักพักทีมงานก็มาเชิญเขาไปเตรียมแต่งหน้าทำผม รติพัทธ์อดทำหน้าเสียดายไม่หายหันมามองเหมือนอยากอยู่คุยกับใครบางคนตรงนั้นต่อ หากอีกฝ่ายโบกมือไล่เบา ๆ พร้อมทำปากให้อ่านได้ว่า ไปทำงานก่อนแล้วค่อยคุยกัน ชายหนุ่มจึงยอมไปแต่โดยดี หญิงสาวแอบอมยิ้มน้อย ๆ นทีก็ยังคงเป็นนที เด็กชายแสนซนเพื่อนเล่นของเธอคนเดิมไม่เปลี่ยนไปจริง ๆ
เวลาเซตอัพทุกอย่างในกองผ่านไปจนถึงเวลาที่เป็นคิวถ่ายทำที่เซตเอาไว้หากแต่ยังไม่มีวี่แววของนางเอกสาว จนทีมงานเริ่มลังเล เพราะหากเลทเกินอาจจะถ่ายได้ไม่ทันที่กำหนด จนผู้จัดการของนางแบบสาวที่ล่วงหน้ามาเองก่อนเพราะเจ้าตัวขอขับรถมาเองอดหลบฉากออกมาโทรตามไม่ได้
“ พิณ อยุ่ไหนแล้วเนี่ย ใกล้ถึงเวลาถ่ายแล้วนะ ทีมงานเค้าพร้อมหมดแล้ว ”
“ ใกล้แล้วค่ะพี่ เมื่อเช้าพิณแต่งตัวนานไปหน่อยเลยช้า บอกเค้านะคะไม่นาน ๆ .....ว้าย ” เสียงสุดท้ายหลุดออกมาหลังจากที่เธอก้มมองนาฬิกาในรถว่าตนสายแค่ไหนจนไม่ทันเห็นว่ารถคันหน้ากำลังเบรค กว่าจะเงยมามองก็เหยียบเบรคตามไม่ทัน รถสปอร์ตคันสวยเลยเสยท้ายรถโฟร์วีลลูกกรังเขลอะคันหน้าเข้าไปเบา ๆ
“ เป็นอะไรรึเปล่าพิณ เกิดอะไรขึ้น ” เสียงผู้จัดการแอบตระหนก หากแต่อีกฝ่ายตอบมาแค่ไม่มีอะไรจะจัดการเองแล้วรีบไปก่อนกดวางสาย หญิงสาว หงุดหงิดฟึดฟัดในรถอยู่ครู่ จนเสียงเคาะกระจกดังขึ้น
ด้านนอกชายร่างโตหนวดเขียวครึ้มเคาะเบา ๆ ก่อนมองเข้ามายังนางแบบสาวในรถ เจ้าของรถหรูหวีดแบบตกใจเบา ๆกับสารรูปที่ละม้ายโจรด้านนอก จนเสียงที่ลอบเข้ามาแว่วเข้าหู
“ นี่คุณ คุณขับมาชนรถผมนะครับ จะลงมาดูก่อนมั้ย ”
หญิงสาวลังเลชั่วขณะ ก่อนจะเปิดกระเป๋าหยิบของ เขียนยุกยิกๆในเศษกระดาษก่อนเลื่อนกระจกลงแค่นิดเดียว “ ไม่ลง ไม่ลง คุณเรียกประกันของคุณไปเลย เอ้านี่ เบอร์โทรผู้จัดการชั้น เบอร์ทะเบียน เดี๋ยวชั้นแจ้งประกันชั้นเอง ชั้นรีบอยู่ ”
ชายหนุ่มอดอึ้งกันการพูดรัวเร็วของอีกฝ่ายไม่ได้ สายตาเหยียด ๆที่มองมาเหมือนเห็นเขาเป็นโจรนั่นอีก ก่อนเสียงแหววๆจะตามมาอีกระลอก “ เอ้าจะยืนรออะไรอีกคุณ ชั้นจะรีบ อ่อ ค่าเสียเวลาสินะ เท่าไหร่ดี อะ ชั้นมีเท่านี้เอาไปก่อนแล้วกัน คงพอนะ ” หญิงสาวพูดเองตัดสินเอง ก่อนคว้าแบงค์สีเทายัดใส่มือเขาแล้วรีบถอยลดขับออกไปโดยเร็ว ทำเอาอีกฝ่ายอึ้ง ไม่เพียงไม่ทันจะคืนเงินที่ไม่ได้อยากรับ ยังไม่ทันแม้แต่จะตอบด้วยซ้ำ จนเขาอดบ่นกันตัวเองไม่ได้ “ ไม่น่ารับปากยัยกุลจะมาส่งเล้ยเมื่อเช้า....”
ที่กอง แดดแรงยามเที่ยงทำเอาทีมงานเหงื่อไหลไปตาม ๆกับ ไม่ต่างกันกับรติพัทธ์ที่ หลังจากแต่งหน้าเสร็จก็ต้องคอยซดน้ำเย็นตามเรื่อย ๆแก้ร้อน ชายหนุ่มมองหาไปมาก่อนจะพบว่าคนที่ตามหาไปนั่งเล่นเชคโปรแกรมงานในมืออยู่ตรงศาลาหนึ่งไม่ไกลนัก จึงแอบย่องตามไป
วริตฐานั่งจดรายการที่ต้องเตรียมอยู่เงียบ ๆ ในศาลาข้างทาง ดีที่มีลมพัดเรื่อย ๆทำให้ไม่ร้อนมากนัก หญิงสาวชอบนั่งทำงานเงียบ ๆมากกว่าจะอยุ่ในกองที่คนพลุกพล่านมากนัก จู่ๆเธอก็หนาววาบขึ้นมาที่คอ ก่อนจะรีบหันไปขวับไปดูพบชายหนุ่มหน้าคอม ยืนยิ้มยื่นน้ำแช่เย็นที่เพิ่งหยิบจากคูลเลอร์มาให้
“ เล่นอะไรน่ะนที ตกลงใจหมด ” ดุไปงั้นแต่มือเธอก็รับขวดน้ำมา ก่อนที่คนส่งจะลงนั่งข้าง ๆ “ แวะมาส่งน้ำให้คนขยันไง ปุยฝ้ายนี่ฟิตเนอะ มีอะไรทำตลอดเลย ”
“ มันมีอะไรต้องเตรียมอีกหลายอย่างนี่นา ว่าแต่นทีเถอะเดินไปเดินมาแบบนี้เดี๋ยวก็ต้องไปแต่งหน้าใหม่หรอก อ่าวนั่นไงเหงื่อไหลแล้ว ”
ชายหนุ่มฟังพลางจะมือยกเช็ด คนตรงหน้าทนไม่ได้เลยหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าขึ้นเช็ดให้ “ มานี่ๆปาดแบบนั้นเมคอัพก็เลอะหมดสิ ชุ่ยจัง ” นทีมองหน้ารูปไข่ที่เช็ดเหงื่อให้เขาพลางอมยิ้มน้อย ๆ
ห่างไปไม่มากรถสปอร์ตคันสวยถอยเข้าจอดข้างทาง นางแบบสาวที่กำลังจะหยิบกระเป๋าลงจากรถ เห็นภาพตรงหน้าพลางหยุดมองก่อนจะเปิดประตู
“ แค่เพื่อนสมัยเด็กเหรอ ” เธอพูดกับตัวเองเบา ๆระหว่างมอภาพคนคู่นั้น
ความคิดเห็น