ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (แฟนฟิค บลีช) Baby Pill (อิจิโกะ- ลูเคีย)

    ลำดับตอนที่ #7 : การลาจากอันแสนเศร้า

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.95K
      36
      14 พ.ค. 52

    ต่อๆๆ

     

    วันนี้ก็เป็นเช้าวันที่สดใสเหมือนดังเช่นทุกวัน แสงแดดอบอุ่นสาดส่องเข้ามาในห้องที่กางกั้นด้วยม่านสีฟ้าอ่อนที่พลิ้วไหวไปตามแรงลม น้ำค้างที่จับพราวบนยอดหญ้าถูกแผดเผาไปอย่างง่ายดายในรุ่งเช้าแห่งคิมหันต์ฤดู

     

    “เฮ้อ~ หลับสบายจริงๆน้า~” อิจิโกะบิดขี้เกียจด้วยความเมื่อยขบ

     

    “ฮึบ~” โฮตารุบิดขี้เกียจเลียนแบบบ้าง หน้าตาที่ดูน่ารักน่าเอ็นดูตอนนี้มองดูเผินๆเหมือนลูกแมวน้อยๆที่กำลังเหยียดตัวยาวบนพื้นเสียด้วยซ้ำ

     

    “อะไรๆ ตัวแค่นี้ขี้เมื่อยจริงนะ เจอนวดแบบฤาษีดัดตนบ้างสิ”

     

    อิจิโกะก้มตัวลง เอาหน้าผากตัวเองทาบกับหน้าผากเล็กๆแล้วดันให้ล้มจนหงายหลังไปบนเตียง พร้อมหยิกแก้มป่องๆนั้นอย่างมันเขี้ยว เด็กหนุ่มมองร่างเล็กที่หัวเราะกิ๊กๆสลับกับหันไปมองร่างบางที่ยังนอนหันหลังให้

     

    “เฮ้! ลูเคีย ตื่นรึยัง?”

     

    “............”

     

    “ลูเคีย?”

     

    “ฮือ...” เสียงครางอ่อยๆของลูเคียนั้นทำชายหนุ่มใจไม่ดี

     

    “เป็นอะไร ?”

     

    “โฮตารุน่ะไม่ได้เมื่อย ข้านี่แหละเมื่อยยิ่งกว่า” ลูเคียค่อยๆยันร่างตัวเองขึ้นมา

     

    “เมื่อคืนเหมือนกับฝันร้าย ข้าโดนงูเหลือมสีส้มแป๊ดแถมตัวอย่างเขื่องรัดซะแทบหายใจไม่ออก แถมตอนนี้ก็ปวดเมื่อยไปทั้งตัวอีก”

     

    “ให้ชั้นนวดให้มั้ย?” อิจิโกะเลิกคิ้ว พร้อมกับยื่นมือไปจับหัวไหล่บาง

     

    “ไม่ต้องเลย ขืนให้เจ้านวด ข้าได้กระดูกหักทั้งตัวแน่ๆ” ลูเคียจับมือของอิจิโกะออกห่าง เอากำปั้นทุบไหล่ตัวเองไปพลางบนไปพลาง “เฮ้อ...เมื่อยจังเลย”

     

    ลูเคียบ่นอุบอิบอยู่เช่นนั้นไม่นาน เธอก็รู้สึกเหมือนมีมือเล็กๆกำลังขยำๆลงที่ต้นแขนของเธอ

     

    “โฮตารุ”

     

    โฮตารุใช้มือตัวเองขยำไปตามแขนของลูเคียอย่างขยันขันแข็ง พร้อมกับเงยหน้ามองด้วยดวงตาที่เป็นเหมือนจะตั้งคำถามให้เด็กสาวกลายๆว่า...เจ็บตรงไหนเหรอ...ไม่สบายตรงไหนรึเปล่า

     

    เป็นดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความห่วงใย...เหมือนลูก....

     

    “กลายเป็น*หมอขยำ ไปซะแล้วแฮะ” อิจิโกะหรี่ตามอง

     

    “....” ลูเคียมองใบหน้าเล็กๆที่จ้องมองเธออย่างใสซื่อนั้นด้วยความรู้สึกที่เต็มตื้นอยู่ในอก

     

    ตั้งแต่เธอเกิดมาบนโลกใบนี้...ยังไม่เคยมีใครมาเอาใจใส่ดูแลเธอถึงขนาดนี้มาก่อน

     

    แล้วยิ่ง เด็กคนนี้...ที่กำลังจะจากไปในอีกไม่กี่ชั่วโมงด้วยแล้ว

     

    จะให้ข้ารักเจ้าไปถึงไหน...

     

    จะให้ข้าห่วงใยเจ้าไปถึงไหน...

     

    ทั้งๆที่...เจ้าไม่ได้อยู่ทำแบบนี้ให้ข้าชั่วชีวิตซะหน่อย

     

    ยิ่งสัมผัสเล็กๆของเจ้านั้นถ่ายทอดมาให้ข้ามากเท่าไหร่...ข้าก็ยิ่ง...

     

    รัก...และสงสาร

     

    “ปล่อย” สุดท้ายลูเคียก็ตัดสินใจสะบัดแขนจนหลุด แล้วผลุนผลันออกจากห้องไป ทิ้งให้โฮตารุที่ยังนั่งอึ้งๆอยู่บนฟูกทำหน้าจะร้องไห้เพราะตกใจ

     

    “ไม่ต้องร้องไห้นะ” อิจิโกะลูบหัวเล็กปลอบใจ เด็กน้อยช้อนดวงตาปริ่มน้ำตาขึ้นมอง “ลูเคียเขากำลังสับสนอยู่น่ะ ไม่ต้องไปสนใจหรอก”

     

    เด็กหนุ่มคว้าตัวโฮตารุขึ้นขี่หลัง ร่างน้อยหลับตาปี๋ กอดคออิจิโกะแน่นกันตก

     

    “ไปกินขนมกันดีกว่านะ”

     

    .........................

    ..................................

     

    เช้านี้ ย่านการค้าในเมืองเซย์เรย์เทย์กลับมาคึกคักเหมือนเก่า หลังจากที่ต้องปิดทำการจากการซ่อมแซมตัวอาคาร และมีประกาศกฎอัยการศึกเนื่องจากมี “เรียวกะ” เพ่นพ่าน เกือบเดือน ผู้คนก็ค่อยๆเปิดร้านค้า นำข้าวของมาขายมากมาย

     

    “สวย...” โฮตารุหยิบปิ่นปักผมเล็กๆรูปดอกไม้ขึ้นมาดู พร้อมกับยื่นให้อิจิโกะดู

     

    “เหอะๆ วางกลับคืนที่เลย โฮตารุ” อิจิโกะหัวเราะแห้งๆ “ชั้นไม่มีตังค์ของโลกนี้ซักกะแดงเดียว ดูแต่ตา มืออย่าต้อง ของจะพัง เข้าใจมั้ย?”

     

    “...สวย...ให้หม่าม้า” เสียงเจื้อยแจ้วยังดังอย่างไม่ใส่ใจคำอธิบายเมื่อครู่ จนหญิงชราที่เป็นเจ้าของร้านหัวเราะกิ๊กด้วยความเอ็นดู พร้อมกับเอ่ยถาม

     

    “หลานชาย...ที่เป็นเรียวกะผมส้มคนนั้นใช่มั้ยจ๊ะ?”

     

    “อ่า...ครับ” อิจิโกะพยักหน้ารับ

     

    “แหมๆ พาเด็กผู้ชายน่ารักขนาดนี้มาด้วย ชื่อ โฮตารุ รึ เราน่ะ?” มือเหี่ยวย่นจับที่มือนิ่มๆของเด็กน้อยนั้น

     

    โฮตารุ พยักหน้าหงึก

     

    “ชอบปิ่นนี้เหรอ?”

     

    โฮตารุมองไปที่มือที่มีปิ่นปักผม พร้อมกับพยักหน้าอีกครั้ง แต่เมื่อนึกคำที่อิจิโกะพูด....

     

    คืน....

     

    เด็กน้อยจึงยื่นปิ่นคืนให้อย่างสุดแสนเสียดาย

     

    “ไม่ต้องหรอกจ้ะ ย่าให้หนูนะ” หญิงชราคนนั้นกุมมือเล็กนั้นไว้เบาๆ “แม่ของหนูต้องชอบมันมากแน่ๆเลย”

     

    โฮตารุสีหน้าแจ่มใสขึ้น เขากอดถุงกระดาษที่ใส่ปิ่นนั้นไว้แน่นไม่ยอมให้ใครถือ แม้กระทั่งอิจิโกะ

     

    ตอนนี้โฮตารุกำลังคิดว่า...

     

    ตัวเองทำให้แม่เจ็บ...แม่เลยโกรธ

     

    ถ้าแม่ได้เห็นปิ่นนี้ต้องดีใจแน่ๆ

     

    อิจิโกะมองร่างเล็กที่เดินเตาะแตะข้างๆเขา โดยมืออีกข้างหนึ่งจับมืออิจิโกะไว้แน่น อีกข้างกอดถุงกระดาษนั้นราวกับสมบัติล้ำค่าอย่างรู้สึกเจ็บปวด

     

    ไม่ว่าจะมองยังไง เด็กคนนี้ก็ไม่ใช่วิญญาณเทียม....

     

    แต่เป็นเด็กธรรมดาคนหนึ่งที่ต้องการความรัก ความอบอุ่น จากคนที่รักเขา

     

    ทำไมถึงมีชีวิตที่แสนสั้นขนาดนี้นะ

     

    เขาไม่เข้าใจ...ทั้งๆที่อุราฮาร่ารู้ว่าอาจจะต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ทำไมถึงสร้างยานี้ขึ้นมา

     

    คุณอุราฮาร่า...คุณคิดอะไรอยู่กันแน่

     

    *..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*..*

     

    จากที่ตอนแรกตะวันอันร้อนแรงฉายชัดกลางศีรษะ ตอนนี้เริ่มคล้อยต่ำลงเรื่อยๆ บ่งบอกว่าตอนนี้กำลังเข้าสู่ช่วงเวลาเย็น และกลายเป็นค่ำในไม่ช้า ร้านบางร้านยังเปิดให้บริการตามปกติ แต่เปลี่ยนจากการใช้แสงอาทิตย์ให้ความสว่าง ก็กลายเป็นโคมไฟหลากสีสันที่เข้ามาแทน ดูๆไปโคมไฟที่มีสีน่ากินแบบนี้ก็เหมือนลูกกวาดหลากสีที่กำลังลอยตัวอยู่บนอากาศดีๆนี่เอง

     

    เนื่องจากอิจิโกะกับพวกเรียวกะได้ชื่อว่า เป็น “ผู้มีพระคุณ” ของทางโซลไซตี้ เขากับโฮตารุจึงไม่มีทาง “อดอยาก” เพราะไม่มีข้าวกลางวันจะกิน เพราะมีแต่พวกเจ้าของร้านมอบของเล็กๆน้อยๆเป็นการตอบแทนบุญคุณพวกเขาจนเต็มไปหมด ทั้งขนม ของหวาน อาหาร ต่างๆ เยอะแยะเต็มนับไม่ถ้วน

     

    “ยัยลูเคีย ไปไหนกันแน่เนี่ย?” อิจิโกะพึมพำขณะกำลังนั่งกินมันเผาอยู่ตรงม้านั่งริมถนน “เย็นป่านนี้แล้ว”

     

    “.....” โฮตารุตาปรือลงอย่างเห็นได้ชัด  แต่พยายามฝืนลืมตาเอาไว้

     

    เหมือนกลัวว่า...ถ้าหลับไป...ตื่นขึ้นมาจะไม่ได้เห็นหน้าทุกๆคนอีก

     

    “โฮตารุ หลับแล้วเหรอ?” อิจิโกะจิ้มแก้มป่องๆนั้นเบาๆ

     

    เด็กน้อยส่ายหน้า ก่อนจะเบิกตาโพลงเมื่อไปเห็นบางสิ่งที่คุ้นเคย

     

    “หม่าม้า” โฮตารุเห็นร่างๆหนึ่งอยู่ที่หน้าร้านขายขนม “คาริยะ” เด็กน้อยรีบวิ่งไปหา พร้อมกับโผเข้ากอดร่างบางนั้นอย่างดีใจ ทำให้อิจิโกะหลุดจากภวังค์

     

    “ลูเคีย” อิจิโกะวิ่งไปสมทบ “ไปไหนมา โฮตารุ(กับชั้น) เป็นห่วงนะเฟ้ย”

     

    “ไม่ได้ไปไหนไกลหรอก” ลูเคียหลบตา 2 คู่นั้น

     

    “ยัง...ทำใจไม่ได้เหรอ?” เด็กหนุ่มถามขึ้นมา

     

    “.......”

     

    “เธอกำลังรู้สึก...เหมือนที่ชั้นรู้สึกใช่มั้ย?”

     

    “......”

     

    “หม่าม้า ป่าป๊า” โฮตารุมองทั้งคู่ที่มีสีหน้าเศร้าสร้อยด้วยสีหน้ากังวล

     

    “ข้าไม่เป็นไรหรอกน่า” ลูเคียสีหน้าสดชื่นขึ้นไปเป็นคนละคน “อีกไม่นานแล้วสินะที่ข้าจะได้พลังกดดันวิญญาณคืนซะที”

     

    “ลูเคีย”

     

    “เอ้าๆ รีบกลับกันเถอะ วันนี้ข้าจะอยู่ที่ห้องเจ้าอีกคืนนึง แล้วนี่กินข้าวกันมารึยังล่ะ? ถ้ายัง ข้าจะทำอะไรให้กินละกัน”

     

    “เอออ่ะ ในเมื่อพูดถึงขนาดนั้นแล้วล่ะก็” อิจิโกะอุ้มเจ้าตัวเล็กขึ้นพาดบ่าอีกครั้ง “จะยอมกินเสี่ยงตายอีกซักยกละกัน”

     

    “ว่าไงนะ”

     

    “เปล่าคร้าบบบ”

     

    แล้วทั้ง 3 คนก็กลับไปยังห้องของอิจิโกะอีกครั้ง

     

    .............................

    .....................................

     

    “เฮ้อ...อิ่มแล้วๆ อร่อยมากเลย” อิจิโกะพนมมือขอบคุณแม่โพสพกับแม่(คุณ)ตัวดีที่อุตส่าห์ทำกับข้าวให้กิน โฮตารุที่อยู่ในวัยเลียนแบบผู้ใหญ่ก็เลยทำตามบ้าง

     

    “แหงล่ะ ตอนอยู่ลูคอน ข้าเป็นปากท้องให้กับพวกเร็นจิเลยนะ” ลูเคียยืดอกอย่างภาคภูมิใจ พร้อมกับเก็บถ้วยชามไปวางที่

     

    “ได้ข่าวว่า ตอนนั้น เร็นจิเป็นคนทำไม่ใช่เหรอ?” อิจิโกะกัดเล็กน้อยแต่พองาม

     

    “อะ...เอ่อ...ช่างมันเถอะน่า”

     

    “เออนี่ ลูเคีย”

     

    “อะไรอีกล่ะ”

     

    “เธอยังไม่ได้ตอบคำถามชั้นเมื่อคืนเลยนะ”

     

    “ o////o” ลูเคียหน้าขึ้นสี

     

    //ตอนนั้นเธอ...กำลังคิดถึงชั้นอยู่ใช่มั้ย?//

     

    ข้าไม่ตอบ แล้วก็ไม่จำเป็นต้องตอบด้วย เด็กสาวเบือนหน้าหนี

     

    ไม่ต้องตอบก็ได้ อิจิโกะเปรยๆ หลักฐานออกทนโท่

     

    เจ้าบ้านี่!!!!!”

     

    “พอๆ” อิจิโกะยกมือห้ามทัพ “มาเล่นต่อคำกันมั้ย หรืออะไรก็ได้ อยู่เงียบๆแบบนี้น่าเบื่อจะตาย”

     

    “ตอนนี้กี่โมงแล้ว” ลูเคียเอ่ยถาม

     

    “ซัก... 4 ทุ่ม มั้ง?” อิจิโกะเงยหน้ามองนาฬิกา “อีก 2 ชั่วโมง...แล้วสินะ”

     

    “เอาล่ะ...”

     

    “มาเริ่มกันเถอะ”

     

    ............................

    ....................................

     

    “มิโดริ”

     

    “ริงโกะ”

     

    “โกเซ็น”

     

    “เซ็นทาโร่”

     

    “เอ่อ...ระ...โรคุ”

     

    “ฮะๆ เจ้าหน้าโง่ แค่นี้ก็ตอบไม่ได้”

     

    “ว..ว่าไงนะ”

     

    เสียงเจื้อยแจ้วยังดังต่อไปเรื่อยๆ โฮตารุที่ยังไม่รู้อะไรมากนะ ได้มองทั้งสองต่อคำอย่างดุเดือดด้วยความสนุกสนาน

     

    พร้อมกับเวลาที่ค่อยๆ....หมดลง…จนกระทั่ง...

     

    5 ทุ่ม 59 นาที 50 วินาที

     

    10...

     

    9…

     

    8…

     

    7…

     

    6...

     

    5…

     

    4…

     

    3...

     

    2..

     

    1..

     

    แก๊ง!!! แก๊ง!! แก็ง!!

     

    เสียงนาฬิกาดังก้องไปทั่วห้อง บ่งบอกถึงเวลาเที่ยงคืนตรง เข็มวินาทีเลยไปนานแล้ว วันที่ 3 ได้ผ่านพ้นไปแล้ว

     

     ทั้งๆที่แต่เดิมไม่เคยใส่ใจ แต่ตอนนี้คนทั้งสองรู้สึกว่ามันดัง...ดังจนน่าหวาดหวั่น

     

    “...ฟี้” โฮตารุหลับแล้ว อิจิโกะมองร่างนั้น ก่อนจะหันไปทางลูเคีย

     

    “หลับแล้วล่ะ เธอช่วยกล่อมเจ้าหนูนี้ได้มั้ย?”

     

    “ทำไม?” เด็กสาวมองร่างนั้นด้วยความเศร้าที่เก็บไม่มิดเช่นกัน

     

    “เด็กคนนั้น ชอบเพลงของเธอที่สุด...เขามีของที่อยากจะให้เธอ ตอนนี้ยังกอดไว้กับตัวไม่ปล่อยเลย”

     

    “ช่วยหน่อยเถอะนะ”

     

    ลูเคียรับร่างนั้นมาอุ้มไว้แนบอกอีกครั้ง เพลงกล่อมเด็กที่ร้องเมื่อคืนถูกร้องออกมาอีกครั้งจากปากของเธอ

     

    “นอนเถอะนะลูกน้อย”

     

    “คนเลี้ยงเด็ก....ไปอยู่เสียที่ไหน”

     

    “.....หรือข้ามภูเขา.....กลับไปหมู่บ้าน”

     

    “จะมี.....”

     

    “..........”

     

    “.................”

     

    เสียงเพลงนั้นขาดช่วง เพราะก้อนสะอื้นจุกอยู่ที่ลำคอจนพูดไม่ออก ลูเคียกอดร่างนั้นแน่น ดวงตาแดงก่ำ

     

    ทำไม...คนที่ข้ารัก...ต้องจากข้าไปด้วย

     

    ฝุบ...

     

    ดวงไฟสีฟ้าออกจากร่างของโฮตารุที่ละดวงๆ เหมือนกับหิ่งห้อยตัวน้อยที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำ ลอยเข้ามา วนเวียนอยู่รอบๆตัวลูเคีย ราวกับห่วงหา ก่อนจะค่อยๆหายลับเข้าไปในร่างของเธอ...พร้อมกับร่างเล็กที่ค่อยๆหายไปเหมือนปราสาททรายที่ถูกน้ำทะเลกัดกร่อน

     

    ก่อนไป โฮตารุ กอดเธอแน่น ใบหน้าซุกอกแม่หลับพริ้มอย่างแสนสบาย หัวใจพองโตอย่างเป็นสุข

     

    หม่าม้าหายโกรธแล้ว...หม่าม้ากอดเราแล้ว...จะชอบดอกไม้นั่นมั้ยนะ?

     

    พรุ่งนี้...จะได้เจอหม่าม้ากับป่าป๊าอีกมั้ยนะ?

     

    แต่ว่า...ง่วงจังเลย...

     

     แสงหิ่งห้อยที่เป็นตัวแทนชีวิตของร่างน้อยนั้นลอยเข้าไปในร่างลูเคียจนหมดสิ้น....

     

    เหลือไว้แต่ปิ่นปักผมเล็กๆที่อยู่ในอ้อมแขนอันว่างเปล่าของเด็กสาวคนหนึ่ง

     

    -โปรดติดตามตอนต่อไป-

     

    *หมอขยำ – คือ ใช้เรียกเด็กที่ต้องทำหน้าที่นวดผู้ใหญ่ค่ะ ขยำๆให้คุณพ่อคุณแม่หลับสบาย

     

    ปล. แต่งไปร้องไห้ไปค่ะ T^T

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×