คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : กลับโซลโซไซตี้ 2
-9-
“แฮ่ก...แฮ่ก...โอย...เหนื่อยชะมัด...” เสียงหอบอย่างเหนื่อยอ่อนดังขึ้นจากสวนภายในคฤหาสน์ตระกูลคุจิกิ ส่วนตรงที่เป็นประตูเซ็นไกมงส่วนตัวของเจ้าบ้านคุจิกิ เร็นจิกับอิจิโกะนอนแผ่หลาบนผืนหญ้าอย่างหมดรูปหัวหน้าหน่วย 5 และตัวแทนยมทูต โดยมีโคมาจิคอยนั่งดูแลทั้งสองคนอยู่ไม่ห่าง
“มาถึงไวดีนี่” เบียคุยะที่ได้ยินเสียงโครมครามบ่งบอกการมาถึงของน้องเขยกับอดีตรองหัวหน้าของตน เดินออกมาจากศาลาริมน้ำที่นั่งพักผ่อนจนถึงเมื่อครู่อย่างไม่รีบร้อนอะไร ในขณะเดียวกันนั้นลูเคียได้เดินตามข้างหลังเบียคุยะมาโดยทิ้งระยะห่างจากผู้เป็นพี่ชายพอสมควร มือข้างหนึ่งจูงโฮตารุที่กำลังอยู่ในวัยเตาะแตะมาด้วย ส่วนมืออีกข้างหนึ่งประคองถาดใส่ถ้วยน้ำชามา 2 ถ้วย สีหน้าหวานนั้นบ่งบอกว่าทั้งขำทั้งสงสาร...ขำเพราะเห็นสภาพของคนทั้งสอง...สงสารก็สงสารที่สามีกับเพื่อนสนิทโดนท่านพี่เบียคุยะของเธอกลั่นแกล้งได้ถึงขนาดนี้...
“ข้านึกว่าพวกเจ้าถูกโคริว (กำแพงดักจับวิญญาณ) จับไว้จนออกมาไม่ได้เสียอีก”
“...” อิจิโกะถลึงตามองอีกฝ่ายอย่างอดแค้นเคืองไม่ได้ เบียคุยะนะ เบียคุยะ หาเรื่องแกล้งได้แสบสันจริงๆ...
“เหนื่อยแย่เลยสิ” เสียงนุ่มอ่อนหวานของลูเคียเอ่ยเรียกเพื่อสงบศึกก่อนวางมือลงไหล่กว้างของผู้เป็นสามี “อิจิโกะ เร็นจิ ลุกเถอะ ข้าชงชาข้าวบาร์เลย์เย็นๆมาให้ ดื่มซะจะได้สดชื่น”
“ขอบใจนะ ลูเคีย” อิจิโกะพูดพลางฉุดแขนเร็นจิให้ลุกขึ้นตาม ทั้งคู่คว้าถ้วยชาจากในถาดไปดื่มอักๆจนหมดถ้วย...น้ำชาเย็นกำลังดี...มีรสหวานอ่อนๆ...แถมกลิ่นข้าวบาร์เลย์ที่โชยกลิ่นหอมละมุนเตะจมูกตอนที่ดื่มอีก...
หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง...ยอดเยี่ยมไร้ที่ติ...
“วิ่งผ่านโลกปิดตายแค่นี้ก็หอบซะแล้วรึ?” ชายหนุ่มผมดำประบ่าสืบเท้าเข้ามาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าชายหนุ่มผมส้มพลางก้มลงมอง...มองไปคล้ายๆกับเยาะเย้ยเขาอยู่กลายๆ...
“ยังต้องฝึกอีกมากนะ”
“ก็ลองมาวิ่งดูบ้างสิฟะ” อิจิโกะบ่นอุบอิบ “เนอะ เร็นจิ”
“...อย่ามาถามอะไรข้าเลยฟ่ะ...” เร็นจิบอกเสียงอ่อยๆ พลางโบกมือไปมาอย่างปฏิเสธ
“ป่าป๊า...” เสียงเล็กใสดังขึ้นมาข้างๆตัวของอิจิโกะ เมื่อเขาหันไปดูก็พบร่างกระจ้อยของลูกชายเอามือเกาะอยู่บนหน้าขาของเขา ดวงตากลมโตสีน้ำตาลจ้องมองมาที่เขาพลางเอียงคอให้ ท่าทางนั้นดูน่าหมั่นเขี้ยวจนอิจิโกะอดที่จะอุ้มร่างเล็กเข้ามากอดแล้วหอมแก้มอีกฟอดใหญ่ไม่ได้
“เป็นไง คงเหนื่อยสินะ โคมาจิ” ลูเคียวางมือลงบนเรือนผมสีขาวพิสุทธิ์ยาวสลวยของเทพพิทักษ์ตัวน้อยอย่างนึกเอ็นดู ก่อนจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างที่ผิดไปจากเดิม
“เอ๊ะ กระดิ่งที่ผูกผมของโคมาจิหายไปไหนอันนึง” ลูเคียเปรยเบาๆ พลางหันควับไปทางคู่ชีวิต “อิจิโกะ...”
ทั้งๆที่สัญญาไว้แล้วว่าอย่าให้โคมาจิเป็นอะไรแล้วทำไม...
“นี่ อย่ามองแบบนั้นน่า ที่กระดิ่งของโคมาจิหายไปเป็นเพราะเธอต้องการช่วยพวกเราน่ะ” อิจิโกะรีบอธิบาย เพราะถ้าขืนช้ากว่านี้ มันไม่เป็นการดีต่อชีวิตและทรัพย์สินเขาเลยแม้แต่น้อย
“หา? ช่วย? ช่วยยังไง?” หญิงสาวงงหนัก
“คืองี้ ตอนเราอยู่ในโลกปิดตายน่ะ พวกเราโดนโคตทสึไล่ตามจนเกือบจะเสียทีอยู่แล้ว...” ชายหนุ่มแดงอธิบาย ก่อนหันไปมองร่างเล็กผมขาว “แล้วแม่หนูคนนั้นก็เลยใช้ที่ผูกผมนั้นสร้างเป็นม่านพลังป้องกันไม่ให้โคตทสึไล่ตามพวกเราทัน ก็เลยฉวยจังหวะนั้นเผ่นออกมาได้น่ะ”
“จริงเหรอ?” ลูเคียทำตาโต “นี่เจ้าเก่งขนาดนี้เชียวเหรอ?”
“...” เด็กหญิงไม่ตอบ กลับยิ้มหวานให้ ใบหน้านั้นแดงเรื่อเมื่อได้รับคำชม เหมือนกับตุ๊กตาญี่ปุ่นที่ถูกระบายแก้มด้วยเครื่องสำอางสีชาดชั้นดี...ลูเคียเห็นแล้วก็อดนึกเอ็นดูไม่ได้...ถึงเด็กคนนี้แม้จะไม่ใช่ลูกสาวที่นางคลอดมากับมือก็เหมือนใช่...ตลอดหนึ่งปีที่อยู่ด้วยกันมาทำให้นางมองเห็นโคมาจิเป็น “ลูกสาว” คนนึง หาใช่ เทพพิทักษ์ที่ทำหน้าที่เพียงปกป้องคุ้มครองลูกชายของเธอไม่...
ลูเคียอดนึกไม่ได้ว่าถ้าวันใดที่โฮตารุอายุครบสองขวบ...แล้วโคมาจิต้องจากไป...นางเองก็คงจะเศร้าใจไม่น้อยทีเดียว...
แต่คนที่จะเสียใจมากกว่าน่ะ...คือ...
“เอาล่ะ” ลูเคียใช้สองมือนิ่มอุ้มร่างเล็กกระจ้อยของโคมาจิจนตัวลอย “ไปกินข้าวกันนะ โคมาจิ พรุ่งนี้ข้าจะพาเจ้าไปหาหัวหน้าอุคิทาเกะ ท่านคงคิดถึงเจ้าแย่แล้ว”
“จริงเหรอคะ ข้าจะได้ไปหาท่านพ่อจริงเหรอคะ?”
“จริงสิ”
“นายหญิงใจดีที่สุดเลยเจ้าค่ะ” แขนเล็กป้อมทั้งสองข้างยกขึ้นกอดคอหญิงสาวที่กำลังอุ้มเธออยู่ ซึ่งลูเคียเองก็กอดตอบเช่นกัน
“เด็กผู้หญิงนี่น่ารักจริงๆน้า~” อิจิโกะพูดออกมาลอยๆอย่างจงใจให้ลูเคียได้ยิน “เอาไว้คราวหน้ามีลูกสาวดีกว่าเนาะ”
“เจ้าบ้า!!...พูดแต่เรื่องนี้เป็นอย่างเดียวรึไง” แก้มของลูเคียขึ้นสีระเรื่อ ริมฝีปากเล็กขยับขมุบขมิบไปมาซึ่งอิจิโกะสังเกตเห็นก็รู้ว่ากำลังแอบด่าเขาอยู่ “ลุกขึ้นไปกินข้าวกลางวันกันได้แล้ว อย่ามัวชักช้า”
“ขามันล้า...ลุกไม่ไหวอ่ะ...” อิจิโกะแกล้งทำสำออย ยังคงนั่งอยู่แบบนั้นไม่ยอมขยับไปไหน ซึ่งเร็นจิที่ลุกขึ้นมาแล้วได้เห็นยังอดหมั่นไส้ไม่ได้
“ลุกไม่ไหวก็ไม่ต้องลุก อดข้าวไปแหละดีแล้ว” หญิงสาวยังคงงอนต่อเนื่อง ก่อนจะก้าวฉับๆกลับเข้าไปยังโถงใหญ่โดยไม่คิดจะหันมามองอีก
“จำไว้เลยนะ ยัยลูเคีย คืนนี้จะเอาคืนให้จั๋งหนับเลย” อิจิโกะขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ก่อนจะลุกขึ้นยืนด้วยตนเองจนสำเร็จ
ก่อนจะเจอะเข้ากับเบียคุยะที่ทำหน้ามึนตึงใส่อยู่
“เจ้าจะเอาคืนใคร คุโรซากิ อิจิโกะ”
เฮือก!
“ปล...เปล่า” อิจิโกะบ่นอุบ นี่ขนาดลูเคียแต่งงานพ้นอกเบียคุยะไปจะเข้าปีที่ 2 อยู่แล้วยังตามหวงน้องสาวไม่เลิกอีก
“แล้วจะลุกได้รึยัง?”
“รู้แล้วน่าๆ ลุกแล้วๆ” ชายหนุ่มผมส้มลุกขึ้นยืน พลางอุ้มเจ้าตัวน้อยผมส้มเอาไว้ ผ่านไปสิบปี จากเดิมที่เขานั้นเตี้ยกว่าเบียคุยะเล็กน้อย ตอนนี้เข้าสูงกว่าเบียคุยะมากแล้ว แต่ก็ยังไม่เท่ากับเร็นจิที่สูงผิดมาตรฐานชายชาวเอเชียอยู่ดี
แต่นี่ก็เป็นเพียงเรื่องหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่เขาภูมิใจ...อย่างน้อยส่วนสูงก็เอาชนะพี่เขยได้ล่ะฟะ...ถึงเรื่องคารมกับฐานะเขาจะสู้ไม่ได้ก็เถอะ...
..................
................................
ความคิดเห็น