คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : คำขอบใจและผู้มาเยือน
ตั้งแต่ ลูเคีย เข้าโรงพยาบาลมา นี่ก็หลายวันมาแล้ว....
แต่เบียคุยะ...พี่ชายของเธอ...ก็ไม่มาเยี่ยมเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ต่อๆๆ
ในวันที่อากาศอุ่นสบาย มีร่างๆหนึ่งนอนอยู่บนระเบียงทางเดินหลังร้านอุราฮาร่า....
เมี้ยวๆๆ
เสียงๆหนึ่งดังเข้าไปในหัวของอดีตเอสปาด้าหนุ่มที่ยังไม่หายเมามาทาทาบิดีนัก ซ้ำยังรู้สึกจั๊กจี้ที่คอ
โอ๊ยยย หนวกหูชะมัด
เมี้ยวๆๆ...
เสียงนั้นยังดังหลอนประสาทต่อเนื่อง
........ -*-............
เมี้....
“โว้ย!!!! มาส่งเสียงอะไรเนี่ย!!!! คนจะหลับจะนอน!!!!” กริมจอว์สติหลุด ว้ากลั่นใส่คนที่มาทำเสียงน่ารำคาญแถวนี้
“ขอโทษค่ะ” เจ้าของเสียงสะดุ้งโหยง วางมือจากขนไก่ที่คลอเคลียแก้มของกริมจอว์
“เจ้าเป็นใครเนี่ย?” กริมจอว์ทำหน้างง
กริมจอว์สังเกตคนตรงหน้า เด็กสาวผมยาวสีน้ำตาลถึงกลางหลัง สวมชุดกระโปรงดูแปลกตา หนำซ้ำหน้าตาที่ดูสะสวยได้รูปผิดกับคนญี่ปุ่นทั่วไป
ลูกครึ่ง?
“เอ่อ...คือ...พอดีคุณแม่ของชั้นเป็นคนเสปนน่ะค่ะ” หญิงสาวยิ้มตอบ
“พอดีชั้นผ่านมาแถวร้านของคุณ เห็นเจ้าของร้านของคุณกำลังทำอะไรยุกยิกๆกับคุณ ก็เลยมาดูน่ะค่ะ แล้วก็เลยจับพลัดจับผลูให้มาดูแลคุณนี่แหละ”
หญิงสาวกล่าวจบก็กลั้นหัวเราะพรืด
“ทำอะไร?!” กริมจอว์คว้าไหล่ของเธอไว้ “เจ้านั่นมันทำอะไรข้า บอกมานะ!!!!”
“ดูกระจกสิคะ” เธอหยิบกระจกขนาดเล็กให้เขาดู
กริมจอว์เบิกตากว้าง
.
“ว้าก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
ชายหนุ่มตกใจสุดขีด ใบหน้าของเขาถูกเจ้าของร้านตัวดีขีดหนวดเติมจมูกซะเละ ซ้ำบนหัวยังมี....
ผ้าคาดหูแมวสีแดง
“บ้าเอ๊ย!!!!!!” กริมจอว์พยายามดึงผ้าคาดออก “ว้าโว้ย!! ดึงไม่ออกด้วย”
“ใจเย็นค่ะ” หญิงสาวห้ามก่อนจะทำอะไรไปมากกว่านี้ หล่อนเปิดขวดสีชาทรงสูง เธอย่นจมูกเล็กน้อยก่อนจะเทมันลงในผ้าขาว “เมื่อกี๊ชั้นลองใช้น้ำเช็ดดูแล้วค่ะ สงสัยหมึกจะเป็นหมึกกันน้ำ ใช้น้ำมันสนลองล้างดูแล้วกันค่ะ ทนแสบหน้าหน่อยละกัน”
กริมจอว์มองเด็กสาวปริศนาที่ค่อยๆใช้ผ้าเช็ดหน้าให้เขาอยู่เงียบ ก่อนจะเอ่ยคำพูดคำหนึ่งออกมาอย่างตะกุกตะกัก
“เอ่อ...กะ....”
“*Gracias (ขอบใจ)”
“**De nada (ไม่เป็นไรค่ะ)” เด็กสาวตอบรับคำขอบคุณนั้น
เอ๋?
“คุณพูดเสปนเป็นด้วยเหรอคะ?” เด็กสาวเลิกคิ้ว
“....ที่ๆข้าเคยอยู่ใช้ภาษานี้พูดน่ะ” กริมจอว์เสหน้ามองไปทางอื่น
ฮูเอโก้ มุนโด้.....
“ดีใจจังเลย” เด็กสาวเผลอตัวกุมมือของกริมจอว์แน่น “ชั้นเพิ่งมาที่นี่ไม่นาน ยังพูดญี่ปุ่นไม่ค่อนคล่องเลย อย่างน้อยก็ได้เจอคนพูดเสปนได้ ชั้นได้โล่งใจหน่อย”
“คุณชื่ออะไรคะ?”
“กริมจอว์ แจ๊คเกอร์แจ๊ก” ชายหนุ่มเอ่ยชื่อของตน
“ไฮวาธาค่ะ” เด็กสาวยิ้มกว้าง
ทั้งสองมองหน้ากันและกันอยู่พักหนึ่ง
แล้วเสียงของทั้งคู่ก็ดังเกือบพร้อมๆกัน
“ *** Encantado (ยินดีที่ได้รู้จัก)”
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
.
..
ภายในห้องพักพิเศษ ของแผนกสูตินารีเวช ของ เซย์เรย์เทย์ เมมโมเรี่ยล
เสียงเด็กทารกอ้อแอ้ดังเบาๆลอดเข้ามาในห้อง
แม้ลูเคียดูจะวุ่นๆกับเลือดเนื้อเชื้อไขที่เพิ่งเกิดมาอย่างโฮตารุอยู่ไม่น้อย พยาบาลหน้าตาน่ารักหลายคนก็มาแวะเวียนดูเจ้าตัวเล็กไม่ขาดสาย บางทีก็มาตรวจความดัน มาทีก็มาวัดไข้ แต่ก็แอบเอากล้องมือถือถ่ายรูปลูกชายของเธอไว้แทบทุกครั้ง เมื่อเธอจับได้ พวกพยาบาลก็จะหัวเราะแหะๆ ก่อนจะรีบเดินออกไป
อิจิโกะที่ถึงแม้จะวุ่นตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน๊อตกับการรักษาคนไข้ แต่ถ้ามีเวลาว่าง หรือเป็นช่วงพักเที่ยง เขาจะปลีกตัวมาดูเธอกับเจ้าตัวน้อยทันที จนใครที่ได้เห็นก็อมยิ้มด้วยความเอ็นดูในตัวคุณหมอที่เป็นคุณพ่อมือใหม่แบบนี้
วันนี้ก็เหมือนกัน อิจิโกะหิ้วข้าวกล่องที่ซื้อมาจากคอนวิเนี่ยนสโตร์ขึ้นมากินที่ห้องพักของเธอ เม็ดเหงื่อเล็กซึมตามหน้าผากของร่างสูง ให้เห็นว่าอีกฝ่ายรีบร้อนมาแค่ไหน
ส่วนโฮตารุนั้น พวกพยาบาลพาไปที่ห้องเด็กอ่อนแล้ว โฮตารุโชคดีกว่าเด็กหลายๆคน ที่เกิดมาสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดีทุกอย่าง ตัวไม่เล็กและซีดเหลือง ไม่เช่นนั้น เธอกับอิจิโกะคงต้องทนเห็นลูกตัวเองมีสายระโยงระยางเต็มตัวพร้อมกับเข้าตู้อบอีกหลายวัน
“วันนี้รู้สึกไม่สบายตรงไหนรึเปล่า?” อิจิโกะเอ่ยถาม พร้อมส่งไข่หวานม้วนไส้กุ้งเข้าปาก
ลูเคียไม่ได้ตอบในทันที เธอเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง เหมือนกำลังคิดถึงใครอยู่
“ลูเคีย?”
“อ๊ะ..เอ่อ...อะไรนะ?” ลูเคียสะดุ้งเล็กน้อย พยายามนึกทบทวนสิ่งที่อาจจะลอยเข้าหูมาบ้าง “คือเรื่องสุขภาพข้าใช่มั้ย?...เปล่า...ข้าสบายดี”
“เหม่ออะไรของเธอน่ะ?” อิจิโกะย่นคิ้ว “หรือว่าคิดเรื่องเบียคุยะ”
“...ใช่...” ลูเคียยิ้มบางๆ เธอใช้แขนเสื้อตัวเองเช็ดเหงื่อให้อิจิโกะ “ถึงข้าไม่ได้อยากคาดหวังให้ท่านพี่ยินดีกับการเกิดมาของโฮตารุก็เถอะนะ”
“บางที...ท่านพี่อาจเกลียดข้าแล้วก็ได้”
ตอนที่ทั้งคู่ตกลงใจจะอยู่ด้วยกัน เบียคุยะไม่พอใจมาก
เพราะการที่ให้มนุษย์อยู่ร่วมกับยมทูต ก็ไม่ต่างอะไรกับการส่งลูเคียไปสู่สุดปลายหน้าผา
แต่เมื่อทั้งคู่ตกลงใจกันอย่างดี และเห็นถึงความมุ่งมั่นที่ไม่สั่นคลอนของพวกเขา เบียคุยะจึงไม่คัดค้านอะไรอีก
และ...ไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีกต่อไป
นับแต่นั้น...วิถีชีวิตของทั้งคู่ก็ถูกตัดขาดออกจากกันโดยสิ้นเชิง
เบียคุยะทำเหมือนกับตายจาก...ไม่ติดต่อ...ไม่พบหน้า
นี่คือเรื่องเดียวที่ลูเคียรู้สึกกังวลใจมากที่สุด
“คิดมาก...” อิจิโกะขยี้หัวเธอแรงๆ ลูเคียย่นคอลงด้วยความเจ็บ
“เจ้าบ้า!! ข้าเจ็บนะ!!!” ลูเคียว้ากลั่น
“เธอทำดีที่สุดแล้ว ไม่ต้องเศร้าไปหรอก” ชายหนุ่มยิ้ม “เอาเถอะ กินข้าวได้แล้ว”
“ไม่อยากกิน” ลูเคียย่นคิ้ว แค่ได้กลิ่น เธอก็รู้สึกแย่แล้ว
อิจิโกะคีบกับข้าวในกล่องแล้วยื่นให้ “หรือต้องให้ป้อนก็ได้นะ อ้าม~”
ลูเคียเอามือยันหน้าไว้
“ไม่เอา บอกว่าไม่หิวไง”
“ไม่มีทาง เธอไม่หิว แต่เจ้าตัวจิ๋วน่ะหิว หน้าอกหน้าใจยิ่งมีน้อยอยู่นมไม่พอจะแย่” อิจิโกะบอกด้วยเสียงเรียบเฉย
ปั้ก!!!
แล้วก็โดนลูเคียสวนหมัดเข้าให้
“โอ๊ย~~!!!! จะบ้าเหรอ ดั้งหักแบบนี้จะไปตรวจชาวบ้านเค้ายังไง!!!!” อิจิโกะโวยวาย
“ไอ้เรื่องหน้าอกข้า เจ้าเลิกแซวซะทีได้มั้ย!!!!!” ลูเคียก็เถียงกลับ
“แล้วตกลงจะกินมั้ย?” อิจิโกะจ้องหน้านิ่ง เลือดกำเดาไหลโกรกจนต้องเอามือเช็ดป้อยๆ
“.....” ลูเคียหน้างอง้ำเป็นจวัก ก่อนจะงับข้าวจนหมดคำ แต่ก็หยิบทิชชู่มาเช็ดเลือดกำเดาให้อีกฝ่ายด้วย
“เก่งจังเลย~” ทำเสียงหน่อมแน้มน่าขนลุก
“เอามาสิ เดี๋ยวกินเอง” ลูเคียคว้ากล่องข้าวมา
“แล้วเรื่องอะไรมาแย่งข้าวชั้นล่ะ?” อิจิโกะพยายามดึงข้าวกล่องมา
“ข้าวกล่องนี่อร่อยกว่าอาหารโรงพยาบาลตั้งเยอะ กินด้วยกันก็ได้นี่” ลูเคียยิ้ม
“ดี...งั้นป้อนให้ด้วย”
“ได้....” ลูเคียส่งข้าวคำโตเข้าปากให้อิจิโกะเต็มรัก
“อ้าเอ๋อ? อำไอ่ไอแอ๊ว (บ้าเหรอ? คำใหญ่ไปแล้ว)” อิจิโกะส่งเสียงอู้อี้
....................
.............................
ทั้งๆที่เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิแล้ว แต่กลางคืนก็มาเยือนโลกอย่างรวดเร็ว
อิจิโกะไม่อยู่ในห้องแล้ว วันนี้เขามีผ่าตัดด่วน ถึงจะเป็นแค่ผ่าตัดเล็กคือ การผ่าตัดตกแต่งนิ้วมือ ที่ใช้เวลาไม่มาก
แต่คราวนี้คนไข้ของเขาเป็นเด็กเล็กมาก อายุแค่ขวบเดียว จึงต้องระมัดระวังในการใช้ยาสลบและการลงมือผ่าตัดอย่างมาก
ลูเคียหลับแล้ว วันนี้เธอได้รับอนุญาตให้พาโฮตารุมานอนข้างๆด้วยได้
ร่างบางหายใจสม่ำเสมอ ข้างๆมีร่างเล็กนอนอยู่ใกล้ๆ
เงาร่างของคนสองคนทาบทับร่างบางนั้น
คนหนึ่งยื่นมือไปใกล้ หวังสัมผัสร่างของลูเคีย แต่แล้วก็ชะงัก ก่อนจะชักมือกลับ
“ทำไมไม่ปลุกนาง
“อย่าเลย ในสายตาของนาง ข้าคือคนที่เขาเกลียดที่สุดกระมัง” ร่างบางตอบด้วยน้ำเสียงเฉยชา “แล้วอีกอย่าง เจ้าไม่ใช่รองหัวหน้าของข้าแล้วนะ หัวหน้าหน่วยอาบาราอิ”
“แต่ในความคิดข้า ท่านก็คือหัวหน้าของข้าเสมอครับ หัวหน้าคุจิกิ” เร็นจิเอ่ยด้วยน้ำเสียงล้อเล่น “ลองแตะดูสิครับ แตะนิดเดียวนางไม่ตื่นหรอก”
เบียคุยะเอื้อมมือไปลูบหัวลูเคียเบาๆ สีหน้าของหญิงสาวผ่อนคลายลง เมื่อรู้สึกถึงสัมผัสที่คุ้นเคย ก่อนจะเลยไปแตะผิวสีชมพูของร่างเล็กแรกเกิด โฮตารุส่งเสียงอ้อแอ้เบาๆ
“ขอโทษนะ ลูเคีย” เบียคุยะเอ่ยเบาๆ “ยินดีด้วยกับการเกิดมาของเด็กคนนี้”
เร็นจินั้นได้แต่มองลูเคียเงียบๆ
แม้ลูเคียจะรักคนอื่น...และให้กำเนิดลูกของชายอื่นที่ไม่ใช่เขาก็ตาม
“ดีใจด้วยนะ ลูเคีย”
แต่แค่เห็นลูเคียมีความสุข....
เขาก็ไม่หวังอะไรอีกแล้ว
-โปรดติดตามตอนต่อไป-
ความคิดเห็น