เพิ่งรู้ว่าผีมีจริง
เรียนรู้แต่เหตุและผล อะไรที่ไม่สามารถอธิบายปรากฎการณ์ได้ก็เลยไม่ถือเป็นสาระจนคิดไปว่ามันไม่มีจริง ถ้าความรู้สิ่งต่างๆทั้งหลายมันเหมือนเอกภพ ความเรื่องเรื่องกรรมที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนก็เหมือนดาวเคราะห์ซะดวงในเอกภพนั้น
ผู้เข้าชมรวม
173
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เรื่องนี้มันต่อความยาวสาวความยืดมาตั้งแต่สมัยเป็นเด็กๆ และความเชื่อที่ปลูกฝังกันมา
เราโตมาในสองวัฒนธรรม คือ คนครอบครัวที่ไม่เชื่อ กับไอ่สื่อทางโทรทัศน์ที่กล่อมเกลา บวกกับความเป็นนักวิทยาศาสตร์ในดีเอ็นเอ ที่ยังไม่ยอมรับในสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ (โดยส่วนตัวเชื่อว่าถ้าอะไรก็ตามมีจริงต้องพิสูจน์ได้ ขนาดแสง เสียง มองไม่เห็นยังวัดค่าพลังงานได้ นำมาใช้ได้เลย)
เกิดคำถาม ความขัดแย้งในตัวมาตลอดเวลา ว่าผีมีจริงเหรอ ตายแล้วไปไหน พระเจ้ามีจริงไหม แล้วทำไมแต่ละศาสนาถึงมีความเชื่อต่างกัน อะไรๆเหล่านี้
และถามว่าเคยสัมผัสประสบการณ์เหล่านี้มาบ้างมั้ย เหอๆ อาจจะบ่อยกว่าบางคน แล้วก็กลัวเป็นพักๆเหมือนจะเชื่อ สุดท้ายก็ห่างหายไปเช่นเดิม เพราะลึกๆแล้วยังเชื่อว่าผีไม่มีจริง เหตุการณ์ที่เจอมากับตัวก็เหมือนจพหน้ากลัวแต่ก็อธิบายได้ทางวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะในด้านจิตวิทยา (ซึ่งกิ่งสนใจคำอธิบายนี้เป็นพิเศษ)
แต่ฉายาใหม่ของเราก็คือ ขอสามเพราะความรู้สึกช้า เหตุการณ์อื่นอาจนานมาแล้ว แต่มีสองเหตุการล่าสุดคือเมื่อตอนปีใหม่ ที่อยู่หอคนเดียว อยู่ดีๆกระเป๋าก็หล่นลงมาจากชั้นวางแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แถมอยู่ข้างหลังอีก มันหล่นอยู่สองครั้ง แบบที่ไม่น่าหล่น เราไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าเป็นคนอื่นเค้าจะตกใจตั้งแต่ครั้งแรกรึป่าว แต่เรากระเป๋าตกสองครั้งก็ยังไม่คิดไร จนต้องมีเสียงแปลกๆในห้องน้ำ จึงเพิ่งมานึกได้ว่ามันแปลกๆ เกิดจากอะไรลึกลับรึป่าว แล้วเพิ่งมานึกกลัว
อีกเรื่องนึกเกิดขึ้นตอนกลับบ้านสงกรานต์นี่เอง ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินลงบันไดมาจากชั้นบน ได้ยินสามรอบและแน่ใจว่าเป็นเสียงคนเดินลงมาแน่ๆ เดินไปดูทั้งสามรอบก็ไม่เห็นมีใคร จนรอบที่สามนั่นแหละเริ่มเอะใจ (รอบสองรอบแรกไม่รู้สึกไรเลย) แต่มันขนลุกจิงเอาตอนเช้าที่เล่าให้พ่อฟัง แล้วเดินขึ้นไปดู เพราะต้นกำเนิดเสียงที่ได้ยินเดินลงมานั้น มีโกฐกระดูกของปู่ ตั้งอยู่ตรงนั้นพอดี
อืม ผีคงคิดว่า อีนี่โง่หรืออะไร หลอกครั้งแล้วก็ไม่รู้สึก สองแล้วก็ไม่รู้สึก ต้องจัดรอบสาม
และก็มีเรื่องที่ทำให้ต้องบอกตัวเองอยู่ซักพักนึงว่าเรื่องลี้ลับมีจิง คือตอนถูกหวยเมื่อปีที่แล้ว คือ คืนนั้นฝันเห็นเลขเป๊ะๆ เหอๆ แต่คนโง่ก็คือคนโง่ ฝันก็คือฝัน ก็หนูไม่รู้ว่ามันอะไรยังไง จนเดินผ่านแผงขายล๊อตเตอร์นั่นแหละ ถึงบอกมาบอกซ้ำอีกครั้งว่า เลขนี่อ่ะ ซื้อซิ หึหึ แต่ด้วยความเสียดายเงินบวกกับไม่รู้เค้าซื้อกันยังไง เลยไม่ซื้อ แต่ก็รู้สึกกระวนกระวายใจยังไงไม่รู้ เลยต้องบอกน้องให้ซื้อให้แทน
อืมมม แล้วมันก้ถูกจริงๆด้วย เหตุการณ์นี้เองทำให้กเพิ่งรู้ว่าการถูกหวยไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือความน่าจะเป็นอย่างที่เคยคิดมาตลอด
และตอนกลับบ้านก็เจอลูกพี่ลูกน้องคนนึง เค้าใส่ชุดขาวเพิ่งกลับมาจากวัด อืม แล้วสีขาวก็เป็นแรงดึงดูดกิ่งมาก ก็เข้าไปถามเค้าว่าไปทำไรมา มีงานอะไร ทำอะไร (คุยจนนัดกันว่าเรียนจบแล้วกิงจะมาบวช)
เค้าบอกว่าเห็นสนใจผิดปรกติ แล้วพี่ก็ไปเล่าไอ่ความเป็นคนมีเซนต์ของเราให้ญาติๆฟัง พออีกวันเค้าเลยชวนไปหาแม่ชี แต่ด้วยความที่แม่กับตาเป็นคนที่ไม่เชื่อและสอนกิ่งมาตลอดว่าผีไม่มีจริง เลยทำให้ไม่ได้ไป
แต่ก็ได้คุยกับพ่อ ซึ่งจบนักธรรมเอกมา (แต่กลัวผีเอามากๆ) เลยถามพ่อว่า เมื่อพระพุทธเจ้าสอนเฉพาะหลักธรรมแล้วทำไมคนยังต้องมีพิธีกรรมต่างๆ ยังมีผีสาง ยังมีอะไรเหล่านี้อยู่
และสิ่งที่พ่อบอกคือ องค์ความรู้ อะไรๆทั้งหลายในจักรวาลนี้มีมากมาย และพระพุทธเจ้าเลือกเรื่องกรรมขึ้นมาสอน เพราะกรรมเป็นเหตุแห่งทุกข์ พระพุทธเจ้าเน้นที่เรื่องของการดับทุกข์ ส่วนเรื่องอย่างอื่นมีอีกมากมาย แต่ไม่ถือว่าเป็นสาระ เพราะมันดับทุกข์ไม่ได้ ประมาณนั้น
..... มันหมายความว่าไง มันหมายความว่า ผีก็มีจริงหน่ะซิ พระเจ้า นรก สวรรค์ เทพเจ้า อะไรๆๆๆ ก็มีจริงๆ
เพิ่งรูว่าผีมีจริง เรานับถือพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งที่ระลึกมากเกินไป เลยเรียนรู้แต่เหตุและผล อะไรที่ไม่สามรถอธิบายปรากฎการณ์ได้ก็เลยไม่ถือเป็นสาระจนคิดไปว่ามันไม่มีจริง ถ้าความรู้สิ่งต่างๆทั้งหลายมันเหมือนเอกภพ ความเรื่องเรื่องกรรมที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนก็เหมือนดาวเคราะห์ซะดวงในเอกภพนั้น
โอวว ขนลุกเลย เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองโง่มาก(อีกแล้ว) และคราวนี้ก็ฉลาดขึ้นอีกเยอะ ที่รู้ว่า ผีมีจริง!!
ผลงานอื่นๆ ของ ดอกลำดวน ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ดอกลำดวน
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น