NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    『Whisper of LOVE • Short Fanfiction』

    ลำดับตอนที่ #7 : ▲ [Conan] Catch me if you can (Kaito x Shinichi) - Part6

    • อัปเดตล่าสุด 14 มิ.ย. 65


    แนะนำกดเล่นเพลงเพื่ออรรถรสได้นะคะ :)

     









    เฮ้อออ… 

     

    เหนื่อย… ไม่อาจคำไหนมาอธิบายได้มากกว่านี้แล้ว

     

            ร่างเด็กหนุ่มม.ปลายของคุโด้ ชินอิจิทิ้งตัวลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่นแบบไม่ต้องคิดอะไร นอกจากการเป็นไกด์กำมะลอให้ผู้ชายวัยทำงานสองคนแล้ว เขายังต้องมาวิ่งวุ่นอยู่กับการสืบคดีที่อยู่ๆก็มีคนอุตริฆ่ากันกลางงานเทศกาลด้วยอีก ลมเย็นๆจากเครื่องปรับอากาศยิ่งทำให้เปลือกตาบางหนักขึ้นทุกที ถึงแม้โซฟานี่จะสั้นกว่าตัวเขาจนต้องทิ้งขาลงที่พื้นก็เถอะ แพขนตาหนาทั้งสองข้างมันก็ประกบเข้าหากันโดยอัตโนมัติ

     

            ไม่รู้ว่านักข่าวไปแห่กันมาจากไหนรวดเร็วขนาดนั้น พอไขคดีเสร็จโคนันก็โดนรุมล้อมด้วยกองทัพสื่อมวลชนจำนวนมากมาย ผู้ใหญ่สองคนดูจะหน้าระรื่นกับการให้สัมภาษณ์หน้ากล้องที่ถึงแม้ว่าจะมีคนหนึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการสืบสวนเลยก็ตาม อันที่จริงข่าวฆาตรกรรมแบบนี้มันไม่ควรทำเป็นเรื่องเอิกเกริกแท้ๆ 

     

            ประจวบเหมาะกับช่วงเวลาเลิกงานของคนโตเกียวพอดิบพอดีเสียด้วย การจราจรเลยพร้อมใจกันติดขัดอย่างกับจงใจ กว่าจะกลับมาถึงบ้านอันเป็นเสมือนหลุมหลบภัยของเด็กหนุ่มจึงล่าช้ากว่าที่คิดไว้ ทั้งยังเผลอหลับไปบนรถตั้งหลายรอบ

     

    นี่คุโด้… ถ้าจะนอนก็ไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อย แล้วเข้าไปนอนในห้องนายดีกว่ามั๊ย ” 

     

            ได้ยินเสียงทุ้มเหน่อแว่วเข้ามาไม่ห่าง แต่ด้วยความง่วงเหลือคณา จึงทำได้แค่ส่งเสียงงึมงัมในลำคอกลับไป มือก็คว้าเอาหมอนบนโซฟาขึ้นมาปิดหน้า โดยหวังจะให้มันช่วยบังแสงไฟที่แหย่ตาจากผู้พักอาศัยชั่วคราว ที่พอเข้ามาได้ก็เล่นเปิดไฟแทบจะทุกดวง

     

    ไม่คิดว่าจะได้เห็นมุมแบบนี้ของคุณนักสืบม.ปลายเลยนะ… ” เสียงนุ่มทุ้มของผู้มาใหม่เอ่ยขณะที่ดวงตาสีแซฟไฟร์บลูทอดมองไปยังร่างโปร่งที่นอนขดอยู่บนโซฟาอย่างน่าเอ็นดู

     

    แปลกดีใช่ไหมล่ะ? ” 

     

    ว่าแต่นายเรียกเด็กคนนี้ว่า ‘คุโด้บ่อยจังเลยนะ…? ” 

     

            บทสนทนาระหว่างชายหนุ่มวัยทำงานสองคนดูเหมือนจะยังไม่จบลงง่ายๆ คำถามที่คุโรบะ ไคโตะยิงไปยังนักสืบหนุ่มที่กำลังขนสัมภาระต่างๆเข้ามาในบ้าน ทำเอาสีหน้าของฮัตโตริเลือกจะแสดงอารมณ์ออกมาไม่ถูก

     

    ห..หืม ก็เปล่านี่? …นายก็ดูครอบครัวที่อุปการะเจ้าเด็กนี่สิ ไหนจะเป็นน้องชายของคุโด้ที่สนิทกับฉันมากอีกต่างหาก ” 

     

            สำเนียงเหน่อที่เอ่ยออกมาอย่างรวดเร็วกับท่าทีร้อนรน ทำให้รอยยิ้มบางๆปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าคมคายของเจ้าของคำถาม ที่เพียงกลั้วหัวเราะเบาๆในลำคอ พร้อมเอ่ยประโยค‘งั้นหรอออกมา ใบหน้าคมดูจะกำลังสนใจเครื่องมือสื่อสารในมือที่แสดงรายการข่าวประจำวัน

     

    เฮ้… ฮัตโตริ นายดูนี่สิ …ดูเหมือนฉันกับนายตอนนี้จะดังกว่าข่าวฆาตรกรรมซะอีกนะ ” 

     

            หน้าจอสมาร์ทโฟนปรากฎข่าวในหมวดบันเทิงแทน ซึ่งมีใบหน้าของฮัตโตริ เฮย์จิและคุโรบะ ไคโตะแปะหราอยู่บนเนื้อหา พร้อมข้อความ ‘แฟนคลับตั้งข้อสงสัย นักสืบของคดีวัดอาซากุสะคัดหน้าตามาหรือไม่ส่งให้ดวงตาของคนโอซาก้าหรี่ลงครึ่งดวงพร้อมรอยยิ้มแห้ง

     

    เฮ้ๆ นี่มันข่าวฆาตรกรรมนะนาย… ” 

     

    นึกสงสารคนที่วิ่งหาหลักฐานทุกอย่างที่นอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่บนโซฟา แต่ดันไม่เป็นประเด็นพูดถึงด้วย…

     

    ว่าแต่… ฉันกับนายใครมีแฟนคลับเยอะกว่ากันอะ? ” 

     

    หนวกหู

     

            และนั่นก็คือสิ่งที่เด็กหนุ่มม.ปลายกำลังคิดในเวลานี้ ถึงจะรู้สึกสะลึมสะลือแต่ก็หลับไม่ลงอยู่ดี นึกโทษตัวเองที่เพียงเสียงรบกวนนิดเดียวก็ตื่นขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย และยิ่งผู้ชายสองคนที่ดูท่าว่าจะไม่ยอมจบบทสนทนากันลงง่ายๆนี่อีก

     

            เป็นคุณลุงวัยทำงานที่มาเจอกันในร้านเหล้าหรือไง… ทั้งที่ไปเดินมาแทบขาลากทั้งวันแล้ว ทำไมยังมีแรงเหลือล้นกันขนาดนี้นะ

     

    อา… จริงสิ 

     

            มีเหตุผลใหญ่ๆที่ดึงให้โคนันหลับในเวลาแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด …ผู้ชายน่าสงสัยคนนั้น เขาจะต้องตื่นขึ้นมาเพื่อหาเบาะแสให้มากที่สุด เป็นเวลาเกือบอาทิตย์ที่ต้องวิ่งวุ่นอยู่กับเรื่องนี้เพียงอย่างเดียว แม้แต่คำขอให้ชีวิตนี้สงบสุขก็ดูเหมือนจะโดนปฏิเสธแบบไร้เยื่อใย

     

    จับฉันให้ได้สิคุณนักสืบ… กำลังรออยู่นะ ” 

     

            พลันคิ้วเรียวขมวดยุ่งเข้าหากัน เสียงที่เพิ่งได้ยินนั้นมันช่างคุ้นหู เหมือนกับเสียงนุ่มที่ใครบางคนเคยเอ่ยพร้อมรอยยิ้มแพรวพราว ใบหน้าคมคายที่ปิดบังไปด้วยแว่นขาเดียวในยามรัตติกาล เสียงของบุรุษชุดขาวคนนั้น …สิ่งที่ได้ยินมันเป็นเรื่องจริงหรือกำลังฝันอยู่กันแน่

     

    ……!!

     

    จ…จอมโจรคิด!!

     

    อ๊ะ… ขอโทษนะ ทำให้นายตื่นซะแล้ว ” 

     

    ใบหน้าและรอยยิ้มแบบนี้… ทั้งน้ำเสียงแบบนี้… ไม่ผิดแน่ๆ

     

            ราวกับเลือดกำลังสูบฉีดขึ้นมารวมที่ใบหน้าของเด็กหนุ่มเพียงจุดเดียว เมื่อภาพตรงหน้าหลังจากเปิดตาขึ้นมา คือใบหน้าของบุคคลที่คุ้นเคยเสียเหลือเกินอยู่ห่างไปไม่ถึงสิบเซนติเมตร รอยยิ้มบางๆบนริมฝีปากได้รูป ดวงตาคมสีแซฟไฟร์บลู และเสียงนุ่มที่พร้อมจะดึงความสนใจของคนรอบข้างมาที่จุดเดียวนั่น ทำไมคนๆนี้ถึงมาอยู่ในบ้านเขาในเวลาแบบนี้ แถมยังใกล้ขนาดนี้อีกต่างหาก!

     

            เท่าที่จำความได้ เอโดงาวะ โคนันกำลังทิ้งตัวอยู่บนโซฟาและกำลังจะหลับอยู่รอมร่อ แล้วไหงจอมโจรคิดถึงมาปรากฏตรงหน้าเขาได้ จะฝันก็ให้มันมีเหตุผลบ้างสิ…

     

    เฮ้ๆ อย่าทำหน้าตกใจขนาดนั้นสิ ฉันเห็นว่านายกำลังหลับสบาย ก็เลยมาถอดแว่นออกให้เท่านั้นเองนะ ”

     

            คนน่าสงสัยเพียงยืดตัวออกห่าง ก่อนจะชูมือข้างหนึ่งขึ้นให้เห็นแว่นตาที่เคยอยู่บนใบหน้าของเด็กหนุ่มให้ดู โคนันรีบยกมือขึ้นมาสัมผัสใบหน้าที่ไร้กรอบพลาสติกสลับกับมองคนตรงหน้าด้วยตื่นตระหนก …ไม่ใช่สีขาว สูทที่คนตรงหน้ากำลังสวมใส่นั่นมันคนละสีกัน

     

    คุโรบะ ไคโตะ… เป็นผู้ชายคนนี้ต่างหาก

     

    งั้นฉันวางแว่นตาเอาไว้บนโต๊ะนี้นะ ขอยืมใช้ห้องน้ำกับห้องนอนบ้านนายหน่อยละกัน… ”

     

            โคนันลอบถอนหายใจยาวออกมาอย่างโล่งใจ ประโยคที่อีกฝ่ายพูดนั้นไม่ได้เข้าสู่โสตประสาทของเด็กหนุ่มแต่อย่างใด เขานั่งนิ่งอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งแขกของบ้านเดินขึ้นบันไดชั้นสองจนลับสายตาไป มือเรียวจึงยกขึ้นมากำบริเวณอกเสื้อด้านซ้ายของตนแน่นอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก

     

    แค่ตกใจทำไมใจต้องเต้นแรงนานขนาดนี้ด้วย… 

     

            สมองของนักสืบในร่างเด็กหหนุ่มกำลังประมวลผลเรื่องราวต่างๆอย่างเงียบเชียบพร้อมคิ้วทั้งสองข้างที่ขมวดยุ่งเข้าหากันอยู่พักใหญ่ ก่อนที่เจ้าของดวงตาสีอควอมารีนจะเลือกหยิบโทรศัพท์มือถือที่เคยอยู่ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาต่อสายถึงใครอีกคน

     

    ฮัลโหลไฮบาระหรอ… ฉันส่งข้อมูลเข้าไปทางเมลแล้วนะ ”

     

    มีเรื่องนึงอยากให้เธอช่วยสืบให้หน่อยน่ะ… ” 

     

     

     

     

     

    เฮ้ไคโตะ ฉันล่วงหน้าไปก่อนนะ! อยู่ๆก็มีงานด่วนเข้ามาซะงั้นอะ ” 

     

            เสียงกรอกแกรกดังขึ้นที่บ้านคุโด้ตั้งแต่เช้า เมื่ออยู่ๆฮัตโตริ เฮย์จิก็มีท่าทีเร่งรีบอยากจะรีบกลับโอซาก้าตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า ร่างโปร่งสะพายกระเป๋าเดินทางของตนตรงลิ่วมาหยุดหน้าตู้รองเท้า ที่มีเจ้าของบ้านในชุดลำลองและสภาพใบหน้าทรุดโทรมอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนยืนรออยู่

     

    หืม… ทำไมหน้านายเหมือนคนไม่ได้นอนมาทั้งคืนอย่างนั้นล่ะ? ” นักสืบหนุ่มเอ่ยทัก โคนันเพียงยักไหล่หนึ่งครั้งเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ

     

    จะให้หลับลงได้ยังไงกันล่ะ... ในเมื่อมีคนน่าสงสัยอยู่ร่วมบ้านกันขนาดนี้แล้ว

     

    เมื่อกี๊คาซึฮะโทรมาบอกฉันว่าจะออกมารับนายที่สถานี …เหมือนจะกำลังโกรธนะที่มาเที่ยวโดยไม่บอกเธอก่อนน่ะ? ”

     

            ประโยคนั้นเรียกรอยยิ้มแหยออกมาจากคนอายุมากกว่าได้แทบจะทันที การร่ำลาเกิดขึ้นก่อนที่เจ้าตัวจะรีบปลีกตัวออกไป คนเป็นเจ้าของบ้านเพียงถอนหายใจอย่างหน่ายๆ ปลายเท้าทั้งคู่พาร่างเดินกลับเข้าสู่ตัวบ้านที่ยังคงเหลือผู้มาเยือนอยู่อีกคน

     

            ชายวัยทำงานผู้สวมใส่ชุดนอนกำลังนั่งจิบกาแฟยามเช้าอยู่ที่โต๊ะอาหารอย่างสบายใจ นั่นคือภาพแรกที่เด็กหนุ่มเห็นเมื่อเดินเข้ามาในห้องครัว ส่งให้ดวงตาสีน้ำทะเลหรี่ลงเหลือครึ่งดวงแทบจะทันที เขาคงไม่เคืองอะไรไปมากกว่าความจริงที่ว่า เจ้าของบ้านหลังนี้คือเขาต่างหาก กับคนที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก และมาพักบ้านของคนๆนั้นครั้งแรก ทำไมถึงได้ทำตัวเหมือนกับที่นี่เป็นบ้านตัวเองแบบนั้นแหละ…

     

            ชินอิจิจงใจเดินเข้าไปยังอีกฟากของโต๊ะที่ไม่มีร่างโปร่งของคุโรบะ ไคโตะนั่งอยู่ ก่อนจะเลือกทิ้งตัวลงประจันหน้ากับบุคคลนั้น พร้อมแก้วกาแฟที่เพิ่งไปรินมาในมือ ใบหน้าอ่อนเยาว์ปรากฏรอยยิ้มบางๆให้คนตรงหน้าอย่างไม่จริงใจนัก

     

    เพราะคนๆนี้แหละที่ทำให้เขาต้องถ่างตาตื่นมาจนถึงตอนนี้…

     

    พี่ไคโตะฮะ… ผมมีเรื่องสงสัยที่อยากจะถามพี่ซักหน่อยน่ะฮะ? ” 

     

              รอยยิ้มที่ยังคงไว้ไม่เปลี่ยนแปลงกับประโยคคำถามที่ใช้สรรพนามแปลกๆ อดทำให้เจ้าของดวงตาสีแซฟไฟร์บลูรู้สึกแปลกใจไม่น้อย แต่ก็ได้เพียงส่งสีหน้าสงสัยกลับไปเป็นคำตอบเท่านั้น

     

     

    “ นายเอามงกุฎนั่นไปเก็บไว้ที่ไหน…? ”

     

     

     

     

     

     

     

     

    To be continue…

     







    อัพแล้วค่าาา 
    คราวนี้หายหน้าหายตาไปนานมาก หวังว่าภาษาคงไม่เปลี่ยนไปน้าา;-;
    เนื้อเรื่องดูเดินหน้าขึ้นบ้างหรือเปล่าคะ5555 ติชมกันได้น้าา

    แล้วพบกันพาร์ทหน้าค่ะ^^

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×