คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ▲ [Conan] Catch me if you can (Kaito x Shinichi) - Part6
แนะนำกดเล่นเพลงเพื่ออรรถรสได้นะคะ :)
เฮ้อออ…
เหนื่อย… ไม่อาจคำไหนมาอธิบายได้มากกว่านี้แล้ว
ร่างเด็กหนุ่มม.ปลายของคุโด้
ชินอิจิทิ้งตัวลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่นแบบไม่ต้องคิดอะไร
นอกจากการเป็นไกด์กำมะลอให้ผู้ชายวัยทำงานสองคนแล้ว
เขายังต้องมาวิ่งวุ่นอยู่กับการสืบคดีที่อยู่ๆก็มีคนอุตริฆ่ากันกลางงานเทศกาลด้วยอีก
ลมเย็นๆจากเครื่องปรับอากาศยิ่งทำให้เปลือกตาบางหนักขึ้นทุกที
ถึงแม้โซฟานี่จะสั้นกว่าตัวเขาจนต้องทิ้งขาลงที่พื้นก็เถอะ
แพขนตาหนาทั้งสองข้างมันก็ประกบเข้าหากันโดยอัตโนมัติ
ไม่รู้ว่านักข่าวไปแห่กันมาจากไหนรวดเร็วขนาดนั้น
พอไขคดีเสร็จโคนันก็โดนรุมล้อมด้วยกองทัพสื่อมวลชนจำนวนมากมาย
ผู้ใหญ่สองคนดูจะหน้าระรื่นกับการให้สัมภาษณ์หน้ากล้องที่ถึงแม้ว่าจะมีคนหนึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับการสืบสวนเลยก็ตาม
อันที่จริงข่าวฆาตรกรรมแบบนี้มันไม่ควรทำเป็นเรื่องเอิกเกริกแท้ๆ
ประจวบเหมาะกับช่วงเวลาเลิกงานของคนโตเกียวพอดิบพอดีเสียด้วย
การจราจรเลยพร้อมใจกันติดขัดอย่างกับจงใจ
กว่าจะกลับมาถึงบ้านอันเป็นเสมือนหลุมหลบภัยของเด็กหนุ่มจึงล่าช้ากว่าที่คิดไว้
ทั้งยังเผลอหลับไปบนรถตั้งหลายรอบ
“ นี่คุโด้… ถ้าจะนอนก็ไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อย
แล้วเข้าไปนอนในห้องนายดีกว่ามั๊ย ”
ได้ยินเสียงทุ้มเหน่อแว่วเข้ามาไม่ห่าง
แต่ด้วยความง่วงเหลือคณา จึงทำได้แค่ส่งเสียงงึมงัมในลำคอกลับไป
มือก็คว้าเอาหมอนบนโซฟาขึ้นมาปิดหน้า
โดยหวังจะให้มันช่วยบังแสงไฟที่แหย่ตาจากผู้พักอาศัยชั่วคราว
ที่พอเข้ามาได้ก็เล่นเปิดไฟแทบจะทุกดวง
“ ไม่คิดว่าจะได้เห็นมุมแบบนี้ของคุณนักสืบม.ปลายเลยนะ… ”
เสียงนุ่มทุ้มของผู้มาใหม่เอ่ยขณะที่ดวงตาสีแซฟไฟร์บลูทอดมองไปยังร่างโปร่งที่นอนขดอยู่บนโซฟาอย่างน่าเอ็นดู
“ แปลกดีใช่ไหมล่ะ? ”
“ ว่าแต่นายเรียกเด็กคนนี้ว่า ‘คุโด้’ บ่อยจังเลยนะ…? ”
บทสนทนาระหว่างชายหนุ่มวัยทำงานสองคนดูเหมือนจะยังไม่จบลงง่ายๆ
คำถามที่คุโรบะ ไคโตะยิงไปยังนักสืบหนุ่มที่กำลังขนสัมภาระต่างๆเข้ามาในบ้าน
ทำเอาสีหน้าของฮัตโตริเลือกจะแสดงอารมณ์ออกมาไม่ถูก
“ ห..หืม ก็เปล่านี่? …นายก็ดูครอบครัวที่อุปการะเจ้าเด็กนี่สิ
ไหนจะเป็นน้องชายของคุโด้ที่สนิทกับฉันมากอีกต่างหาก ”
สำเนียงเหน่อที่เอ่ยออกมาอย่างรวดเร็วกับท่าทีร้อนรน
ทำให้รอยยิ้มบางๆปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าคมคายของเจ้าของคำถาม
ที่เพียงกลั้วหัวเราะเบาๆในลำคอ พร้อมเอ่ยประโยค‘งั้นหรอ’ออกมา
ใบหน้าคมดูจะกำลังสนใจเครื่องมือสื่อสารในมือที่แสดงรายการข่าวประจำวัน
“ เฮ้… ฮัตโตริ นายดูนี่สิ
…ดูเหมือนฉันกับนายตอนนี้จะดังกว่าข่าวฆาตรกรรมซะอีกนะ ”
หน้าจอสมาร์ทโฟนปรากฎข่าวในหมวดบันเทิงแทน
ซึ่งมีใบหน้าของฮัตโตริ เฮย์จิและคุโรบะ ไคโตะแปะหราอยู่บนเนื้อหา พร้อมข้อความ ‘แฟนคลับตั้งข้อสงสัย
นักสืบของคดีวัดอาซากุสะคัดหน้าตามาหรือไม่’ ส่งให้ดวงตาของคนโอซาก้าหรี่ลงครึ่งดวงพร้อมรอยยิ้มแห้ง
“ เฮ้ๆ นี่มันข่าวฆาตรกรรมนะนาย… ”
นึกสงสารคนที่วิ่งหาหลักฐานทุกอย่างที่นอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่บนโซฟา
แต่ดันไม่เป็นประเด็นพูดถึงด้วย…
“ ว่าแต่… ฉันกับนายใครมีแฟนคลับเยอะกว่ากันอะ?
”
หนวกหู…
และนั่นก็คือสิ่งที่เด็กหนุ่มม.ปลายกำลังคิดในเวลานี้
ถึงจะรู้สึกสะลึมสะลือแต่ก็หลับไม่ลงอยู่ดี
นึกโทษตัวเองที่เพียงเสียงรบกวนนิดเดียวก็ตื่นขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย
และยิ่งผู้ชายสองคนที่ดูท่าว่าจะไม่ยอมจบบทสนทนากันลงง่ายๆนี่อีก
เป็นคุณลุงวัยทำงานที่มาเจอกันในร้านเหล้าหรือไง…
ทั้งที่ไปเดินมาแทบขาลากทั้งวันแล้ว ทำไมยังมีแรงเหลือล้นกันขนาดนี้นะ
อา… จริงสิ
มีเหตุผลใหญ่ๆที่ดึงให้โคนันหลับในเวลาแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด
…ผู้ชายน่าสงสัยคนนั้น เขาจะต้องตื่นขึ้นมาเพื่อหาเบาะแสให้มากที่สุด
เป็นเวลาเกือบอาทิตย์ที่ต้องวิ่งวุ่นอยู่กับเรื่องนี้เพียงอย่างเดียว
แม้แต่คำขอให้ชีวิตนี้สงบสุขก็ดูเหมือนจะโดนปฏิเสธแบบไร้เยื่อใย
“ จับฉันให้ได้สิคุณนักสืบ… กำลังรออยู่นะ ”
พลันคิ้วเรียวขมวดยุ่งเข้าหากัน
เสียงที่เพิ่งได้ยินนั้นมันช่างคุ้นหู
เหมือนกับเสียงนุ่มที่ใครบางคนเคยเอ่ยพร้อมรอยยิ้มแพรวพราว
ใบหน้าคมคายที่ปิดบังไปด้วยแว่นขาเดียวในยามรัตติกาล เสียงของบุรุษชุดขาวคนนั้น
…สิ่งที่ได้ยินมันเป็นเรื่องจริงหรือกำลังฝันอยู่กันแน่
……!!
จ…จอมโจรคิด!!
“ อ๊ะ… ขอโทษนะ ทำให้นายตื่นซะแล้ว ”
ใบหน้าและรอยยิ้มแบบนี้… ทั้งน้ำเสียงแบบนี้… ไม่ผิดแน่ๆ
ราวกับเลือดกำลังสูบฉีดขึ้นมารวมที่ใบหน้าของเด็กหนุ่มเพียงจุดเดียว
เมื่อภาพตรงหน้าหลังจากเปิดตาขึ้นมา
คือใบหน้าของบุคคลที่คุ้นเคยเสียเหลือเกินอยู่ห่างไปไม่ถึงสิบเซนติเมตร
รอยยิ้มบางๆบนริมฝีปากได้รูป ดวงตาคมสีแซฟไฟร์บลู
และเสียงนุ่มที่พร้อมจะดึงความสนใจของคนรอบข้างมาที่จุดเดียวนั่น
ทำไมคนๆนี้ถึงมาอยู่ในบ้านเขาในเวลาแบบนี้ แถมยังใกล้ขนาดนี้อีกต่างหาก!
เท่าที่จำความได้
เอโดงาวะ โคนันกำลังทิ้งตัวอยู่บนโซฟาและกำลังจะหลับอยู่รอมร่อ
แล้วไหงจอมโจรคิดถึงมาปรากฏตรงหน้าเขาได้ จะฝันก็ให้มันมีเหตุผลบ้างสิ…
“ เฮ้ๆ อย่าทำหน้าตกใจขนาดนั้นสิ ฉันเห็นว่านายกำลังหลับสบาย
ก็เลยมาถอดแว่นออกให้เท่านั้นเองนะ ”
คนน่าสงสัยเพียงยืดตัวออกห่าง
ก่อนจะชูมือข้างหนึ่งขึ้นให้เห็นแว่นตาที่เคยอยู่บนใบหน้าของเด็กหนุ่มให้ดู
โคนันรีบยกมือขึ้นมาสัมผัสใบหน้าที่ไร้กรอบพลาสติกสลับกับมองคนตรงหน้าด้วยตื่นตระหนก
…ไม่ใช่สีขาว สูทที่คนตรงหน้ากำลังสวมใส่นั่นมันคนละสีกัน
คุโรบะ ไคโตะ… เป็นผู้ชายคนนี้ต่างหาก
“ งั้นฉันวางแว่นตาเอาไว้บนโต๊ะนี้นะ
ขอยืมใช้ห้องน้ำกับห้องนอนบ้านนายหน่อยละกัน… ”
โคนันลอบถอนหายใจยาวออกมาอย่างโล่งใจ
ประโยคที่อีกฝ่ายพูดนั้นไม่ได้เข้าสู่โสตประสาทของเด็กหนุ่มแต่อย่างใด
เขานั่งนิ่งอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งแขกของบ้านเดินขึ้นบันไดชั้นสองจนลับสายตาไป
มือเรียวจึงยกขึ้นมากำบริเวณอกเสื้อด้านซ้ายของตนแน่นอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก
แค่ตกใจทำไมใจต้องเต้นแรงนานขนาดนี้ด้วย…
สมองของนักสืบในร่างเด็กหหนุ่มกำลังประมวลผลเรื่องราวต่างๆอย่างเงียบเชียบพร้อมคิ้วทั้งสองข้างที่ขมวดยุ่งเข้าหากันอยู่พักใหญ่
ก่อนที่เจ้าของดวงตาสีอควอมารีนจะเลือกหยิบโทรศัพท์มือถือที่เคยอยู่ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาต่อสายถึงใครอีกคน
“ ฮัลโหลไฮบาระหรอ… ฉันส่งข้อมูลเข้าไปทางเมลแล้วนะ ”
“ มีเรื่องนึงอยากให้เธอช่วยสืบให้หน่อยน่ะ… ”
“ เฮ้ไคโตะ ฉันล่วงหน้าไปก่อนนะ!
อยู่ๆก็มีงานด่วนเข้ามาซะงั้นอะ ”
เสียงกรอกแกรกดังขึ้นที่บ้านคุโด้ตั้งแต่เช้า
เมื่ออยู่ๆฮัตโตริ เฮย์จิก็มีท่าทีเร่งรีบอยากจะรีบกลับโอซาก้าตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า
ร่างโปร่งสะพายกระเป๋าเดินทางของตนตรงลิ่วมาหยุดหน้าตู้รองเท้า
ที่มีเจ้าของบ้านในชุดลำลองและสภาพใบหน้าทรุดโทรมอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนยืนรออยู่
“ หืม… ทำไมหน้านายเหมือนคนไม่ได้นอนมาทั้งคืนอย่างนั้นล่ะ?
” นักสืบหนุ่มเอ่ยทัก โคนันเพียงยักไหล่หนึ่งครั้งเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ
จะให้หลับลงได้ยังไงกันล่ะ...
ในเมื่อมีคนน่าสงสัยอยู่ร่วมบ้านกันขนาดนี้แล้ว
“ เมื่อกี๊คาซึฮะโทรมาบอกฉันว่าจะออกมารับนายที่สถานี
…เหมือนจะกำลังโกรธนะที่มาเที่ยวโดยไม่บอกเธอก่อนน่ะ? ”
ประโยคนั้นเรียกรอยยิ้มแหยออกมาจากคนอายุมากกว่าได้แทบจะทันที
การร่ำลาเกิดขึ้นก่อนที่เจ้าตัวจะรีบปลีกตัวออกไป
คนเป็นเจ้าของบ้านเพียงถอนหายใจอย่างหน่ายๆ
ปลายเท้าทั้งคู่พาร่างเดินกลับเข้าสู่ตัวบ้านที่ยังคงเหลือผู้มาเยือนอยู่อีกคน
ชายวัยทำงานผู้สวมใส่ชุดนอนกำลังนั่งจิบกาแฟยามเช้าอยู่ที่โต๊ะอาหารอย่างสบายใจ
นั่นคือภาพแรกที่เด็กหนุ่มเห็นเมื่อเดินเข้ามาในห้องครัว
ส่งให้ดวงตาสีน้ำทะเลหรี่ลงเหลือครึ่งดวงแทบจะทันที
เขาคงไม่เคืองอะไรไปมากกว่าความจริงที่ว่า เจ้าของบ้านหลังนี้คือเขาต่างหาก
กับคนที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก และมาพักบ้านของคนๆนั้นครั้งแรก
ทำไมถึงได้ทำตัวเหมือนกับที่นี่เป็นบ้านตัวเองแบบนั้นแหละ…
ชินอิจิจงใจเดินเข้าไปยังอีกฟากของโต๊ะที่ไม่มีร่างโปร่งของคุโรบะ
ไคโตะนั่งอยู่ ก่อนจะเลือกทิ้งตัวลงประจันหน้ากับบุคคลนั้น
พร้อมแก้วกาแฟที่เพิ่งไปรินมาในมือ ใบหน้าอ่อนเยาว์ปรากฏรอยยิ้มบางๆให้คนตรงหน้าอย่างไม่จริงใจนัก
เพราะคนๆนี้แหละที่ทำให้เขาต้องถ่างตาตื่นมาจนถึงตอนนี้…
“ พี่ไคโตะฮะ… ผมมีเรื่องสงสัยที่อยากจะถามพี่ซักหน่อยน่ะฮะ?
”
รอยยิ้มที่ยังคงไว้ไม่เปลี่ยนแปลงกับประโยคคำถามที่ใช้สรรพนามแปลกๆ
อดทำให้เจ้าของดวงตาสีแซฟไฟร์บลูรู้สึกแปลกใจไม่น้อย
แต่ก็ได้เพียงส่งสีหน้าสงสัยกลับไปเป็นคำตอบเท่านั้น
“ นายเอามงกุฎนั่นไปเก็บไว้ที่ไหน…? ”
To be continue…
อัพแล้วค่าาา
คราวนี้หายหน้าหายตาไปนานมาก หวังว่าภาษาคงไม่เปลี่ยนไปน้าา;-;
เนื้อเรื่องดูเดินหน้าขึ้นบ้างหรือเปล่าคะ5555 ติชมกันได้น้าา
แล้วพบกันพาร์ทหน้าค่ะ^^
ความคิดเห็น