คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ▲ [Conan] Catch me if you can (Kaito x Shinichi) - Part4
แนะนำกดเล่นเพลงเพื่ออรรถรสได้นะคะ :)
“ หืม…งั้นก็เป็นครั้งแรกที่เธอเอาเพชรคืนมาจากหมอนั่นไม่ได้สินะ…? ”
“ ชิ…เรื่องนั้นฉันรู้แล้วล่ะน่า! ”
“ แต่ประโยคสุดท้ายที่หมอนั่นพูดกับเธอ
มันจะไม่แปลกไปหน่อยหรอ…? ”
“ ……. ”
ณ ตอนนี้ ชินอิจิในร่างโคนันรู้สึกแปลกใจไม่น้อย
ว่าทำไมอยู่ๆไฮบาระถึงนึกครึ้มเข้ามานั่งจิบน้ำชาอยู่ที่บ้านเขาได้
เซ้าซี้ให้เล่าเรื่องที่ไปเจอมาให้ฟัง รัวคำถามเกี่ยวกับหมอนั่นไม่หยุดจนคิ้วของเขากระตุกไม่หยุด
ยิ่งรอยยิ้มเหมือนแฝงเลศนัยอะไรไว้ซักอย่างของไฮบาระ ไอวัยสิบแปดปีคนนี้
ยิ่งทำให้เขารู้สึกโมโหขึ้นมาแปลกๆ
“ ฉันว่าบางที
หมอนั่นอาจจะคิดอะไรกับเธอก็ได้นะ ”
“ ไม่ตลก…อย่าพูดอะไรชวนขนลุกแบบนั้นได้มั๊ย ”
ดวงตาสีฟ้าครามของโคนันหรี่ลงด้วยความเซ็งจับจิต
ยิ่งประโยคแบบนี้ถูกส่งมายิ่งทำให้เขารู้สึกอยากจะตะโกนกลับไปดังๆว่าบ้าไปแล้วหรือไง
นับวันยัยนักวิทยาศาสตร์สติเพี้ยนคนนี้ก็ยิ่งไม่เห็นหัวเขาทุกที… แต่จะทำยังไงได้ เมื่อเด็กสาวคนนี้เองก็เป็นเหมือนเพื่อนสนิทคนหนึ่งของเขาเหมือนกัน
‘เอาเพชรคืนมาไม่ได้’
นึกขึ้นมาแล้วก็โมโหรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของผู้ชายคนนั้นทุกที
รายละเอียดทุกอย่างถูกเล่าต่อแก่ตำรวจและพ่อของโซโนโกะ
เรื่องมงกุฎแซฟไฟร์บลูที่เจ้าตัวบอกว่าจะไม่คืนให้ และการขโมยล่าสุดนี้เป็นครั้งสุดท้ายของจอมโจรคิดแล้ว… ต่างไปนิดหน่อยที่เขาบอกไปว่า คิดมีเป้าหมายบางอย่าง
ที่แม้แต่โคนันก็ไม่รู้เท่านั้น…
ใครจะกล้าพูดออกไปว่าตัวเองคือเป้าหมายของจอมโจรหนุ่มนั่นกัน… บางทีหมอนั่นอาจจะแค่พูดเล่นตามประสาคนทะเล้นก็เท่านั้น
ประธานซึสึกิไม่ได้ถือโทษโกรธอะไรเขา
แต่ดูเหมือนจะไปโกรธจอมโจรคิดขี้เก๊กขวัญใจสาวๆหลายคนนั้นแทน
หน้าของโคนันแปะหราอยู่บนหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์
ข้างๆกับรูปของจอมโจรคิดตัวปลอมที่ห้อยอยู่บนเฮลิคอปเตอร์ และหน้าของประธานบริษัทซึสึกิในกรอบเล็กๆเกือบจะมองไม่เห็น
พร้อมกับข้อความชวนอารมณ์เสียอย่าง ‘ไม่สามารถเอาเพชรกลับคืนมาได้ครั้งแรก’ นั่น
เด็กหนุ่มขอปฏิญาณกับตัวเองเลยว่า… เขาจะต้องเอาอัญมณีนั้นกลับคืนสู่เจ้าของให้ได้
เขาจะไม่มานั่งเครียดขนาดนี้เลย ถ้าผู้ชายคนนั้นไม่ตั้งเงื่อนไขอย่าง ‘ต้องมาตามจับฉันด้วยตัวเองเท่านั้นถึงจะยอมคืนเพชรให้’ หลังจากคดีวันนั้นหมอนั่นก็หายเข้ากลีบเมฆ คำพูดเดิมๆอย่าง 'การขโมยครั้งสุดท้าย' ของบุรุษชุดขาวคนนั้นดังก้องอยู่ในหัวซ้ำไปซ้ำมา
เห็นแต่ชอบขโมยเพชรเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้วนี่...
ทำเอาคำพูดไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไรเลยแฮะ
ตามปกติแล้ว ถ้าจอมโจรคิดสามารถขโมยเพชรกลับไปได้สำเร็จ
เพชรจะกลับคืนมาสู่เจ้าของภายในสองสามวัน
และเขาก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าตระกูลซึสึกิจะได้มงกุฎอภิมหึมามหาเพชรนั้นกลับคืนไปโดยสวัสดิภาพในเร็ววันนี้
โคนันต้องทนดูหน้าตัวเองออกข่าวอยู่ทุกวัน
ในขณะที่พยายามหาเบาะแสแทบตายแต่ก็ไม่เจออะไรซักอย่าง... เด็กหนุ่มกลับไปในสถานที่โจรกรรมหลายต่อหลายครั้ง
พยายามค้นหาสิ่งที่พอจะเป็นหลักฐานตามตัวได้ แต่ฝ่ายนั้นเองก็ดูท่าว่าจะมาตามเก็บทุกอย่างกลับไปหมดด้วยความรอบคอบเสียแล้ว
น่าโมโหจริง…
กริ๊งงงงงงง
เป็นช่วงเวลาที่โทรศัพท์บ้านดังขึ้นบ่อยเสียเหลือเกิน
ไม่ต้องเดาเขาก็สามารถรู้ได้เลยว่าปลายสายที่ติดต่อมาเป็นใคร
ทำไมผู้ชายคนนั้นถึงทำให้เขาหัวปั่นขนาดได้นี้นะ…
“ ครับ…บ้านคุโด้คร— ”
[โคนัน!! ทำไมท่านคิดถึงยังไม่เอามงกุฎนั่นมาคืนอีกล่ะ! นี่มันก็ผ่านมาหลายวันแล้วนะ!
] เสียงของโซโนโกะวีนแตกขึ้นมาทันทีที่เขารับสาย
มือเรียวรีบคว้าหูโทรศัพท์ให้ออกห่างจากใบหน้าของตัวเองทันที
ก่อนหน้านี้เธอก็อารมณ์เสียเพราะคิดปลอมตัวเป็นตัวเอง
เธอจึงทำได้แค่นอนหลับอุตุในห้องน้ำจนคดีทุกอย่างจบลงแล้ว
เด็กหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยล้า
ดวงตาคู่สวยหรี่ลงเหลือครึ่งดวง ก่อนจะยกฝ่ามือขึ้นมากุมหน้าผากอย่างหมดหนทาง
นายกำลังเล่นเกมอะไรของนายกันแน่…?
เบาะแสก็ไม่มี หลักฐานอะไรก็เก็บกลับไปหมด ล้อกันเล่นหรือเปล่า จะให้เขาไปตามหาจากอะไรกัน... ผู้ชายลึกลับที่หน้าตายังไม่รู้แน่ชัด
ถึงแม้จะเห็นหน้าอยู่บ่อยๆแต่ก็ใช่ว่านั่นจะเป็นใบหน้าที่แท้จริงซักหน่อย
“ ขอโทษครับ…ผมจะหาทางทำอะไรซักอย่างเอง ”
สีหน้าของคนสวมแว่นเจือไปด้วยความรู้สึกผิด ปนกับความขุ่นเคืองในใจ
ผู้ชายวัยเกือบสามสิบที่น่าจะทำอาชีพนักมายากลไม่ได้มีคนเดียวในโลกซักหน่อย
มันจะต้องมีอะไรที่พอให้สาวถึงตัวได้บ้างสิ…
“ ช่วงนี้มีข่าวใหม่ๆเกี่ยวกับจอมโจรคิดบ้างมั๊ยครับ ”
[ ไม่มีเลย! เธอรู้หรือเปล่าว่าท่านคิดของฉันหายไปไหน
ทำไมเขาถึงไม่ตอบรับคำท้าใหม่ของคุณพ่อฉันแล้วล่ะ! ]
เด็กหนุ่มอยากจะบอกเหลือเกินว่า…อย่าถามคำถามที่โคนันก็ไม่สามารถตอบได้มาได้มั๊ย
จอมโจรคิดไม่ตอบรับกระทั่งคำเชิญของประธานบริษัทซึสึกิ
ทั้งๆที่เขาเพิ่งถูกขโมยมงกุฎแซฟไฟร์ไปหมาดๆ
คนเขาอุตส่าห์ใจดีจะแถมเพชรให้อีกอันเลยนะ
“ คิดว่าผมเคยบอกพี่โซโนโกะไปแล้วนะครับ …ว่าหมอนั่นจะขโมยครั้งสุดท้ายแล้ว ” น้ำเสียงที่เอ่ยออกไปมันค่อยๆแผ่วลงอย่างไม่รู้สาเหตุ
พร้อมกับหัวใจที่พาลเต้นผิดจังหวะขึ้นมา…
[ กรี๊ดดดดด!! ไม่เอานะ!! ฉันไม่เชื่อหรอก!! ท่านคิด!! ทำไมคุณถึงไม่มาบอกความจริงต่อหน้าหญิงสาวอย่างฉันล่ะคะ!!
] เป็นอีกรอบที่ต้องยกหูออกมาห่างๆ
การตะโกนอัดแบบนี้อาจจะทำให้เขาหูบอดไปข้างหนึ่งเลยก็ได้
“ เอ่อ…ผมขอโทษครับ ”
[ ไม่นะ!! ผู้ชายในฝันของฉัน ไม่จริงใช่มั๊ย! ม่ายยยยยย!!— ] เสียงกรีดร้องอย่างโหยหวนของโซโนโกะตอบกลับมาอีกครั้ง ก่อนที่มันจะเงียบไปเฉยๆทั้งที่การสนทนายังไม่จบ
ตัดสายไปแล้ว..?
“ฮัลโหลครับพี่โซโนโกะ! โซโนโกะ!! นี่!! ”
คุยอะไรยังไม่ทันได้ความ ปลายสายก็ตัดไปเฉยๆจนการสนทนาล่มไม่เป็นท่า
นึกเหนื่อยใจที่อุตส่าห์เล่าเรื่องนั้นไปแล้วหลายรอบ
แต่คุณหนูสึซึกิดันทำท่ารับไม่ได้ซักที อีกอย่างคือแม่คุณแต่งงานแล้วนะ…
โคนันวางหูโทรศัพท์ลงอย่างสิ้นหวัง
พยายามมองหาตัวช่วยสุดท้ายอย่างเพื่อนสนิท
แต่ในเวลานี้เธอกลับกำลังสนใจกับโทรศัพท์มือถือของตัวเอง
ใบหน้าสวยหวานเงยขึ้นมองเด็กหนุ่มด้วยแววตานิ่งเฉย
แต่ริมฝีปากกลับมีรอยยิ้มเหมือนกำลังพอใจอยู่
“ อ้ะ…แฟนฉันเมลล์มา ต้องไปแล้วล่ะคุโด้คุง… ขอให้สนุกกับการตามหา ‘ท่านคิด’ นะ ” ว่าพลางชูโทรศัพท์ให้ดู
ก่อนที่ร่างระหงส์นั้นจะก้าวออกไปจากบ้านของเขา
คำพูดแบบนั้นมันอะไรกัน… ไม่คิดจะช่วยตั้งแต่แรกแล้วก็บอกมาเถอะ …ธุระของเธอเข้ามาได้ถูกเวลาอย่างกับจงใจเลยนะ
...ทำไมการเป็นโคนันมันถึงเหนื่อยขนาดนี้
การใช้ชีวิตเป็นคนๆใหม่มันควรจะสงบไม่ใช่หรือไง
กริ๊งงงงงง…
เสียงโทรศัพท์ตรงหน้าดังขึ้นอีกรอบท่ามกลางบรรยากาศสีเทาหม่น
มือเรียวคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูอีกครั้ง
คุณเธออาจจะทำใจได้แล้วถึงติดต่อกลับมาก็ได้มั๊ง
...เผื่อว่าเขาจะพอหาเบาะแสอะไรเพิ่มเติมได้บ้างก็ดี
“ ครับ… พี่โซโนโกะมีอะไรอีกหรือเปล่าครับ..? ”
[ คุโด้! นี่ฉันเองนะ! ]
ปลายสายเป็นเสียงทุ้มเหน่อที่เด็กหนุ่มคุ้นเคยดี
อีกหนึ่งเพื่อนสนิทของคุโด้ ชินอิจิ… นี่ก็โทรมาได้ถูกเวลาเหมือนกัน
ในขณะที่คิดว่าพบเจอกับทางตัน ก็เหมือนมีแสงสว่างเล็ดลอดเข้ามาได้อยู่
โลกนี้ยังไม่สิ้นหนทางจริงๆ ได้แต่หวังว่าคนๆนี้จะพอช่วยเขาได้…
“ หืม…เฮย์จิงั้นหรอ? ”
[ เฮ้…น้ำเสียงหมดอาลัยตายอยากแบบนั้นมันอะไรกัน? นายกำลังมีเรื่องเครียดอยู่หรือไง?
]
“ อ่า…ก็คงงั้น ”
เบื่อจริงๆพวกที่ยังอารมณ์ดีได้แม้กระทั่งสถานการณ์แบบนี้เนี่ย…
[ อ้อจริงสิ! ฉันกำลังจะถึงไปโตเกียววันนี้ล่ะ! คราวนี้พาเพื่อนมาด้วยนะ!
]
“ อ่อ…งั้นหรอ? ”
ก็ดูเอาสิ… หมอนี่โทรมาทีไร
ไม่เรื่องคดีก็มาเที่ยวทุกที… น่าเรียกมาให้ช่วยแก้ปริศนาครั้งนี้เสียให้เข็ด
ติดก็ตรงเพื่อนที่เจ้าตัวว่านั่นแหละ …ปกติเฮย์จิไม่เคยมาโตเกียวกับใครนอกจากคาซึฮะ
แต่ด้วยนิสัยมนุษย์สัมพันธ์ดีเลิศแบบนั้น จะมีเพื่อนเยอะก็คงไม่แปลกเท่าไร
ชินอิจิในร่างเด็กหนุ่มรู้สึกผ่อนคลายลงได้บ้างเล็กน้อย
แต่เพียงเท่านั้นจริงๆ เพียงแค่ไม่ถึงนาที
อีกประโยคที่กล่าวขึ้นมาก็ทำให้เขาอยากจะเอาหัวโขกกับโต๊ะวางโทรศัพท์เสียเดี๋ยวนั้น
[ นี่คุโด้…แบบว่าไปคราวนี้ฉันกับเพื่อนขอพักอยู่ที่บ้านนายได้หรือเปล่า? ]
“ หา…?
”
...ขอเถอะ ฮัตโตริ เฮย์จิ
นายกำลังเอาเรื่องอะไรมาเพิ่มให้ฉันอีกล่ะเนี่ย…
To be continue…
ครบ100% ซักทีค่ะ เย้
เป็นตอนที่สั้นกว่าปกติที่ไรเตอร์แต่งจริงๆ
ที่จริงตอนนี้เกือบจะแต่งสด ติดตรงเอาไปปรับแก้เนื้อหานิดหน่อย
ลองมาคิดในมุมชินอิจิดู ถ้าอยู่ๆมีเพื่อนมาขอค้างด้วยคงต้องเคลียร์ห้องกันอีกยาว
ไหนจะพาคนที่ไม่รู้ว่าเป็นใครอีกมาด้วย เป็นไรเตอร์คงปวดหัวน่าดูค่ะ 55555
ความคิดเห็น