NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    『Whisper of LOVE • Short Fanfiction』

    ลำดับตอนที่ #4 : ▲ [Conan] Catch me if you can (Kaito x Shinichi) - Part3

    • อัปเดตล่าสุด 14 มิ.ย. 65



    แนะนำกดเล่นเพลงเพื่ออรรถรสได้นะคะ :)

     










    นี่มันแย่สุดๆ… คิดยังไงถึงได้เลือกเส้นทางแบบนี้กันนะ

      

    ร่างของเด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดกำลังคลานหมอบไปตามท่อระบายอากาศแคบๆ แต่ก็กว้างพอจะให้คนคนหนึ่งผ่านไปได้ ฝุ่นที่เกาะเขรอะอยู่ภายในฟุ้งกระจาย เกือบทำให้เขาต้องจามไปหลายครั้ง แต่ก็ต้องเก็บเสียงเอาไว้ให้เงียบที่สุด เพื่อตามเป้าหมายของตนไปให้ถึงที่สุด ในปากของเด็กหนุ่มคาบนาฬิกาข้อมือเอาไว้ ฟังก์ชั่นไฟฉายทำให้สะดวกต่อการใช้งานในหลากสถานการณ์ ไม่รู้ว่าฝุ่นจะผ่านเข้าไปทางปากของเขามากขนาดไหนกันแล้ว

      

    โคนันพยายามอย่างยิ่งไม่ให้เกิดเสียงครืดคราดยามที่เนื้อผ้าสัมผัสกับท่อเหล็ก ทั้งยังต้องเร่งความเร็วไม่ให้เสียเวลาเพื่อไล่ตามใครบางคนที่มุ่งหน้าออกมาก่อนให้ทัน ผ่านระยะทางที่ยาวไกลมาพักหนึ่ง เบื้องหน้าก็ปรากฏแสงสว่างจางๆ แสดงให้เห็นถึงปลายทางออกจากท่อระบายอากาศนี้ พอมั่นใจว่ามันไม่ได้สูงนัก เขารีบพุ่งตัวออกไปทันทีโดยไม่ได้ทันสังเกตว่าพื้นเบื้องล่างนั้นมีอะไร

      

    “ อั่ก! ”

      

    เสียงตุบดังขั้นทันทีที่บั้นท้ายของเด็กหนุ่มสัมผัสกับพื้น โชคยังดีที่ท่อระบายอากาศเชื่อมต่อกับห้องมืดๆห้องหนึ่งที่มีถุงขยะวางเอาไว้อย่างสะเปะสะปะ และรองรับน้ำหนักของนักสืบม.ปลายเอาไว้ได้พอดี แต่กลิ่นของมันก็ใช่จะธรรมดาเหมือนกัน… ใบหน้าของเด็กหนุ่มเบ้ขึ้นเล็กน้อย นึกโทษตัวเองที่มัวแต่รีบร้อนไม่เข้าท่า

      

    “ ฉันคิดอยู่แล้วว่าคนที่ตามมาจะต้องเป็นนาย กำลังรออยู่เลยล่ะ… คุณนักสืบ ”

      

    แต่เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นเรียกความสนใจของชินอิจิให้หันไปมอง น้ำเสียงที่เหมือนจะเจือการกลั้นขำเอาไว้แบบนั้นทำเอาเด็กหนุ่มมองค้อนกลับไปอย่างไม่สบอารมณ์นัก ถึงเขาจะลงมาไม่สวยซักเท่าไร แต่อย่างน้อยก็ตามมาทันก็แล้วกัน 

     

    “ คราวนี้ฉันจะจับนายให้ได้ อย่าคิดว่าจะหนีไปได้ล่ะ ”

      

    ร่างของเด็กหนุ่มม.ปลายหยัดตัวขึ้นยืนประจันหน้ากับจอมโจรในชุดสีขาวสะอาดอย่างไม่ยอมแพ้ ยกนาฬิกาที่ซ่อนเข็มยาสลบเอาไว้ขึ้นมาเตรียมจ่อใส่ชายหนุ่มตรงหน้า แต่ก็ช้ากว่าจังหวะที่โจรหนุ่มคว้าเอาปืนไพ่มายิงนาฬิกาที่เพียงแค่ถือเอาไว้จนหลุดออกจากมือไป เสียงเหวอหลุดออกมาเบาๆ ก่อนที่สายตามองค้อนจะถูกส่งกลับไปอีกรอบ

      

    “ ฮะฮะ ไม่ว่าจะตอนไหนนายก็เหมือนกับลูกแมวตัวน้อยๆเลยนะ …ดิ้นรนไปก็จับฉันไม่ได้หรอก ” เสียงทุ้มที่โคนันคุ้นเคยดีกลั้วหัวเราะ เหมือนจะยิ่งยั่วให้เด็กหนุ่มตรงหน้าโกรธ

      

    “ ไม่ตลก… ของแบบนี้ไม่ลองดูก็ไม่รู้หรอก ”

      

    อยากจะเถียงกลับไปเหลือเกินว่าทำไมถึงได้เอาเขาไปเปรียบกับลูกแมวแบบนั้น ตอนนี้โคนันเองก็เป็นเด็กหนุ่มม.ปลายคนหนึ่ง ถึงดูภายนอกจะอ่อนวัยกว่าคนตรงหน้าก็เถอะ แต่ภายในคิดว่าต้องอายุเท่าๆกันแน่… ไอ้คำเรียกที่แสนน่ารักแบบนั้นมันอะไรกัน

      

    เมื่อก่อนโคนันเป็นแค่เด็กประถมตัวเตี้ยขาสั้น ที่ต่อให้วิ่งตามยังไงก็ไม่ทันมนุษย์ขายาวอย่างหมอนี่ ปัจจุบันเขาอยู่ในร่างของชินอิจิเมื่อสิบปีที่แล้ว บวกเพิ่มแค่แว่นบนหน้าลงไปนิดหน่อย ทั้งแบบนั้นกลับไม่ได้รู้สึกดีใจซักเท่าไร… เขาอยากจะกลับร่างเดิมที่มีอายุยี่สิบเจ็ดปีมากกว่า

      

    เวลาได้ผ่านไปเนิ่นนาน คิดในร่างของเด็กหนุ่มเติบโตขึ้นเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง เขาตัวสูงกว่าเมื่อสิบปีที่แล้วอยู่หลายเซนติเมตร แบบที่เทียบกันกับโคนันในตอนนี้ก็คงจะมีแต่ความเจ็บใจเท่านั้น ร่างกายของเด็กหนุ่มวัยรุ่นอย่างเขาจึงกลายเป็นเพียงร่างโปร่งบางเมื่อเทียบกับคนอายุเกือบจะสามสิบเท่านั้น แถมใบหน้านั่นยังดูคมคายขึ้นกว่าเมื่อก่อนพอสมควร ทั้งๆที่หน้าก็เหมือนกันแท้ๆ

      

    “ ว่าแต่คุณนักสืบ… นายรู้ได้ยังไงว่าฉันจะมาที่นี่ล่ะ? ” เหมือนดั่งคำถามที่ต้องเอ่ยขึ้นเป็นธรรมเนียมทุกครั้งที่ประจันหน้ากัน 

     

    “ หุ่นปลอมของนายยังไงล่ะ… ” ฝ่ายโคนันเองก็ส่งรอยยิ้มน้อยๆ เป็นการบอกอีกฝ่ายเป็นนัยๆว่าตนรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของบุรุษสีขาวคนนั้น

      

    “ ถือมงกุฎเพียวๆเอาไว้แบบนั้น ใครก็จับได้ทั้งนั้น… โจรที่ขโมยแต่อัญมณีแบบนายไม่มีทางปล่อยให้แซฟไฟร์บลูกับเพชรหลายกะรัตแบบนั้นโดนความชื้นและอากาศร้อนไปตลอดทางที่โดนห้อยไว้กับเฮลิคอปเตอร์หรอก นายที่ไม่มีท่าทีว่าจะขยับเขยื้อนเปลี่ยนท่าทาง เก็บมงกุฎ หรือปีนขึ้นไปหลบบนฮอนั่นก็เป็นอีกอย่างที่ฉันสังเกตได้เหมือนกัน ” 

     

                   เด็กหนุ่มร่ายยาว ข้อสรุปเอ่ยออกมาอย่างมีหลักการดังความเป็นนักสืบของตน จอมโจรหนุ่มพยักหน้ารับตามด้วยความสนใจ

      

    “ เพราะฉะนั้นทางที่จะหลบหนีได้อย่างปลอดภัยคือท่อระบายอากาศที่ไร้ตำรวจตรวจตรา เพราะสารวัตรนากาโมริมั่นใจว่านายจะต้องหนีไปทางอากาศไม่ทางใดก็ทางหนึ่งแน่ๆ ”

      

    “ หืมต้องมาเจอนายทุกทีนี่ลำบากใจชะมัดเลยน้า… ”

      

    เจ้าของใบหน้าคมแสร้งถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเผยรอยยิ้มที่มุมปากออกมาให้เห็น

      

    “ แต่คราวนี้ฉันไม่ให้เพชรนายคืนไปง่ายๆหรอกนะแบบนี้มันก็ง่ายเกินไปน่ะสิ ”

      

    “ นายหมายความว่ายังไง? ”

      

    ทุกครั้งจอมโจรหนุ่มคนนี้จะสังเกตอัญมณีที่ได้มาเพียงครู่หนึ่ง ก่อนโยนมันกลับมาให้เด็กหนุ่ม พร้อมคำพูดว่า ‘นี่ไม่ใช่ของที่ฉันอยากได้’ แต่คราวนี้มันต่างออกไป เด็กหนุ่มรู้สึกได้ว่าคนตรงหน้าไม่ได้ล้อเล่น

      

    “ นายเรียกพวกตำรวจให้ลงมาที่นี่แล้วใช่มั๊ยล่ะ… ฉันจะให้มงกุฎนี่คืนกับนายก็ต่อเมื่อ นายต้องจับฉันให้ได้ด้วย     

    ตัวเองเท่านั้น ” 

     

    เรื่องนั้นมันก็ใช่ โคนันเพิ่งส่งสัญญาณถึงสารวัตรนากาโมริไปเมื่อไม่นานนี้เอง… แต่เงื่อนไขอย่างหลังนั่นมันอะไรกัน

      

    “ เป้าหมายของนายคืออะไรกันแน่คิด? ”

      

    ทำไมจึงต้องเจาะจงเป็นโคนันเท่านั้น

      

    “ อืม… ถ้าแต่ก่อนก็คงเป็นเพราะตามหาเพชรล่ะมั๊ง… แต่หลังจากนั้นมันก็เปลี่ยนไปนิดหน่อย ” จอมโจรหนุ่มตอบกลับมาด้วยท่าทีสบายๆ ส่งให้คิ้วเรียวของเด็กหนุ่มต้องขมวดหากันอย่างไม่เข้าใจ คำพูดวกไปวนมาที่สุดท้ายเขาก็ยังไม่รู้เป้าหมายของคนๆนี้อยู่ดี

      

    “ นี่เป็นการขโมยครั้งสุดท้ายของฉันแล้ว… ถ้านายตามจับฉันได้ ฉันจะยอมมอบตัวกับตำรวจ แบบนี้ดีมั๊ยล่ะ? ”

      

    ดวงตาสีควอมารีนเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ ผู้ชายตรงหน้าพูดประโยคที่ไม่น่าเป็นไปได้ออกมาได้ยังไง รอยยิ้มที่เหมือนจะเจือไปด้วยความเศร้าแบบนั้นมันยังคงติดตรึงอยู่ในสายตาของเด็กหนุ่มไม่หาย

      

    “ นายหมายความว่ายังไง? ”

      

    ปุ

      

    เสียงโชว์มายากลที่ดังขึ้นเบาๆ แต่ก็ส่งให้ร่างของเด็กหนุ่มสะดุ้งขึ้นด้วยความตกใจ ร่างสูงโปร่งของบุรุษชุดขาวก้าวมาหยุดตรงหน้าคนตัวเล็กกว่า ในมือเรียวที่สวมถุงมือสีขาวสะอาดปรากฏดอกกุหลาบสีแดงกำลังเบ่งบานแสดงความงดงาม มันถูกสอดลงในกระเป๋าเสื้อนอกสีน้ำเงินของโคนัน ซึ่งนั่นทำให้เขาจำเป็นต้องรับมันไว้อย่างไม่เข้าใจ 

     

    “ เพราะเป้าหมายของฉันในตอนนี้… คือนาย ”

      

    รอยยิ้มเจ้าเล่ห์แบบที่เด็กหนุ่มมักจะเห็นอยู่บ่อยๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าคมคาย เร่งให้ความร้อนตีขึ้นมาบนใบหน้าของคนตัวเล็กกว่าแทบจะทันที กว่าจะได้สติกลับมาก็ตอนที่ร่างสูงนั้นกำลังเดินห่างออกไป

      

     Catch me if you can… Mr. Detective.

      

    “ ..เดี๋ยวก่อน!! ”

      

    แวบ!

      

    ไม่ทันจะได้ก้าวออกไปตาม แสงสว่างวาบก็ตีขึ้นมาจนไม่อาจจะลืมตาได้ กว่าจะปรับสายตากลับมาเป็นปกติได้ เสียงฝีเท้าที่เคยวิ่งออกจากห้องก็หายไป เหลือเพียงเศษระเบิดแสงกับประตูห้องที่เปิดทิ้งไว้เท่านั้น

      

    ใบหน้าคมของเด็กหนุ่มนิ่วเข้ากันอย่างไม่เข้าใจ ถึงจะตามไปตอนนี้ก็ใช่ว่าจะไล่ทันผู้ชายที่รู้ทางหนีทีไล่อย่างดีแบบนั้นทันได้ บนพวงแก้มทั้งสองข้างแดงเรื่อขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ทอดมองดอกกุหลาบที่เสียบอยู่ในอกเสื้อของตัวเองด้วยอารมณ์ขุ่นมัวแบบที่ไม่อาจจะอธิบายได้

      

     

    นายต้องการอะไรจากฉันกันแน่… จอมโจรแบบนาย

     

     

     

     

     

     

     

    To be continue…

     

     

     







    ง่อยเรื่องการเฉลยปริศนามาก มันเลยออกมาเป็นแบบนี้แหละค่ะ-.,-
    ย้ำอีกครั้ง แต่งสดไว้นานแล้ว ไม่รับประกันภาษานะคะ


     


    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×