คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ▲ [Conan] Catch me if you can (Kaito x Shinichi) - Part9
แนะนำกดเล่นเพลงเพื่ออรรถรสได้นะคะ :)
|
|
เสียงโทรศัพท์มือถือสั่นเป็นจังหวะ เมื่อการแจ้งเตือนแอพลิเคชันสนทนามีข้อความเข้ามาใหม่ เด็กหนุ่มผู้สวมแว่นขมวดคิ้วยุ่ง ดวงตาคู่คมพยายามเมินโดยมองไปยังจอคอมพิวเตอร์ตรงหน้าแทนอย่างเคร่งเครียด
จะส่งมาเยอะเกินไปแล้ว… อะไรของคนๆนั้นกันนะ
เวลาได้ล่วงเลยไปถึงหนึ่งอาทิตย์แล้ว… เด็กหนุ่มไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าการทำกิจวัตรประจำวันของนักเรียนม.ปลายคนหนึ่ง
เขาไม่ได้ติดต่อกลับไปหาผู้ชายน่าสงสัยคนนั้น
แต่เป็นอีกฝ่ายต่างหากที่คอยส่งข้อความมากวนอยู่ได้ทุกวัน
มันแปลกประหลาดจนไม่รู้จะอธิบายออกมายังไง
คุโด้ ชินอิจิในรูปลักษณ์นักเรียนม.ปลายกำลังนั่งทำภารกิจสำคัญอยู่ที่บ้านของดร.อากาสะ ไม่ไกลออกไปมีร่างของหญิงสาวอายุไล่เลี่ยกัน
เธอคนนั้นถือเอกสารชุดหนึ่งไว้ในมือ
ในขณะที่ดวงตาคู่สวยทอดมองไปยังสมาร์ทโฟนสีแดงที่เจ้าของดูท่าจะไม่ใยดี
“ น่าสงสารเขานะ… เธอไม่คิดจะตอบกลับไปบ้างหรอ?
”
“ ไม่จำเป็นนี่… ทำไมฉันจะต้องทำแบบนั้นด้วย
”
“ หืม… งั้นหรอ? ”
ไฮบาระเห็นเพียงเพื่อนสมัยเด็กที่เอาแต่เหลือบมองมือถืออยู่ตลอด
พะว้าพะวงไม่เป็นอันทำงานทั้งที่ท่าทางเหมือนอยากจะเปิดดูแทบตายเสียขนาดนั้น …พ่อคนปากแข็งเอ้ย
|
รูปภาพงั้นหรอ…
ดวงตาสีอคอมารีนจับจ้องอยู่ที่หน้าจอทัชสกรีนอย่างลืมตัว
พอรู้สึกได้ถึงสายตาอีกคู่ที่จ้องมาก็พลันหาเรื่องอื่นพูดกลบเกลื่อน
“ ก…กาแฟนี่รสชาติไม่เห็นจะดีเลย
คราวหลังจะซื้อก็ดูยี่ห้อให้ดีก่อนสิ ” คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากันทั้งใบหน้าระเรื่อ
พอเงยขึ้นมาเจอกับรอยยิ้มที่แสนยียวนของหญิงสาวก็พลันสะดุ้งขึ้น
“
ช่างเรื่องนี้ก่อนเถอะน่า…! เรื่องที่ฉันขอให้เธอช่วยตรวจสอบน่ะ
แน่ใจแล้วใช่มั๊ย? ”
“ แหงสิ
แต่ชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ดูเหมือนจะไม่ใช่เขานะ ”
ไฮบาระยิ้มขำคนเดียวในความลนลานที่ไม่แนบเนียนเอาซะเลยของโคนัน
แค่ยอมรับเรื่องนี้ไปมันจะไปเดือดร้อนอะไรกัน
“ เอาน่าคุโด้คุง… ถึงเธอจะเปิดอ่านข้อความนั่น
ฉันก็ไม่มีสิทธิ์จะไปว่าอะไรเธอนี่นา ”
เด็กหนุ่มเพียงมองค้อนกลับไปราวกับจำนนในหลักฐาน
ในที่สุดนิ้วเรียวก็ไล้ไปตามหน้าจอมือถืออย่างที่อยากทำ
แอพลิเคชันสนทนาปรากฏรูปภาพที่กระตุ้นให้ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย
|
|
เป้าหมายถูกทำลายซะแล้วสิ… แต่ไม่เป็นไร
ยังเหลืออีกตั้งหลายจุด
“ เท่านั้นก็พอแล้วล่ะไฮบาระ
ต้องขอบคุณอุปกรณ์ของด็อกเตอร์ล่ะนะ ฉันทำงานง่ายขึ้นเยอะเลย ”
ริมฝีปากได้รูปปรากฏรอยยิ้มน้อยๆราวกับผู้ชนะ
พิมพ์ข้อความตอบกลับไปให้อีกฝ่ายสับสนก่อนจะผละตัวออกมาทั้งอย่างนั้น
|
|
สถานที่นี้มันอะไรกัน…
คาเฟ่ ไม่ก็บาร์
อะไรทำนองนั้นสินะ… แถมยังเป็นที่ที่เจ้าของเก่าเสียชีวิตไปแล้วด้วย
ร่างโปร่งของโคนันยืนอยู่ท่ามกลางโถงกว้างที่ได้รับการตกแต่งไปทางตะวันตก
ทั้งห้องเกือบจะไร้แสงอาทิตย์ที่ส่องเข้ามาเพราะหน้าต่างบานใหญ่ถูกดึงม่านมาปิดเสียหมด
ด้านหน้ามีเคาน์เตอร์ตกแต่งคู่กับเก้าอี้บาร์ตัวสูงอีกสี่ห้าตัว ตรงกลางพื้นห้องมีเพียงโต๊ะสนุกเกอร์ตั้งอยู่โดดเดี่ยวกับไฟประดับเพดานดวงใหญ่
สถานที่ที่จอมโจรคนนั้นวนเวียนอยู่หลายครั้งต่อสัปดาห์
ที่แท้เป็นแค่บาร์เก่าๆที่ดูเหมือนจะยังคงได้รับการดูแลให้คงสภาพเดิมอยู่เสมอ
ด้วยความที่มันไม่มีอะไรเลย ยิ่งทำให้น่าสงสัยมากขึ้นไปอีกว่ารายนั้นจะทำกลไกอะไรไว้หรือเปล่า
เขาสำรวจของตกแต่งที่น่าสงสัยที่สุดทุกซอกมุมโดยเริ่มจากสิ่งที่วางอยู่กลางห้อง
มันดูเหมือนจะเป็นโต๊ะสำหรับโลดแล่นลูกบิลเลียดธรรมดาๆ แต่มันคงไม่ง่ายดายขนาดนั้น
เสียง ‘กึ๊ก’ ดังขึ้นเบาๆเมื่อปลายนิ้วเรียวสัมผัสเข้ากับผิวด้านล่างของโต๊ะที่ยุบลงไป
ก่อนจะต้องผละออกมาเมื่อผิวหน้าแหวกออกตรงกลาง
กลายเป็นเหมือนตู้เก็บของที่มีกลไกแปลกประหลาด
และสิ่งที่ตามค้นหามาโดยตลอดก็หลับไหลอยู่ในนั้นราวกับรอใครคนหนึ่งมาค้นหา…
“
เพราะแบบนี้เองสินะถึงได้ไม่ยอมเคลื่อนไหวอะไร …สงสัยฉันจะประเมินนายต่ำไปหน่อย ”
สัมผัสอันอบอุ่นฉาบไปทั้งแผ่นหลังและเอวของนักสืบหนุ่ม
เขาสะดุ้งโหยงแต่ก็รู้ได้ทันทีว่าผู้กระทำอุกอาจนั้นคือใคร
อีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่ยอมปล่อยให้เขาเป็นอิสระง่ายๆ
“
ทำยังไงถึงมาเจอที่นี่ได้? ” เสียงนุ่มทุ้มกระซิบข้างหูอย่างแผ่วเบา
ให้ความรู้สึกวาบหวามทุกครั้งแม้จะพยายามทำใจให้ชิน
แต่ดูเหมือนความรู้สึกมันจะพยายามต่อต้านอยู่เสมอ
เบื้องหน้าคืออัญมณีล้ำค่ากำลังส่องประกายกระทบกับแสงไฟ
แซฟไฟร์บลูยังคงความสุกใสที่มองทีไรก็ชวนให้นึกถึงดวงตาที่งดงามของคนๆหนึ่งอยู่เสมอ
มันถูกรักษาเอาไว้ในสถานที่นี้
บาร์ที่ตำรวจคาดไม่ถึงว่าจะเป็นแหล่งกบดานของบุรุษรัตติกาลผู้โด่งดัง
รูปภาพที่จอมโจรคิดส่งมาให้โคนันคือภาพของอุปกรณ์ติดตามที่โดนเป้าหมายทำลายเสียยับเยิน
เขาพยายามแกะแขนของจอมโจรหนุ่มที่โอบตัวเองไว้แน่น
ในขณะที่มืออีกข้างก็หยิบโทรศัพท์ออกมาแสดงให้อีกฝ่ายเห็น
สัญญาณวิทยุสีแดงที่เชื่อมต่อกับระบบแอพลิเคชันกระพริบรัวราวกับกำลังแจ้งเตือนว่าเป้าหมายอยู่ตรงนี้
“ ยังมีของที่นายส่งรูปมาให้อีกสี่จุดในตัวนาย
”
ริมฝีปากได้รูปยกยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
เครื่องติดตามขนาดใหญ่กว่าหัวเข็มหมุดเพียงนิดเดียวของด็อกเตอร์ใช่ว่าจะสังเกตเห็นได้ง่ายๆเสียเมื่อไร
และในวันที่เด็กหนุ่มได้มีโอกาสไปเยือนบ้านของอีกฝ่าย
ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผลหรือติดเครื่องติดตามเพียงอันเดียวเสียหน่อย
ทั้งรองเท้า ร่ม
เสื้อโค้ด หรือแม้แต่หมวกแทบจะทุกชิ้นนั่นแหละ… มันถึงได้พาเขามาที่นี่แบบไม่ให้เจ้าตัวรู้ได้
“ เฮ้อ
เล่นกันแบบนี้เลยงั้นหรอ… กะไม่ให้ฉันกระดิกตัวได้เลยงั้นสิ
” คุโรบะ ไคโตะในชุดลำลองยกมือทั้งสองข้างขึ้นในท่ายอมแพ้
ในขณะที่ใบหน้าคมคายปรากฏรอยยิ้มยียวนอย่างที่นักสืบหนุ่มมักจะพบเห็นได้บ่อยๆ
ร่างที่เล็กกว่าเมื่อถูกปล่อยให้เป็นอิสระก็รีบถอดห่างออกมาในระยะหนึ่ง
“ นายก็รู้นี่… ทั้งที่จับได้คาหนังคาเขาตั้งหลายครั้ง
ฉันก็หนีไปได้ก่อนที่ตำรวจจะมาถึงด้วยซ้ำ ”
“
แล้วใครว่าครั้งนี้ฉันจะพลาดล่ะ นายพลาดเองต่างหากที่ให้เวลาฉันมากเกินไป ”
อดไม่ได้ที่จะเกทับความมั่นใจของอีกฝ่าย
เพราะช่วงเวลาที่เขาหายไปมันนานพอที่จะทำให้เตรียมการอะไรได้หลายอย่าง
“
ทั้งช่องทางการหลบหนีของที่นี่ ฉันได้ให้ตำรวจเตรียมรับมือกับนายทุกวิถีทางแล้ว ”
“ ก็ได้…ฉันจะยอมมอบตัว ”
แต่ก็ผิดคาดเมื่ออีกฝ่ายเลือกที่จะยอมแพ้โดยง่ายดาย
โคนันอดไม่ได้ที่จะเบนสายตาไปมองยังใบหน้าของคนอายุมากกว่า
สีหน้าที่เรียบสนิทและแววตาที่ยากจะหยั่งถึงนั้นทำให้เขารู้สึกใจหาย
ราวกับว่าอะไรที่สำคัญบางอย่างกำลังจะหายไป…
มันเคยอยู่ตรงนี้… อยู่ข้างๆกันมาตลอด
“ แล้วนายล่ะ
แน่ใจแล้วหรือยัง? ” น้ำเสียงที่ไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆถามกลับมา
ดวงตาสีแซฟไฟร์บลูจ้องเข้าไปในดวงตาของเด็กหนุ่มราวกับจะคาดคั้นเอาคำตอบ
มันอัดอั้นอยู่ในอก ราวกับว่าสมองและหัวใจมันกำลังทำในสิ่งที่ต่อต้านกันอยู่
เขาควรต้องรู้สึกอย่างไรงั้นหรือ…
เป็นช่วงเวลาเพียงชั่วครู่ที่คนตัวสูงกว่าย่างกรายเข้ามาใกล้
แต่ก็ไม่ได้มีการขยับหนีของเด็กหนุ่มแต่อย่างใด
ระยะที่สั้นลงเรื่อยๆจนกระทั่งใบหน้าของทั้งคู่อยู่ห่างกันเพียงไม่ถึงฝ่ามือ
อัญมณีสีแซฟไฟร์บลูและอคอมารีนต่างก็ประสานสายตากันนิ่ง มีเพียงเสียงทุ้มของจอมโจรหนุ่มที่เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ
“ นายจะทนได้งั้นหรอ
ถ้าหากฉันจะหายไปเฉยๆ… ”
ใบหน้าคมคายปรากฏเพียงรอยยิ้มบางๆ
ก่อนที่สัมผัสนุ่มหยุ่นจะรู้สึกได้ที่ริมฝีปากของนักสืบหนุ่ม
ชินอิจิปิดเปลือกตาทั้งสองข้างลงอย่างแผ่วเบา
มือข้างหนึ่งวางลงไปบนแผ่นอกของอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว
ปล่อยให้ริมฝีปากของจอมโจรสัมผัสกับเขาไปอย่างไม่ขัดขืน
มันเป็นจูบที่ยาวนานและเจือไปด้วยความอ่อนโยนจนรู้สึกได้
น่าแปลก… ที่ตัวเขาไม่ปฏิเสธผู้ชายคนนี้
เขารู้ดีว่านักสืบกับจอมโจรก็เป็นดั่งเส้นขนาน
ให้ตายยังไงก็ไม่มีทางอยู่ร่วมกันได้ จุมพิตนี้ราวกับเป็นครั้งแรกที่ได้ก้าวข้ามกฎเกณฑ์เหล่านั้นออกมา
แต่ก็ราวกับเป็นการล่ำราจากบุรุษรัตติกาลที่ตามขับเคี่ยวกันมาตลอดสิบปีเช่นกัน
คนตัวสูงกว่าผละออกจากเด็กหนุ่มอย่างเชื่องช้าราวกับไม่อยากจาก
เปลือกตาที่บดบังอัญมณีคู่สวยค่อยๆเปิดขึ้นอย่างช้าๆ เมื่อสติคืนกลับมา
นักสืบหนุ่มก็ได้แต่เบนสายตาหลบดวงตาคู่คมที่กำลังจ้องมองมาทางเขา
เพื่อทวงถามคำตอบที่ยังไม่ได้รับ
“ นายหมายความว่ายังไง? ”
ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าคำตอบที่มีอยู่คืออะไร
แต่ก็แกล้งไม่รู้ต่อไป อีกฝ่ายก็ใช่ว่าจะรู้ไม่ทันเสียเมื่อไร
“
อย่าถามในสิ่งที่นายก็รู้อยู่แล้วสิ ”
ใบหน้าหล่อเหลานั้นไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆออกมา
แต่ก็สร้างความกดดันให้คนตัวเล็กกว่าไม่น้อย เขารู้สึกเห่อร้อนไปทั้งใบหน้าจนแทบทำอะไรไม่ถูกเมื่อนึกย้อนถึงเหตุการณ์เมื่อครู่
ใครจะอยากให้หายไปกันล่ะ…
ปังๆๆ!!
พลันเสียงทุบประตูจากภายนอกก็ดังเข้ามาขัดจังหวะ
โคนันรีบผละออกจากคุโรบะ ไคโตะอย่างรวดเร็ว
เสียงความวุ่นวายของกลุ่มคนหลังประตูแว่วขึ้นมาราวกับสิ่งที่กั้นโลกภายนอกเอาไว้กำลังจะถูกพังเข้ามาในไม่ช้า
“
ตำรวจกำลังจะบุกเข้ามาแล้ว… ฉันคงต้องแยกกับนายตรงนี้
” เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นทั้งยังไม่สบตากับคู่สนทนา
จังหวะเดียวกับที่ประตูหลังร้านถูกพังเข้ามาพอดี
ผู้ชายในชุดเครื่องแบบนับสิบคนกรูเข้ามาพร้อมอาวุธในมือ
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นในสายตาของเด็กหนุ่มอย่างรวดเร็วราวกับความฝัน
จอมโจรรัตติกาลที่ยอมมอบตัวกับผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างง่ายดาย
เขากำลังถูกคุมตัวไปยังสถานีตำรวจโดยไม่มีการขัดขืนใดๆ
ในขณะที่ใบหน้าคมคายนั้นคงไว้ซึ่งรอยยิ้มที่ไม่หยี่ระต่อสถานการณ์ใดๆ
รอยยิ้มเย็นของจอมโจรคิด
และดวงตาสีแซฟไฟร์บลูคู่นั้นที่ทอดมองมายังใบหน้าของนักสืบหนุ่ม…
ราวกับภาพนั้นยังคงติดตา โคนันเพียงยืนคิดอะไรเงียบๆอยู่คนเดียว
ในขณะที่ตำรวจหลายนายเข้ามาพูดอะไรบางอย่างกับเขา
ทั้งสารวัตรนากาโมริที่ทำท่าทางเหมือนจะตกใจไม่น้อยกับตัวจริงของจอมโจรคิด
ทั้งท่าทางที่เหมือนจะอยากเอ็ดเขาเบาๆว่ามาแย่งผลงานตลอดสิบแปดปีของตนไปเสียดื้อๆ
แต่เด็กหนุ่มก็ไม่ได้สนใจสิ่งใดทั้งนั้น
เขาเพียงมองไปยังมงกุฎแซฟไฟร์บลูเจ้าปัญหาอยู่ซักพัก
พิจารณาอยู่นานพอจนรู้สึกตัวอีกที
เหล่าตำรวจก็ทยอยกันออกไปจากบาร์แห่งนี้จนเกือบหมดแล้ว
และนี่เป็นอีกครั้งที่ต้องแพ้ให้คนๆนั้นอีกแล้ว….
“ …ฉันเกลียดนายจริงๆ ”
To be continue…
อัพแล้วค่าา คราวนี้หายไปนานมากๆ
ต้องขอโทษจริงๆค่ะTT ไรเตอร์เพิ่งว่างเข้ามาอัพจริงๆ ทั้งที่อีกตอนเดียวจะจบอยู่แล้ว
พาร์ทหน้าจะจบแล้วนะคะสำหรับฟิคเรื่องนี้
ตกลงยังไงกันแน่นะ ทำไมชินจังถึงปล่อยให้พี่ไคโดนจับได้
จะจบยังไงต้องติดตามกันต่อไป จะรีบเข้ามาอัพให้เร็วที่สุดนะคะT^T
แล้วพบกันพาร์ทหน้าค่าา^^
ความคิดเห็น