คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #33 : [ตามคำขอ] KHR : Sogni di…(BM)
คุยกับไรท์ก่อนอ่าน : (กรีดร้องอย่างโหยหวน) ไรเตอร์อยากดราม่า..อ้า...อ้า...อ้า...(เอคโค่ =w=) แฮ่ๆ BM ครั้งที่แล้วสมหวังไปแล้วเนอะ ครั้งนี้ขอดราม่านิดๆหน่อยเถอะ ไม่งั้นไรเตอร์คงตายตาไม่หลับ (//โดนเสย) ชื่อเรื่องเป็นภาษาอิตาลี แปลว่าความฝันค่ะ ถ้าอยากรู้ว่ามันเกี่ยวกับเนื้อเรื่องยังไง เชิญอ่านค่ะ
เจ้าของเรือนผมสีม่วงคราม..ใบหน้ามีรูปรอยเขี้ยวอสรพิษเด่นชัด..
สายหมอกแห่งวาเรีย...อัลโกบาเลโน่จุกนมสีน้ำเงิน
มาม่อน....
ทั้งชื่อ น้ำเสียง นิสัย และใบหน้าของเธอ...ยังฝังอยู่ในความทรงจำของผมตลอดเวลา
ผมจำมันได้..ทั้งที่มันผ่านมานานมากแล้ว..
ที่จำได้แม่นยำแม้จะผ่านมาหลายปี...สำหรับเราคือความผูกพัน..ในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง
สำหรับตัวผมเองมันคือความรัก...ที่เริ่มก่อตัวช้าๆจนเต็มหัวใจ
แต่เพราะผมเป็นคนของวาเรีย…
ผมจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะมีความรัก
และไม่มีสิทธิ์แม้จะบอกรักกับเธอ...
……………………………………………………………………….
หลายคืนแล้วที่เจ้าของชื่อ ‘เบลเฟกอล’ นอนไม่หลับ ไม่ใช่เพราะลุยงาน ตอนนี้เขาว่างมาก ว่างสุดๆ ว่างพอที่จะมานั่งคิดถึงบุคคลที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ
ยิ่งคิดมากก็ยิ่งปวดหัว...มือหนากุมขมับแน่นราวกับมีอะไรมาบีบรัดจนสมองแทบแตกเป็นเสี่ยงๆ ยาแก้ปวดหัวสี่เม็ดถูกโยนเข้าปากของเบลเฟกอลเพื่อระงับอาการปวดไว้ชั่วคราว ก่อนร่างสูงจะล้มตัวลงนอนกับเตียงใหญ่
“หมดแรงแล้วรึไงครับ = =;;”
หมดฤทธิ์แล้วสินะ..เจ้าบ้า =__=;;;
เสียงของรุ่นน้องจอมกวนประสาทดังขึ้น ราวกับมีภาพของหญิงสาวคนที่เขาคิดถึงซ้อนขึ้นมา เจ้าสองคนนี้เป็นอะไรกันรึเปล่าเนี่ย ไหงคำพูดคำจามันถึงได้คล้ายกันนัก = =^
“ไม่มีอารมณ์เล่นแล้วเฟ้ย จะไปไหนก็ไปไป๊ ไอ้กบบ๊อง = =*” เบลพูดพลางเอาสะบัดมือไล่ฟรานให้ออกไปจากห้อง
ฟรานเหลือบมองขวดยาสีใสที่ตอนนี้หมดเกลี้ยงไม่เหลือสักเม็ด ก่อนจะถอนหายใจและเดินออกจากห้องไป ไอ้รุ่นพี่บ้านั่น..เป็นขนาดนั้นเลย? อกหักรักคุดอะไรหนักหนาฟะ ตูล่ะหน่าย...=__=;;;;…ฟรานตะโกนด่าในใจก่อนจะเดินกลับห้องตัวเองไป
ทางด้านเบลที่ปวดหัวหนักก็ผล็อยหลับไปในไม่ช้า ก่อนจะได้เจอใครบางคนที่ห่างไกล..ถึงแม้มันจะเป็น...โลกแห่งความฝันก็ตาม...
ไง..กินยาเข้าไปขนาดนั้นจะฆ่าตัวตายตามฉันรึไง..^O^
ร่างสูงไม่ว่าอะไร แต่รีบคว้าร่างบางมาโอบกอดไว้อย่างโหยหา...คิดถึงเหลือเกิน...เธอไปอยู่ที่ไหนมา..ฉันเหงาแทบแย่...คำทุกคำที่อยู่ภายในจิตใจได้หลั่งไหลออกมามากมาย และร่างบางก็รับรู้ถึงมันได้ แม้มันจะไม่ได้สื่อออกมาเป็นคำพูดก็ตาม...
‘เจ้าชายคิดถึงมาม่อนที่สุดเลย มาม่อนชอบแกล้งเจ้าชายอยู่เรื่อย ชิชิชิ’ เบลพูดและกระชับอ้อมกอดแน่น ราวกับหากปล่อยไป ร่างบางตรงหน้าจะต้องหายไป เช่นเดียวกับมาม่อนที่กอดตอบเช่นกัน
ฉันไม่ได้แกล้งนายสักหน่อย..อีกอย่างฉันก็มาหานายแล้วนี่ไง...
แต่ว่า...คงอยู่ด้วยนานไม่ได้หรอกนะ..
ร่างบางพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆแต่แฝงไปด้วยความเจ็บปวด ผิดกับร่างสูงที่กลับกระตุกยิ้มก่อนจะคลายอ้อมกอดนั้นออก และค่อยๆประทับริมฝีปากกับร่างบางเบาๆ
‘แค่นี้ก็พอแล้ว’
….
‘Ti….’ เบลกำลังจะพูดคำว่าติเอโม แต่มาม่อนเอาส่ายหน้าและเอานิ้วจุปากเบลไว้
ขอบใจนะ...แต่ฉันคงรับคำนั้นของนายไว้ไม่ได้หรอก....
สำหรับพวกเราในตอนนี้คงได้แค่คำว่า…Addio
Addio Belphegor….(ลาก่อน เบลเฟกอล)
ร่างบางเรียกชื่อของฝ่ายตรงข้ามอย่างห่างเหินก่อนจะค่อยๆสลายตัวและกำลังจะหายไปอย่างช้าๆ ร่างสูงเอื้อมมือออกมาหมายจะคว้าเธอไว้ แต่ไม่ทัน..เพราะเธอหายไปเสียแล้ว
หายไป..ตลอดกาล
“มา..มาม่อน เฮือก!!!!” ร่างสูงสะดุ้งตื่นและลุกพรวดขึ้นมา ก็พบว่าผ้าชุบน้ำที่ถูกวางบนหน้าผากได้หล่นลงมาใส่มือ ทุกคนในวาเรียยกเว้นแซนซัสยืนอยู่รอบตัวเบล ก่อนจะถามอาการ
“เบลจัง เป็นยังไงบ้างจ๊ะ” ลุซซูเรีย
“ลุซ? เจ้าชายเป็นอะไร..”
“เบลจังไข้สูงมากนะจ๊ะ ดูสิกินยาแก้ปวดจนรับผลข้างเคียงเลยนะ” กระเทยสาว(ถึก)แห่งวาเรียพูดพลางหยิบขวดยาสีใสออกมาให้เบลดู
ทุกคนก็ยังซักถามอาการของเบลอย่างเป็นห่วง ส่วนเจ้าตัวเหรอ..ฟังซะที่ไหนกัน เขามัวแต่คิดถึงเรื่องเมื่อกี้จนไม่ได้ยินเสียงรอบข้างแล้ว
งั้นเหรอ...เมื่อกี้ก็แค่ฝันสินะ...
แม้แต่ในฝัน...เธอก็ยังพูดว่าลาก่อน..และหนีฉันไปอีกเป็นครั้งที่สอง...
‘Ti amo’
เธอจะช่วย..ฟังคำนี้หน่อยไม่ได้หรือไงนะ...
ความคิดเห็น