ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Island crazy เกาะสุดร้าย นายน่ารัก !

    ลำดับตอนที่ #2 : [๐๑] ยินดีต้อนรับสู่เกาะ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 507
      1
      29 ต.ค. 55

    บทที่หนึ่ง







     


            ฉันค่อยๆลืมขึ้นมาพร้อมร่างกายที่เจ็บปวดระบมไปทั่วตัว ตอนนี้ยังมึนๆอยู่เลยว่าเกิดอะไรขึ้น รู้สึกตัวเหนียว เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว เหมือนเมื่อวานถูกเหล็กสิบตันทับ อีกอย่างหนึ่งและฉันจะไม่ตกใจเลยเมื่อลืมตาขึ้นมาแล้วไม่พบกับห้องที่ไม่ใช่ห้องของฉัน !!

              "อะไรเนี่ย"

            ฉันพูดบา ๆ พร้อมขยี้ขี้ตาอย่างงัวเงีย และเปิดม่านดูสภาพแวดล้อมที่ตั้งของบ้านหลังนี้ แต่ก็พบกับสิ่งที่ไม่ได้พบบ่อยนักในหมู่นักสำรวจ

            แสงอาทิตย์เจิดจ้าสว่าง ท้องทะเลสีครามตระการตา หาดทรายสีสวยที่เหมือนมีกากเพชรประดับ นกนางนวลบินร่อนไปมา วินาทีนึงภาพวาดที่เคยคุ้นตาในสมัยอนุบาลผุดขึ้นมาจากหัว มันเหมือนฝันที่ฉันกำลังวาด

             "พี่พนา"

            ชื่อๆหนึ่งแว๊บเข้ามาในหัว และเป็นชื่อของพี่ชายฉัน เมมโมรี่ความจำย้อนไปยังเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นวันที่เธอออกสำรวจเกาะกับพี่ชาย ..

            "พายอยู่นี่แหละ จะไปกับพี่ทำไม เดี๋ยวพี่ก็กลับมาแล้ว"

            'พี่พนา' ลูบหัวฉันอย่างเกรงๆ ถ้าฉันจะไปก็เหมือนกับฉันไปเป็นตัวยุ่งสินะ

              "บอกมาได้ว่าเดี๋ยวก็กลับ เดี๋ยวก็กลับ ไปสำรวจป่าคราวกก่อนตั้ง 3-4 วัน เดี๋ยวก็กลับ เชอะ !"

            ฉันผลักพี่ชายเบาๆ พร้อมยืนเท้าสะเอว

              "ก็นี่มันงานสำคัญจริงนี่นา"

              "แล้วไง ! ทำไมพายจะไปไม่ได้ล่ะ"

              "เถอะน่า ..เดี๋ยวพี่เอา .." พี่ชายไม่ทันพูดจบ

              "ไม่ !"

              "พาย อย่าทำตัวงี่เง่าสิ .."

              "ไม่ !"

              "อ่ะ ..เอ่อ ก็ได้"

              "เยส !!"

            เมื่อได้ยินคำนั้น ฉันกระโดดขึ้นไปนั่งบนเครื่องบินลำเล็กอย่างรวดเร็วก่อนที่พี่ชายจะเปลี่ยนใจ การไปสำรวจเกาะแสนสนุกครั้งที่ 5 จะเริ่มขึ้นแล้ว

              "แกว้ก"

            กาลิเลโอ นกฮูกของพี่พนาร้องทักทาย ก่อนจะบินมาเกาะที่ไหล่ข้างซ้ายของฉัน มันมีอายุเพียง 1 ปี 2 เดือน เท่านั้น  แต่มันบินได้นานแบบไม่เหนื่อย พี่พนาใช้มันส่งจดหมายบ่อยๆ

              "หวัดดีกาลิเลโอ รู้มั้ยฉันจะได้ไปสำรวจเกาะกับแกด้วยแหละ"

              "แกว้ก"

            มันแสดงความดีใจ ตาสีทองของมันแสดงกิริยาได้เด่นและเห็นได้ชัดเจน ไม่ว่าจะเศร้าหรือเสียใจแววตาของมันจะบ่งบอกเรื่องราวทั้งหมด ..

            ขณะนี้เที่ยวบินที่จะไปสำรวจเกาะที่แฟซิฟิกใต้ 960 องศา เหนือ ได้ออกในเวลา 8.15 น. ฉันมองเห็นหมู่บ้านของสหรัฐ ผู้คนผิวคล้ำโบกมือให้พวกเรา ฉันรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ออกสำรวจครั้งนี้ แน่นอน พี่ชายของฉันเป็นนักวิทยาศาสตร์ เขาวิจัยเรื่องเกี่ยวกับพฤษาศาสตร์ ชื่อของเขาจึงชื่อ 'พนา' ผู้เป็นแม่ตั้งให้เขา ส่วนชื่อฉันน่ะหรอ ฉันชื่อ 'พาย' ดูเผินๆอาจเหมือนกับชื่อขนม แต่ความเป็นจริงแล้ว ชื่อนี้ย่อมาจาก 'พระพาย' ซึ่งหมายถึง สายลม พ่อของฉันตั้งให้ ก่อนทั้งสองจะจากไปในขณะที่ฉันอยู่มหาลัยปี 2 และพี่พนาจบปริญญาเอก

            และตอนนี้ฉันจบปริญญาโทในสาขาวิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม และขณะนี้ ฉันมีอาชีพเป็นเลขานุการนักวิทยาศาสตร์ หรือพี่ชายฉันเองแหละ แต่ฉันไม่ได้ไปสำรวจสภาพแวดล้อมของเกาะกับพี่ชายบ่อยนัก พี่พนาเป็นนักเดินป่า หากได้ไปอยู่เกาะไหนแล้วรับรอง อย่างน้อย 3 วัน บางครั้งประทับใจมากอยู่เป็นสัปดาห์เลยก็มี

            17.12 น.

            เครื่องบินยังคงบินเพื่อหาเกาะที่ต้องการสำรวจ แต่สิ่งที่พบมีเพียงมหาสมุทรและความว่างเปล่า พระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าแล้ว คิดว่าคงต้องเสียเที่ยวแล้วล่ะ

              "เอ๊ะ ! นั่นมัน"

            พี่ชายของฉันลุกขึ้นมาจากที่นั่งพร้อมชะเง้อหัวออกไปข้างหน้าต่าง ฉันคิดว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นเป็นแน่

              "มรสุม ทางเหนือ !"

            พี่ชายฉันตะโกน ให้คนขับเครื่องบินได้รับรู้ แต่เหตุเพียงว่า คนขับนั้นหูตึง แต่ดวงตาเขายังรับรู้ถึงอันตรายข้างหน้า ในขณะที่เครื่องบินยังคงบินไปเรื่อยเขาหันหางเสือเครื่องไปยังทางใต้ แต่ไม่ประสบผล เครื่องบินกลับหมุนเอนเข้าเหมือนมรสุมนั้นดูดกลืนพวกเราไปหามัน ฝนตกกระหน่ำไม่ขาดสาย ฉันใช้แจ็คเก็ตคลุมตัวและกาลิเลโอ ในขณะที่พี่ชายฉันไปยังห้องคนขับ เพื่อพยายามจะบังคับทิศทาง

              "เราจะร่อนลงตรงเกาะนู้น"

              "อะไรนะ" คนขับหูตึงถามเสียงหลง

              "ผมบอกว่า ! ..ผมจะร่อนลงตรงเกาะตรงนู้น !!"

            พูดจบพี่พนาก็เอนพวงมาลัยไปทางซ้ายเพื่อร่อนลง ฉันหลับตาสนิทคิดซะว่าเที่ยวบินเที่ยวนี้ถือเป็นประสบการณ์ละกัน

            ... ฉันจำได้แค่นั้นแหละ หลังจากนั้นก็จำอะไรไม่ได้แล้ว ฉันเกาหัวตัวเองหยิกๆ เหมือนกับการกระทำเช่นนั้นจะรื้อฟื้นความทรงจำได้ แต่ไม่มีผล ฉันมองรอบสภาพห้อง คงจะเป็นส่วนหนึ่งในบ้านของใครซักคน

            กรุ๊งกริ๊งๆ ฉันเดินผ่านประตูหอยที่เป็นเส้นด้ายยาวลงมาและห้อยด้วยหอยนานาชนิด นี่คงจะเป็นห้องรับแขกสินะ มีโซฟาเก่าๆหนึ่งตัว โต๊ะยาวที่สานจากไม่ไผ่แห้ง  ชั้นหนังสือ และกล่องอะไรก็ไม่รู้อีกมากมาย รูปปลาแขวนผนัง กับหอย และปลาดาวที่ติดตามผนังและชื่อของมัน ฉันรู้สึกได้ถึงลมเย็นๆและอากาศสดชื่นของทะเล

              "สวัสดี"

            ชายร่างสูงปริศนา ผิวขาวนวล กล่าวทักทาย พร้อมยกถาดอาหารออกมาจากประตูหอยอีกห้องหนึ่ง ซึ่งฉันแน่ใจว่าน่าจะเป็นห้องครัว

              "นายเป็นใคร ?"

            ฉันถามด้วยความสงสัย ดูจากหน้าตาไม่เหมือนกับชาวเกาะเอาซะเลย ผิวที่ขาวนวลกระจ่างใส หน้าแบบนั้นน่ะนะ น่าจะเป็นคนธรรมดาที่หลบชีวิตวุ่นวายในเมืองมาใช้ชีวิตที่เงียบสงบในเกาะมากกว่า

              "ฉันชื่อ สายชล"

            เขาตอบหน้าตาย พร้อมวางถาดอาหารบนโต๊ะ ก่อนที่จะเดินเข้าในครัว

              "เฮ้นี่ ! จะไปไหนน่ะ"

            ฉันเดินตามเขาเข้าไป ผ่านประตูหอยและพบว่าในห้องๆนั้นนอกจากเป็นห้องครัวแล้ว ยังเหมือนกับห้องเพาะเลี้ยงพืช ซึ่งมีแต่ต้นกล้าวางเต็มไปหมด ที่เด็ดกว่านั้นก็คือ มีต้นไม้ใหญ่กลางห้อง ซึ่งใหญ่และยาวเกินหลังคาของห้องนี้จนต้องเจาะหลังคาเป็นรูเพื่อให้ต้นไม้ต้นนี้ยาวออกไป หลังคาของห้องนี้ เป็นกระจกใส ถึงแม้มันจะไม่ใสเพราะกาลเวลาเปลี่ยนไปบ้าง

              "นายอยู่คนเดียวหรอ ?"

            ฉันถามเขาขณะที่เขากำลังรดน้ำต้นกล้าทั้งหลายในกระถาง

              "เปล่า"

            เขาตอบหน้าตาย

              "แล้วพี่ชายของฉันล่ะ ?"

              "ใครล่ะ คนขับเครื่องบินมีอยู่สองคน คนแรกเป็นศพ 
    ฉันเอาเขามาพักฟื้นก่อนจะขาดใจตายเพราะเสียเลือด ฝังอยู่หลังบ้าน  คนที่สอง มีโดนเหล็กบาด นอนอยู่ในห้อง ยังดีที่พี่ฉันรักษาบาดแผลให้แล้ว"


              "ห้องไหน !!"

              "ห้องถัดไป ซ้ายมือ"

            ฉันรีบวิ่งเพื่อไปดูว่าเป็นใครที่นอนอยู่บนเตียง ..พี่ชายของฉัน หรือคนขับเครื่องบินงี่เง่ากันแน่

              "พี่พนา !!"

            ในห้องมีพี่ชายของฉันนั่งอยู่บนเตียง มีผ้าพันแผลพันระหว่างไหล่กับอก และมีผู้หญิงผมสีดำกำลังป้อนข้าวต้มพี่ชายฉัน ซึ่งมันดูเหมือนพี่ชายของฉันจะไว้ใจเธอมาขนาดยอมให้ป้อนข้าวป้อนน้ำโดยไม่เอ่ยปากซักแอะ

              "พาย"

            พี่พนาเรียกฉัน

              "เธอเป็นใคร ?"

            ฉันถามด้วยความงงงวย

              "นภา เพื่อนสมัยเรียนมัธยมของพี่เอง พี่ไม่คิดว่าเธอจะอยู่ที่นี่"

            พี่ชายฉันตอบ ถ้าเรื่องมันจะบังเอิญขนาดนี้ ฉันมองร่างสาวที่พี่ชายฉันเรียกว่า 'นภา' หน้าตาเธอสวยกว่าฉันเป็นไหน ๆ เป็นเรื่องปกติ เพียงแต่ขาข้างซ้ายของเธอเป็นเพียงท่อนไม้เท่านั้นเอง

              "ยินดีต้อนรับสู่เกาะของเรา"

            กรุ๊งกริ๊ง สายชลพูดก่อนที่จะเปิดม่านประตูหอยเข้ามาในห้อง พร้อมทำหน้าตายอย่างที่เคยเห็น เรื่องของฉันเหมือนกับนิยายบ้าๆบอๆที่ฉันเคยอ่านเรื่องหนึ่ง แต่ทำไงได้ล่ะ ก็นี่มันเรื่องจริงนี้ !!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×