ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศัตรูที่รัก เฮอร์ไมโอนี่ + มัลฟอย ภาค 2

    ลำดับตอนที่ #1 : การเริ่มต้นของเรื่องราว

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.74K
      93
      24 พ.ค. 47

    ตอนที่ 1  การเริ่มต้นของเรื่องราว

        หลังจากวันหยุดยาวในช่วงคริสต์มาสจบสิ้นลงไป  นักเรียนที่กลับบ้านไปก็เริ่มทยอยกันมาที่โรงเรียน  ทำให้ฮอกวอตศ์ดูคึกคักขึ้นอีกครั้งหนึ่ง  และเหมือนกับว่าหลังจากเหตุการณ์วันคริสต์มาสที่เพิ่งผ่านไป  มันได้เปลี่ยนแปลงอะไรหลาย ๆ อย่างในชีวิตของ  เฮอร์ไมโอนี่  เกรนเจอร์  เด็กสาวผมสีน้ำตาลฟูฟ่องจากบ้านกริฟฟินดอร์  และ  เดรโก  มัลฟอย  เด็กชายผมบลอนด์  ผิวซีด  จากบ้านสลิธีรินไปโดยสิ้นเชิง

    “ฉันล่ะเบื่อจริง ๆ เลย  ทำไมวันหยุดถึงสั้นนักนะ”  รอนบ่น  ตอนนี้พวก  แฮร์รี่  และเฮอร์ไมโอนี่  อยู่ในห้องโถง  กำลังทานอาหารเช้าอยู่

    “เธอจะบ่นเรื่องควิดดิชอีกล่ะสิ  รอน” เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยเสียงดุ  เธอกำลังนั่งอ่านเดลี่พรอเฟ็ตอยู่  

    “ก็ฉันเบื่อนี่  ที่เราต้องซ้อมควิดดิชจนแทบจะ…..”  รอนกำลังตั้งหน้าตั้งตาเถียง  แต่เขากลับถูกขัดจังหวะด้วยเสียงอุทานของเฮอร์ไมโอนี่

    “ตายแล้ว  ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย!!!” เฮอร์ไมโอนี่ร้องออกมา  ตามองหนังสือพิมพ์อย่างใจจดใจจ่อ

    “นี่เธอยังไม่เลิกรับอีกเหรอ  เดลี่พรอเฟ็ตน่ะขยะดี ๆ เลยนะ”  รอนพูดต่ออย่างไม่ใส่ใจ

    “พวกเธอลองอ่านนี่สิ” เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างร้อนรน  และเอาหนังสือพิมพ์ยื่นให้พวกเขา  ซึ่งพาดหัวว่า

    ‘ แหกคุกหมู่จากอัซคาบัน ’ ( เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเล่ม 5  )

    รายละเอียดของข่าวก็บรรยายที่ไว้เกี่ยวกับการแหกคุกหมู่ของพวกผู้เสพความตายจำนวนสิบคน  โดยที่ทางกระทรวงเวทย์มนตร์เชื่อว่าเป็นฝีมือของแบล็ก  ที่ช่วยเหลือพวกนักโทษเหล่านั้นออกมา

    “พวกกระทรวงนี่ยังงี่เง่าเหมือนเดิมเลย”  รอนบ่นหลังจากอ่านข่าวจนจบและโยน ‘ เดลี่พรอเฟ็ต ’  ลงบนโต๊ะอาหาร “พวกเขาคิดว่าซีเรียสเป็นคนทำ  ปัญญาอ่อนสิ้นดี”  รอนพูดต่อจนจบและหันไปจัดการกับอาหาร

    “ฉันว่าต้องเป็นฝีมือของโวลเดอร์มอร์”  แฮร์รี่พูดเสียงเรียบ  แต่รอนถึงกับสะอึกจนขนมปังเกือบติดคอ

    “แล้วพวกที่กระทรวงทำงานกันยังไง  ฉันหมายถึงพวกเขาไม่น่าปล่อยให้มันเกิดขึ้น” เฮอร์ไมโอนี่พูดสีหน้าร้อนรน

    “แต่เธอก็รู้ว่าโวลเดอร์มอร์กลับมาแล้ว” ( รอนสะอึกอีกครั้งหนึ่ง )  “และเขาก็ต้องการรวบรวมพรรคพวกของเขาให้ได้มากที่สุด”  แฮร์รี่พูด  เอาส้อมจิ้มเบคอน

    “เพื่อจะได้กลับมาเป็นจ้าวแห่งศาสตร์มืดอีกครั้ง” เฮอร์ไมโอนี่พูดตามองไปที่แฮร์รี่

    “และทันทีที่เขากลับมามีอำนาจดังเดิม  เขาก็จะ”  รอนพูดอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ  ทั้งเฮอร์ไมโอนี่และรอนมองตากัน

    “ส่งคนมาตามล่าฉัน  แล้วก็ฆ่าฉันซะ”  แฮร์รี่พูดขึ้นเรียบ ๆ ดูท่าทีไม่ทุกข์ร้อน

    “ฉันรู้มาตั้งแต่ปีก่อนแล้วว่าเขาจะทำอย่างนี้  รู้ตั้งแต่เขากลับมาแล้ว”  แฮร์รี่เอ่ย  ราวกับว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่สมควรใส่ใจแต่อย่างใด

    “แฮร์รี่  เธอ…”  เฮอร์ไมโอนี่พูดอย่างลังเล  แต่แฮร์รี่ไม่ให้โอกาสเธอพูดจนจบ

    “ไม่เป็นไรหรอกเฮอร์ไมโอนี่  ฉันว่าฉันคงมีชีวิตได้ยาวนานตราบเท่าที่ดัมเบิลดอร์อยู่ที่นี่น่ะแหละ”  แฮร์รี่พูดราวกับว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาพอ ๆ กับการได้ ‘ ล ’ ในการบ้านวิชาปรุงยาของเสนป

    “ถึงยังไงเธอก็ต้องระวังตัวนะแฮร์รี่” เฮอร์ไมโอนี่พูดน้ำเสียงเป็นห่วง

    “อืม  ขอบใจนะเฮอร์ไมโอนี่”  แฮร์รี่กล่าวพลางส่งยิ้มน้อย ๆ ให้เธอ

    ไม่ทันที่ทั้งสามจะลุกจากโต๊ะอาหาร  เสียง ๆ หนึ่งก็ดังขึ้นข้างหลังพวกเขา

    “พอตเตอร์  วีสลีย์”  ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากแองเจลิน่าหรอก  และเมื่อรอนได้ยินเสียงเธอเขาก็ถึงกับสะดุ้งขึ้นเป็นครั้งที่สาม  พร้อม ๆ กับฝาแฝดเฟร็ดกับจอร์จ  พี่ชายของเขา

    “ซ้อมควิดดิช”  ทั้งหมดพึมพำพร้อมกัน ( รวมทั้งแฮรี่ด้วย )

    “ดี  งั้นฉันจะลงไปรอที่สนามนะ  พวกนายต้องลงมาก่อน 9 โมง เข้าใจมั้ย”  แองเจลิน่าพูดอย่างรวดเร็ว  และไม่ทันที่จะมีใครได้ตอบอะไร  เธอก็หมุนตัวและเดินออกจากห้องโถงโดยที่มีเคตี้และอลิเซีย  เดินตามไปติด  ๆ

    “จะมีวันไหนที่หล่อนทักฉันอย่างอื่นบ้างไหมนะ”  รอนบ่นอุบ  พยายามยัดขนมปังครัมเบ็ตลงในกระเป๋าอย่างยากเย็น  “วันอาทิตย์แท้ ๆ ”

    “โถ่  รอนอย่าบ่นไปเลยน่า  ฉันว่ามันน่าสนุกออก”  เฮอร์ไมโอนี่พูดให้กำลังใจเขา  แต่มันดูเหมือนว่าจะได้ผลเป็นตรงกันข้าม

    “ฉันว่าพวกเราไปกันดีกว่า  นายคงนึกหน้าของแองเจลิน่าออกใช่มั้ยถ้าเราไปสายน่ะ”  แฮร์รี่เตือน  ส่วนรอนทำท่าขนลุก

    “แล้วเธอล่ะ  เฮอร์ไมโอนี่  เธอจะไปอยู่ไหน”  แฮร์รี่ถาม  เขาเพิ่งดื่มน้ำฟักทองไปอึกใหญ่

    “ฉันกะว่าจะไป…”  เฮอร์ไมโอนี่ทำท่าครุ่นคิด  ตอนแรกเธอคิดว่าจะไปห้องสมุด  แต่พอคิดไปคิดมา

    “ฉันจะไปดูพวกเธอซ้อม” เฮอร์ไมโอนี่พูดออกมาในที่สุด

    “เธอเนี่ยนะ  ฉันนึกว่าเธอจะไปห้องสมุด  หรืออยู่อ่านหนังสือที่ห้องนั่งเล่นรวมซะอีก”  รอนพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อ

    “ฉันก็  เอาหนังสือไปอ่านด้วยก็ได้นี่” เฮอร์ไมโอนี่พูดพร้อมยิ้มกว้าง

    “ไปกันเถอะ”  เธอเดินนำพวกทั้งสองออกจากห้องโถงไป

    “นายว่าหมู่นี้เฮอร์ไมโอนี่อารมณ์ดีเกินเหตุไปไหม  เมื่อวันยังไม่เป็นอย่างนี้เลย”  รอนพูดกับแฮร์รี่

    ใช่  อย่างที่รอนคิดน่ะถูกแล้วเฮอร์ไมโอนี่อารมณ์ดีขึ้นแน่  ก็เธอกำลังมีความรักนี่  เธอกำลังรักอยู่กับ เดรโก  มัลฟอย  ผู้ชายที่เธอคิดว่าชาตินี้จะไม่มีวันญาติดีด้วย  แต่เธอกลับมารักเค้าซะอย่างนั้น  แต่อย่างว่าแหละนะ  หัวใจคนเรานี่มันห้ามยาก  เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเฮอร์ไมโอนี่คิดถึงแต่เขามาตลอด  ตั้งแต่ที่เขาทั้งสองเป็นศัตรูกัน  จนมารักกันในวันนี้  แต่เธอจะรู้ไหมนะว่าเธอกำลังจะได้เจอหน้าคนที่เธอกำลังคิดถึงอยู่  ในแค่ไม่กี่นาทีข้างหน้า

    เมื่อทั้งสามเดินเข้ามาในสนามควิดดิช  พวกเขาก็แปลกใจตรงที่ว่าในสนามนั้นไม่ได้มีเพียงแค่ทีมควิดดิชกริฟฟินดอร์ที่สวมเสื้อคลุมสีแดง  แต่มีอีกกลุ่มที่สวมเสื้อคลุมสีเขียว  จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพวกสลิธีริน

    “ฉันว่าเรามีปัญหาแล้วล่ะ”  แฮร์รี่บอกเพื่อนทั้งสอง  พวกเขารีบวิ่งไปที่สนามทันที  ซึ่งภาพที่พวกเขาเห็นก็คือ  แองเจลิน่ากำลังพูดอะไรสักอย่างกับกัปตันทีมสลิธีริน  สีหน้าตึงเครียด

    “เฮ้  มีอะไรเกิดขึ้นน่ะ”  รอนถามเฟร็ดและจอร์จที่มาถึงก่อนเขา

    “ก็พวกสลิธีรินน่ะสิ  มาอ้างว่าจะใช้สนามสำหรับฝึกซ้อมวันนี้  ทั้ง ๆ ที่แองเจลิน่าจองสนามนี้มาก่อนตั้งเดือนนึง”  เฟร็ดอธิบาย  ส่วนแองเจลิน่าเริ่มขึ้นเสียงกับอีกฝ่าย  เห็นได้ชัดว่าอารมณ์เสีย

    “ทำอย่างนี้มันเกินไปแล้วนะ”  รอนพูด  หน้าเริ่มแดง

    “แต่พวกเขามีใบอนุญาติจากเสนป  เขาอ้างว่าทีมเขามีเวลาซ้อมไม่พอ”  จอร์จเสริมอย่างไม่สบอารมณ์เช่นเดียวกับรอน  ส่วนเฮอร์ไมโอนี่หันไปดูทางแองเจลิน่า  และเขาก็เห็นมัลฟอยที่ยิ้มให้เธออย่างกวน ๆ

    “ฉันคิดว่าฉันมีสิทธ์ที่จะซ้อมในสนามที่ฉันเป็นคนจองก่อน!”  แองเจลิน่าระเบิดอารมณ์ออกมาในที่สุด

    “แต่พวกเรามีใบอนุญาตินะ  อย่าลืมสิ”  อีกฝ่ายพูดอย่างมีชัย  

    “แต่ฉันเป็นคนที่จองสนามก่อน  และทีมของฉันก็สมควรจะได้เล่น”  แองเจลิน่าพูดอย่างหัวเสีย

    “ถ้าพวกนายต้องการสนามสำหรับซ้อมล่ะก็  ฉันขอแนะนำนะว่าให้ไปจองเสียตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่ใช่เอาแต่อาศัยอภิสิทธิ์จากใบอนุญาติของอาจารย์ประจำบ้าน!!!”  เธอตะโกนเสียงดังลั่น  และเมื่อแองเจลิน่าพูดจบก็มีเสียงสนับสนุนจากฝ่ายกริฟฟินดอร์

    “ดี”  กัปตันทีมสลิธีรินตอบยิ้ม ๆ “งั้นฉันก็จะไปรายงานอาจารย์ว่าทีมของเธอไม่ให้ความร่วมมือ”

    “ดูซิว่าคะแนนบ้านของพวกนายจะเป็นไง”  พอเขาพูดจบก็มองมาทางพวกแฮร์รี่อย่างเหยียด ๆ  และไม่ต้องสงสัยเลยว่าถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูเสนปล่ะก็  เขาจะต้องหาโอกาสหักคะแนนบ้านกริฟฟินดอร์มากแค่ไหน

    แต่ก่อนที่พวกสลิธีรินจะเดินกลับไปที่ปราสาท  ก็มีเสียง ๆ นึงเรียกพวกเขาไว้

    “เดี๋ยวก่อน”  เฮอร์ไมโอนี่นั่นเอง  เธอตะโกนออกมาจนทุกคนในสนามมองเธอเป็นตาเดียวกัน

    “ฉันว่าพวกเราน่าจะซ้อมด้วยกันได้นะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้นมานั่นทำเอาหลายคนอึ้งไปกับคำพูดของเธอ

    “เธอจะบ้าเหรอเฮอร์ไมโอนี่  ให้ฉันซ้อมกะไอ้พวกนี้เนี่ยนะ”  รอนร้องออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ  แต่เฮอร์ไมโอนี่ส่งสายตาที่หมายความว่า ‘ เธอเงียบก่อนได้ไหม  รอน ’ ไปให้เขา

    “เอ่อ  ฉันหมายถึงว่าพวกเราเป็นคนจองสนามก่อน  และมันก็ไม่ยุติธรรมที่พวกเราจะไม่ได้ซ้อม” เฮอร์ไมโอนี่พูด  เธอก้าวขึ้นมายืนข้าง ๆ แองเจลิน่า    

    “ดังนั้นก็ไม่สมควรที่เราจะต้องหลีกทางให้พวกนายเมื่อ  เรามาจองก่อน”  เมื่อเธอพูดจบก็มีเสียงพึมพำมาจากทีมสลิธีรินว่า  “ยุ่งไม่เข้าเรื่อง  ยัยเลือดสีโคลน”  แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่สนใจ

    “ถ้านายอยากไปฟ้องอาจารย์ประจำบ้านของพวกนายก็เชิญ”  เธอบอกอย่างไม่แคร์  “แต่อย่าลืมนะว่าไม่ใช่แค่เสนปเท่านั้นนะที่จะหักคะแนนจากบ้านต่าง ๆ ได้” เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงเรียบ  ถึงแม้ว่า ศ. มักกอนนากัลจะไม่ลำเอียงเหมือนที่เสนปทำก็ตาม  แต่เธอก็คงไม่ยอมให้ใครเอาเปรียบง่าย ๆ หรอก

    “แล้วจะเอายังไง”  กัปตันทีมสลิธีรินพูดกับเฮอร์ไมโอนี่  

    “ฉันว่าพวกเราควรซ้อมด้วยกัน  ซ้อมเหมือนกับเราแข่งกันจริง ๆ น่ะ  ทั้งสองทีมก็สามารถซ้อมได้พร้อมกัน  โดยที่ไม่มีฝ่ายไหนเสียเปรียบ” เฮอร์ไมโอนี่พูด  มองไปที่นักกีฬาควิดดิชทั้งสองทีมที่กำลังปรึกษากัน

    “เธอคิดอะไรอยู่น่ะเฮอร์ไมโอนี่  เธออยากให้ไอ้พวกนั้นมันชนฉันตกไม้กวาดก่อนวันแข่งหรือไง” รอนบ่น

    “โถ่รอน  เธออย่าลืมสิว่าเธอยังไม่เคยแข่งกับสลิธีรินเลยนะ  เธอก็จะได้ลองเล่นก่อนวันจริงไม่ดีเหรอไง”

    “ดีสิ  เธอจะให้ฉันลองเล่นไปทำไม  หรือจะให้ฉันพยายามที่จะไม่สาปไอ้มัลฟอยเป็นตัวเฟเร็ตระหว่างแข่งงั้นเหรอ”  รอนตอบอย่างประชด   เขาไม่เข้าใจว่าเฮอร์ไมโอนี่คิดอะไรอยู่ แต่ก่อนที่เธอจะได้อธิบาย

    “เอาเป็นว่า  ตกลงก็ได้”  กัปตันทีมสลิธีรินตอบ  และทั้งสองทีมก็เตรียมตัวซ้อม ( แข่งนั่นแหละ )

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×