ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    King of Lions บุรุษหัวใจราชันย์ ออนไลน์

    ลำดับตอนที่ #9 : อาหารค่ำ [100%]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.76K
      22
      20 ต.ค. 59

          ตอนที่ 9       
          อาหารค่ำ     






          วูบ!!!ฟ้าววว~ แสงทองสาดส่องแสบตายิ่งนัก ด้วยรัศมีเกือบครึ่งหนึ่งของภูเขาแซงค์ชู คล้ายกลืนกินโจรป่ากว่าสามสิบคนและผองเพื่อนชายหนุ่มไว้ภายใน หากไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุคงเข้าใจว่าสุดยอดจอมเวทแห่งแสงสว่างกำลังต่อสู้อยู่กับสุดยอดมารร้ายอย่างดุเดือดปานนั้น     
         
           มนุษย์ร่างทองกว่ายี่สิบสายพรั่งพรูออกจากร่างกายเวียร์ขณะหมุนคว้างกลางอากาศ ความเร็วในการเคลื่อนที่สุดจะวัดได้ ในมือเหล่ามัจจุราชทองปรากฏมีดสั้นสีทองฟาดฟันแทงศัตรูผู้มุ่งร้ายทุกทิศทาง ไม่มีเสียงร้องของความเจ็บปวด ไม่มีเสียงครวญแสนทรมาน ไม่อาจหยุดยั้งและไม่อาจรอดพ้น! เมื่อเท้าชายหนุ่มแตะถึงพื้นหญ้า แสงทองอันเจิดจรัสก็หายไป     
         
           คีย์และริซ่าสัมผัสได้ถึงความร้อนที่พลันบังเกิดขึ้นเท่าทวีและสูญสลายไปอย่างรวดเร็วเพียงช่วงกระพริบตา สองสาวนิ่งอึ้งไม่กล่าววาจาใด      
         
    ???     
         
           เวียร์แสดงตัวอยู่ตรงหน้าทว่ารอบกายผู้เล่นทั้งสามกลับเกลื่อนไปด้วยศพคนชุดดำ รองหัวหน้าโจรป่าซึ่งไม่ได้ร่วมโจมตีด้วยเห็นดังนั้นถึงกับเหงื่อแตกดุจสายฝน     
         
    "...ปะเป็นไปไม่ได้" มีดสั้นในมือหล่นลง สองเข่าทรุดลงมองดูสภาพที่เกิดขึ้นอย่างไม่เชื่อสายตา "เจ้า-"     
         
    "คุณควรกลับใจแล้วเริ่มต้นวิถีชีวิตใหม่ อย่าเป็นโจรอีกเลยนะครับ" ชายหนุ่มพูดอย่างสุภาพกับรองหัวหน้าโจรป่า จากที่เวียร์เรียนรู้ด้วยการสังเกต คาดว่าระบบสมองเทียมหรือเอไอภายในเกมคงสามารถวิเคราะห์และสังเคราะห์ประโยคคำพูดขึ้นใหม่อย่างชาญฉลาด ครั้งนี้จึงอยากเห็นว่ามอนสเตอร์โจรป่าจะตัดสินใจอย่างไร     
         
    "ฮ่าฮ่าฮ่า!" รองหัวหน้าโจรป่าหัวเราะเสียงดัง สองมือแกะผ้าโพกศีรษะสีเลือดออก "เจ้าหนุ่มจงมารับไป นี่เป็นลายแทงที่ซ่อนไอเทมทั้งหมดของพวกข้าที่ปล้นมาได้ ถือว่าเป็นรางวัล"     
         
           เวียร์ลังเลใจครู่หนึ่งก่อนจะเดินเข้าไปรับผ้าสีเลือดจากมือโจรป่า ชายหนุ่มก้มศีรษะเล็กน้อยนัยว่าขอบคุณ     
         
    "เมื่อผมพบที่ซ่อนและทราบว่าเจ้าของไอเทมเหล่านั้นเป็นใคร ผมจะนำไปคืนเขาเองครับ" ชายหนุ่มยิ้มให้กับรองหัวหน้าโจรป่า 'จู่ๆก็ให้ขุมทรัพย์ หรือเขาเรียกว่าโจรกลับใจ?' แล้วหันมาส่งอีกยิ้มให้สาวน้อยคีย์ซึ่งจ้องมองเขาด้วยความกิมกี่คาใจ     
         
    "โง่นัก ตายซะ!" รองหัวหน้าโจรป่าพลันแว้งกัดชายหนุ่มขณะหันหลัง มีดสั้นในมือวาววับฟันใส่แผ่นหลังของเวียร์เต็มแรง     
         
    !!!     
         
    "พี่เวียร์อันตราย!" คีย์อุทานตกใจ แต่ก็สายไปเสียแล้ว เลือดแดงสาดกระจายออก กลิ่นคาวตลบอบอวน สาวน้อยยกมือปิดปากอย่างลืมตัว ส่วนริซ่าต้องฉงนเป็นหนที่สอง 'มะ..เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?'     
         
    ???     
         
           เวียร์ยังคงยืนอยู่เช่นเดิม แต่ร่างรองหัวหน้าโจรป่ากลับขาดออกจากกันแยกเป็นสองส่วน ตั้งแต่บริเวณกระดูกไหปลาร้าด้านขวาตัดไปยังท้องน้อยด้านซ้าย สิ้นชีวาทันที     
         
           ชายหนุ่มถอนหายใจ     
         
    "เฮ้อ~ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงบทบาทที่ได้รับมาสินะ" เขาพึมพำกับตัวเอง "อ๊ะ! คีย์ ริซ่า เป็นยังไงบ้าง บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ"     
         
           คีย์จ้องมองเวียร์อย่างไม่เชื่อสายตา โพล่งออกมาด้วยความทึ่ง     
         
    "สะสุดยอด พี่เวียร์สุดยอดไปเลย! นี่มันเพลงดาบหรือวิชาอะไรกันคะ!" สาวน้อยชักอยากรู้ หากเวียร์ไม่ใช่ผู้เล่นขั้นเทพ ก็ต้องเป็นสุดยอดจอมยุทธลึกลับผู้เก็บงำความเก่งกาจไว้ภายใน หนึ่งคนสามารถสังหารเหล่าโจรป่าเกือบสามสิบชีวิตแค่ช่วงกระพริบตาเป็นไปได้อย่างไร มันเวอร์เกินไปแล้ว ทว่าชายหนุ่มกลับยิ้มอย่างอายๆ     
         
    "ไม่ใช่เพลงดาบหรือยอดวิชาอะไรหรอกครับคีย์" หล่อหน้าใสอธิบาย "พี่บังเอิญพบกับคิงไลออนน่ะ"     
         
           ริซ่าทำหน้าสงสัย ส่วนคีย์ปั้นหน้างงงวย     
         
    "คือเขาเป็นสิงโตใจดีอะครับ พบกันครั้งแรกเขาเลยให้เกราะวิเศษชื่อราชสีห์ทองพิทักษ์เป็นของขวัญ ที่จริงพี่ก็ไม่รู้หรอกว่ามันมีความสามารถอะไร แถมมองไม่เห็นอีกต่างหาก-"     
         
    "แล้วพี่เวียร์รู้ได้ยังไงคะ" สาวน้อยสนใจใหญ่แต่ชายหนุ่มกลับเงียบไปครู่หนึ่ง     
         
    "เอ่อ...คือ ครั้งหนึ่งพี่ถูกมอนสเตอร์ทำร้าย แต่จู่ๆก็มีแสงสีทองปรากฏขึ้น" เวียร์ชี้ไปยังหน้าอกตัวเอง "และแสงนั่นคอยปกป้องพี่อยู่เสมอเมื่อมีอันตรายถึงตัวน่ะ"     
         
    "เป็นความสามารถของเกราะราชสีห์ทองพิทักษ์เหรอคะ!"     
         
    "แรกๆก็ไม่แน่ใจครับ แต่พอสังเกตบ่อยๆจึงรู้ว่าใช่แน่นอน ใช่ครับคีย์"     
         
    "แบบนี้พี่ก็เป็นอมตะสิ ดีเลย!" สาวน้อยยิ้มกว้าง "หากมีพี่เวียร์ร่วมทำภารกิจด้วยแบบนี้คีย์ก็ไม่ต้องกลัวพวกมอนสเตอร์อีกแล้ว เพราะพี่จะปกป้องคีย์และพี่ริซ่าใช่ไหม"     
         
    "อื่ม~ครับ" ชายหนุ่มรับคำพร้อมลูบศีรษะคีย์เบาๆ ริซ่าสัมผัสถึงควาอบอุ่นกันเองของเวียร์ที่มีต่อสาวน้อย ใจเธอก็เกิดความสุขอย่างแปลกประหลาด ชัดเจนที่สุดคือความรู้สึกปลอดภัยเมื่อชายผู้นี้อยู่ใกล้ๆ     
         
         
         
         
         
         
           สองหญิงสาวหนึ่งชายหนุ่มหาที่พัก ณ ใต้ต้นไม้ริมลำธาร ริซ่าสีหน้าดีขึ้นมากแล้ว แผลกว้างที่หัวไหล่ขวาของสาวน้อยคีย์ก็ค่อยๆหายไปด้วย เป็นเช่นนี้เพราะไลท์ที่ถูกนำมาเพิ่มพลังชีวิต ยิ่งพลังชีวิตเข้าใกล้จุดสูงสุดสภาพร่างกายก็จะกลับเป็นปกติดั่งเดิม เหลือเพียงความรู้สึกเหนื่อยเท่านั้นที่จะต้องรอระยะเวลาตามธรรมชาติ     
         
    "คีย์เพิ่งรู้ว่าพวกโจรมีมากขนาดนี้" สาวน้อยหันไปพูดกับริซ่า     
         
    "พี่ก็เพิ่งรู้เหมือนกันคีย์จัง เพื่อนๆบอกแค่ว่ามักพบบ่อยๆแต่ไม่ได้บอกจำนวนไว้ เกือบไปแล้วไหมล่ะ" หญิงสาวก้มหน้ายิ้ม "ขอบคุณนาย อ๊ะ!ไม่สิ ขอบคุณพี่เวียร์มากนะคะ ถ้าพี่ช่วยไม่ทันสงสัยต้องได้เกิดใหม่แน่ๆ"     
         
           ประโยคว่า เกิดใหม่ สะดุดความอยากรู้ของชายหนุ่ม เพราะตั้งแต่เล่นเกมมาเขายังไม่ตายสักครั้ง การตายในคิงออฟไลออนออนไลน์จะเป็นอย่างไรหนอ?     
         
    "ถ้าตายจะเป็นยังไงครับริซ่า" เวียร์เปิดประเด็นใหม่ "ผมไม่รู้เลย"     
         
    "พี่เวียร์ยังไม่เคยตายเลยเหรอ~" คีย์หันมาถามพี่หน้าใสคนซื่อ ฟังแล้วแปลกดีใครล่ะจะเคยตาย ทว่านี่เป็นโลกภายในเกมการเกิดใหม่หรือตายล้วนเป็นเรื่องธรรมดา     
         
    "ครับ" ชายหนุ่มขานรับว่าจริง     
         
    "ถ้าตายระบบจะแจ้งให้ทราบว่าเสียชีวิตแล้ว และจะถามว่าต้องการออกจากเกมหรือไม่" ริซ่าอธิบาย     
         
    "หากไม่ต้องการออกจากเกมล่ะครับ"     
         
    "สักครู่หนึ่งเราจะกลับมาเกิดใหม่ ณ ที่เคยใช้กระโจมนอนครั้งล่าสุดค่ะ" ทีนี้ริซ่ายิ้ม     
         
    "แล้วถ้าไม่เคยใช้กระโจมนอนล่ะครับ" คำถามนี้ส่งผลให้สาวน้อยคีย์กระพริบตาปริบๆ ส่วนริซ่ายังคงสำรวมอาการเป็นปกติ "อ๋อ อย่างนั้นคงเกิดใหม่ในเมืองที่ได้ไปเยือนครั้งล่าสุดมั้ง...ริซ่าก็ไม่แน่ใจนะ"     
         
    "เออ...อาจจะถามมากไปสักนิดนะครับ ไงขออีกสักข้อแล้วกัน" เวียร์ยกมือลูบท้ายทอยพร้อมยิ้มน้อยๆ น่าร๊าก! หญิงสาวถึงกับหน้าแดง "ริซ่าบอกผมว่าสักครู่หนึ่งเราจะกลับมาเกิดใหม่ หมายถึงใน-"     
         
    "เปล่าหรอกค่ะ พี่เวียร์สงสัยเรื่องเวลาใช่ไหมล่ะ" ริซ่าชิงตอบก่อน แต่ชายหนุ่มก็พยักหน้าว่าใช่ "ระบบจะให้รอเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงของโลกจริงค่ะ ซึ่งเท่ากับยี่สิบสี่ชั่วโมงภายในเกม"     
         
    "แบบนี้โอกาสคอยเพื่อนที่ตายแล้วเกิดใหม่ขณะต่อสู้กับศัตรูก็ไม่มีสิครับ"     
         
    "ค่ะ นอกเสียจากว่าสู้กันนานทั้งวันทั้งคืน" (^^)     
         
           คนทั้งสามสนทนากันอีกพักใหญ่ ต่างสำรวจพบว่าไลท์ที่เหลือเมื่อนำมารวมกันแล้วมีไม่ถึงสิบลูก จึงมีความเห็นให้กลับเมืองแฟนทาเนียเพื่อซื้อไลท์มาเพิ่มก่อน ทว่าสาวน้อยพลันนึกถึงลายแทงของพวกโจรป่า ดังนั้นจึงเสนอให้ไปสำรวจขุมทรัพย์ไอเทมก่อนดีหรือไม่ เผื่อว่าจะไม่ต้องเสียเวลาและอาจพบไลท์ถูกเก็บไว้ด้วย     
         
           ทั้งกลุ่มเห็นชอบความคิดนี้จึงออกเดินทางอีกครั้ง โดยเวียร์รับหน้าที่อ่านลายแทงบนผ้าสีเลือด สาวน้อยคีย์เดินอยู่ข้างๆและริซ่าเดินตามมาด้านหลัง ผู้เล่นทั้งสามลัดเลาะไปตามธารน้ำลึกเข้าไปในป่าที่ขนาบกับภูเขา อากาศเย็นลงรอบกายทั้งปราศจากสัมผัสของสิ่งมีชีวิต ความเงียบเข้ามาโอบล้อมจึงมีเพียงเสียงเท้าเหยียบกิ่งไม้และใบไม้แห้งตามทาง กว่าทั้งสามจะรู้ตัวแสงตะวันนั้นก็ริบหรี่ดุจแสงเทียนจักมอดม้วย ขณะนี้น่ะหรือ ภูมิทัศน์เบื้องหน้าเต็มไปด้วยหญ้ารกสูงท้วมศีรษะ แทรกด้วยต้นไม้ลักษณะพิลึกพิลั่นเหมือนในนิทานปรัมปรา พวกมันแห้งตายและกลวงเป็นโพรงชวนหัวลุก บ่งบอกได้ว่าพื้นที่บริเวณนี้น่าจะเป็นแดนปีศาจร้ายหรือไม่ก็พวกแม่มดหมอผี     
         
           ชายหนุ่มกวัดแกว่งดาบดำในมือทั้งสองข้างเพื่อเปิดเส้นทาง สองสาวเดินตามมาไม่ห่าง สาวน้อยคีย์แม้บุคลิกภายนอกกล้าหาญแต่สถานที่เช่นนี้กลับทำให้เธอหวาดหวั่นได้เหมือนกัน     
         
    "ตั้งกระโจมตรงนี้ก่อนไหม" คนนำจู่ๆก็เอ่ยขึ้นกลางคัน "ใกล้จะมืดแล้ว ปลอดภัยไว้ก่อนจะดีกว่านะครับ เดี๋ยวผมจะเดินไปสำรวจทางข้างหน้านี้อีกหน่อย ทั้งสองคนคอยผมอยู่ที่นี่นะ"     
         
           คีย์กับริซ่าเข้าใจว่าเหมาะสมจึงตอบตกลงไม่ซักถามอะไร ก่อนที่สองสาวจะกางกระโจมชาวป่าตามคำเวียร์ว่า เขาก็หันมายิ้มให้พร้อมกล่าว     
         
    "ถ้าผมกลับมาช้าไม่ต้องเป็นห่วงผมนะครับ"     
         
    "ค่ะ" หญิงสาวรับปากแม้นใจรู้สึกยังไงชอบกล แต่เอาเถอะพี่เวียร์อาจต้องการเวลาเป็นส่วนตัวบ้างก็ได้ "ระวังตัวด้วยนะคะ"     
         
           แล้วชายหนุ่มก็เดินจากไป     
         
    "พี่เวียร์เป็นอะไรหรือเปล่าพี่ริซ่า" สาวน้อยพูดขึ้นพลางกางกระโจมลายหมีตัวสีน้ำตาลขณะนอนหลับ "อย่างกับมีเรื่องในใจ"     
         
    "ไม่มีอะไรหรอกมั้ง พี่เวียร์เก่งออก" ริซ่าเองกำลังก่อกองไฟเล็กๆใกล้กับกระโจมสีฟ้าขาวของเธอด้วยไอเทมฟืนห้าท่อนวางก่ายกัน "นี่ถ้าเขายังไม่มีคนที่ชอบ พี่เอง...พี่เอง"     
         
    "หือ? พี่ริซ่าชอบพี่เวียร์เหรอ" คีย์ฟังหญิงสาวเพ้อมาอย่างนี้ถึงกับไปนั่งอยู่ด้านตรงข้าม สาวน้อยมองดูเปลวไฟที่ค่อยๆลุกแลบออกมาจากไอเทมฟืนแห้ง "ตั้งแต่เมื่อไร แน้ๆ อย่าบอกนะว่าไม่สนท่านแม่ทัพเจเนซิสของคีย์ซะแล้ว"     
         
    "น้องคีย์ไม่ใช่อย่างนั้น พี่ไม่เคยคิดอะไรเกินเลยกับท่านแม่ทัพ เราสองคนเป็นเพื่อนกัน"     
         
    "แล้วพี่เวียร์?"     
         
    "..." ริซ่าเงียบแลทอดถอนใจ "ไม่รู้สิคีย์ พี่เวียร์เป็นคนดีจนเหลือเชื่อ เขาอาจมีเจ้าของใจแล้วก็ได้..."     
         
    "ถ้าคีย์เป็นพี่ริซ่าจะถามตรงๆไปเลย"     
         
    "บ้า อย่านะคีย์ ห้ามถามเข้าใจไหม"     
         
    "ฮื้อ เข้าใจ นี่พี่ริซ่าเรียกน้องเหมียวออกมาหน่อยสิ"     
         
    "คีย์จังอยากอยากเล่นกับเจ้าสมูธเหรอ" พลันหญิงสาวจึงหงายฝ่ามือทั้งสองออกระดับเอว หลับตาพึมพำคาถาบางอย่าง เกิดลมเย็นพัดม้วนมายังกลางฝ่ามือ กลายเป็นก้อนกลมสีขาวซึ่งมีดวงตาสีเหลืองทองอยู่ข้างใน "แคท!"     
         
           ริซ่าร่ายจบแมวสีขาวหางยาวตัวหนึ่งที่ถูกตั้งชื่อว่า สมูธ จึงปรากฏกาย เธออุ้มมันไว้แล้วส่งต่อให้คีย์     
         
    เหมียว~     
         
    "น้องสมูธขนนุ่มมาแล้ว อิอิ" จิตใจสาวน้อยปลอดโปร่งมากขึ้นแม้นธรรมชาติรอบกองไฟนั้นราวกับถูกดวงตาของปีศาจจ้องมองอยู่ก็ตาม "สมูธตัวหอม ฮ่า"     
         
    'อย่านะเวียร์ เธอสองคนไม่ใช่อาหาร ไม่ใช่จะต้องกินในตอนนี้' แสงสีม่วงจางส่องสว่างขึ้นภายในดวงตา เล็บแหลมค่อยๆงอกออกที่ปลายนิ้ว เวียร์รู้สึกทรมานอย่างบอกไม่ถูก ความกระหายอยากพุ่งพล่านหนักหน่วงขณะที่เขี้ยวของเขายื่นยาวกระทั่งเห็นความคมของมัน ณ ขอบปาก 'ต้องไปจากที่นี่ก่อน แค่คนเดียว แค่คนเดียวเท่านั้น'     
         
           คิดได้ดังนั้นชายหนุ่มที่ยืนหันหลังให้กับต้นไม้ใหญ่ก็ออกวิ่งสุดชีวิต ถึงเวลาคร่าสักชีวาหนึ่งที่แสนจะโง่เขลาสังเวยแด่คำสาปมรณะ และก็เป็นโชคดีของจิตปีศาจในร่างอมนุษย์ ประสาทรับรู้ทั้งเสียง กลิ่นแลความร้อนจากกายเหยื่อระบุชัดเจนว่าอาหารอยู่เบื้องหน้าห่างออกไปประมาณสองพันก้าวเท่านั้น หึหึหึ

    'อา~ของคาวรสเลิศ' ถึงกับแลบลิ้นเลียริมฝีปากตน
     

         
    "ท่านอิมมอร์ไม่เอาน่า เดี๋ยวมีใครเห็น เอ๊!" หญิงสาวในชุดนักบวชขาวซึ่งมีไม้คฑากางเขนสีทองถือไว้ร้องร่ำ เธอพยายามผลักไสชายที่กำลังสวมกอดและบดขยี้ทรวงอกของเธออย่างหน้ามืดตามัว "ท่านอิมมอร์อย่านะ อ๊ะ!"     
         
    "อิริอายหนูโตเป็นสาวแล้วใยต้องขัดขืนให้เปลืองแรงด้วยเล่า" ชายหุ่นท้วมใช้พลังกายที่เหนือกว่ากดหญิงสาวที่ถูกเรียกว่า อิริอาย นอนลงบนผืนผ้ากระโจมที่ปูทับลงบนพื้นหญ้า ปากนั้นก็ไล้เลียไปทั่วตั้งแต่กกหูแลคออันขาวจั๊วะ "หนูน่าเจี๊ยะขนาดนี้ถ้าฉันปล่อยให้หนูได้กับไอ้อัศวินเถื่อนนั่นมิเสียของหมดรึ อิริอายที่รัก"     
         
    "ท่านอิมมอร์ได้โปรดเข้าใจ อ๊ะอย่า อ๊ะ มูนเบลดซื่อสัตย์ต่อท่าน ท่านทำเช่นนี้เขาจะเสียใจได้นะคะ!"     
         
    "แล้วยังไงหือ!?" ชายหุ่นท้วมที่ถูกเรียกว่า อิมมอร์ หาได้ใส่ใจน้ำคำที่กล่าวถึงอัศวินผู้ภักดีนาม มูนเบลด ไม่ กะอีแค่นักรบไร้ค่าคนหนึ่งจะหาใหม่เมื่อไรก็ย่อมได้ เธอตรงหน้าสิน่าสนกว่าเป็นร้อยเท่าพันเท่า ดอกไม้ที่กำลังแตกเนื้อสาวน่ะหรือ ความหวานแลความหอมแสนเย้ายวนใจยิ่ง จากการสังเกตชุดเซตที่สวมใส่ อิมมอร์ย่อมเป็นผู้มีบารมีในเหล่าสมาคมนักบวชชั้นสูง บ่งบอกได้เลยว่าเขาคนนี้มิได้เก่งเพียงปากว่าผู้อื่นเป็นแน่ "ฉันอยากเห็นสีหน้ามันนัก ถ้ามันรู้ว่าหนูตกเป็นของฉันแล้ว ฮ่า!!!"     
         
           ชุดชั้นนอกแลชั้นในของอิริอายวัยสาวถูกฉีกกระชากออกหมดสิ้น ผิวเนียนเผยลักษณาภายใต้แสงจันทร์สีน้ำเงินช่างละลานหัวใจอิมมอร์ บุรุษชาติไหนเลยจะปฏิเสธเรือนร่างระหงแห่งอิสตรีเลอโฉม พระผู้สร้างได้สร้างกายเนื้อให้เป็นของคู่กันสำหรับชายและหญิง เพื่อที่หญิงสาวจะได้เลิกกังขาต่อความรู้สึกของตัวเอง ท่านอิมมอร์จึงกล่าว     
         
    "ฉันจะแต่งตั้งให้มูนเบลดขึ้นเป็นหัวหน้าหน่วยองครักษ์เจ้าหญิงดีไหม หรือหนูอยากเห็นมันเป็นเพียงอัศวินยาจกคนหนึ่งที่ไม่มีอนาคตอะไร ว่าไง?"     
         
    "...ท่าน ท่านต้องไม่โกหก" อิริอายกลับคาดหวังในคำพูดสอพลอ "ถ้าท่านดีต่อเขา ข้า...ข้าจะดีต่อท่านด้วย"     
         
    "พระเขาห้ามพูดปด โป้ปดมดเท็จบาปหนักหนูก็รู้นิจ๊ะ"     
         
    "...ค่ะ"
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×