ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พิศวาส เสน่หา KrisHun ver. [END]

    ลำดับตอนที่ #12 : บทที่ 11

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.48K
      5
      3 มี.ค. 56

    บทที่ 11: รัก...มากมาย

     

     

     

     

     

         เปลือกตาเปิดขึ้นเมื่อได้ยินเสียงใสของเปียโนลอยมา ฝ่ามือหนาควานหาร่างบางที่กอดไว้ตลอดคืน เมื่อไม่พบจึงลุกขึ้นและเดินไปตามเสียงเพลงที่บรรเลงรับแสงอรุณ

         คริสใช้มือเกาะประตูห้องเปียโนนัยน์ตาคมมองร่างเล็กในอาภรณ์สีขาวที่แลดูราวกับเทพธิดาตัวน้อยก็ไม่ปาน ใบหน้าหวานของเซฮุนดูสดชื่นขึ้นแตกต่างจากเมื่อคืนอย่างเห็นได้ชัด ที่ดีขึ้นขนาดนี้ก็เพราะได้บุรุษพยาบาลฝีมือดีคอยดูแลตลอดทั้งคืนนั้นเอง

         “ทำไมถึงมานั่งเล่นอยู่นี่”คริสถามเสียงดุ กลัวว่าคนตรงหน้าจะไข้ขึ้นมาอีก แม้ว่าตอนนี้จะดูดีขึ้นมากกว่าเมื่อวานแล้วก็ตาม

         เซฮุนวางมือจากเปียโนตรงหน้าทันที ก่อนจะเดินไปหาร่างสูงใหญ่และเผชิญหน้า รอยยิ้มสดใสถูกส่งให้ ทำให้หัวใจของชายหนุ่มพองโตขึ้นมาทันที

         “เย็นวันนี้ผมจะสอบด้วยการเล่นเปียโนในงานของมหาวิทยาลัย”เสียงใสไม่ตอบคำถามแต่เลือกที่จะเอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมา ส่งผลให้คริสขมวดคิ้วขึ้น เซฮุนมองอย่างชั่งใจว่าจะพูดต่อดีหรือไม่

         “ถ้าว่างผมขอเชิญพี่คริสไปดูด้วยนะฮะ”เสียงใสเอ่ยอย่างรวดเร็วด้วยความเขิน พูดเสร็จก็ก้มหน้างุด ในมือเล็กยื่นบัตรเชิญไปข้างหน้า

         คริสยืนอึ้ง ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาอย่างดีใจ แต่ด้วยความที่เป็นคนขี้แกล้ง จึงแกล้งทำหน้าเคร่งขรึมเหมือนหนักใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เซฮุนเงยหน้าขึ้นมองเมื่อไม่เห็นคริสพูดตอบรับอะไร แถมพอเงยหน้าขึ้นไปเจอใบหน้าหล่อเหลาที่ตีสีหน้าเคร่งเครียดแล้วก็ใจแป้ว คิดว่าคงไปชนกับงานอะไรสักอย่างของเขาเข้า ครั้นชายหนุ่มเห็นสีหน้าห่อเหี่ยวของภรรยาสาว(?)ก็อดยิ้มที่มุมปากไม่ได้ แต่ก็ยังคงดำเนินการแกล้งต่อ

         “ทำไงดีล่ะ เย็นนี้ฉันติดประชุมกับลูกค้า คงไปดูนายไม่ได้หรอก”สิ้นเสียงคำตอบ ใบหน้าสวยก็สลดลงทันที จริงสิยังไงลูกค้าก็ต้องสำคัญกว่าเด็กหนุ่มอยู่แล้วสำคัญตัวผิดไปแล้วเซฮุนเอ๋ย

         คริสรู้สึกได้ถึงรังสีแห่งความเศร้าแผ่ออกมาก็ชักอยากจะกลับลำไม่ต้องก้งต้องแกล้งมันแล้ว

         “ทั้งๆที่ผมอยากได้ช่อดอกไม้จากพี่คริสคนเดียวแท้ๆ”เซฮุนพูดเศร้าก่อนจะเดินเข้าห้องตัวเองไป

         คริสยืนยิ้มกับคำตัดพ้อของเซฮุน นัยน์ตาคมเข้มมองตามแผ่นหลังของร่างบางที่เดินไปจนลับตา จึงเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องนอนของตัวเอง ปล่อยให้เข้าใจไปแบบนั้นก็ดีเหมือนกัน คิดแล้วก็หยักยิ้มที่มุมปาก คงถึงเวลาแล้วที่เขาต้องเปิดตัวเซฮุนเสียที

     

    +++++ พิศวาส เสน่หา +++++

     

         วันนี้ทั้งวันได้แต่นั่งเหม่อตั้งแต่มาถึงห้องซ้อมในมหาวิทยาลัย เด็กหนุ่มนั่งหลบอยู่มุมห้องพร้อมกับถอนหายใจเป็นครั้งคราว จนคนในห้องอดห่วงไม่ได้ ห่วงว่าเจ้าคนตัวเล็กจะถอนหายใจจนหมดลมเสียก่อนที่จะได้ขึ้นเวที ซึ่งคนที่เป็นห่วงที่สุดก็คือแบคฮยอนที่คอยยืนมองอยู่ไกลๆ คงจะคิดเรื่องสามีอยู่ล่ะสิ ถึงได้เหม่ลอยซะขนาดนี้ ครั้นเห็นคนตัวบางถอนหายใจอีกรอบก็อดหัวเราะไม่ได้ เขาจึงสาวเท้าเข้าไปหาและถามขึ้นอย่างห่วงใย

         “ไม่สบายหรือเปล่า”

         เซฮุนเงยหน้ามองคนที่เดินเข้ามาหา เห็นว่าเป็นใครก็ส่งยิ้มให้

         “เปล่าหรอก”เสียงใสตอบ ก่อนจะยิ้มขอบคุณในความเป็นห่วงของเขา

         “งั้นทำตัวให้มันสดใสหน่อยสิ”เสียงเล็กว่า

         “อย่างนี้เหรอ”ว่าแล้วก็ยืนขึ้น ทำหน้าทำตาแอ๊บแบ๊ว และยิ้มกว้างจนเห็นฟันแทบทุกซี่

         “อย่างนี้ซิ ถึงจะเป็นเซฮุน”แล้วมือเล็กก็ขยี้ศรีษะของร่างที่สูงกว่าเบาๆ

         เซฮุนส่งค้อนให้วงโตเมื่อร่างเล็กบังอาจทำให้ทรงผมที่เซตแล้วของเด็กหนุ่มยุ่งขึ้นมาอีก ก่อนจะขอตัวเข้าไปเปลี่ยนชุดอย่างอารมณ์ดี อย่างน้อยๆ ผู้ชายตัวเล็กที่ตอนแรกเป็นคนเอาแต่ใจอย่างแบคฮยอนก็ยังดูแลเอาใจใส่เด็กหนุ่มเหมือนน้องชายคนหนึ่งล่ะ

         ร่างเล็กบางในอาภรณ์สีขาวขับผิวสีนวลให้ดูขาวนวลยิ่งขึ้นตวัดตัวหมุนไปหมุนมาอยู่หน้ากระจก ชุดสูทเรียบๆ แต่เปิดบริเวณส่วนแผ่นอกขาวประดับด้วยขนเฟลอร์รอบคอขับให้ร่างเล็กดูน่าก(อ)ด มากยิ่งขึ้น ใบหน้าใสถูกแต่งแต้มในโทนสีชมพูส้มเหมาะกับฤดูร้อน ผมสีน้ำตาลเข้มถูกหวีจัดเป็นทรง ปล่อยให้ระต้นคอขาวสวย เซฮุนหมุนไปหมุนมาหน้ากระจกอีกครั้งเพื่อความหมั่นใจ ทั้งที่ใจจริงแล้วไม่มั่นใจชุดนี้เลยสักนิด โดยเฉพาะช่วงอกที่แหวกกว้างจนเห็นแผ่นอกขาวบาง ก่อนจะหันไปหาสไตล์ลิสต์ที่กำลังเลือกเครื่องประดับที่เหมาะสมให้เด็กหนุ่ม

         “พี่ฮะผมว่ามันไม่โป๊ไปหน่อยเหรอฮะ”เซฮุนถามขึ้นและชี้ไปที่อกของตนเอง

         “แหมพี่ว่าแบบนี้เลิศที่สุดแล้วล่ะค่ะคุณน้อง ก็คุณน้องตัวเล็กนี่คะ จะทำให้ดูเป็นนางงาม (?) เอ๊ย เทพธิดาฤดูร้อนมันก็ต้องดูร้อนแรงสักหน่อย”

         “ระเหรอฮะ”เสียงใสพูดก่อนกลืนน้ำลายลงคออย่างอยากลำบาก ถ้าออกไปทั้งชุดนี้ คงเขินแย่เลยน่ะสิ

         ก๊อกๆๆๆ

         เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้ร่างบางหันไปมองทางประตู และประตูห้องแต่งตัวก็เปิดออกตาม ด้วยร่างเล็กบางของแบคฮยอนในชุดเสื้อสูทสีขาวครีมกับเสื้อเชิ้ตสีชมพู ร่างเล็กเขินนิดๆ เมื่อเจอสายตาชื่นชมจากเซฮุน เซฮุนเองก็ทั้งสวยและน่ารักราวกับเทพธิดา ครั้นพอนึกถึงคนที่ได้เป็นเจ้าของเด็กหนุ่มก็อดอิจฉาไม่ได้

         ส่วนเซฮุนเมื่อเห็นแบคฮยอนมองตัวเองนานเกินไปก็รู้สึกเก้อเขินขึ้นมาซะอย่างนั้น จึงเอ่ยถามแก้เขิน

         “มีอะไรรึเปล่าแบค”เสียงใสถาม ทำให้ชายหนุ่มหลุดออกจากภวังค์ทันที แบคฮยอนรู้สึกอายนิดๆ ที่มองเพื่อนหนุ่มคนสนิทนานไปหน่อย

         “อ้อ คือเรียวจะมาบอกว่าให้ไปขึ้นเวทีได้เลยน่ะ”

         “ถึงเวลาแล้วเหรอนี่ งั้นก็ไปกันเลย”พูดจบก็เดินไปหาเพื่อนหนุ่มที่ยืนคอยอยู่หน้าประตู แต่ด้วยความที่ยังไม่ชินกับชายเสื้อสูทยาวๆ จึงทำให้เดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าวก็เหยียบชายเสื้อสูทจนเกือบล้ม

         “เฮ้ย!”คนตัวเล็กร้องอย่างตกใจเมื่อเสียหลัก แต่โชคดีที่แบคฮยอนไวพอจึงคว้าไว้ได้ทัน มือที่เล็กกว้าคว้าเอาข้อมือเรียวเอาไว้แน่น คงเพราะออกแรงดึงมากเกินไปจึงทำให้ร่างบางปะทะเข้ากับอกเล็กของเขาทันที หัวใจร่างเล็กกระตุกวาบ เมื่อร่างกายแนบชิดกันขนาดนี้ ถึงแม้ว่านี้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาใจเต้นแรงยามเข้าใกล้คนที่เด็กกว่า แต่จะสลัดความรู้สึกนี้ออกไปยังไงก็ไม่ได้สักที ขนาดว่าทั้งชีวิตเขาจะผ่านผู้หญิงมามากมายขนาดไหนก็ยังไม่เคยรู้สึกใจเต้นและร้อนรนราวกับถูกไฟแผดเผามากขนาดนี้มาก่อนแบคฮยอนเผลอตามใจตนเอง กดร่างบางแนบเข้ากับตัวเขามากขึ้น

         เมื่อเซฮุนโดนแบคฮยอนกอดแน่นขึ้นก็เริ่มขยับตัวประท้วงนิดๆ เพราะเด็กหนุ่มเองก็ชักจะอึดอัดที่เขากอดแน่นเกินไป และเกินความจำเป็น

         “แบค...เราไม่เป็นไรแล้ว...”เสียงใสพูด เรียกให้แบคฮยอนกลับมามีสติอีกครั้ง แถมเมื่อรู้ว่ากอดกับเซฮุนอยู่ เขาก็รีบปล่อยมือทันที

         “ฮั่นแน่...ไปคิดถึงสาวคนไหนเข้าล่ะสิ กอดซะแน่นเชียว”เซฮุนแหย่อย่างล้อเลียน

         “บ้าน่ะ ฉันจะไปคิดถึงใคร ระ...เราไปกันเถอะ”แบคฮยอนแก้เกี้ยว ก่อนจะรีบเดินออกไปจากตรงนั้นทันที เพราะถ้าไม่เดินจากไป เซฮุนก็จะหาเรื่องล้อเขาไม่เลิก จนเขากลัวว่าสักวันจะหลุดปากพูดไป เขาไม่ต้องการให้อีกคนต้องมาลำบากใจเพราะความรู้สึกของเขา

         “รอด้วยสิแบค”เซฮุนวิ่งตาม

     

    +++++ พิศวาส เสน่หา +++++

     

         แปะๆๆๆๆ

         เสียงปรบมือดังกระหึ่มไปทั่วทั้งหอประชุมใหญ่ ทันทีที่ร่างสองร่างก้าวขึ้นมาบนเวที สำหรับแบคฮยอนนั้นดูจะไม่ตื่นเต้นเลย เพราะตั้งแต่เรียนมานั้น เขาขึ้นเวทีมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ไม่เหมือนเซฮุนที่ตอนนี้ตัวสั่นเหมือนเจ้าเข้าเพราะความตื่นเต้น เพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยขึ้นเวทีแสดงสดที่ใหญ่ขนาดนี้มาก่อน มือบางกุมกันแน่นจนเหงื่อซึมออกมาทั้งๆ ที่แอร์เย็นช่ำ สอดส่ายมองหาเผื่อว่าคนคนนั้นจะมาให้กำลังใจกันบ้าง แต่ก็เห็นเพียงผู้ที่เลี้ยงเด็กหนุ่มมาตั้งแต่ยังเป็นทารก ที่เด็กหนุ่มได้ส่งบัตรเชิญไปให้เขา และน้องๆ ในบ้านเก่า เซฮุนส่งยิ้มให้บาทหลวงชินดงและน้องๆ ก่อนจะหันไปสบตากับแบคฮยอน ซึ่งก็ส่งยิ้มให้กำลังใจกลับมาเหมือนกัน

         “สู้ๆ”เสียงหวานแหลมให้กำลังใจ

         “สู้ตาย”เสียงใสขานรับ ก่อนจะเดินไปนั่งประจำที่ ร่างเล็กนั่งตัวตรง ก่อนจะทำสมาธิด้วยการสูดหายใจลึกๆ และผ่อนออกมายาวๆ มือบางวางลงบนตำแหน่งเริ่มต้นของคีย์บอร์ด และเริ่มบรรเลงเพลงแรก ทำนองสนุกสนานถูกส่งไปให้เสียงไวโอลินใสรับอย่างลงตัว ก่อนจะบรรเลงไปด้วยกัน ตามด้วยเพลงรักสี่สไตล์สี่ฤดู จนกระทั่งจบเพลง...

         ทุกคนในห้องประชุมนั่งเงียบ ก่อนที่เสียงปรบมือหนึ่งจะดังขึ้นมาจากไกลๆ แล้วก็ตามด้วยเสียงปรบมือของทุกคนในหอประชุม พร้อมกับกล่าวคำชื่นชมดังคับคั่งไปทั่วทั้งหอประชุม เซฮุนและแบคฮยอนต่างยิ้มให้กัน ก่อนเดินไปใกล้หน้าเวทีเพื่อรับช่อดอกไม้แสดงความยินดีของแต่ละคน

         “ยินดีด้วยนะ”เสียงทุ้มคุ้นเคยของคนบางคนดังขึ้นจากด้านล่าง เซฮุนที่ย่อตัวรับนิ่งอึ้งไปถนัดเมื่อมองเห็นเต็มตาและรู้ว่าดอกกุหลาบช่อโตนั้นเป็นของใคร

         “พี่คริส...”เสียงใสสั่นเมื่อเห็นว่าเป็นซีวอน เด็กหนุ่มแทบอยากกระโดดกอดเขาแรงๆ สักครั้งที่เขาอุตสาห์มา แถมยังจำเรื่องคำบ่นของเด็กหนุ่มได้อีกด้วย นัยน์ตาเริ่มรื้นไปด้วยหยาดน้ำใสๆ

         มือหนาแต่อบอุ่นของชายหนุ่มยกขึ้นแตะที่ขอบตา ใบหน้าคมส่งยิ้มให้อย่างให้กำลังใจ

         “ร้องไห้ทำไม”

         “ผมเปล่าร้องสักหน่อย แค่ตื้นตัน”เซฮุนพูดเสียงสั่นปนสะอื้น

         “เจ้าตัวแสบเอ๊ย ครั้งนี้ทำได้ดีมากๆ”แล้วเขาก็โคลงหัวเล็กๆ ของเด็กหนุ่มก่อนจะยกเอาช่อกุหลาบขึ้นมาให้เด็กหนุ่มรับ

         เซฮุนรับกุหลาบช่อโตที่จัดได้อย่างน่ารัก แสงแฟลชวูบวาบทำให้ใบหน้าสวยเหยเกขึ้นนิดๆ

         “ขอบคุณฮะ”

         “ของรางวัลไง”คริสบอก ก่อนจะเดินไปนั่งยังที่นั่งข้างๆ กับชานยอลเพื่อนสนิทพร้อมมองร่างเล็กที่เดินหายเข้าไปหลังเวที แต่แล้วก็ต้องเป็นงง เมื่อเด็กหนุ่มเดินออกมานั่งที่หน้าเปียโนอีกรอบ พร้อมกับไมค์ลอยติดปาก

         “ขออภัยทุกท่านฮะ นี่อาจเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเป็นเรื่องสักเท่าไหร่...แต่ว่าวันนี้ผมต้องการจะส่งหมอบความรักความขอบคุณให้กับคนคนหนึ่ง ที่เขารักผม และวันนี้ผมก็จะรักเขาเป็นการตอบแทน ผมอยากจะบอกว่า ผม...รักเขา...มากมายฮะ”เสียงใสพูดอย่างเคอะเขิน เรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมข้างล่างได้ไม่น้อย โดยเฉพาะคริสที่ตอนนี้ใจเต้นแทบระเบิด

         เสียงทำนองดังขึ้นช้าๆ ซึ้งๆ ในเพลงรักที่ใครๆ ต่างก็รู้จักดี และเสียงใสก็ดังขึ้นเป็นเพลงที่ต้องการส่งหมอบมาจากหัวใจ หลังจากเล่นเพลงจบใบหน้าสวยยิ้มรับเมื่อเสียงปรบมือล้นหลาม ครั้นเมื่อสบตากับคริสเขาก็คงจะรับรู้แล้วว่า ตอนนี้เด็กหนุ่มนั้นรักเขามากมายขนาดไหน...

     

    +++++++++++++

    100%

     

    มุมเม้าท์มอย

    กลับมาต่อกับอีกตอนค่ะ ตอนนี้อาจจะสั้นไปนิดไรท์ขอโทษด้วยนะคะ

    ไรท์ขอตัวไปก่อนนะคะ แล้วเจอกันสัปดาห์หน้าค่ะ บ๊ายบาย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×