ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    美花 ; (mei hua) (woncin)

    ลำดับตอนที่ #5 : 美花 : 第四花 100% (re NC)

    • อัปเดตล่าสุด 9 ส.ค. 53


    美花:四花

     

     

                    ข่าวขันทีคนสนิทอย่างเฉียนกุ้ยถูกต้นห้องคนใหม่เรียกเข้าพบนั่นแว่วถึงหูฮ่องเต้โดยมหาดเล็กคนสนิทเป็นผู้เล่าถวาย ฝ่าบาทเมื่อตอนเช้า เฉียนกุ้ยถูกท่านฮีชอลเรียกเข้าไปพบที่ตำหนัก

     

                    เจ้าบอกว่า ฮีชอลเรียกเฉียนกุ้ยเข้าไปในที่ตำหนักงั้นหรอ หวังว่าคงไม่ได้ทำอะไรเด็กคนนั่นหรอกนะ เฉียนกุ้ยก็เหมือนเป็นน้องเราคนหนึ่ง หากถูกคนเช่นนั้นหลอกลวง เราที่เป็นพี่ก็อดไม่ได้ที่จะห่วง ฮ่องเต้ซีวอนกล่าวถึงขันทีคนสนิท ที่เห็นมาแต่เล็ก ก่อนจะถวามยตัวเข้ามารับใช้ในวังหลวง

     

                    แต่ทหารที่เฝ้าหน้าประตูตำหนักเล่าว่า เฉียนกุ้ยร้องไห้ออกมา เหมือนกำลังหวาดกับอะไรบางอย่าง ท่านอ๋องทำเช่นนี้เหมือนไม่สนใจต่อรับสั่งฝ่าบาท กระหม่อมว่าควรหาทางจัดการเสียดีกว่าซึงฮยอนทหารองรักษ์ประจำพระองค์ เป็นอีกหนึ่งคนของทหารในเขตพระราชฐานส่วนพระองค์ที่แอบมีใจให้ขันทีตัวน้อย กล่าวด้วยความโกรธแค้นในตัวอ๋องน้อย

     

                    เย็นก่อนซึงฮยอน เรารู้ว่าเจ้าโกรธ เราเองก็เห็นเฉียนกุ้ยเป็นน้องคนหนึ่ง และเราก็ไม่อยากให้สองพ่อลูกอยู่ในเมืองหลวงนี้นานๆ ถ้าเจ้าอยากให้ฮีชอลออกห่างจากเฉียนกุ้ยก็ช่วยเราคิดว่าจะขับไล่ทั้งปาหยางอ๋อง และฮีชอลยังไง ฮ่องเต้หนุ่มทรงสงบพระอารมณ์อย่างใช้ความคิด อยากขับไล่สองพ่อลูกในเร็ววัน หากแต่อีกฝ่ายก็เป็นพระญาติคนหนึ่ง 

     

                    กระหม่อมขอพระราชอภัยโทษที่วู่วาม แต่ น้ำตาของเฉียนกุ้ย....  องค์รักษ์คนสนิททนิ่งงัน ไม่อาจคำใดแทนความรู้สึกเวลานี้ ขันทีที่เฝ้ามองมานาน กลับต้องเสียน้ำตาเพราะคนที่พึ่งเข้ามา

     

                    ไม่เป็นไร เราเข้าใจ แต่เวลานี้เรานึกไม่ออกว่าจะหาทางไหนที่จะบีบให้สองพ่อลูกยอมออกจากเมืองหลวง แค่หนึ่งคืนที่ฮีชอลเข้ามา เหมือนว่าเรายังไม่เห็นมากพอที่จะหาลู่ทางได้เลย

     

                    คนอย่างท่านอ๋อง ดูเหมือนไม่มีอะไร หากไม่มีตำแหน่งอ๋องน้อยค้ำไว้ก็คงไม่มีใครเหลียวแล  คนแบบนี้ไม่มีประโยชน์เลยจริงๆมีแต่ทำเรื่องเสียหาย แล้วยังจะยโสในเกรียติยศ ช่างไม่รู้เลยว่าตนเองเป็นที่น่าสมเพชเพียงใด องค์รักษ์หนุ่มส่ายหน้าสมเพชอ๋องที่ดีแต่ข่งเหงประชาชน

     

                    ใช่ ซึงฮยอนเจ้าพูดถูก คนอย่างฮีชอลเกียรติยศเป็นเรื่องสำคัญ แต่จะทำยังไงพระองค์ทรงคิดตรึกตรอง นั่งมองหาก้าวจังหวะที่อาจนำมาทำให้อ๋องน้อยได้กระเด็นออกจากเมืองหลวงพร้อมครอบครัว

     

                    คนอย่างท่านอ๋องมีข่าวเสียหายมากมาย แต่ไม่เห็นสนใจในข่าวเหล่านั้น ท่านปาหยางอ๋องก็เช่นกัน กระหม่อมไม่เคยเห็นสองพ่อลูกนี้สนใจในข่าวใดๆเลยสักนิด

     

                    นั่นแหล่ะที่เรากำลังคิด ถ้าอยากกันให้ฮีชอลออกห่างจากเฉียนกุ้ยไวๆ เจ้าก็ลองไปชวนพวกทหารที่หมายปองเฉียนกุ้ยอยู่ หาทางทำให้อ๋องน้อยคนนี้ต้องอยู่ไกลจากเฉียนกุ้ยสิ ส่วนเราคืนนี้จะนั่งดื่มสุราชมจันทร์เสียหน่อย เจ้าไปเรียกฮีชอลให้เราด้วยหล่ะกัน

     

                    กระหม่อม 

     

                        * ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *

                   

                    ร่างบางโปร่งของอ๋องน้อยเดินเข้ามากลางสวนดอกเหมยในคืนเดือนเต็ม ตามรับสั่งของฮ่องเต้ที่ให้องค์รักษ์ประจำพระองค์ไปเรียกมาจากห้องดวงตาโตมองไปรอบๆเห็นเพียงโต๊ะหินสลักและหนึ่งบุรุษไร้องค์รักษ์แม้สักคน ท่านมานั่งตรงนี้ไม่มีใครมายืนอารักขาได้ไงกัน

     

                    เราอยากนั่งดื่มสุรากับน้อง ทำไมต้องนั่งมีใครอื่นด้วยหรือไง หรือน้องชายอย่างเจ้า คิดไม่ซื่อกับพี่ชายอย่างเรา  รอยยิ้มกว้างบนพระพักตร์ บ่งบอกว่ากำลังสบายพระทัยเป็นที่สุด เจ้านั่งลงสิ หรือรังเกียจจะดื่มสุรากับเราแทนที่จะได้ไปดื่มกับเหล่านารีอรชร

     

                    ใครจะรังเกียจได้นั่งดื่มสุราชมจันทร์กับฮ่องเต้ ทั่งแผ่นดินจะมีใครโชคดีแบบนี้บ้างเล่า แต่ว่าท่านแน่ใจนะที่จะดื่มกับข้า เวลาข้าเมา พวกสาวๆชอบบอกว่ามือไม้ข้ายิ่งกว่าหนวดปลาหมึกเสียอีก อ๋องน้อยบอกเล่าสรรพคุณของตนเองด้วยความภาคภูมิใจก่อนนั่งลงที่เก้าอี้หินสลัก

     

            งั้นข้าจะลองดูว่าหนวดปลาหมึกหรือจะกล้าสู้กับหนวดมังกร แต่เวลานี้เจ้ายังไม่เมาก็ดื่มเถอะ สุรานี้ได้มาจากเมืองกุ้ยโจว ว่ากันว่าเป็นสุราชั้นดีฮ่องเต้หนุ่ม บรรจงเทสุราลงในจอกเล็กแต่เพียงนิดให้แก่อ๋องน้อยผู้มีศักดิ์เป็นน้อง

     

                    ช่างเป็นสุราที่แรงนัก แต่ก็นุ่มลิ้นเช่นกัน นี้คือสุราอะไร เพื่อหาข้าออกจากวังจะได้ไปหาบ้าง อ๋องน้อยฮีชอลยังหวังว่าจะได้ออกจากวังไปหาความสำราญด้านนอก ไม่ลืมหาชื่อสุรารสชาติเยี่ยมยอด

     

                    สุรานี้คือเหมาไถ หากเจ้าชอบข้าจะแบ่งให้บ้างก็ได้ ข้าพอมีเก็บไว้อีกเยอะ คืนนี้ก็อย่าดื่มหนักนัก จะได้มีเวลาชมจันทร์ได้นานแม้ปากจะเตือน แต่มือหนาของฮ่องเต้ซีวอนกลับรินน้ำใสติดจะเหลืองๆลงในจอกแก้วเซรามิคเนื้อดี

     

                    สองชายหนุ่มนั่งร่ำสุราชมพระจันทร์ดวงกลมโต จนใบหน้าหวานแดงเรื่อ พูดจาไม่รู้เรื่อง มือไม้ไม่อยู่กับที่   หากแต่ฮ่องเต้ผู้สุงศักดิ์กลับยังคงนั่งยิ้มสบายพระทัยไม่ได้เคลิ้มไปกับดีกรีแสนแรงของเหล้าจากกุ้ยโจว

     

                    พระจันทร์ช่างโตๆ  ในนั้นคงมีกระต่ายอยู่หลายตัวไม่งั้นคงเหงาแย่ เสียงอ้อแอ้ของคนเมาที่เหม่อมองกระต่าย เรียกให้องค์ฮ่องเต้ต้องแหงนมองจันทร์ก่อนจะเหลือบมองคนพูด

     

                    กระต่ายไม่เหงาหรอกก็ในนั่นมีตากับยายอยู่ด้วย แล้วจะเหงาได้อย่างไร ฮ่องเต้หยิบนิทานจากดวงจันทร์ขึ้นมาพูด ทั้งที่ก็ลืมเลือนไปนานแล้ว

     

                    จะไม่เหงาได้ไง ตากับยายที่อยู่ด้วยกันก็รักกัน แล้วเหลือทิ้งไว้แค่กระต่ายน้อยหนึ่งตัวกลายเป็นส่วนเกิน มันเที่ยวขอความรักจากใคร ก็ไม่มีใครให้มันได้จริงใบหน้าหวานสะท้อนความเหงาที่เจ้าตัวปิดบังเอาไว้ ไม่ให้ใครได้รู้ ท่าทีแสนสำราญแท้จริงแล้วกลับปิดบังบางสิ่งเอาไว้

     

                    องค์ฮ่องเต้ถอดถอนใจ มองคนตรงหน้าที่เก็บกักความเหงาไว้ภายใน พลางนึกไปถึงคำพูดอวดมือปลาหมึก แล้วแบบนี้ปลากหมึกที่ไหนกัน เพราะกระต่ายเองก็เอาแต่หนีความจริงด้วยหรือเปล่า นิสัยที่ขี้กลัว ทำให้ไม่กล้าผูกพันกับใครหรือเปล่า

     

                    อ่าคงใช่ เจ้านี้ช่างเข้าใจวิสัยของกระต่าย อย่างนี้คงเข้าใจความรู้สึกคนขี้กลัวแบบข้าเป็นแน่ อ๋องน้อยเดินโซเซจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ลุกขึ้นมานั่งเก้าอี้อีกตัวที่อยู่ข้างๆผู้สูงศักดิ์

     

                    มือบางๆลูบไล้ตามโครงหน้าเรียวยาว เริ่มสัมผัสไรหนวดแข็งๆแต่ก็ไม่สนใจ เอื้อมดันท้ายทอยกว้างให้รับสัมผัสเร่าร้อนจากริมฝีปากร้อนอวลด้วยกลิ่นสุราชั้นดี

     

                    ฮ่องเต้หนุ่มแม้จะเคยได้สัมผัสหญิงสาวที่รับเข้ามาคนอื่นๆ แต่สัมผัสของนางเหล่านั้นกลับสู่สัมผัสร้อนของคนๆนี้ไม่ได้เลย ค่อยๆรับรู้ความหวานของริมฝีปากจนต้องคว้าเอวบางเข้าแนบชิด ก่อนจะตกตะลึงเมื่อรู้ถึงมือเล็กๆเริ่มไม่อยู่สุข        

                   

                          สองสนิทชิดชมสมคู่        เชิงชู้เชิงชมสมศรี

               ต่างองค์เกษมเปรมปรีดิ์              ในที่สวนสวรรค์ชั้นใน  


         ทำใครต่อใครมามาก พอถึงตอนนี้กลับสลบเสียแล้วหรือฮีชอลเสียงทุ้มหัวเราะแผ่วเบา ก่อนจะจัดการให้เสื้อกลับขึ้นมาคลุมร่างบางดังเดิม นับแต่พรุ่งนี้คงได้เปลี่ยนจากตำแหน่งต้นห้องกลายเป็นคนในห้อง หวังว่าจะช่วยให้นิสัยไม่ดีบางอย่างหายไปได้ 

     

                    ฮ่องเต้ผู้สูงศักดิ์โอบอุ้บร่างไร้สติของต้นห้องขึ้นแนบอกกว้าง พากลับห้องบรรทมที่อบอุ่นกว่ากลางสวนเช่นนี้ต่อจากนี้คงให้นอนกับพื้นหน้าเตียงไม่ได้อีกแล้ว          

     

               * ~ * ~ * ~ * ~ *~ * ~* ~* ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ * ~ *

    Talk

     

                    ขอขอบคุณ zonk ที่ช่วยปลุกปั่นจนกลายเป็นเอ็นศีที่ยาวที่สุดในชีวิตของไอซ์คะ

    และขอบคุณน้องช.ที่ทั้งขู่ทั้งปลอบจนไอซ์ต้องโผล่เอ็นซีที่สองในชีวิด อิอิ

                    ไอซ์เริ่มเสียวหากใครอยากได้น้องเอ็นน้องซีที่ไม่ใช่กลอน ให้ทิ้งน้องแมวไว้นะคะ
           แอบมีความรู้ซ่อมมาอีกหนึ่ง เหล้าเหมาไถอ่าคะ เป็นเหล้าแห่งชาติของจีนเลยทีเดียว ทำมานานมากแล้ว และต้องใช้น้ำจากบ่อน้ำมังกรเท่านั้น เขาว่าแรงอยู่ ตั้ง53ดีกรีเลยอ่ะคะ ตอนเรียก็ไม่คิดว่าจะได้เอามาใช้นะนี้ อิอิ

     

            อ้างอิงบนกลอนพระราชนิพนธ์จากเรื่องท้าวแสนปมคะ 

                    

     

    เซี่ยเซี่ยหนี่ 10.06.05

    Jelly fish
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×