ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic. jelsa] XXX Mission ภารกิจลับจับหัวใจนายจอมโหด

    ลำดับตอนที่ #6 : [ Mission 05th ] Behind bars (สมบูรณ์)

    • อัปเดตล่าสุด 25 พ.ค. 57


     Presented by Papermail 







    You only know you " love " her when you let her go, And now you know
     
     

    [MISSION 05th] Behind Bars ...
                     is loading

     

    เด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีเงินเดินเข้ามาภายในห้องกว้างสีขาวสะอาดตาที่ถูกจัดเป็นห้องพยาบาลขนาดย่อม แจ็คหยุดอยู่ตรงบานประตูหนาก่อนจะกวาดสายตาไปรอบห้องเพื่อหาอะไรบางอย่าง

     

    ทันทีที่เห็นหญิงสาวร่างบางที่ตนกำลังตามหาอยู่ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ฉายลงบนใบหน้าของเด็กหนุ่มอีกครั้ง ก่อนที่เจ้าตัวจะรีบสาวเท้าไปหาหญิงสาวที่กำลังยืนอยู่อีกด้านหนึ่ง

     

    “เฮ้..” แจ็คเอื้อมมือไปสะกิดเอเรียว หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของเรือนผมสีแดงสดที่กำลังง่วนอยู่กับการเช็คอุปกรณ์จนไม่ทันสังเกตว่าตอนนี้มีใครบางคนกำลังยื่นอยู่ทางด้านหลังเธอ

     

    “ทำแผลให้หน่อย เอเรียล” แจ็คพูดเรียกหญิงสาวตรงหน้าอีกครั้งพร้อมทั้งเน้นชื่อของอีกฝ่ายอย่างชัดเจนจนหญิงสาวเจ้าของชื่อรู้สึกตัว ก่อนจะค่อยๆหันกลับมาอย่างกล้าๆกลัวๆ

     

    “แจ็ค..” เอเรียลเอ่ยชื่อเด็กหนุ่มด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอได้แต่ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก นั้นก็เพราะครั้งหนึ่งในอดีตเธอมีเหตุการณ์ฝั่งใจกับเด็กหนุ่มตรงหน้าชนิดที่ติดแน่นอยู่ในก้นลึกจนยากจะลืมเลือน

     

    มือเรียวบางดันอีกฝ่ายให้ออกห่างก่อนจะรีบหันหน้าหนีไปอีกทาง แต่ทว่ายังไม่ทันที่จะเดินหนีอีกฝ่ายพ้น มือหนาของเด็กหนุ่มก็คว้าร่างของเธอเอาไว้

     

    “ทำแผลให้หน่อยสิ..คุณหมอ” แจ็คว่าพล่างก้าวเท้าเข้าไปหาหญิงสาวก่อนจะค่อยๆปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตนออกแล้วพาดมันบนไหล่ของหญิงสาว

     

    ใบหน้าที่ยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดีของเขาตอนนี้ทำให้หัวใจหญิงสาวหล่นฮวบลงไปที่พื้น เพราะเธอรู้ดีว่าเด็กหนุ่มคนนี้สำหรับเธอแล้วรอยยิ้ม..

     

    มันไม่เคยมีความจริงใจแฝงอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว

     

    ในเมื่อไม่มีทางเลือก เอเรียลเอี้ยวตัวหันไปหยิบสำลีชุบแอลกอฮอล์ขึ้นมาก่อนจะค่อยๆกดมันลงบนแผลที่หน้าอกของเด็กหนุ่ม

     

    “นี้ยังไม่เลิกกลัวฉันอีกหรอ หรือว่าเพราะเรื่องเมื่อตอนนั้นที่ฉันกับเธอ..” เอเรียลสะดุงเฮือกกับคำพูดของเด็กหนุ่มจนเผลอปล่อยสำลีในมือตกลงพื้น ดวงตาสีน้ำเงินสดของหญิงสาวก้มมองด้านล่างก่อนจะเงยหน้ามองเด็กหนุ่มอีกครั้ง

     

    “เก็บสิขึ้นมาสิ”

     

    “มะ..ไม่เป็นไรเปลี่ยนอันใหม่ดีกว่า”

     

    “แต่ฉันอยากได้อันเก่านี้..” แจ็คว่าจบก็ค่อยๆเอื้อมมือหนาของตนรวบท้ายทอยของหญิงสาวเอาไว้ก่อนจะกดร่างของเธอลงด้านล่าง

     

    “มะ..ไม่แจ็ค นี้ห้องพยาบาลนะปล่อย..ฉันเจ็บ” เอเรียวว่าพล่างพยายามฝืนแรงของอีกฝ่ายจนต้นคอที่ขาวเนียนของเธอตอนนี้นั้นช้ำจนเป็นรอยแดง

     

    “ฉันไม่แคร์”

     

    แอ๊ด...

    เสียงเปิดประตูเปิดเรียกสติของเด็กหนุ่มที่กำลังดำดิ่งลงในห่วงอารมณ์ให้ตื่นจากภวังค์ แจ็คเหล่สายตามองไปทางบานประตูอย่างเสียอารมณ์ก่อนจะค่อยๆคล้ายมือออกจากต้นคอของเอเรียลเพื่อปล่อยเธอให้เป็นอิสระ

     

    หญิงสาวเดินเข้ามาด้านในด้วยสองเท้าเปลือยเปล่า สภาพเนื้อตัวของเธอตอนนี้เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำไม่เว้นแม้บนใบหน้าที่เรียวสวยได้รูป แขนซ้ายของเธอถูกพันแผลเอาไว้ด้วยเศษผ้าอย่างลวกๆ พร้อมกับกุญแจมือที่ล็อคข้อมือทั้งสองข้างของเธอเอาไว้

     

    “เดินเข้าไปเร็ว!!” เด็กหนุ่มร่างโตผู้ที่มีโค๊ดเนมว่าบันนี้ กระแทกปากกระบอกปืนเข้ากับแผ่นหลังของหญิงสาวก่อนจะดันให้เธอเดินเข้าไปข้างใน

     

    “อะ.. ถอยไปแจ็ค ฉันต้องรีบไปดูเธอ” เอเรียลรีบผลักเด็กหนุ่มในหลบไปอีกทางก่อนจะรีบวิ่งมารับหญิงสาวที่สภาพของเอลซ่าตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับตอนที่เจอกันครั้งแรกเพราะเธอเป็นรักษาบาดแผลให้อีกฝ่ายในตอนที่โดนเอลซ่าจับตัวมา แม้ว่าบาดแผลจะเต็มตัวจนพิษไข้เข้าเล่นงานยังไง เอลซ่าก็ไม่เคยร้องขอความช่วยเหลือชักนิด ไม่แม้จะปริปากพูดซักพยางค์เดียว

     

    “ระวังนะ..ค่อยๆขึ้น มันสูงนิดหน่อย” เอเรียวว่าพล่างเอื้อมมือไปประคองหญิงสาวเอาไว้แต่ทว่ากลับถูกอีกฝ่ายปัดมือของเธอทิ้งอย่างไร้เยื่อใย

     

    เอลซ่าเบนสายตามองอีกฝ่ายอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยุงร่างที่เต็มไปด้วยบาดแผลของตัวเองนั้นขึ้นนั่งลงบนเตียง

     

    “ไม่รู้ว่านายกำลังทำแผลอยู่..โทษที” ชายชราร่างท่วมเจ้าของชื่อ นอร์ท หัวหน้าใหญ่ขององค์กรณ์ ดิ การ์เดียน เดินเข้ามาด้านในก่อนจะทักทายเด็กหนุ่มที่กำลังมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย

     

    “ไม่เป็นไร ว่าแต่..เล่นแรงเหมือนกันนี้ แสดงว่าคงจะได้อะไรที่ต้องการมาเยอะละสิ” แจ็คว่าพลางเหลือบสายตามองร่างของเอลซ่าที่นอนอยู่บนเตียงด้วยสภาพที่บอบช้ำไปทั้งตัวก่อนจะนั่งลงบนเตียงถัดไปข้างหญิงสาว

     

    “ตรงข้ามเลยหล่ะ..” นอร์ทส่ายหน้า มือหนาสวมถุงมือยางก่อนจะเทยาแดงลงบนสำลีแล้วค่อยๆกดมันลงที่แผลของเด็กหนุ่ม

     

    “เป็นงั้นไป” แจ็คว่าพล่างเสมองไปที่ร่างของเอลซ่าด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยก่อนจะเหลือบมองหญิงสาวอีกคนที่กำลังอ่านเอกสารบางอย่างในมือ

     

    “กระดูกซี่โครงหัก 4 ซี่ ถูกยิงสามนัดไม่ถูกจุดสำคัญแต่โดนเส้นประสาทเข้าไปเต็มๆ ไหล่ขวาและข้อมือหลุดเพราะแรงกระชาก อวัยวะภายในฉีกขาดบางแห่ง...นี่นายสอบสวนเธอหรือตั้งใจจะทรมานให้เธอตายคามือกันแน่ นี่ฉันเป็นหมอนะอย่ามาทำเหมือนชีวิตคนเป็นผักปลาแถวนี้ได้ไหม บันนี่” เอเรียลบ่นอย่างหัวเสียพร้อมกับตีเอกสารในมือไปที่ไหล่ของเพื่อนร่วมงานอย่างแรง ก่อนจะเดินกลับมาที่ร่างของเอลซ่าแล้วค่อยๆแกะเศษผ้าที่พันมือของอีกฝ่ายไว้ออก

     

    “ฉันทำงานน่า..เลิกบ่นสักที แล้วอย่าลืมตรวจด้วยหล่ะว่าปอดติดเชื้อรึเปล่า”

     

    “ปอดติดเชื่อ..?? นี้นายจับเธอกดน้ำด้วยหรอ” เอเรียลหันมาพร้อมกับส่งสายตาดุไปให้อีกฝ่าย ก่อนจะรีบใช้กรรไกรตัดเสื้อสีเทาเกรอะกรังที่ร่างบางกำลังสวมอยู่ออกเผยให้เห็นผิวขาวนวลราวกับหิมะที่เคยสะกดทุกสายตาของเด็กหนุ่มให้ตกอยู่ในภวังค์ แต่ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยรอยซ้ำของบาดแผล

     

    “เห็นแบบนี้ก็เสียดายผิวเนียนๆเหมือนกันนะเนี้ย..” แจ็คว่าพล่างกระตุกยิ้ม สายตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยวจ้องมองมาที่ร่างบางที่นอนอยู่บนเตียง

     

    “ห้ามมองนะแจ็ค! หันหลังไปทางอื่นเลย..” เอเรียลตะโกนลั้นก่อนจะละมือจากเอลซ่าไปหันหน้าของเด็กหนุ่มให้เบนไปอีกทาง

     

    “คิดว่าฉันจะสนใจอะไรที่ผ่านมือมาแล้วรึไง” แจ็คหันกลับมาอย่างหัวเสียก่อนจะหันมองไปที่เด็กหนุ่มร่างโตคู่ปรับตลอดกาลของเขา อีสเตอร์ มันด์ หรือเจ้าของโค๊ดเนม บันนี้

     

    “มองอะไรไอ้เกรียนหัวเงิน” บันนี้ว่าพล่างตวัดสายตามาที่แจ็ค

     

    “หึ! สอบมา 4 ชั่วโมงกว่าไม่ได้ข้อมูลอะไรเลย นี้นายยังเรียกตัวเองว่าเป็นสายลับอีกหรอ..ลาออกไปเหอะอยู่ต่อไปก็เปลืองเงินองค์กรเปล่าๆ”

     

    “ก็ยัยนี้ไม่ยอมพูดอะไรสักประโยค จะให้ข้าทำยังไงหล่ะ!! แค่ชื่อยังไม่รู้เลย!!!” บันนี้ว่าจบก็แตะเตียงคนไข้ของเอลซ่าอย่างแรง ทำให้เตียงของเธอไถลไปชนกับเตียงเปล่าที่วางไว้ติดกันจนกล่องเครื่องมือที่วางไว้บนเตียงเปล่านั้นตกลงมากระแทกกับเธอ

     

    “อย่ามาเพิ่มแผลได้ไหมบันนี้” เอเรียลกดเสียงต่ำจนน่ากลัวก่อนจะปามีดในมือเฉียดร่างของบันนี้ไปเพียงไม่กี่เซ็น

     

    “เป็นงั้นไป” แจ็คเปลี่ยนท่าเป็นนั่งเท้าแขนตัวเองก่อนจะมองมาที่บันนี้ราวกับเป็นผู้มีชัย

     

    “ยัยนี้ชื่อเอลซ่า ควีน เป็นสายลับองค์กร ฟรอสต์ต้าเบริท แร๊งค์ S คลาส ผ่านการเลื่อนแร๊งค์ตั้งแต่อายุ 19 ตอนนี้อายุ 21 ปี เบื้องหน้าทำงานเป็น CEO บริษัทส่งออกอาหารประเภทแช่เข็ง อาวุธที่ถัดปืนออโต้ กับมีดสั้น”

     

    “นายรู้ข้อมูลได้ไง แจ็ค..?? ” นอร์ทถาม

     

    “ก็ถามด้วย..ร่างกาย กับ ลูกปืน ไง”  

     

    นอร์ทกระตุกยิ้มอย่างเล่ห์สนัยพร้อมกับจ้องมองเด็กหนุ่มด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความคิด

     

    “ไม่ต้องมองแบบนั้นเลยตาแก่ ขอปฏิเสธ บอกไว้เลยนะว่าฉันไม่สนใจผู้หญิงที่เคยผ่านมือมาครั้งหนึ่งแล้วหรอก ถ้าไม่เชื่อ..ถามเอเรียลดูก็ได้” แจ็คว่าพล่างเสมองไปทางหญิงสาวที่กำลังทำแผลให้กับร่างบางที่นอนอยู่บนเตียง

     

    หญิงสาวเจ้าของชื่อสะดุ้งฮวบจนเผลอกดแผลของเอลซ่าอย่างเต็มแรง

     

    เอลซ่าจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะไล้สายตาลงมาที่มือของอีกฝ่ายที่กำลังสั่นอยู่จนเจ้าตัวต้องปล่อยมือออกจากแผลบริเวณแขนของเธอ

     

    “แล้วนายรู้ข้อมูลอะไรอีกบางแหละ” นอร์ทถามต่อ

     

    “มีน้องสาวสองคน..ทั้งสองคนตายเรียบ”

     

    เอลซ่าซะงักกับคำพูดของแจ็คก่อนจะหันไปจ้องเด็กหนุ่มด้วยสายตาที่แข็งกร้าว ร่างบางกำมือที่ถูกล็อคเอาไว้จนแน่นก่อนจะใช้เท้าของตนถีบหญิงสาวที่กำลังเอื้อมไปหยิบด้ายเย็บแผลจนกระเด็นไปกระแทกเข้ากับโต๊ะเครื่องมือที่ตั้งไว้ข้างเตียง

     

    “นี้จะทำบ้าอะไรหน่ะ” บันนี้ที่ยื่นอยู่ข้างเอเรียลวิ่งเข้ามาหาเอลซ่า แต่ทว่าร่างบางกลับพลิกตัวลงจากเตียงอีกด้านหนึ่งก่อนจะถีบเตียงเปล่าอย่างแรงจนกระแทกเข้ากับเด็กหนุ่มร่างยักษ์ พร้อมกับทั้งอาศัยจังหวะนี้คว้ามีดที่วางอยู่ข้างเตียงก่อนจะพุ่งเข้าใส่เด็กหนุ่ม

     

    ตึก!!..

    แจ็คคว้ามือเอลซ่าเอาไว้ก่อนจะออกแรงดันมีดให้ออกห่างจากคอของตน

     

    “ถอนคำพูดเดียวนี้นะ!! ฉันบอกให้ถอนคำพูดเดียวนี้!!!! อลิซยังไม่ตาย ได้ยินไหมว่าอลิซยังไม่ตาย!! ถ้านายไม่ยอมพูดฉันจะตัดลิ้นนายทิ้งซะ” เอลซ่าว่าพร้อมกับพยายามกดมีดลงที่คอของเด็กหนุ่ม

     

    “ไม่ตายก็ใกล้เคียงการที่ครอบครัวของเธอตกอยู่ในความดูแลขององค์กรต้นสังกัด นั้นก็หมายความว่าทั้งเธอและน้องสาวของเธอตกอยู่ใต้อำนาจขององค์กรอย่างสมบูรณ์ แบบ ห้ามหนี ห้ามพลาด ห้ามตาย ตอนนี้เธอควรจะทำใจเรื่องน้องสาวได้แล้ว เพราะเมื่อเธอขาดการติดต่อกับองค์กรครบ 32 ชั่วโมงเมื่อไร น้องสาวของเธอไม่รอดแน่..”

     

    เอลซ่าได้แต่นิ่งอึ่งกับคำพูดของแจ็ค มือเรียวบางค่อยๆปล่อยออกจากคอของเด็กหนุ่มก่อนจะสะบัดมีดทิ้งแล้ว...

     

    เพียะ!!

    ฟาดลงที่ใบหน้าของเด็กหนุ่มอย่างแรง จนใบหน้าของเด็กหนุ่มนั้นขึ้นสีเป็นปื้น

     

    แจ็คเอื้อมมือลูบใบหน้าของตัวเองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตวัดสายตาไปที่หญิงสาวอย่างเอาเรื่อง เด็กหนุ่มคว้ากระบอกปืนที่วางไว้ข้างกายก่อนจะเงื้อมันขึ้นจนสุดแขน

     

    “แจ๊ค!!!!” นอร์ทตะโกนลั้น แจ็คที่เงื้อมือจะตบเอลซ่าซะงักอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลดมือลง

     

    “งานนี้เธอไม่มีสิทธิ์เลือกแจ็ค นี้เป็นคำสั่ง ฉันสั่งให้นายควบคุมดูแลเธอจนกว่าเราจะได้ข้อมูลที่สำคัญจากเธอ เพราะดูเหมือนนายจะเข้าใจเรื่องพวกนี้ดีนะ ขนาดฉันกับอีสเตอร์สอบเธอมา 4 ชั่วโมงเธอไม่ยอมปริปากสักคำ แต่กับนายที่เจอเธอเพียงไม่กี่ชั่วโมงกลับได้ข้อมูลของเธอมากมาย ไม่ว่าฉันกับอีสเตอร์จะพยายามเค้นทุกวิธีทางเพื่อให้ได้คำตอบ แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่เธอจะเปลี่ยนสีหน้าหรือแสดงความรู้สึก แต่กับนาย...”

     

    “...”

     

    “เพราะฉะนั้นนายไม่มีทางเลือกแจ็ค” นอร์ทเอ่ยเสียงเรียบ

     

    “ได้..แต่ฉันก็มีวิธีของฉันเหมือนกัน” แจ็คว่าจบก็คว้าเอวของอีกฝ่ายขึ้นมาก่อนจะพาดร่างของเธอเอาไว้บนบ่า

     

    “...”

     

    นับถอยหลังรอความตายของน้องสาวเธอได้เลย




    เอาแล้วภารกิจซ้อนภารกิจ  

    แล้วแบบนี้ถ้าครบ 32 ชั่วโมงเมื่อไร อลิซก็ต้องตายนะสิ..?? แล้วแจ็คจะใช้วิธีอะไรง้างปากเอลซ่าให้คายความลับออกมากันหล่ะ 555+ รอลุ่นกันได้เลยนะ

    ปล.ตอนสุดท้ายที่แจ็คยิงปืนไปหน่ะ แจ็คยิงกระจกค่ะ สังเกตจากเสียง เพล้ง!! นะเพราะเอาเข้าจริงๆแจ็คเองก็มีสาเหตุที่ทำให้ขัดคำสั่งองค์กรไม่ได้เหมือนกัน เพราะความจริงคอมเม้นต์ขาดไปย

    ที่ลงตอนนี้ต้องขอบคุณรีด 
    cure musedy  ที่เคยคำนิยมให้เมลล์เพราะความจริงคอมเม้นต์ขาดไปเยอะเหมือนกัน รบกววนช่วยอ่านแล้วคอมเม้นต์สักนิดไรต์จะได้มีกำลังใจเขียนตอนต่อไปเมลล์แต่งครึ่งตอนก็เกือบ 10 หน้า แค่คุณคอมเม้นต์แค่บรรทัดสองบรรทัด มันก็ทำให้เมลล์รู้สึกอย่างเขียนต่อไปแล้วละค่ะ (ปล.เปลี่ยนสีไม่ได้ขอโทษด้วยนะค่ะ 55+)



     

    ปึกก!!

    เอลซ่าถูกโดนโยนกระแทกลงพื้นคอนกรีตหนาอย่างแรงจนชาไปทั้งตัว มิหนำซ้ำตอนนี้เธอยังถูกจับมัดอยู่ในถุงกระสอบจนไปไหนไม่ได้อีกต่างหาก ร่างบางสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเพื่อตั้งสติก่อนจะพยายามสอดส่ายสายตาหาช่องทางที่เธอจะหลุดออกไปจากถุงกระสอบบ้าๆนี้ ทันทีที่เอลซ่าสังเกตเห็นแสงสว่างจางๆที่ลอดผ่านเข้ามาจากทางด้านนอกที่อยู่ตรงบริเวณด้านหลัง เจ้าตัวก็ค่อยๆขยับพลิกตัวมาอีกทางก่อนจะออกแรงถีบถุงหนาอย่างแรงจนปากถุงที่ถูกมัดไว้อย่างหลวมๆคลายออก

     

    หญิงสาวคลานออกมาจากถุงกระสอบหนาด้วยสภาพร่างกายที่ยังไม่ฟื้นตัวดีนัก เธอรีบยันตัวเองให้ลุกขึ้นยืนทันทีที่ตั้งตัวได้ เอลซ่ากัดฟันกรอดก่อนจะมองหาเด็กหนุ่มที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด แต่ทว่าตรงหน้าของเธอนั้นกลับไม่มีวี่แววของเด็กหนุ่มที่กำลังตามหา กลับกัน...เธอกลับได้รับรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังถูกขังเอาไว้ในกรงเหล็กหนาที่ถูกล็อคเอาไว้จากทางด้านนอก

     

    “แจ็คสัน โอเวอร์แลนด์!!” เสียงของหญิงสาวที่ตะโกน ดังก้องไปทั่วบริเวณจนชายฉกรรจ์สองคนที่ทำหน้าที่คุมเธออยู่ หันมองมาที่ร่างของเธอด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร

     

    เอลซ่ารีบสาวเท้าเดินไปที่ขอบลูกกรงบานหนา มือเรียวบางที่ถูกล็อคเอาไว้ด้วยกุญแจมือกำลูกกรงไว้จนแน่นก่อนจะพยายามกระแทกมันอย่างแรง “ปล่อยฉันออกไปนะ!!” ดวงตาสีฟ้าสดจ้องมองชายสวมชุดดำสองคนที่กำลังเฝ้าเธออยู่ทางด้านนอกด้วยสายตาโกรธแค้น

     

    “พวกนายจะทำกับฉันอย่างนี้ไม่ได้นะ ปล่อยฉันออกไปเดียวนี้ ฉันจะมาติดอยู่ในที่บ้าๆแบบนี้ไม่ได้นะ!!” เอลซ่าตะโกนลั่น

     

    “นี่ปล่อยฉันเดียวนี้ ฉันต้องกลับไปนะ บอกว่าให้ปล่อยฉันไปยังไงเล่า!!” เอลซ่ายื่นกรานในคำพูดพร้อมกับกระแทกมือทั้งสองของตนเข้ากับลูกกรงหนาอย่างแรง

     

    “ปล่อยฉันเดียวนี้นะ ฉันสั่งให้ปล่อยฉันไงไม่ได้ยินที่พูดหรือไง  เอลซ่าทั้งกระแทกทั้งถีบลูกกรงเหล็กอย่างแรงจนแขนขาทั้งสองเริ่มจะไร้ความรู้สึก แต่ทว่าไม่ว่าจะพยายามสักเท่าไรเธอก็ยังคงติดอยู่ในลูกกรงหนานี้อยู่ดี  “ขอร้องละ..” ร่างบางค่อยๆก้าวเท้าไปจนสุดทางเดิน ทิ้งตัวพิงกับลูกกรงอย่างอ่อนล้า “ถ้าฉันไม่กลับไป... พวกนั้นต้องฆ่าอลิซแน่”

     

    “นี่ขอร้องละเปิดเถอะ ได้โปรด..ฉันต้องกลับไป” เอลซ่าทุบลูกกรงหนาด้วยสภาพที่ไร้เรียวแรงพร้อมกับค่อยๆทรุดลงกับพื้นทั้งสภาพอย่างนั้น

     

    ดวงตาของเอลซ่าร้อนผ่าว มือทั้งสองข้างกำหมัดแน่น กัดฟันกรอด นึกหาวิธีที่จะหนีออกไปจากสถานที่บ้าๆแบบนี้ แต่ทว่าไม่ว่าจะคิดเท่าไรมันหนทางมันก็มีแต่ความมืดมิด มือเรียวบางจิกต้นแขนตัวเองอย่างแรงก่อนจะกระชากมันออกเพื่อระบายความรู้สึกโกรธแค้นที่ฝั่งลึกอยู่ข้างใน เธอแค้นเด็กหนุ่มใจร้ายที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดนี้ และแค้นตัวเธอเองที่อ่อนแอ..

     

    จนไม่สามารถปกป้องคนที่รักไว้ได้แม้แต่เพียงคนเดียว

     

    “หึ!! คิดคำบอกลาน้องสาวได้หรือยังล่ะ...” น้ำเสียงเย้ยหยันของแจ็คที่เพิ่งเดินเข้ามาปลุกหญิงสาวให้ตื่นจากภวังค์

     

    เอลซ่ารีบยันตัวเองให้ลุกขึ้นยืนก่อนจะเอื้อมมือที่ถูกล็อคเอาไว้ออกไปคว้าคอเสื้อของแจ็คก่อนจะกระชากมันเข้ามา “ปล่อยฉันออกไปเดียวนี้นะ ฉันต้องกลับไป”

     

    “ฉันบอกให้ปล่อยฉันแจ็ค” เอลซ่ายืนกรานพร้อมทั้งกระชากคอเสื้อของแจ็คอีกทีเพื่อเร่งคำตอบ ดวงตาสีฟ้าสดของแจ็คเหล่มองมือของเอลซ่าอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะปัดมันทิ้งอย่างไม่ใยดี “นี้รู้สถานะของตัวเองอยู่รึเปล่า ยังไงน้องสาวเธอก็ไม่มีทางรอดอยู่แล้ว... ส่วนเธอถ้าไม่ยอมเปิดปากก็นอนรอความตายอยู่ที่นี้แหละ!!!

     

    เอลซ่าชะงัก ก้มหน้าลงต่ำเพื่อปกปิดสีหน้าของเธอตอนนี้ที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะค่อยๆชักมือกลับเพื่อทัดผมที่หล่นลงมาปรกหน้าไปที่หลังหู ความรู้สึกจุกที่อัดแน่นอยู่ในก้นบึ้งของจิตใจพรั่งพรูออกมาจนดวงตาทั้งสองของเธอร้อนผ่าว เอลซ่าเงยหน้าขึ้นมองเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่อีกด้านด้วยสีหน้าที่ยากจะอธิบายความรู้สึก

     

    “ถ้าคนที่ตายเป็นฉันก็ดีสิ” ดวงตาสีฟ้าสดจ้องมองลึกลงไปในดวงตาของเด็กหนุ่มแต่ทว่าครั้งนี้มันกลับไม่แข็งกร้าวเหมือนครั้งก่อน เป็นเพียงแค่สายตาที่อ่อนแอของหญิงสาวคนหนึ่งเท่านั้น

     

    “นายเคยบอกใช้ไหมว่าถ้าอยากให้นายเลิก ก็ให้ฉันคุกเข่าขอร้องนาย...”

     

    คิ้วของเด็กหนุ่มขมวดแน่นกับคำพูดของหญิงสาวตรงหน้า แจ็คยืนมองที่ค่อยๆทรุดตัวลงด้วยความอ่อนล้า ดวงตาสีฟ้าสดสังเกตเห็นบาดแผลและรอยช้ำที่อยู่ตามตัวของหญิงสาว บางแผลยังไม่ปิดสนิทดีด้วยซ้ำและแน่นอนว่าเกินครึ่งของแผลบนร่างนั้นเป็นฝีมือของเขาเอง

    .

    .

    .

    .

    แต่ทว่า นั้นก็ไม่ใช้เรื่องอะไรที่เขาจะต้องเอามาใส่ใจ

     

    “หึ! มันสายเกินไปแล้วหล่ะ” เด็กหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย ก่อนจะเดินกลับออกมาอย่างไม่สนใจสิ่งตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย

     

    “คนอย่างนายนะไม่มีวันเข้าใจ...”

     

    “คนที่ไม่เคยสูญเสียคนรักไปอย่างนายไม่มีวันเข้าใจหรอก!!!

     

    เสียงของเอลซ่าที่ตะโกนไล่หลังออกมาทำเอาแจ็คที่กำลังจะเดินออกชะงักเท้าอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหยุดเดิน เด็กหนุ่มหันกลับมาพร้อมกับสะแหยะยิ้มที่มุมปากอย่างเยือกเย็น ดวงตาสีฟ้าสดจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันไปมองชายฉกรรณ์หนึ่งในสองคนที่กำลังยืนคุมปากประตูอยู่

     

    ไม่เข้าใจงั้นหรอ...หึ! คนอย่างเธอจะมารู้อะไร!!!..

    ได้เอลซ่า แล้วเราจะได้รู้กัน..

     

    “งดน้ำ งดอาหารยัยนี้จนกว่าจะยอมเปิดปาก และอย่าให้ฉันรู้ว่าใครขัดคำสั่งฉัน ไม่อย่างงั้น ฉันเอาลูกปืนกรอกปากมันแทนข้าวแน่  ..ดูสิว่าจะทนปากแข็งไปได้สักกี่วัน”

     



    จ๊ะเอ๊~ อัพแล้วน้า ลองคิดภาพสิว่าคู่นี้นี่จะลงเอ่ยกันยังไง // คิดกันออกไหมเนี้ย เมลล์ก็คิดไม่ออก(ไม่ใช้แหละ) ลองๆเดาดูนะอยากรู้ความคิดรีด 55+

    สุดท้ายนี้คอมเม้นต์เถิดจะเกิดผล (จะได้อัพเร็วๆ)

     

    READ WITHOUT COMMENT
    PLEASE Comment Comment!!


    themy  butter
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×