คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : chapter 17 For the LAST time in forever (สมบูรณ์)
❄ Chapter 17 :
For the LAST time in forever ❄
△ Presented by Papermail. △
ระวังหัวใจที่เย็นเฉียบจนแข็งกระด้างให้ดี
เพราะมันจะทำให้คุณ " ไร้ความรู้สึก "
แสงแดดยามสายส่องผ่านม่านบางที่ปลิวไสวไปตามแรงลม เสียงดนตรีหลากหลายท่วงทำนองดังแว่วมาจากด้านนอกปราสาทพร้อมกับเสียงพลุฉลองเปิดงานที่ดังสนั่นจนปลุกร่างบางที่หลับไหลอยู่บนเตียง
เอลซ่าสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมกับความเจ็บปวดที่แล่นตั้งแต่ปลายเท้า..จรดตรงเข้ากับเส้นประสาทที่มีอยู่ทั่วร่าง
ความรู้สึกนั้นโถมเข้าใส่ร่างบางไม่ยั้ง จนหญิงสาวต้องทิ้งตัวลงนอนอีกครั้งก่อนจะค่อยๆหลับตาลง..
แม้จะพยายามลืมแค่ไหน แต่ความรู้สึกที่ตราตรึงอยู่ทุกบริเวณจุดสำผัสกลับยิ่งคอยย้ำเตื่อนถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
ข้า...กับ..........แจ๊ค
เอลซ่าค่อยๆเลื่อนสายตามองมือข้างซ้ายของตนที่กำผ้าปูไว้แน่นจนแทบไร้ความรู้สึก พร้อมกับค่อยๆออกแรงขยับมือที่เกร็งแน่นให้ปล่อยพันธนาการที่ยึดติดเอาไว้
ปกปิดเอาไว้...และอย่ารู้สึก อย่าให้ใครเห็น เอลซ่าคิดพล่างพยายามตั้งสติฝืนสู้กับความรู้สึกปวดร้าวที่รุกล้ำอยู่ทั่วร่าง
For the frist time in forever There’ll be magic, there’ll be fun
(นี้เป็นครั้งแรกที่รอมาเนิ่นนาน....คงสนุกยิ่งกว่าเคยเป็น)
Cause for the frist time in forever.......... Nothing’s in my way…!!
(และเป็นแรกที่รอแสนเนิ่นนาน..........ไม่มีใครหยุดเรา...!!)
เสียงดนตรีที่คุ้นหูแว่วดังมาจากทางด้านนอก ฉุดเอลซ่าให้ตื่นขึ้นมาจากภวังค์ ร่างบางยันแขนขึ้นลุกอีกครั้ง ดวงตาสีฟ้าสดทอดมองไปทางด้านนอกหน้าต่างที่ดูเหมือนว่าบรรยากาศในเมืองจะครึกครื้นเป็นพิเศษ สีสันสดใสได้ถูกหยิบยกขึ้นมาแต่งแต้มบรรดาผนังและกำแพงในทุกส่วนของเมือง
วันนี้วัน... เอลซ่าพยายามปัดความหนักอึ่งที่ทับถมอยู่ในหัว คิดหาสาเหตุของภาพตรงหน้า
แต่ยิ่งคิดเท่าไรความรู้สึกราวกับถูกบีบปลายประสาทจนแทบอยากจะกรีดร้องก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น
เฮ้อ....
ร่างบางถอนหายใจยาว ความรู้ถึงว่างเปล่าที่เอ่อล้นอยู่ภายในจิตใจในตอนนี้มันไม่สามารถที่จะเก็บไว้ได้อีกต่อไป
ข้าไม่อยากจะลืมตาขึ้นมาเผชิญหน้ากับความจริง ไม่อยากจะจะลุกขึ้นยืน ไม่อยากได้ยิน ไม่อยากที่จะทำอะไรทั้งนั้น แม้แต่ความรู้สึกที่อยากจะมีชีวิตอยู่ก็ไม่มี...
ฮึก..ฮึก
มือเรียวบางค่อยๆยกขึ้นมาปิดบังใบหน้าของตัวเอง หยดน้ำใสเอ่อล้นดวงตาสีฟ้าครามสดแต่สิ่งที่ฉายออกมาจากดวงตานั้น...
กลับเป็นความเศร้าหมอง
“ฮึก...ข้าไม่ไหวแล้วนะ ข้าไม่รู้ว่า..ข้าควรทำอย่างไรต่อไปดี”
องค์หญิง องค์หญิง องค์หญิง องค์หญิง
เสียงเรียกดังกระหึ่มมาจากทางด้านนอกปราสาท เรียกสติของเอลซ่าให้ตื่นขึ้นมาจากความมืด
วันนี้วันเกิดอันนานี้...
เอลซ่าเลิกผ้าห่มผื้นหนาออกก่อนจะค่อยๆก้าวเท้าเปลือยเปล่าลงพื้นที่ถูกปูด้วยกระเบื้องอย่างดี แต่ถึงแม้ว่ามันจะเป็นกระเบื้องชั้นดีเลิศเลอแต่มันกลับมอบความรู้สึกหนาวเย็นจนน่ากลัวให้ผู้เป็นเจ้าของห้องในทันทีที่เท้าเปื้อยเปล่านั้นได้สำผัส
อุ๊ก..!!
เอลซ่าสะดุ้งกับความรู้สึกจุกที่หนักอึ่งอยู่บริเวณท้อง มือเรียวบางยกขึ้นมากุมไว้จนแน่นก่อนจะพยายามเดินไปที่ระเบียง แต่ถึงแม้ว่าจะพยายามฝืนร่างกายให้เดินมุ่งตรงไปขนาดไหนแต่สองขากลับไร้เรียวแรงพยุง..จนเดินเซไม่เป็นทาง
คงจะมีแต่ตอนนี้สินะ ที่ข้าคิดว่าห้องของข้ามันกว้างเกินไป..
ร่างบางเอื้อมสองมือเรียวเล็กจนสุดแขนเพื่อยึดที่จับบานกระจกไว้เป็นหลักยึด ก่อนจะเดินไปที่ระเบียง
ดวงตาเม่อลอยทอดมองลงไปด้านล่าง แม้ภาพที่เห็นตรงหน้าจะดูสนุกสนานสักแค่ไหนแต่กลับไม่ได้ทำให้หญิงสาวรู้สึกดีขึ้นเลย
“เอลซ่า” เด็กหนุ่มเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพเปียกปอนไปทั่วร่าง เรือนผมสีเงินที่ลู่ไปกับละอองน้ำใสที่เกาะอยู่ยิ่งส่งให้ใบหน้าของเด็กหนุ่มนั้นดูคมจนหน้าประหลาดใจ เสื้อฮูดตัวเก่งที่คลายเชือกผูกออกเผยให้เห็นแผงอกขาวนวลที่ยังคงหลงเหลือหยดน้ำพราวจากการเช็ดลวกๆ
แกร่ก...
เอลซ่าสะดุ้งจนเผลอผลักบานกระจกออก ประจบกับแสงแดดที่ส่องผ่านบานกระจกเข้ามากระทบเข้ากับดวงตาของหญิงสาวที่ยังไม่ตื่นดีทำให้ร่างบางทรุดลงไปทางด้านนอก
แจ๊คยื่นนิ่งกับภาพตรงหน้าครู่นึง ก่อนจะรีบวิ่งไปที่ระเบียงอย่างสุดชีวิต
มือหนาคว้าข้อมือของหญิงสาวเอาไว้ก่อนจะดึงร่างของเธอเข้ามากอด “ทำบ้าอะไรของเจ้านะเดี่ยวก็ตกไปหรอก!!”
“....”
“นี้....เจ้า” ไอร้อนจากอีกฝ่ายส่งผ่านมายังมือของเด็กหนุ่มที่กุมร่างของหญิงสาวเอาไว้แน่น
“เอลซ่า..นี้เจ้าตัวร้อนนี้” แจ๊คว่าพลางเอื้อมมือไปอังหน้าผากของหญิงสาวที่เริ่มหายใจไม่เป็นจังหวะ
“ปล่อยแจ๊ค” เอลซ่าปัดมือของเด็กหนุ่มทิ้ง ก่อนจะดันร่างของเขาให้ออกห่าง
“อะ..เอลซ่า” แจ๊คได้แต่ยืนนิ่ง....แม้รู้ดีว่าเรื่องนี้มันจะต้องเกิดขึ้น แต่พอเอาเข้าจริงมันกลับยากที่จะยอมรับ
มันยากเหลือเกิน สำหรับเด็กหนุ่มที่เคยต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดียว ไร้แม้แต่ผู้คนที่คอยยืนเคียงข้าง
เอลซ่าสะบัดหนีก่อนจะเดินหลบไปอีกทางราวกับว่าคนตรงหน้านี้ไร้ซึ่งตัวตน
แต่ร่างกายตอนนี้ของเธอมันไม่สามารถหยิ่งทะนงได้เหมือนเหมือนจิตใจ ทันทีที่ร่างบางก้าวเดินได้เพียงไม่กี่ก้าวร่างของเธอก็เซจนไถลไปซบเข้ากับแผงอกกว้างของร่างตรงหน้า
เด็กหนุ่มเผลออมยิ้มกับการกระทำที่เหมือนเด็กๆของหญิงสาวตรงหน้ามือหนาค่อยๆยกขึ้นมาโอบกอดร่างบางอย่างทะนุถนอม “นี่เอลซ่าฟังนะ..ข้ารัก”
.
.
.
.
“สะใจ สาแกใจเจ้าแล้วละสินะ...” เอลซ่าพยายามฝืนตัวเองดันร่างของแจ็คให้ออกห่างตนแม้เธอก็รู้ดีว่าเรียวแรงของเธอตอนนี้มันไม่พอ
“หรือถ้ามันยังไม่พอใจเจ้า เจ้าจะทำอะไรข้าอีกล่ะ”
“นี่เอลซ่าฟังข้าก่อน” แจ็คดึงร่างบางเข้ามากอดจนแน่น
“ปล่อยข้านะอย่ามาแตะต้องตัวข้า!!” ร่างบางฝืนดิ้นจนสุดแรง ครั้งนี้เธอจะไม่ยอมให้คนตรงหน้าได้ทำในสิ่งที่เขาต้องการได้อีก
“ไม่!! จนกว่าเจ้าจะยอมฟังที่ข้าพูดว่าข้ารัก..”
“ข้าเกลียดเจ้า!! ได้ยินไหมว่าข้าเกลียดเจ้า!!! ปล่อยข้าสักที หายไปจากชีวิตข้าได้ไหม!!!”
ราวกับทุกอย่างในร่างมันหยุดหมุน แม้ไม่อยากเชื่อว่านี่คือเรื่องจริง แต่เสียงที่ดั่งก้องซ้ำไปซ้ำมาก็ค่อยย้ำเตื่อนจนแทบจะคลั้ง
สองมือที่เคยกุมร่างบางเอาไว้ค่อยๆลดลงอย่างไร้เรียวแรง แต่กลับเป็นจังหวะเดียวกับที่หญิงสาวออกแรงผลักร่างของเด็กหนุ่มให้ถอยห่าง ส่งผลให้ร่างบางเซไปด้านหลังก่อนจะ...
พลิกตกลงจากระเบียง
หญิงสาวพยายามเอื้อมสองมือจนสุดแรงเพื่อพยายามหาสิ่งยึดหลักไว้ไคว่คว้าแต่กลับ...คว้าได้เพียงความว่างเปล่า
“เอลซ่า” แจ๊คกระโดดตามลงไปอย่างไม่คิดชีวิต เด็กหนุ่มเยียดมือหนาจนสุดแขนเพื่อคว้าแขนของหญิงสาวเอาไว้
อีกนิดเดียว เร็วเข้าสิเร็ว..... !! แจ๊คคิดพล่างพยายามคว้ามือของร่างบางเอาไว้
แต่จังหวะที่แจ๊คกำลังเอื้อมมือไปคว้าแขนของหญิงสาวเอาไว้ได้ ร่างบางกลับชักมือออก “อย่ามาแตะต้องข้าน่ะ!!!”
“นี่เอลซ่ายื่นมือมา!!” แจ๊คว่าอย่างหัวเสีย สายตามองพื้นอย่างไม่วางตาเพราะอีกแค่นิดเดียวร่างของหญิงสาวตรงหน้าก็จะตกลงสู่พื้นแล้ว “เร็วเข้าข้าขอร้องหล่ะ”
“ไม่!! อย่ามาแตะต้องข้า ข้าไม่อยากจะเห็นหน้าเจ้าอีกแล้ว” ร่างบางตะโกนลั้นจนสุดเสียง หยดน้ำใสที่ไหลรินออกจากดวงตาทั้งสองข้างลอยค้างอยู่ในอากาศกระทบเข้ากับใบหน้าของเด็กหนุ่ม..จนทำให้มือหนาข้างที่ไร้ไม้เท้ากุมแน่นก่อนจะชกเข้าที่ต้นขาของตนอย่างสุดแรง
“เอลซ่าข้าขอร้อง” แจ๊คจ้องมองใบหน้าของหญิงสาวด้วยสายตาที่เต็มเปียมไปด้วยความรู้สึกที่เอ่อล่น “ครั้งสุดท้าย ขอแค่ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายแล้วข้าจะไม่มาให้เจ้าเห็นหน้าอีก”
.
.
.
.
ตึก!!!!
สุขสันต์วันสงกรานต์นะคะ สำหรับตอนนี้หวาน...ใช่อ๊ะ!!//เงยหน้า+ขึ้นเสียงสูง (จะเก็ทมุกนี้ก็เมื่อดูเปาเปา รักจับใจ) 555+ ฟิน...ใช่อ๊ะ!! จิกหมอน..ฉีกผ้าห่ม...ใช่อ๊ะ!!
เพราะฉะนั้นจงเม้นต์กล่อมเมลล์เยอะๆไม่งั้นมันจะกลายเป็นฟิคดราม่านะเอ่อ... (เรียกร้องอยากได้คอมเม้นต์)
ตอนแรกว่าจะไม่อัพช่วงสงกรานต์กลัวไม่มีคนอ่านแต่เห็นรีดเดอร์ Did-D (เมลล์อ่านว่ารีดเดอร์ทำดี ^^//) เข้ามารอฟิคเมลล์อัพทุกวันเลย...เอานะ !!อัพๆมันก็ได้ ร่างๆในสมุดก็ได้ แค่ 1 หน้า คิดว่าเป็นตอนสั้นๆ ที่ไหนได้เหยียบไป 10 หน้า Word บร๊ะเจ้า
หวังว่าคงไม่ยาวไปจนแอบเลื่อนอ่านข้ามหรอกนะ - -#
ระหว่างแจ๊คกับเอลซ่าถ้าเลือกได้หนึ่งคนจะเลือกเห็นใจใคร...เพราะ??
Elsa, Do you want to build a snowman??
(เอลซ่า ปั่นมนุษย์หิมะด้วยกันไหม?? )
เสียงเล็กๆปนความขี้เล่นของใครบางคนดังแว่วอยู่ข้างหู ปลุกเด็กสาวผมสีบรอนซ์ที่นอนหลับพริ้มอยู่บนเตียงให้ตื่นจากนินทรา
เอลซ่าค่อยๆลุกขึ้นนั่งพล่างขยี้ตาอย่างงั่วเงีย แต่ภาพตรงหน้าของเธอกลับเป็น...
ภาพของอันนาที่กำลังพลัดตกจากกองหิมะที่เธอสร้างขึ้น
“อันนาระวัง!!” มือเรียวเล็กสร้างเกล็ดหิมะขึ้นเพื่อรับร่างของอันนาเอาไว้แต่มันกลับกลายเป็นว่า..เธอสาปน้องสาวแท้ๆของเธอเองด้วยคำสาปที่แม้แต่เธอก็ยังไม่รู้วิธีแก้
ปีศาจ คำสาปของราชินีหิมะ ตัวอันตราย!!
เสียงด่าทอราวกลับจะตอกย้ำดังก้องทั่วบริเวณจนเด็กน้อยทำให้เพียงก้มหน้านิ่งสองมือเล็กค่อยๆยกขึ้นมาโอบกอดตัวเองอย่างเดียวดาย
“เงียบ..เงียบสักทีจะได้ไหม!” เด็กน้อยตะโกนลั่นพร้อมกับสร้างกำแพงน้ำแข็งขึ้นทั้งสี่ด้านเพื่อขังตัวเองเอาไว้ด้านใน เด็กน้อยตัดตัวเองออกจากโลกภายนอกพร้อมกับคำพูดคำพูดหนึ่งที่เธอท่องจนขึ้นใจว่า....
Conceal, don't feel. Conceal, don't feel.
(ปกปิดเอาไว้และอย่ารู้สึก ปกปิดมันเอาไว้อย่าให้ใครรู้)
มันคือคำพูดของคนเป็นพ่อเป็นแม่ที่ไม่รู้แม้วิธีจัดการกับคำสาปที่แสนน่ากลัวนี้ ทำได้แค่เพียง..ทิ้งให้เธอต้องเผชิญกับคำสาปนี้เพียงลำพัง
ข้าต้องไม่รู้สึก.. ด้วยหัวใจที่แข็งกระด้างนี้ข้าก็จะไม่รู้สึกโดดเดียวอีกต่อไป
ก๊อกๆๆๆๆ...
เสียงเคาะประตูดังขึ้นปลุกเด็กน้อยให้ตื่นจากภวังค์ที่โหดร้าย เอลซ่าเงยหน้าขึ้นก่อนจะมองใบทางบานประตู
Elsa, Do you want to build a snowman??
(เอลซ่า ปั่นมนุษย์หิมะด้วยกันไหม??)
เด็กน้อยเลิกคิ้วสูงพร้อมกับก้มลงมองหนังสือที่อ่านทิ้งไว้เพียงครึ่งเล่มบนตักของเธออีกครั้งหนึ่ง
“การที่ข้าได้รู้จักท่าน มันทำให้ข้ากล้าที่จะเผชิญความจริง ก็ข้าคือคนที่จะโตขึ้นมาเป็นภรรยาที่ดีของท่านนี่ แค่นี้ทำไมข้าจะทำไม่ได้ค่ะ แจ๊ค ฟรอสต์” เด็กสาวหัวเราะอย่างอารมณ์ดีก่อนจะปิดหนังสือเล่มโปรดของเธอแล้ววางมันลงที่หัวเตียง สองเท้าเรียวเล็กก้าวไปที่บานประตูหนา เอลซ่าสูดลมหายใจจนเต็มปอดเพื่อรวบรวมความกล้าก่อนจะเปิดบานประตูของเธอออกไป
แต่ภาพตรงหน้าของเธอกลับเป็นภาพของอันนาที่กำลังอิ่มเอมกับความรักที่คริสตอฟฟ์ได้มอบให้
“อันนา!!” หญิงสาวตะโกนลั่นก่อนจะกระชากแขนของน้องสาวออกมาจากพันธนาการของเด็กหนุ่ม
เพี๊ยะ!!..
ใบหน้าของอันนาหันไปตามแรงฝ่ามือของผู้เป็นพี่สาว
“พี่ขอสั่งให้ต่อไปนี้ เจ้าห้ามพบเจ้าผู้ชายคนนี้อีก!!”
“น้องอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขา”
“อันนา!! พี่บอกว่า-ห้าม-เจอ-กับ-ผู้ชายคนนี้-เป็นครั้งที่-สอง”
“ไม่!!” พี่เอลซ่าก็เป็นแบบนี้เสมอ พี่ไม่เคยฟังอะไรใครเลย ไม่เคยฟังใครเลยแม้แต่ตัวของพี่เอง!!”
“อันนา!!” ร่างบางสะดุ้งตื่นพร้อมกับเม็ดเหงื่อที่ชโลมอยู่ทั่วใบหน้าเพราะพิษไข้ มือเรียวบางรีบยันลงเตียงเพื่อพยุงร่างของเธอไว้ไม่ให้ต้องฟุบลงไปอีกครั้ง
“อะ..เอลซ่า อะ..โอลาฟว่าเอลซ่าอย่าเพิ่งลุกดีกว่านะ แจ๊คบอกโอลาฟว่าเอลซ่าไม่สบายมากเลย” เจ้ามนุษย์หิมะตัวน้อยว่าไปตามคำสั่งที่ตนได้รับมา
แจ๊ค…
เจ้า..เป็นห่วงกันทำไม..คนอย่างนาย.... หญิงสาวก้มมองมือทั้งสองข้างของตนด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวด
เด็กหนุ่มยืนพิงผนังห้องอยู่อีกทาง สายตาว่างเปล่ามองร่างบางที่เพิ่งฟื้นด้วยอารมณ์ที่สับสน ถึงเขาจะดีใจ..ที่คนตรงหน้าไม่เป็นอะไรมาก แต่อีกใจเขากลับไม่อยากให้เธอลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เพราะนั้นหมายถึง...
เวลาที่เขาจะต้องไปมันมาถึงแล้ว
แจ๊คกุมไม้เท้าของตนแน่นก่อนจะยันตัวเองให้หลุดจากพนัง เท้าเปื่อยเปล่าเดินไปทางหน้าต่างอย่างไม่ลังเล..แต่ทุกก้าวมันกลับทรมารเกินกว่าจะรับไหว
เอลซ่าที่นั่งอยู่บนเตียงหันมองเด็กหนุ่มที่เดินหันหลังให้ตนไปจนถึงบานหน้าต่าง สองมือเรียวบางยกขึ้นกอดตัวเองอย่างช้าๆแต่ในขณะเดียวกันมือเรียวบางนั้นกลับจิกแขนตัวเองจนช้ำเพื่อเตื่อนให้ตัวเองรู้ว่ามันเจ็บ...เจ็บความกว่ารู้สึกที่อยู่ข้างในหลายร้อยเท่า
พี่ไม่เคยฟังอะไรเลย ไม่เคยฟังแม้แต่ตัวของพี่เอง!!!...
วินาทีที่เด็กหนุ่มเดินออกไปจากชีวิตของเธอ ร่างบางได้แต่นิ่งอึ่งราวกับว่าทุกอย่างมันหล่นฮวบลงสู่พื้น มือเรียวเล็กค่อยๆเลื่อนขึ้นมากุมหน้าอกของตนอย่างช้าๆ
เหมือนหัวใจมันกำลังจะหยุดเต้นเลย...ร่างบางได้แต่ยิ้มแห้งๆให้กับตัวเอง
“อะ..เอลซ่าเป็นอะไรหรือเปล่า นะ..หน้าซีดเกินไปแล้วนะ..นี่ไหวรึเปล่า” โอลาฟรีบวิ่งมาพยุงร่างบางเอาไว้เพราะเห็นว่าคนตรงหน้านี้อ่อนแรงจนแทบจะพยุงตัวเองเอาไว้ไม่ไหว
“อะไรกันโอลาฟ นี่.. ข้าไม่เป็นอะไรสักหน่อย” เอลซ่าว่าพลางเลิกผ้าห่มผืนหนาของตนออกก่อนจะลุกขึ้นยืนตรงหน้าของเจ้ามนุษย์หิมะตัวน้อยนี้ “วันนี้วันเกิดอันนานะเจ้าไปอยู่ข้างๆ เขาเถอะสักพักเดียวข้าเปลี่ยนเสื้อแล้วจะรีบตามเจ้าไป”
ปึง..
เสียงปิดประตูดังเป็นสัญญาณว่าเจ้ามนุษย์หิมะตัวน้อยได้เดินจากไปแล้วร่างบางค่อยๆทิ้งตัวลงกับพื้นอย่างไร้เรียวแรง
คนอย่างนั้นหายไปได้ก็ดี ได้ยินไหมเอลซ่าได้ยินไหมว่าเจ้าเกลียดเขา เจ้า..เกลียด..เขา!! เจ้าควรจะมีความสุขไม่ใช้หรอ.. เจ้าควรจะหัวเราะ ยิ้มร่าให้กับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่หรือไง...
แล้วทำไม....แล้วทำไม.. ร่างบางชันเข่าเปือยเปล่าขึ้นมาพร้อมกับชุกใบหน้าของตนสองมือเรียวเล็กกอดเท้าของเธอไว้อย่างโหยหาความรู้สึกที่ขาดหาย
ทำไม.. ตอนนี้ข้าถึงร้องไห้กันล่ะ...
หยดน้ำไหลรินเปราะเข่าทั้งสอง ถึงแม้ว่าจะพยายามปิดบังความรู้สึกเอาไว้แค่ไหนแต่ตอนนี้เธออ่อนล้าเกินกว่าที่จะปิดมันเอาไว้
“ทำไมกันล่ะ..ทำไม ทำไม” สองมือทุบขาตัวเองจนแดงเป็นแถบ เพราะอารมณ์ที่สับสนร่างบางสบัดหัวตัวเองแรงๆก็จะทิ้งตัวพิงไปทางด้านหลัง
ปึก...เพล้ง!!
ไข่อีสเตอร์ใบโปรดที่เธอตั้งมันไว้ที่โต๊ะเล็กข้างเตียง ด้านในของไข่มีกระต่ายตัวน้อยๆประดับอยู่ด้านในพร้อมกับป้ายตัวอักษรที่อยู่ด้านในว่า I will always beside you, ELSA* แต่ตอนนี้มันกลับแตกจนไม่เหลือชิ้นดีเหมือนกับความรู้สึกของเธอตอนนี้
(ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้าตลอดไป..เอลซ่า*)
ทำไมตอนนี้...ข้ากลับโหยหาเจ้า..แจ๊ค
JACK FROST..
“สวยจัง...นี้แจ็คเจ้ารู้จักรึเปล่าว่าที่นี้ที่ไหน”
“ป่าของเมืองทาร์น่ะ ที่นี้มีดอกไม้บานตลอดปีเพราะฝีมือของเทพแห่งผลผลิต บางทีเวลาข้าเบื่อๆก็ชอบมาพักที่นี้นะเพราะป่านี้ไม่มีคนอาศัยอยู่”
ปึก!!
บูมเมอร์แรงอันโตร่อนเฉียดไปหน้าของเด็กหนุ่มไปเพียงไม่กี่เซนฯ
ปลุกเทพผู้พิทักษ์ที่นั่งเหม่ออยู่ให้รู้สึกตัว แจ๊คค่อยๆหันหน้าไปมองแขกผู้มาเยื่อนด้วยสายตาที่ไม่ค่อยเป็นมิตร แต่ดูเหมือนว่าแขกของเขาตอนนี้ก็ไม่เคยคิดจะเป็นมิตรกับเขาอยู่แล้ว
“นี่ไอ้เกรียนหนีมาอยู่ที่นี้เอง แล้วนี้เจ้าคิดจะแช่แข็งป่านี้ทั้งป่าเลยหรือไง โผล่มาทีนึกว่าอยู่ขั่วโลกเหนือนี้ดูสิเท้าข้ามันแดงไปหมดแล้วนะ” บันนี้ว่าพล่างชี้หน้าแจ๊คที่นอนอยู่บนต้นไม้ ก่อนจะยกเท้าของตนขึ้นมาเตะต้นไม้อย่างแรงจนสั่นไปทั้งต้น
แต่ดูเหมือนว่าเด็กหนุ่มจะรู้ทัน แจ๊คคว้าไม้เท้าของตนก่อนจะกระโดดลงมาทางด้านล่างอย่างหัวเสีย “แล้วเจ้ามาทำไมกันล่ะ”
“นี่ไอ้เบือก เป็นอัลไซเมอร์หรือไง ก็ในเมื่อเจ้าส่งไอ้นี้มาให้ข้าเอง แล้วไอ้คำลงท้ายนี้อะไร มันคืออะไรข้าไปเป็นเพื่อนของเจ้าตั้งแต่เมื่อไร” บันนี้ว่าพล่างสะบัดจดหมายที่ทำด้วยเกล็ดหิมะอย่างแรงจนแทบขาด
แจ๊คดึงกระดาษออกจากมือของบันนี้ ก่อนจะเลิกคิ้วสูงอย่างไม่เข้าใจคำตอบของเจ้ากระต่ายตรงหน้า
“อึบ.. บันนี้ช่วยด้วยเค้าปีนไม่ขึ้นอะ ช่วยด้วยจะตกแล้ว จะตกแล้วน่ะ!!” เสียงแหลมเล็กที่คุ้นเคยเป็นอย่างดีดังมาจากอีกฝากของโพรงกระต่ายฉุดความสนใจของแจ๊คจนเจ้าตัวเผลอปล่อยกระดาษใบสำคัญหลุดมือ
เด็กสาวผมสีบรอนซ์อ่อนจนเกือบขาวพยายามปีนขึ้นมาจากโพรงกระต่ายอย่างทุลักทุเลจนเนื้อตัวเปื้อนเต็มไปด้วยดินแต่ใบหน้ากลับถูกแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มที่สดใส
“ฮะๆๆ อลิซล้อเล่น” เจ้าตัวรีบลุกขึ้นยืนก่อนจะรีบวิ่งมากอดเด็กหนุ่มที่ยืนอึ่งอยู่ตรงหน้า
“อลิซดีใจที่สุดเล๊ย!! จะได้เจอกับเอลซ่าแล้ว”
เปลี่ยนเพลงใหม่เพื่อบิ้วอารมณ์รีด แนะนำให้เปิดคล่อๆนะเพลงนี้ชอบเนื้อหาตรงกับตอนนี้ดี เมลล์คิดถึงรีดเดอร์ทุกคนนะคะ ตอนแรกจะไปเล่นที่สยามแต่เปลี่ยนโปรแกรมกะทันหันต้องไปเล่นที่บางแสนแทน ก็เลยกล้าๆกลัวไม่สบายคนอื่นเอาหน้ารับน้ำ แต่เมลล์วิ่งหนี้น้ำกลัวไม่สบาย เดียวบรรดารีดๆจะมิได้อ่าน เอาเป็นว่าอัพแล้วนะงับ
จะเริ่มโยงกับตอนเก่าแล้วนะคะ EX. ไข่อีสเตอร์ที่แจ๊คให้เอลซ่าในตอนที่พาเอลซ่าไปเจอบันนี้ ที่พูดว่า "ชอบ..แล้วรักป่ะ" กับป่าเมืองทาร์ที่แจ๊คนอนอยู่ในถ่ำกับเอลซ่าตอนที่แกล้งแกล้งเจ็บ
ปล.... ถ้าเจอคำผิด หรืประโยคผิดบอกกันด้วยนะคะ ช่วงนี้เบลอๆ ไมฟิคคนอื่นมีคนช่วยด้วยอ่ะ..ฟิคนี้หัวเดียวกะเทยลีบ เอ๊ย!!กระเทียมลีบ
ปล.ลูกบอกอยากเจอแม่อย่างนี้แล้วพ่อจะทำยังไงดีเนี้ย ฮิ้วๆ
ความคิดเห็น