ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Warp Village หมู่บ้านคนฆ่าคน

    ลำดับตอนที่ #35 : CHAPTER 12 : อวสานเกมทรมานเหยื่อ --[อวสาน]--

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 94
      1
      10 มี.ค. 56

    CHAPTER 12 : อวสานเกมทรมานเหยื่อ

     

     

     

     

     

                    ไอชั่ว!!” ซิดนีย์ด่าทออีธานอย่างไม่หวั่นเกรง เธอยังคงดิ้นอย่างบ้าคลั่งเพื่อที่จะให้หลุดออกจากอ้อมแขน

     

                    ฉันจะไม่ยอมให้เพื่อนฉันตายอีกแอชพูดเสียงเรียบ ทั้งๆ ที่เธอยังคงถูกอีธานจับล็อกคอไว้

     

                    พูดว่าอะไรนะฉันไม่ได้ยินอีธานเย้ยหยัน เขาดันร่างของหญิงสาวทั้งสองไปยืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะใบเลื่อย ทำท่าทางหยอกล้อเล่นกับพวกเธอให้เกรงกลัวต่อเครื่องสังหารตรงหน้า

     

                    ไปตายซะ!” แอชลีย์หยิบรูปเธอและเมแกนที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมา ก่อนจะเอี้ยวตัวไปมองอีธานพร้อมกับใช้ด้านคมของรูปใบนั้นปาดเข้าที่คอของอีธานอย่างจัง

     

                    อ๊ากกกกกกกกกกชายร่างยักษ์สะบัดร่างของสองสาวออก ก่อนจะลงไปนอนดิ้นพล่านกับพื้นพร้อมกับจับลำคอที่เต็มไปด้วยเลือดที่ไหลทะลักออกมา

     

                    ลาก่อนซิดนีย์ถ่มน้ำลาย ก่อนจะสะบัดเรือนผมพร้อมออกเดินมาจากห้องเก็บศพห้องนั้น

     

                    เมื่อกี้ฉันพูดว่า…” แอชกลืนน้ำลาย พยายามทำท่าทางให้เข้มแข็งก่อนจะนั่งลงไปมองร่างที่ดิ้นทุรนทุรายของอีธาน คนอย่างแกเวลาตายนี่น่าสมเพชชะมัด

     

    ปัง!!      

     

                    แอชลีย์ปิดประตูเหล็กสนิมลง ปล่อยให้อีธานนอนดิ้นอยู่แบบนั้นและหวังว่าเพียงไม่นานเขาจะตาย ก่อนที่เธอจะเก็บรูปใบนั้นลงกระเป๋ากางเกงอีกครั้ง

     

                    จัดการมันเสร็จแล้วหรอ? รีบขึ้นมานี่เร็วๆ แกกับฉันต้องออกไปตามหาไอเหยื่อตัวนั้นอีกโจนาธานส่งเสียงเจื้อยแจ้ว พร้อมกับนั่งกระดิกขาบนโซฟาตัวโปรด โดยหันหลังให้กับทางลงไปคุกใต้ดิน

     

                    เหยื่อตัวนั้น แสดงว่าใครบางคนยังมีชีวิตอยู่ซิดนีย์พูดขึ้น แอชพยักหน้าก่อนจะเริ่มพูดบ้าง

     

                    รีบจัดการมันแล้วออกไปจากหมู่บ้านบ้าๆ นี่กันเหอะหญิงสาวกำหมัดแน่น พยายามลืมภาพการตายที่ทรมานของแฟนหนุ่ม เธอถอนหายใจก่อนจะหยิบใบพัดตัดหญ้าที่ทิ้งเอาไว้ขึ้นมา ก่อนจะยักคิ้วให้เพื่อนสาว

     

                    เหยื่อของพวกเราซิดนีย์ยิ้มกว้างก่อนจะเดินนำขึ้นไปบนบ้านของโจนาธาน ที่ตอนนี้เจ้าของบ้านกำลังนั่งผิงเตาไฟที่ตั้งอยู่อย่างสบายอารมณ์

     

                    นี่! ฉันบอกให้แกรีบๆ ขึ้นมาไงโจนาธานหันขวับไปโดยคิดว่าด้านหลังคือทาสรับใช้คนสนิท เขาอารมณ์เสียทีคนของเขาจัดการเหยื่อนานเกินไป

     

                    สวัสดีค่ะซิดนีย์ยิ้มให้โจนาธาน อีกฝ่ายหน้าเสีย ตาเหลือกโตด้วยความตกใจ

     

                    คุณโจนาธานแอชลีย์ยักคิ้วให้ก่อนจะสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมดันตัวใบพัดไปหาร่างที่นั่งอยู่บนโซฟา โจนาธานรีบหลบ ใบพัดปาดไปที่หน้าของเขาจนเป็นแผลบาก

     

                    หยุดนะอย่าอย่าเข้ามาโจนาธานค่อยๆ ถอยออกไปให้ห่างจากสองสาวอันตราย ก่อนจะพลาดท่าสะดุดกับพื้นไม้ที่ไม่เรียบสนิทจนล้มลงไปไม่นะ

     

                    ซิดนีย์ทำให้มันอยู่นิ่งๆ หน่อยสิแอชเชิดหน้า ซิดนีย์รีบวิ่งไปคว้าไม้กอล์ฟที่ตั้งตระหง่านอยู่ที่มุมมืดของบ้าน ก่อนจะฟาดเข้าที่ศีรษะของเหยื่อของพวกเธอ

     

                    ฉันยอมแล้วโจนาธานกุมปากแผลที่มีเลือดไหลบริเวณศีรษะ เขาเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาทันที

     

                    แค่นี้ก็หมดฤทธิ์ซิดนีย์โยนไม้กอล์ฟออกไป ก่อนจะยิ้มด้วยพอใจและสะใจ

     

                    ฉันจะให้แกได้รับรู้รสชาติความทรมานที่คนอื่นเค้าได้รับกันบ้าง!” แอชยื่นหน้าไปมองเหยื่อที่นอนนิ่งอยู่ ก่อนจะบรรจงเลื่อยใบพัดในมือที่แขนซ้ายขวาของเขาจนมันขาดออกจากกัน

     

                    อ๊ากกกกกกกกก!!” เลือดไหลท่วมพื้นบ้านจนกลายเป็นสีแดง โจนาธานร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด ภาพเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่เขาสั่งให้ลูกน้องไปจัดการจับมาค่อยๆ ผุดขึ้นที่สมองของเขาทีละคนๆ

     

                    แขนหายไปแล้ว ถ้าเหลือขาไว้มันจะไม่สมดุลนะซิดนีย์พูดไปยิ้มไป ก่อนจะเป็นฝ่ายจับใบพัดมาไว้ในมือพร้อมกับชำแหละเหยื่อบ้าง

     

                    ใบพัดเลื่อยขาของโจนาธานจนชายหนุ่มร้องลั่น เขารู้สึกเจ็บปวด สายตาพร่ามัว เริ่มรู้สึกแล้วถึงความทรมาน ตอนนี้เขาอยากจะตายไปให้รู้แล้วรู้รอด

     

                    ฉันเจออะไรดีๆ เข้าด้วยแหละแอชพูดขึ้นที่ด้านหลังของซิดนีย์ก่อนจะเดินมาพร้อมกระปุกสีขาวที่ภายในมีเม็ดเล็กๆ อัดกันอยู่แน่น

     

                    นั่นมันเกลือนี่ซิดนีย์เลิ่กคิ้วด้วยความสงสัย

     

                    ตายแล้ว…” แอชพูดขึ้น ก่อนจะทำท่าตกใจและเทกระปุกเกลือลงไปที่รอบแผลของโจนาธานจนชายหนุ่มดิ้นพล่าน แหกปากร้องลั่นอีกครั้ง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจพอดีคิดว่ามันเป็นยาทาน่ะ

     

                    เสียเวลามามากแล้วไปกันเถอะซิดนีย์พูดขึ้น ใบหน้าเริ่มจริงจัง เธอกลัวว่าถ้าอยู่นานกว่านี้ ชาวบ้านคนอื่นๆ อาจจะตามมาฆ่าเธอในบ้านของโจนาธานก็ได้

     

                    ก็ดีเหมือนกันแอชพูด เธอรู้สึกเหมือนเป็นคนใหม่เมื่อเห็นความทรมานของโจนาธาน ลาก่อนนะคะคุณโจนาธานแอชลีย์ยิ้มก่อนจะเดินไปหยิบฟืนที่อยู่ในเตาผิงมาวางไว้นอกเตาอากาศมันเย็นน่ะค่ะ
     

                    กองเพลิงค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว สองสาวหันมามองอย่างสะใจ ซิดนีย์ทิ้งใบพัดในมือไว้ให้โจนาธานดูต่างหน้า ก่อนจะกอดคอเดินออกจากบ้านไปพร้อมกับแอชลีย์ โจนาธานได้แต่กัดฟันด้วยความแค้นและเจ็บปวด ไฟที่ร้อนระอุค่อยๆ คลืบคลานมาก่อนจะเผาร่างของเขาให้ตายทั้งเป็น~

     

     

     

     

     

     

                    เฮ้!!” รามโบกไม้โบกมือเรียกสองสาว เมื่อเขาเห็นเธอสองคนกำลังเดินมาทางนี้อย่างไม่ค่อยรีบเร่งอะไรนัก ซิดนีย์โบกมือตอบก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของชายหนุ่ม

     

                    รอพวกเรานานไหม?ซิดนีย์เอ่ยถาม

     

                    ไม่หรอกรามยิ้มก่อนจะตอบเสียงแห้งแล้วคนอื่นๆ ล่ะ?รามเป็นฝ่ายถามต่อ ถึงแม้เขาจะพอรู้คำตอบบ้างแล้ว แต่ก็ยังอยากฟังคำพูดจากปากของสองสาวให้แน่ใจ

     

                    “…” ซิดนีย์เงียบ  ก่อนจะหันไปจ้องหน้าแอช

     

                    เหลือเราสามคนแล้วตอนนี้แอชตอบ ก่อนจะลูบปอยผมของตัวเอง รามก้มหน้าเศร้า ก่อนจะเงยขึ้นมาถามข้อสงสัยอีก

     

                    แล้วพวกมันไปไหนกันหมดรามถามต่อ ก่อนจะมองไปรอบๆ บริเวณ

     

                    โจนาธาน กับพรรคพวกตายแล้วซิดนีย์ตอบบ้าง

     

                    พวกเราไปกันต่อเถอะแอชชักชวน ก่อนจะพากันเดินข้ามสะพานไม้ผุๆ

     

                    เลื่อยสวยดีนะซิดนีย์ตบไหล่ชายหนุ่ม ก่อนจะเดินตามไปติดๆ รามยิ้มกว้างก่อนจะปล่อยมือออกจากเลื่อยไฟฟ้า เขาคิดว่าคงไม่จำเป็นต้องใช้มันอีกแล้ว

     

                    เราจะเดินไปไหน?รามถามต่อ แล้วไกลแค่ไหน?

     

                    ฉันก็ไม่รู้แอชเดินนำพร้อมกับยักไหล่ ก่อนที่บางสิ่งจะพุ่งตรงมาจากทางด้านขวามือเธอ ก่อนที่มันจะหยุดตรงเป้าหมาย

     

    ฉึก!!

     

                    กรี๊ดดดดดดดดดดดซิดนีย์กรีดร้องลั่นด้วยความตกใจ เธอรีบลงไปประคองเพื่อนสาวที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนรามได้แต่มองหารอบๆ ตัวว่ามีอะไรที่สามารถนำพาธนูให้มันพุ่งออกมาได้

     

                    เลือดสีแดงฉานค่อยๆ ไหลออกจากปากแผลของแอช เธอล้มลงไปนอนกับพื้น ไม่รู้สึกอยากจะกรีดร้องอะไรออกมา ความเจ็บปวดแล่นเข้าสู่หัวใจ ถึงแม้มันจะทรมาน แต่เธอเองก็ไม่ได้อยากจะพาตัวเองให้หลุดพ้นออกจากความเจ็บปวดนี้ สายตาของเธอเริ่มพร่ามัว เลือดไหลผ่านม่านตาที่เธอมองใบหน้าของซิดนีย์อยู่ เสียงร้องไห้สะอื้นของเพื่อนสาวดังเบาๆ ที่ข้างๆ หู ก่อนที่แอชจะรู้สึกเหมือนเสียงของซิดนีย์เริ่มเหือดหายไป

     

                    แอชลีย์

     

                    เสียงเรียกชื่อเธอดังก้องกังวานไปหมดหลังจากที่เธอหลับตาลง เสียงที่เธอรู้สึกคุ้นมานาน

     

                    แอชลีย์

     

     

     

     

     

     

                    เคลียร์เขย่าแขนหญิงสาวคนรักให้ตื่นจากภวังค์ เมื่อระหว่างทางที่กำลังจะไปบ้านพักของน้อยหน่า แอชเผลอหลับไป อาจจะเพราะด้วยความเหนื่อยหรืออะไรก็ตาม

     

                    แอชลีย์เคลียร์เรียกชื่อแฟนสาวเพียงเบาๆ แต่กลับทำให้เธอสะดุ้งตื่นอย่างตกใจ แอชหวีดร้องออกมาอย่างคนเสียขวัญ จนคนทั้งคันรถหันไปมองกันเป็นตาเดียว

     

                    เป็นอะไรไปแอช?ซิดนีย์ยื่นตัวเข้ามาใกล้กับเบาะข้างคนขับ

     

                    ซิดนีย์แอชหันไปมองหน้าหญิงสาวอย่างงงๆ ด้วยความตกใจเมื่อสักครู่ทำให้เธอเผลอฉีกรูปในมือทิ้งลง

     

                    ก็ใช่ไง? เธอเป็นอะไรไปเนี่ย?ซิดนีย์ขมวดคิ้ว คนอื่นๆ ต่างก็สงสัยในอาการแปลกๆ ของแอช เคลียร์หันมามองแฟนสาวเป็นระยะ สับกับการมองดูถนนแคบๆ ที่ตัดมาเป็นทางยาว ขนาบด้วยสองข้างทางที่เป็นป่าไม้ใบหญ้าสูงรกชัน

     

                    ฉันเอ่อฉันฝันร้ายน่ะแอชค่อยๆ ปะติดปะต่อเรื่องราวด้วยความสงสัย ก่อนที่เธอจะเหลือบไปมองรูปในมือ รอยที่ถูกฉีกจากการตกใจของเธอมันลากยาวผ่านลำคอของเธอเอง สายลมเย็นยะเยือกพัดผ่านร่างของเธอ มันเย็นราวกับน้ำแข็งหรือเครื่องปรับอากาศภายในรถที่กำลังเปิดอยู่

     

                    วาน่าเมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนน่าหวาดหวั่น เขากลับไปนั่งอยู่กับที่พร้อมเสียบหูฟังที่ติดกับไอพอด ก่อนจะฮัมเพลงเบาๆ~

     

     

     

     

     

     

                    วันนี้คิดยังไงของแกน่ะถึงได้แอบหนีมากับพวกฉันโซลไถ่ถามเพื่อนสาวที่ตลอดเวลาถูกพ่อบังคับให้อยู่แต่ในบ้านหลังใหญ่

     

                    ฉันมาได้แล้วพวกแกก็ควรจะดีใจสิวรรณตอบกลับ

     

                    อย่ามัวแต่คุยๆ มองดูรถข้างหน้าด้วยนะยัยโซลน้ำดุเพื่อนสาวก่อนจะนั่งพิงเบาะเหมือนเดิม โซลและวรรณหันมายิ้มแหยๆ ให้ก่อนจะหันกลับไป

     

                    ฉันรู้สึกวันนี้ท้องฟ้ามันมืดแปลกๆ ชอบกลอยู่นะกันย์พูดต่อ

     

                    แล้วนี่แกจะพาฉันไปไหน?วรรณถามกลับ

     

                    ฉันจะพาแกไปช้อปปิ้งในเมืองไงล่ะ จะได้มีชุดสวยๆ กับเขาบ้างโซลพูด

     

                    บอกว่าอย่าคุยกันไง! เดี๋ยวก็ไม่มีสติขับรถกันหรอกน้ำดุอีกครั้ง โซลหน้ามุ้ยก่อนจะหันมาแลบลิ้นให้หญิงสาวด้านหลัง

     

                    โซล! ระวัง!!” กันย์ชี้ไปตามเส้นทางด้านหน้า แสงรถตู้คันหนึ่งสาดส่องเข้ามาจนเธอหรี่ตาลง

     

                    โซลรีบหันขวับไปมองด้วยสติที่หลุดกระเจิง วรรณจับเบาะแน่นด้วยความกลัว

     

                    หักรถหลบสิ!” น้ำตะโกนดังลั่น เรียกสติเพื่อนสาว!~

     

     

     

     

     

     

                    ไม่เป็นไรนะแอชเคลียร์หันไปลูบปอยผมหญิงสาวที่กำลังอยู่ในสภาวะวิตกกังวล

     

                    อย่าเว่อร์ให้มันมากเลยน่าแอชลีย์!” น้อยหน่าตำหนิเชิงล้อเล่น ก่อนจะเหลือบตาไปมองกระจกด้านนอกอย่างไม่แยแส เคลียร์มองดูกระจกที่สะท้อนด้านหลัง ก่อนจะส่ายหน้าให้หญิงสาว

     

                    เคลียร์!!!” แอชรีบกระตุกแขนเสื้อของแฟนหนุ่มเมื่อเห็นรถด้านหน้ากำลังพุ่งตรงมาทางรถตู้คันใหญ่ของพวกเธอโดยไม่มีทีท่าว่าจะชะลอหรือหยุดลง

     

                    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด!!” เสียงหวีดร้องเสียขวัญของซิดนีย์ดังลั่นก่อนที่อุบัติเหตุไม่คาดคิดจะเกิดขึ้น

     

    ตู้มมมมมมมม!!

     

                    เสียงการปะทะกันของรถตู้คันใหญ่และรถยนต์ส่วนบุคคลดังลั่นสนั่น หากแต่เพียงรอบข้างมีแต่ผืนป่าจนทำให้เสียงนี้ดังไม่ถึงโสตประสาทของใคร รถยนต์คันงามพุ่งชนก่อนจะพลิกคว่ำแล้วไถลไปตามแนวข้างทาง สี่สาวด้านในกระแทกกับกระจก วรรณกระแทกเบาะด้านหน้าจนกะโหลกศีรษะยุบลงไป พร้อมกับลำคอที่หัก โซลถูกกระจกแผ่นหนาใหญ่ด้านหน้า มันหลุดออกมาก่อนจะเสียบทะลุหน้าผากของหญิงสาว กันย์และน้ำแขนขาหักอย่างผิดรูปร่าง

     

                    ส่วนรถตู้คันใหญ่ก็เช่นเดียวกัน มันพลิกคว่ำ น้ำมันเครื่องค่อยๆ ไหลออกจากตัวถัง วาน่าถูกกระแทกกับรถก่อนที่กระจกด้านข้างจะแตกออกมาเสียบทั่วร่างกาย ลัลตกเบาะที่นั่ง ก่อนที่จะหงายหลังไปยังเบาะสุดท้าย เตาย่างบาร์บีคิวที่พวกเขาเตรียมมาทำอาหารอันโอชะหลุดออกมา ก่อนที่ซี่เหล็กจะแทงทะลุแขนขาของเขา น้อยหน่าเองก็เช่นกัน เธอโดนซี่เหล็กมากมายทะลุลำตัวก่อนจะหมดลมหายใจไป ซิดนีย์มีเพียงแผลบอบช้ำที่ถูกอัดจากการกระแทก หากแต่เส้นเอ็นที่แขวนผ้าม่านสีทึบขาดออกจากกันพร้อมทั้งเหวี่ยงมาปาดลำคอเชิดระหงส์ของหญิงสาวจนศีรษะและลำตัวหลุดหายจากกันอย่างน่าสมเพช เคลียร์ถูกแรงอัดจากรถคู่กรณีบีบเขากระแทกกับพวงมาลัยด้านหน้า ลำไส้ทะลักออกมาก่อนจะร่วงมากรูกันที่ด้านล่าง เลือดสาดเต็มรถจนไม่น่ามอง แอชลีย์เป็นคนเดียวที่โชคดี เธอกระเด็นออกมาจากนอกรถขณะเกิดเหตุการณ์ มีเพียงบาดแผลฟกช้ำและถลอกที่เกิดจากการถูกับพื้นถนน

     

                    เคลียร์…” หญิงสาวค่อยๆ ยันตัวเองขึ้นมา ก่อนจะเดินกะโผลกกะเผกไปที่รถตู้ เธอคิดว่าสภาพรถตอนนี้กับวินาทีที่แล้วช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว หญิงสาวเดินไปใกล้ๆ ที่นั่งคนขับ ถึงแม้มันจะพลิกคว่ำ แต่เธอก็พยายามก้มตัวลงมองเข้าไปด้านใน ม่ายยยยยยยยยยย!!”

     

                    ประกายไฟลุกพรึบขึ้นก่อนจะลามไปทั่วทั้งคันรถ แอชรีบเขย่งขาก่อนจะพาตัวเองออกมาจากที่แห่งนั้น เพียงไม่กี่วินาทีต่อมา รถทั้งคันก็ระเบิด เศษชิ้นเนื้อของเพื่อนในกลุ่มรวมถึงแฟนหนุ่มกระเด็นกระจายเต็มท้องถนน แอชลีย์ขาพับลงด้วยความหมดหวัง ก่อนจะร้องไห้ฟูมฟาย

     

                    เพียงไม่นานแสงไฟของรถคันหนึ่งก็กระทบเข้ากับหนังตาของหญิงสาว แอชรีบลุกขึ้นก่อนจะยืนขวางทางรถกระบะคันเก่าซอมซ่อที่ผ่านมา เธอมองเข้าไปภายในรถ เห็นเพียงเงาของชาย 2 คนที่นั่งอยู่ คนในนั้นเบรกอย่างกะทันหัน ก่อนจะไขกระจกลง

     

                    ช่วยฉันด้วยฉันฉันน้ำตาไหลท่วมใบหน้าของหญิงสาว จนแอชลีย์เรียงประโยคคำพูดไม่ถูก คนในรถมองดูสภาพเหตุการณ์ตรงหน้าก่อนจะส่ายศีรษะอย่างเวทนา

     

                    ขึ้นรถฉันมา เดี๋ยวฉันจะพาไปสถานีตำรวจชายร่างใหญ่ในนั้นพูดเสียงทุ้มต่ำ แอชพยักหน้าก่อนจะวิ่งไปที่นั่งฝั่งข้างคนขับ

     

                    ไม่เป็นไรนะชายอีกคนลงจากรถมา ก่อนจะเปิดประตูออกพร้อมกับผายมือเชิญเธอเข้าไปด้านในรถ หญิงสาวพยักหน้าพลางสะอื้นไห้ ก่อนจะกดปรับเบาะให้ตัวของเธอแทรกผ่านไปนั่งเบาะหลังได้

     

    ปัง!!      

     

                    ชายที่ลงไปขึ้นมาใหม่ก่อนจะปิดประตูเสียงดัง แอชนั่งพิงเบาะอย่างสิ้นหวัง ทั้งเพื่อนและแฟนของเธอ ถ้าจะให้เธอรอดออกมาโดยที่ไม่มีใครเหลือรอดเธอยอมอยู่ในรถคันนั้นตอนเกิดเหตุยังดีกว่า

     

                    รถคันเก่าขับมาได้ระยะหนึ่ง ก่อนจะหยุดลง หญิงสาวด้านหลังขมวดคิ้ว ลำตัวเริ่มสั่นเทาด้วยความกลัว หางตาเหลือบมองกระจกที่ให้คนขับส่องด้านหลัง ลำแผลเป็นที่ยาวเหยียดบริเวณลำคอทำให้เธอยิ่งหวาดระแวง แต่แล้วบางสิ่งบางอย่างก็ผุดขึ้นในสมองของเธอ แผลเป็นแบบนี้เธอรู้สึกคุ้นและชิน ราวกับเธอเคยเห็นที่ไหนสักอย่าง

     

                    เธอกลัวหรอ?คนขับรถแสยะยิ้มให้กับกระจก ก่อนจะหันมามองใบหน้าที่สั่นเทาของหญิงสาว แอชจ้องตาชายร่างยักษ์เพียงครู่เดียวก่อนจะนึกออก

     

                    อีธานหญิงสาวพูดเบาๆ ในความฝันของเธอ ชายคนนี้ก็อยู่ด้วย ใช่แล้วแกแกคืออีธาน

     

                    สวัสดีครับคนสวยคนนั่งข้างที่เงียบกริบมานานหันมาทักทาย แอชถอยติดผนังรถ มือไม้หงิกงอด้วยอาการเกร็งและกลัว เบาะที่นั่งหลังคนขับขาดลุ่ยจากแรงที่เธอจิกมัน

     

                    แกเป็นใคร!?แอชถามด้วยความกลัว พลางมองใบหน้านั้นสลับกับชายร่างยักษ์

     

                    ฉันไงโจนาธาน!!”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

     

     

     

     

     

    ----------------------------------------WARP | VILLAGE----------------------------------------

     

    ปล.เม้นให้กำลังใจไรท์ด้วยเน้อ :3 เผื่อจะกลับมาใหม่เรื่องหน้า ส่วนตอนจบเรื่องนี้เป็นยังไงก็ติชมกันได้นะครับ
    อาจจะหักมุมไม่ถูกใจรีดเดอร์คนไหนก็ขอโทษด้วย                







     

    ---แล้วพบกันใหม่---

    ✖ qual ity


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×