คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #32 : CHAPTER 11 : สู้ครั้งสุดท้าย --[100%]--
CHAPTER 11 : สู้ครั้งสุดท้าย
“วิ่งตามกันอยู่ได้!” รามสบถเมื่อเห็นกลุ่มชาวบ้านหลายคนวิ่งตามเขามา แต่ในระยะทางที่ค่อนข้างห่างไกลจากกันพอสมควร ทำให้เขาคิดแผนอะไรบางอย่างออก “จะทำให้ไม่ได้วิ่งเลยคอยดู”
รามหาจังหวะดีๆ ก่อนจะกระโดดหลบไปที่โขดหินก้อนใหญ่ มันพอจะบังร่างของเขาได้ในยามราตรีแบบนี้ ชาวบ้านทั้งหมดหยุดชะงักด้วยความสงสัย
“มันไปไหนของมันวะ?” ชายคนหนึ่งที่แทบจะชราที่สุดในกลุ่มถามขึ้น เขากวาดสายตามองไปรอบๆ ตัว มีเพียงต้นไม้สูงใหญ่เท่านั้นที่เขาเห็นในความมืด
“เมื่อกี้มันยังวิ่งนำหน้าพวกเราอยู่เลย” สาววัยกลางคนที่ไม่รู้ว่าใช้สมองซีกไหนคิดมาตามล่ารามเหมือนคนอื่นๆ พูดขึ้น ก่อนจะหันไปหาชายวัยรุ่นที่รู้สึกเหนื่อยหอบ “ไม่ทันแก่ก็เหนื่อยแล้วหรอ?”
“โห! ป้า วิ่งมาตั้งนานก็ต้องมีเหนื่อยบ้างสิ” ชายวัยรุ่นขมวดคิ้วพร้อมกับนั่งยองลงไปก่อนจะหอบหายใจถี่รัว
“ลุกขึ้น!เดี๋ยวจะตามมันไม่ทัน” ชายฉกรรจ์อีกคนพูด ก่อนจะยื่นมือไปหาเด็กหนุ่มนั่น ฝ่ายตรงข้ามยิ้มรับก่อนจะจับมือเขาแล้วดึงขึ้นไป
“ฉันว่ามันต้องตรงไปข้างหน้าแน่ๆ” ป้าวัยกลางคนยังคงเสนอความคิดเห็น
“รีบไป อย่าลืมนะเว้ยว่าใครจับเหยื่อได้คุณโจนาธานเค้ามีรางวัลพิเศษ” ชายชราพูดด้วยความหิวกระหายในเงินตราก่อนจะเริ่มออกวิ่งนำไป
รามที่มองอยู่ไกลๆ ฉีกยิ้มที่มุมปากพร้อมกับเริ่มเปิดเครื่องเลื่อยไฟฟ้าในทันทีที่พวกชาวบ้านวิ่งมาทางโขดหิน “ขอให้ค่ำคืนนี้มี่แต่ความสนุกนะครับ” รามพูดเบาๆ
ชายชราที่วิ่งนำมา วิ่งผ่านโขดหินไปโดยไม่ทันสังเกตราม … และสังเกตเลื่อย! รามใช้มือทั้งสองจับเลื่อยไฟฟ้าให้มันคงพร้อมกันยื่นออกมาผ่านโขดหิน เลื่อยไฟฟ้าอันใหญ่ปาดเข้าที่ข้อเท้าของชายชราจนมันหลุดออกจากขา เลือดไหลนองเต็มพื้นอย่างน่าสยดสยอง เศษชิ้นเนื้อติดใบเลื่อย ก่อนที่คนอื่นๆ ที่วิ่งตามหลังมาจะโดนเข้ากับสถานการณ์นี้เหมือนกัน เลื่อยไฟฟ้าหั่นข้อเท้าของชาวบ้านทั้งหมดจนเหวอะหวะ ป้าวัยกลางคน ชายหนุ่มฉกรรจ์ และเด็กหนุ่มที่มาด้วยต่างล้มกลิ้งไปด้านหน้า ก่อนที่คนทั้งหมดจะรู้สึกว่าบางอย่างสูญหายไปในความมืด
ป้าวัยกลางคนร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด เธอนั่งลงกุมข้อเท้าที่มีเลือดไหลออกมาไม่หยุด รามเดินออกมาจากโขดหินที่ซ่อนตัวก่อนจะยืนยิ้มให้คนทั้งสี่
“พวกคุณเนี่ย…ขาสวยจังนะครับ” รามแสยะยิ้ม เขาเริ่มรู้สึกสนุกกับการฆ่าคนขึ้นมา โดยเฉพาะคนเลว จิตใจวิปริตอย่างกลุ่มคนพวกนี้ยิ่งทำให้การฆ่าคนของเขาสนุกขึ้นเป็นทวีคูณ
“หนอย!!” ชายชรากัดฟันกรอดด้วยความโกรธแค้นระคนไปกับความเจ็บปวด สายตาของเขาเริ่มพร่ามัว รู้สึกสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว หัวใจที่เคยเต้นรัวเริ่มช้าลง เขายอมแพ้ก่อนจะนอนราบไปด้วยความทุกข์ทรมานกับบาดแผล
“วันนี้พระจันทร์สวยดีนะครับว่าไหม?” รามพูดกวนก่อนจะยักคิ้วให้คนที่เหลือ เขาเดินผ่านร่างที่ดิ้นทุรนทุรายของชาวบ้านอย่างไม่แยแส ก่อนจะทำท่ามองดูพระจันทร์บนท้องฟ้า ทั้งๆ ที่ต้นไม้สูงใหญ่ตั้งตระหง่านชูกิ่งก้านจนบดบังท้องฟ้าไปหมด
“เด็กนรก!” ป้าวัยกลางคนยังโกรธแค้น เธอมองดูเด็กหนุ่มล้มลงไปกับนอนจมกองเลือดอย่างสมเพชเวทนา
“เอ๋…” รามหยุดเดินก่อนจะหันกลับมาทำบางอย่างที่คิดว่าดี “ป้าพูดไม่เพราะเลยนะครับ” รามเดินกลับมาก่อนจะนั่งลงตรงหน้าหญิงวัยกลางคน เขาฉีกยิ้มที่มุมปากก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งบีบหน้าคนตรงหน้า
“ปล่อยฉัน” ป้าพูดต่อไปด้วยความโมโห รู้สึกเจ็บปวดแต่ก็ไม่อยากที่จะแสดงให้ศัตรูเห็น ป้าใช้มือข้างที่คิดว่าพอมีแรง พยายามจับเรียวมือของรามให้ปล่อยใบหน้าของเธอ
“แบบนี้ถ้าป้าไม่มีปาก ผมว่าป้าน่ารักมากเลย” รามพูดจากวนประสาท คนตรงหน้ากรีดร้องด้วยความกลัวและรู้ตัวว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น เรี่ยวแรงเริ่มหมดแรง หญิงวัยกลางคนเกร็งตัวจนเส้นเลือดปูดขึ้นที่หน้าผาก “โอ๊ะโอว! คุณไม่สมควรดูภาพแบบนี้นะครับ” รามหันไปมองชายฉกรรจ์ที่ได้แต่นั่งมองเขา ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปเตะบ้องหูของเขาจนนอนแน่นิ่งไร้สติไป เหลือเพียงหญิงคนเดียวในกลุ่ม
“ยังไงซะคุณโจนาธานก็ต้องมาจับเหยื่ออย่างแกอยู่ดี!!” หญิงชราถ่มน้ำลายลงพื้น ท้าทายความกล้าของรามเป็นเวลาเดียวกันกับที่รามหันมามองหน้าของเธออย่างเวทนา
“แล้วเราก็จะได้รู้กันว่าใครที่เป็นเหยื่อ” รามยิ้มให้ก่อนจะนั่งลงข้างๆ อีกครั้ง เขาชูเลื่อยไฟฟ้าขนาดเหมาะมือขึ้นมา วางพาดลงบนบ่าของหญิงวัยกลางคน
“กรี๊ดดดดดดดดดดดด!!”
ก่อนที่เสียงกรีดร้องจะหายไป รามติดเครื่องแล้วเลื่อนเลื่อยขึ้นมาให้พอดี พร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งดึงผมของหญิงคนตรงหน้าไว้ไม่ให้ไปไหน
“ลาก่อนครับป้าสุดสวย” รามบรรจงกดเลื่อยไฟฟ้าแทรกผ่านใบหน้าของเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ใบเลื่อยพุ่งตรงไปที่กระพุ้งแก้ม มันเปิดริมฝีปากที่ติดกันอยู่จนแหวกออก รามแสยะยิ้มด้วยความสะใจ เขาเลื่อยมันไปได้เพียงสักพักก็ดึงใบเลื่อยออกก่อนจะดับเครื่องยนต์
หญิงวัยกลางคนน้ำตาไหลพราก ก่อนจะล้มตัวลงนอนด้วยความเจ็บปวด เลือดไหลออกจากปากจนน่ากลัว ฟันหลายซี่หลุดออกมากองตรงหน้าให้เธอดูอย่างเจ็บใจ ริมฝีปากไปจนเกือบถึงใบหูถูกฉีกขาดจนแทบไม่เหลือสภาพเดิม
“บอกแล้วไงว่าป้าน่ารักเวลาที่ไม่มีปาก” รามพูดเยาะเย้ย ก่อนจะออกเดินตรงต่อไปที่หาดทราย ที่ที่เขาพอมีความหวัง ที่ที่โซลบอกไว้ก่อนตาย ที่ที่เขาจะได้หลุดพ้นจากนรกบนดินบ้าๆ แบบนี้ซะที~
“สวัสดีเด็กๆ” ชายฉกรรจ์ที่มาพร้อมกับใบพัดตัดหญ้าส่งยิ้มให้กับเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่เหลืออยู่อีก 5 คน
“ไอพวกโรคจิต!!” ซิดนีย์ด่าใส่ ก่อนจะค่อยๆ เดินถอยหลังออกมาเรื่อยๆ ด้วยความระแวง เธอจับมือแอชลีย์แน่นด้วยความกลัวว่าใครสักคนจะต้องหมดลมหายใจไป
“ไหนๆ ก็ไม่มีทางหนีรอดออกไปได้แล้ว ยอมๆ ซะเหอะจะได้ไม่มีใครเจ็บตัว” ชายร่างยักษ์พูดเสียงแข็ง ก่อนที่จะสตาร์ทเครื่องตัดหญ้าจนมันทำงาน
“ถึงยอมหรือไม่ยอมพวกเราก็ต้องตายกันอยู่ดี” แอชพูด
“งั้นพวกแกก็เตรียมตัวตายซะ!” ชายร่างยักษ์พูดก่อนจะวิ่งจู่โจมเข้าใส่กลุ่มคนทั้ง 5 แอชกับซิดนีย์วิ่งหลบไปที่มุมห้อง
“พวกแกไม่มีทางหนีรอดออกไปได้หรอก” มันถือใบพัดตรงมาที่สองสาว แอชลีย์กัดฟันกรอดรู้สึกเหมือนจนมุม
“ไปตายซะ!!” ซิดนีย์จ้องตาชายฉกรรจ์เขม็ง
ฉึก!!
นอร์ทใช้ตะขอที่เกี่ยวศพที่ห้อยกับราวเหล็กเกี่ยวแขนของมันจนเลือดสีแดงไหลออกมาจากรูพรุน ก่อนที่นอร์ทจะดึงตะขอออกแล้วเกี่ยวซ้ำที่เดิม
“หาเรื่องตายซะแล้วไอเด็กหนุ่ม” ชายฉกรรจ์หันกลับมาพร้อมเล็งเป้าหมายใหม่ นอร์ทรีบวิ่งหนีออกไปแต่ไม่ทันการณ์
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด!! นอร์ท” ซิดนีย์กรีดร้องจนลัลและเคลียร์ที่หาทางเปิดประตูอยู่สะดุ้ง เมื่อชายที่เป็นทาสของโจนาธานใช้ใบพัดปั่นขาของนอร์ทจนล้มลงไป
“เล่นกับใครไม่เล่น!” ชายฉกรรจ์ขู่ก่อนจะใช้ใบพัดอันเดิมปั่นไปที่ใบหน้าของนอร์ท เสียงเครื่องยนต์ดังลั่นจนน่ากลัว ชิ้นเนื้อติดใบพัดจนน่าขยะแขยง
“อ๊ากกกกกกกกกก” เสียงสุดท้ายของนอร์ทก่อนที่ร่างของเขาจะหมดแรงไป
“ต่อไปก็ถึงตาหนูๆ ทั้งสองคนแล้วนะ” ชายฉกรรจ์พูดจาหยอกล้อราวกับเป็นเรื่องตลก
“ไอลัลแกหาทางเปิดประตูก่อนนะฉันจะไปช่วยแอช” เคลียร์พูด อีกฝ่ายพยักหน้าให้ ก่อนที่เขาจะผละออกจากประตูเหล็กมาหาชายร่างยักษ์สุดโหด
“น่าเสียดายที่เราเล่นเกมกันได้แค่นี้ ลาก่อนแม่หนู” ชายฉกรรจ์พูดพร้อมกับสตาร์ทเครื่องยนต์อีกครั้ง ซิดนีย์หลับตาแน่นด้วยความหวาดกลัว แอชโอบกอดเพื่อนสาว เธอคิดว่านี่คงเป็นสิ่งเดียวและสิ่งสุดท้ายที่จะทำเพื่อปกป้องเพื่อนรักได้
“อย่าหวังเลย!!” เคลียร์พุ่งมาจากทางด้านหลังก่อนที่จะใช้ตะขอเกี่ยวคอของชายฉกรรจ์จนล้มพับลงไป
“ไอเวร! ปล่อยกูนะเว้ย” ชายฉกรรจ์ดิ้นพล่านด้วยความเจ็บปวด มันกุมแผลบริเวณลำคอพร้อมกับตะขอ พยายามจะดึงให้มันหลุดออกไป แต่เคลียร์กับกดแน่นลงกว่าเดิมพร้อมกับลากร่างของมันไปราวกับเป็นสิ่งไม่มีชีวิต
“สะใจแกหรือยังล่ะ?” เคลียร์ดึงตะขอออกก่อนจะแทงเข้าไปที่คอใหม่อีกครั้งจนเลือดเปื้อนเสื้อของเขาเต็มไปหมด ชายฉกรรจ์รีบกระเสือกกระสนคลานออกมา มันถีบร่างของเคลียร์จนเซไป
“พวกแกจะได้เห็นดีกัน!!” ชายฉกรรจ์แสยะยิ้มก่อนจะคลืบคลานไปด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะไปเจอรองเท้าผ้าใบของใครบางคนที่ยืนเหนือหัวอยู่ ชายฉกรรจ์จับขาของคนตรงหน้าก่อนจะเงยขึ้นไป
“ว่าไง?” แอชลีย์ยิ้มให้ก่อนจะสตาร์ทเครื่องใบพัดที่ถืออยู่ พร้อมกับปั่นศีรษะของไอพวกโรคจิตจนไม่เป็นชิ้นดี ซิดนีย์ที่ยืนอยู่ด้านหลังหลับตาปี๋ด้วยความสะเทือนใจ ร่างของมันกระตุกเกร็งอย่างน่าสมเพช ไขสมองสีเหลืองหลุดออกมากองอยู่ตรงหน้าแอชลีย์ ก่อนที่เธอจะหยุดเครื่องยนต์พร้อมกับรอยยิ้มด้วยความสะใจ
“ฉันเปิดประตูออกแล้ว!!” ลัลตะโกนบอกพร้อมกับเปิดประตูเหล็กสนิมบานใหญ่ น่าแปลกที่ตอนนี้ไม่มีร่างของอีธานอยู่ที่หน้าประตูแล้ว
“มันไม่อยู่แล้วหรอ?” เคลียร์ลุกขึ้นเดินมารวมกับลัล โดยมีแอชและซิดนีย์ตามมาติดๆ
“รีบไปกันเถอะ” แอชเสนอความคิดเห็นกับคนอื่นๆ ลัลพยักหน้าก่อนจะวิ่งนำไป แอชรีบวิ่งตามไปติดๆ โดยไม่ลืมใบพัดตัวโปรดของเธอ
ทั้ง 4 คนวิ่งหนีออกมาจากห้องเก็บศพก่อนจะวิ่งผ่านคุกที่พวกเขาและเธอเคยอยู่ในนั้น ลัลวิ่งขึ้นบันไดไปก่อนจะเปิดประตูไม้ออก
ปัง!!
เสียงลั่นไกปืนดังไปทั่วทั้งบ้าน โจนาธาน น้อยหน่า และอีธานเดินออกมาจากหลังประตูที่พวกเขาซ่อนตัวอยู่ ลูกกระสุนตัดขั้วหัวใจของชายคนหนึ่งจนล้มลงไปนอนกองที่ขั้นบันได
“ลัล!!” เคลียร์รีบวิ่งมาประคองร่างไร้สติของเพื่อนชาย เลือดไหลซึมออกนอกเสื้อผ้าผืนบาง ชายที่ล้มลงไปนอนนิ่ง ไม่มีแม้แต่เสียงตอบรับ ลมหายใจเริ่มรวยรินก่อนจะหมดไป
“เธอ...เธอยังไม่ตายหรอ?” ซิดนีย์ถามคนตรงหน้าด้วยความสงสัย เฉกเช่นเคลียร์และแอชทีตอนนี้กำลังประคองร่างของเพื่อนหนุ่ม
“ทำไมเธอถึงทำแบบนี้!!” เคลียร์ตวาดใส่น้อยหน่าจนหญิงสาวสะดุ้งเฮือก น้ำตาลูกผู้ชายของเขาไหลอีกครั้งให้กับการตายของเพื่อนสนิท
“ฉันไม่มีทางเลือก” น้อยหน่าพูดหน้านิ่งก่อนจะแย่งปืนในมือโจนาธานมาไว้กับตัวเองพร้อมกับเล็งเป้าหมายไปที่แอชลีย์
“เธอจะทำอะไรน่ะ?” เคลียร์รีบลุกขึ้นผลักร่างบางจนล้มลงไป
“มานี่เร็วแอช” ซิดนีย์รีบกระชากข้อมือของเพื่อนสาวให้ลุกขึ้นก่อนจะวิ่งเข้าไปในห้องเก็บศพห้องเดิม แอชรีบลุกขึ้นมาทั้งน้ำตา ก่อนจะเผลอลืมใบพัดในมือไว้ตรงนั้น
เคลียร์วิ่งตามสองสาวมาติดๆ หากแต่โจนาธานรีบวิ่งเข้ามาพร้อมน้อยหน่าก่อนจะอ้อมไปดักคนทั้งสาม แล้วให้อีธานเฝ้าหน้าประตูไว้
“ฉันผิดหวังในตัวเธอมากน้อยหน่า” เคลียร์ต่อว่าเพื่อนสาวที่เขาเคยไว้ใจมาตลอด ซิดนีย์มองค้อนหญิงชั่วที่ทำร้ายเพื่อนลับหลังมาโดยตลอด
“ฉันแค่อยากให้เธอยอมรับนะเคลียร์” น้อยหน้าตีหน้าเศร้า “ฉันอยากให้เธอลืมแอชแล้วมาอยู่กับฉัน อยากให้เธอเห็นฉันอยู่ในสายตา ฉันแค่อยากให้เธอหันมามองฉันบ้าง” น้อยหน่าน้ำตาไหลพราก จริงๆ แล้วเรื่องทั้งหมด มันเกิดขึ้นเพราเธอต้องการเขี่ยแอชไปพ้นๆ จากเคลียร์สักที
“น้อยหน่า!! นี่เธอหลอกใช้ฉันหรอ?” โจนาธานหันไปมองหน้าหญิงสาวที่เขาหลงเชื่อใจมาตลอดอย่างถมึงทึง ก่อนที่จะพยายามเดินเข้าไปหาเธอด้วยความโมโห หากแต่น้อยหน่าชี้ปืนในมือไปทางหน้าของโจนาธานจนเจ้าตัวหยุดเคลื่อนไหว
“หยุดทำเรื่องแบบนี้สักทีเถอะนะ” แอชขอร้องหญิงสาวตรงหน้า เป็นเวลาเดียวกันกับที่อีธานทำท่าจะวิ่งเข้ามาช่วยเจ้านาย แต่ถูกโจนาธานจ้องมองให้เขาหยุดการกระทำตรงนั้นไว้ก่อน
“แกก็ตายๆ ไปสิเรื่องจะได้จบ!” น้อยหน่าตวาดใส่หน้าหญิงสาวทั้งน้ำตา “แกแย่งทุกอย่างไปจากชีวิตฉัน ทั้งเรื่องเรียนที่ฉันถูกเปรียบเทียบกับแกมาตลอด ไหนจะเรื่องเคลียร์อีก” น้อยหน่าจับปืนในมือเกร็งไปทั้งตัว เธอชูปืนขึ้นเล็งไปที่แอชอีกครั้ง
“หยุดนะ!” เคลียร์ผายมือออกทั้งสองข้างมาบังร่างของหญิงสาวคนรัก “ไม่มีใครจะทำอะไรแอชได้ ถ้าเธอทำให้แอชบาดเจ็บแม้แต่นิดเดียวฉันฆ่าเธอแน่” เคลียร์แสยะยิ้ม
“เคลียร์…” แอชยืนมองแผ่นหลังของแฟนหนุ่ม เธอคิดอยากจะกลับไปใช้ชีวิตใหม่ มันอาจจะเริ่มจากที่เธอและเพื่อนๆ ไม่ต้องมาเที่ยวกันที่นี่ หรืออาจจะไปเริ่มตั้งแต่ตอนที่เธอคบกับเคลียร์ ตอนที่เธอแอบได้ยินน้อยหน่าสารภาพรักกับแฟนของเธอ ถ้าวันนั้นเธอยอมถอยออกมาเรื่องนี้อาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้
“ฉันจะไม่ให้เธอเป็นอะไรแอช!!” เคลียร์เหลือบมามองหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังเขา
“รักกันมากก็ตายๆ กันไปทั้งคู่เลยสิ!” น้อยหน่ากัดฟัน เธอปาดคราบน้ำตาที่ไหลเปรอะเปื้อนใบหน้า ก่อนจะเหนี่ยวไกปืนในมือขึ้นแล้วใช้แรงกดยิง
ปัง!!
โชคดีที่เคลียร์รีบวิ่งเข้าไปแย่งปืนกับหญิงสาว โจนาธานรีบถอยผละออกมาจากตรงไหนโดยกลัวจะโดนลูกหลง แอชพยายามจะวิ่งเข้าไปหาเคลียร์ทั้งน้ำตา แต่ซิดนีย์กลับดึงร่างของเธอเอาไว้
“ปล่อยปืนนะน้อยหน่า!” เคลียร์พูดจาหว่านล้อมหญิงสาวก่อนจะพาดท่าไปชนกับโต๊ะที่มีใบกงจักรติดอยู่สำหรับชำแหละเหยื่อ โดยมีน้อยหน่าผลักร่างของเขาไปนอนกองกับโต๊ะ พร้อมกับจ่อปืนไปที่ศีรษะของเคลียร์
“ทำไมเธอถึงรักมันมากขนาดนั้นฮะ!!” น้อยหน่าสะอื้นไห้ รู้สึกเจ็บปวดใจ ตลอดเวลาที่เธอพยายามทำดีด้วยมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย
“เพราะแอชคือคนที่ฉันรัก…ไม่ใช่เธอ!” เคลียร์พยายามจะดิ้นให้หลุดออกจากโต๊ะตัวนี้
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดด! ถ้าฉันไม่ได้ ใครก็ต้องไม่ได้ด้วย” น้อยหน่ากรีดร้องเสียงดังลั่นจนโจนาธานปิดแก้วหู
“อย่านะ!!” แอชพยายามสะบัดกำมือของซิดนีย์ที่จับเธอไว้
“ฉันไม่ยอมให้มันเป็นแบบนั้นหรอก” เคลียร์แสยะยิ้มให้หญิงสาว ก่อนจะเอื้อมมือไปกดเปิดสวิตซ์
ใบพัดที่ติดกับโต๊ะค่อยๆ เริ่มทำงาน มันปั่นหมุนเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนน่ากลัว โต๊ะตัวยาวสั่นเทาด้วยความแรงของเครื่องยนต์
“เธอจะทำอะไรน่ะ?” น้อยหน่าพยายามผลักร่างของเคลียร์ออก หากแต่อีกฝ่ายดึงเสื้อของเธอไว้แน่น
“รักฉันมากนักก็ไปอยู่กับฉันเถอะ” เคลียร์ฉีกยิ้มให้อีกครั้ง ก่อนจะนอนราบไปกับโต๊ะตัวยาวพร้อมกับลากตัวของน้อยหน่าลงไปด้วยพร้อมๆ กัน
กงจักรค่อยๆ ปั่นร่างกายของชายหญิงเริ่มจากศีรษะจนขาดออกจากกัน เศษชิ้นเนื้อกระเด็นออกไปไกล เลือดสีแดงสดไหลท่วมโต๊ะจนกลายเป็นสีเลือด
“กรี๊ดดดดดดดดดดดด!! เคลียร์” แอชดิ้นออกจนหลุดจากพันธนาการของซิดนีย์ หญิงสาวพยายามจะวิ่งเข้ามาช่วยแฟนหนุ่มของเธอให้หลุดออกมาจากเครื่องสังหาร หากแต่มันช้าไป ตอนนี้บนโต๊ะสีเลือดมีเพียงเศษชิ้นเนื้อที่กำลังโดนปั่นอยู่กับที่
“หนีเร็วแอช!” ซิดนีย์เตือนสติเพื่อนสาว เธอจับแขนของแอชลีย์ก่อนจะออกแรงดึงตัวของเพื่อนให้ออกมาจากที่ตรงนั้น ทั้งที่สภาพจิตใจของเพื่อนสาวยังไม่ค่อยสู้ดี
“อีธานจับตัวมันไว้!!” โจนาธานออกคำสั่ง ทาสรับใช้ผู้ซื่อสัตย์รีบวิ่งพรวดเข้ามาจับร่างของแอชและซิดนีย์ไว้ในอ้อมแขน
“ปล่อยฉันนะ!!” ซิดนีย์ดิ้นพล่านราวกับคนบ้า แต่แรงของเธอเทียบไม่ได้กับพละกำลังของชายร่างยักษ์เลย
“จะเอาไงกับมันต่อดี” อีธานถามเจ้านาย เขามองร่างของเคลียร์ที่ไม่ต่อสู้อะไรกับเขาเลย เหยื่อของเขาได้เพียงแต่ยืนสะอื้น น้ำตาหลายหยดไหลลงบนแขนที่โอบเธอไว้
“เฮ้อ…เหยื่อของเราก็หลุดไปแล้วคนหนึ่ง คงไม่มีเวลามากให้มาวิ่งไล่จับสองคนนี้หรอก” โจนาธานมองร่างไร้สภาพของน้อยหน่า ก่อนจะละสายตามามองหญิงสาวทั้งสองคน “ฉันจะไม่ยอมให้มันไปแจ้งตำรวจแน่”
“แล้วจะให้ผมทำอะไรกับมันสองตัวดีครับ” อีธานถาม
“จัดการมันแล้วรีบออกไปตามหาไอตัวที่มันหลุดไปได้” โจนาธานออกคำสั่ง ก่อนจะเดินออกจากห้องนี้ไป ทิ้งไว้เพียงความเงียบในห้องเก็บซากศพ
“เสียใจด้วยนะ” อีธานพูดเบาๆ ก่อนจะเหลือบไปมองดูกงจักรที่ยังคงหมุนอยู่ไม่หยุด แม้สภาพศีรษะของคนทั้งสองจะเละหมดแล้ว “ว่าแต่…ใครจะลงไปนอนก่อนดี”~
----------------------------------------WARP | VILLAGE----------------------------------------
ปล.ตอนหน้าก็จบแล้วนะ จบ 3 แบบคงไม่มีแล้ว TT เพราะไรท์ต้องไปเข้าค่ายสอวน.แย้ววว T^T อ่านเสร็จก็อย่าลืมไปเล่นเกมด้วยเน้อ เม้นๆ ให้กำลังใจไรท์กันได้ -3-
✖ qual ity
ความคิดเห็น