ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Story of Black and White ((เปิดตำนานฝาแฝดพันธ์อัจฉริยะ))

    ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1 นี้ละพระเอก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 841
      7
      19 พ.ย. 53

    บทที่ 1   นี้ละพระเอก

     

     *ไวท์ สตาร์ (white star)

                    สวัสดีครับ ท่านผู้ที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้   ไม่ ว่าคุณจะเป็นใคร  อยู่ที่ไหน   อย่า พึ่งด่วนอารมเสีย แล้วปิดหนังสือมันทิ้งก่อนที่จะได้อ่านอะไร   ผม จะเขียงเรื่องราวบัดซบชีวิตของผมทั้งหมดลงไปในนี้  ตอน ที่ความทรงจำอันแสนเลือนของผม  ยังชัดเจนอยู่  ไม่ว่าคุณอยากรู้หรือไม่   ขอจง เปิดอ่านมัน เพื่อไม่ให้ บาปที่เกิดขึ้นกับผม   เกิด ขึ้นกับใครอีก...
     
                  "หาววว "
    เด็กชายตัวเล็กๆ  รูปร่างผอมแห่ง อายุราวๆ 13 ขวบ ใบหน้าขาวใสดวงตากลมโตสีฟ้าครามเหมือนท้องฟ้ามีประกาย  กับเส้นผมสีขาวสะอาด ดูๆแล้วน่ารักน่ากอด  ใส่เสื้อผ้าขาดๆ เนื้อตัวเลอะสีไปหมด มองแวบเดียวจะคิดว่าเป็นคนจรจัดไร้ที่อยู่  กำลังหาวอย่างเบื่อหน่าย  ใจของเด็กชายกำลังคิดสะใจคนๆหนึ่ง

    ตาแก่นี้ท้าใครไม่ท้า มาท้าข้า หึหึหึ ท้าผิดคนซะแล้ว   เสียใจด้วยนะ ตาแก่ผิดเองที่มาท้าข้า  ได้เงินตั่ง 200  เหรียญ เป็นค่าชนะพนันครั้งนี้   ข้าขอรับไปละ หึ หึ    มันก็ดีอยู่เหรอที่มีงานง่ายๆ  ไม่ใช้แรงงานเข้ามา บ้าง แต่มันไม่ท้าทายเอาเสียเลย  แถมจะดูถูกกันไปหน่อยไหม  เฮยๆ   เบื้อจริงๆ  เมื่อไรจะมีงานที่มันท้าทายกว่า นี้นะ   หืม  อะไรหว่า

    "ดินแดนแห่ง มนุษย์ไม่จี รังยั่งยืน

    ทุกสิ่งสันล้วนใกล้แตก ดับ

    ....มนุษย์..... สร้างไปปีศาจอสูรจะทวงคืน

    แค้นทั้งหมดจะสูญหายมลาย สิ้น

    ความ ตายจะมาเยือนในทุกถิ่นฐานบนโลก

    มีเพียงสิ่งเดียวที่จะนำ พาไปสู่จุดจบ

    หนึ่งสร้างสรรค์สรรพสิ่ง ........

    อีกหนึ่งผู้ ทำลายทุกอย่างให้ดับสูญ

    สองสิ่งสรรค์รวมเป็น หนึ่งช่วยทั้งปฐพีแห่ง....."

     


                   บทความโบราณๆ  มีบางคำไม่ชัดเจน  เพราะ การแตกของหินที่ถูกจารึกไว้  จนไม่สามารถอ่านได้  เนื่องจากผ่านกาลเวลามามาก  บท ความแบบนี้ทำไมมาอยู่ในโบสถ์นี้ได้ละ  แต่ชั่งมัน เถอะเก็บของให้เสร็จแล้วกลับบ้านดีกว่าคนที่บ้านป่านี้รอกินข้าวไส้แห้งแล้ว แน่เลย

                   "อะไร กันเจ้าหนู ทำงานไม่ถึง 10 นาทีถึงกับหาวซะปากกว่างขนาดนั้น เลยเหรอ  นี้ ละหนาไม่น่าไปเชื่อคำคนอื่นเขาเลย จ้างใครไม่จ้างไปจ้างเด็กอย่างเจ้ามาทำงานอย่าง... หืม หะ..หาา นะ..นี้น มะ...มันนน.. อะไรกัน"

                   ชายแก่รูปร่างผอม หลังโค้งๆ อยู่ในชุดบาทหลวง เดินบ่นไปมาอยู่ตามประสาคนแก่ เดินมาดูผลงานที่ตนได้สั่งไว้ด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์   แต่ แล้วก็หุบยิ้มก่อนต้องตกใจพูดจนนำลายกระเซ็นกับสิ่งที่ได้ประจักอย่างไม่เชื่อในสายตาตนเอง 

                   เห็นอย่างนี้ข้าละสงสารแทนจริงๆ หึ หึ เด็กชายคิดในใจพร้อมทั้งแสดงสายตาเจ้าเล่ไปยังชายแก่ข่างหน้า

                    รูปวาดท้องฟ้าที่สว่างสดใส   มี เทวดากับนางฟ้ากำลังรำร้องเพลงอย่างสนุกสนาน แล้วรวมกับแสงที่ลอดผ่านออกจากหน้าต่างของโบสถ์ จึงทำให้เหล่าเทวดาและนางฟ้าในภาพนั้นเหมือนกำลังขยับออกมาร่ายรำได้ จริงๆ  ไม่รวมไปถึงรอยแตกบนผนังที่ถูกนำมาเป็นสิ่งเพิ่มเติมความสวยงาม  รอยแตกถูกใช้ให้เป็นประโยชน์  มีภาพหนึ่งเป็นปีศาจกำลังออกถูกเหล่าทวยเทพไล่ลงไปในลอยแตก  ภาพรวมจึงดูงดงามไร้ที่ติเลยที่เดียว

    เมื่อเด็กชายเห็นว่าชายแก่ตรงหน้า  ตกตลึงจนพูดอะไรไม่ออก  จึงพูดออกไปว่า

                    "เป็นไงภาพวาดของข้า   ท่านคงไม่คิดสินะว่าจะเสร็จ ทันจริงๆ   เอาละ   ตามที่ ตกลงกันไว้ 200 เหรียญ เอามาซะดีๆ   งดเชื่อเบื่อทวง   เซ็งค้าง   รำคาญเบี้ยว"

                   เด็กชายยิ้มกวนๆ   ก่อน จะแบมือออกไปตรงหน้าขอเงินตาแก่บาทหลวงที่กำลังอ้าปากค้าง   ซึ้งถ้าตอนนี้มีแมลงคู่รัก สามี-ภรรยา อยู่แถวนี้ละก็   ในปากขอตาบาทหลวงคงเป็นเรือนหอสร้างรักของเหล่าแมลง  ที่จะเอาไว้วางไข่กันสร้างครอบครัวแมลงตัวน้อย  ยั้วเยี้ยๆ กันเพียบไปแล้ว   ชายแก่คงกำลังเสียศูนย์อย่างหนัก  เพราะดันไปท้าเด็กชายไว้เองนี้  

    *30   นาทีที่แล้ว*

                   ไม่นานก่อนหน้านี้   ตอนที่เด็กชายกำลังจะเดินไป ซื้อของที่ตลาด กลางเมือง ชายแก่สวมชุดบาทหลวงนี้ก็มาเรียกใช้งานเขา  จ้างใช้งานไม่เท่าไรแต่ไอท่าวางมาดดูน่านับถือ  กับคำพูดที่ถากถางของชายแก่แล้ว  เด็กชายฟังแล้วอึดอัดคิดไม่พอใจมากเลยที่เดียว

                 “ นี้เจ้าหนู เจ้าใช้   ไอหนูหัวขาวทำได้ ทุกอย่าง   ที่คนอื่นเรียกกันใช้ไหม  ”

    ชายแก่พูดไปมือเท้าสะเอวทำหน้าดูถูกเด็กชายเต็มประดา

     


                “ ใช้ฮะ มีอะไรเหรอ

    เด็กชายตอบไปพร้อมทำตาโต  เรียกร้องขอความเห็นใจเต็มที่ หวังเล็กๆว่าคนตรงหน้าจะสงสาร

                “ ข้ามีงานเล็กๆ น้อยๆ ให้เจ้าทำ  แต่จะว่าไปข้าคิดว่าเจ้าน่าจะโตกว่านี้นะ งานมันอาจจะยากไปสำหรับเด็กก็ได้

                   ยากไปสำหรับเด็กอย่างนั้นเหรอ หึ หึ หึ พูดอย่างนี้ก็สวยสิ    ไม่รู้จักข้าซะแล้ว  ไอฉายยาโง่ๆ ที่คนอื่นเขาเรียกข้าว่า   ไอหนูหัวขาวทำได้ทุกอย่าง   มันไม่ใช้ได้มาแบบเด็กๆ ซะด้วยสิ  พูด อย่างนี้งานเข้าแน่ตาแก่เอ๋ย 
                    อีกอย่างไอ หัวขาวที่คนอื่นเขาเรียกมันมาจาก เส้นผมบนหัวข้านี้ละ   ตั้งแต่ เล็กจนโตมาได้ 13 ปีแล้ว  สีผมมันก็เป็นสีขาวเหมือน ผมหงอกคนแก่   แต่ออกจะนุ่มๆ  เหมือน ขนกระต่ายซะมากกว่า   ไอข้าเองมันก็ไม่ได้ใส่ใจกับ เส้นผมบนหัวซักเท่าไรแต่คนอื่นเห็นเป็นของแปลกเลยเรียกๆ กันมาแบบนี้ตอนแรก ก็ ไอหัวขาว  ไอหนูขาว  ไอขาว ต่างๆ นาๆ เป็นตุเป็นตะ   แต่พอข้าเริ่มทำงานหาเงิน  ก็ได้ ฉายาใหม่เลย   ใครๆ  ก็เรียก ข้าว่า  ไอหนูหัวขาวทำได้ทุกอย่างซะงั้น  เด็กชายคิดในใจ

                  “ ครับๆ  ถึง ผมจะตัวเล็ก ดูไม่มีแรงอะไร  แต่ถ้าเป็นงานที่ไม่ ใช้แรงมากละก็   ผมทำได้ทั้งนั้นละครับ

                  “ ถ้าอย่างงั้น ข้าจะลองดูละกัน แต่บอกไว้ก่อนเลยนะว่า งานออกมาห่วยจนรับไม่ได้ ละก็ เงินซักแดงเดียวก็ไม่ให้

                  “ ครับ ว่าแต่งานที่ท่านจะให้ข้าทำมันงานอะไร ”   เด็กชายพูดตัดบทอย่างเสียไปที พร้อมคิดในใจ   คอยดูนะ หัวเราะทีหลังดังกว่า

                  “ มันก็ไม่ใช้งาน ยากอะไรมากมาย แค่ให้ไประบายสีตกแต่งบนกำแพงภายในโบสถ์ให้หน่อยแค่นั้นเอง

                 “ ก็ได้ฮะ  แต่ผมไม่ได้ทำให้ฟรีๆ หลอกนะครับ

                 “ เหอะๆ  ถ้าคนทาสีไม่ด่วนปิดร้านหนี คนทวงหนี้ เพราะไปพนันไพ่แพ้แล้วหายไป  ข้าคงไม่มาวานมาใช้เจ้าทำหรอก วางใจเถอะ งานออกมาดีเมื่อไรข้าจะให้เจ้า 100 เหรียญ ทองแดงเลย  เด็ก อย่างเจ้าข้าว่ามันอาจไม่ทันแล้วก็ได้

                 “ จะ ให้ผมทำให้วันไหน ”   เด็กชายเริ่มพูดไป กัดฟันไป ท่องประโยชน์เดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมาในหัวว่า หัวเราะที่หลังดังกว่าๆๆ

                 “ ก็ก่อน วันแต่งงานของเฮียร้านขายหมูที่กำลังจะถึงนี้อีก 3 วัน  งานจะต้องเสร็จ แต่ข้าว่าสำหรับเด็กอย่างเจ้าแล้วให้ซักครึ่งเดือนก็ยังไม่เสร็จ   เดียวข้าไปหาคนอื่นมาช่วยด้วยก็แล้วกันแต่ค่าจ้าง...

    ชายแก่พูดหยุดแค่นั้นเพราะโดนเด็กชายพูดตัดบทว่า

                  “ พา ผมไปดูกำแพงที่ว่าหน่อยสิ ผมจะได้รีบทำให้ท่านตาเสร็จๆไป

                  ปึกๆ เสียงเส้นเลือดเต้นตุ๊บๆ บนหน้าเด็กชายในใจคิดตำหนิชายแก่ออกมา  ด้วยความโกรดจัด
                  'หึ ปากก็บอกว่า เด็กอย่างเจ้าทำไม่ได้  จะหาคนมาช่วย เหรออย่างนั้นข้าก็ต้องแบ่งเงินให้สิ  อย่าง นั้นเหรอไม่ดีแน่นอน  หึๆ ได้สิ เดียวเห็นดีกันแน่เจ้าบาทหลวงหน้าโง่เอ๋ย'

                  “ ใจ ร้อนจังนะเจ้าหนู   ได้สิ ตามมา

                  เด็กชายเดินตามตาบาทหลวงไปเรื่อยๆ   ตาม ทางเดินของหมู่บ้านผ่านป่าไปก็เจอกับ โบสถ์เก่าๆ ตั้งเป็นโบราณสถานตรงสุดทางเดิน ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้  นี้ถ้ามาที่นี้ตอนกลางดึกคงกลายเป็นโบสถ์ผีสิงไปแล้วละเมื่อเด็กชายมาเห็นในใจก็คิดถึงอดีตของเขา

                 ยังจำได้อยู่เลยผมเคยมาที่นี้ ตอนเด็กๆ กับพ่อ   มาเล่นปีนต้นไม้เล่น  มุดเล่นตามรอยแตกของกำแพงโบสถ์   ซึ่ง ถ้าพ่อของผมที่เป็นบาทหลวงยังอยู่คงได้ชี้หน้าด่าว่าซนเหมือนลิงอีกแน่ๆ เลย  เฮย  คิดแล้ว เศร้า พ่อผมเสียไปไม่กี่ ปีโบสถ์ที่นี้เปลี่ยนบาทหลวงเร็วจริงๆ  

                  เด็กชายถอนหายใจยาวๆ ไปสี่ ห้า รอบแล้วก้าวเดินเข้าไปใน โบสถ์ เก่าๆ แห่งนี้

                  “ กำแพงนี้ละที่จะให้เจ้าทาสีตกแต่งให้  ยาวไปเลย ตั้งแต่สุดทางตรงนั้น จนมาถึงตรงนี้ สีข้าก็ซื้อมาเตรียไว้ให้แล้ว เดียวเจ้าค่อย...
                  
                 เด็กหนุ่มไม่รอให้บาทหลวงพูดจนจบ  เพราะเขาจดจำได้ว่ากำแพงด่านนี้มีลักษณะอย่างไร จึงพูดตัดหน้าไป


                 “ 30 นาที  ข้าจะทาสีตกแต่งกำแพงที่นี้ให้เสร็จภายใน 30 นาที
                 เด็กชายยืนคำขาดพร้อมกับยิ้มที่มุมปาก  ในใจก็คิดแผนบางอย่าง

                 “ หืม เจ้าว่ายังไงนะ เหอะๆ ฮ่าๆ ตลกตายละเจ้าเด็กโง่ กว้างขนาดนี้ ขนาดเป็นมืออาชีพ ตัวคนเดียวยังน่าจะใช้เวลาเป็นครึ่งวันเลย แล้วน้ำหน้าอย่างเจ้าจะทำทันเหรอ  อย่างหลงตัวเองไปหน่อยเลยเจ้าหนู ฮ่าๆ... ” 
                 คอยดูนะ คนที่มาหัวเราะเยอะข้าอย่างนี้ จะต้องถูกสั่งสอน ว่าหัวเราะทีหลังดังกว่า  เด็กชายคิดเถียงในใจ  
              
                  “ ถ้า ข้าทำงานเสร็จภายใน 30 นาที  ท่านต้องจ่ายเงินให้ข้าเป็น 2 เท่า  แต่ถ้า เลยเวลาไปแล้ว งานยังไม่เสร็จ ข้ายินดีทำงานให้ท่านฟรีๆ

                  จ่ายค่าจ้างแค่ 100 เหรียญแบบดีๆ ไม่ชอม หึ หึ หึ   เด็กชายเริ่มยิ้มกว้างขึ้น   เสร็จแน่ๆ  คราวนี้ละ ตาแก่นี้มันต้องช็อคตาค้าง   และจดจำวันนี้ไปจนวันตายแน่นอน  การดูถูกข้านั้นผิดมหันเลยละ

                 “ อย่า ดีกว่าข้าพึ่งย้ายมาเป็นบาทหลวงที่นี้ใหม่ๆ  ยังไม่ อยากโดนคนเขาหาว่ารังแกเด็ก  ถ้าเจ้าทำไม่ทันภายใน 30 นาที   ข้าจ่ายแค่ครึ่งเดียวละกัน

                 “ งั้น ตกลงตามนี้

                 “ ฮ่าๆ ตกลงตามนี้   เดียวข้าไปตามคนมาช่วยเจ้าหน่อยละกัน  นี้ ข้าสงสารเจ้านะ   เลยจะไปหาตัวช่วยให้ ฮ่าๆ ตลกจริงๆ ฮ่าๆ เออลืมบอกไปค่าแรงที่เจ้าได้ต้องหารครึ่งกับคนที่มาช่วยเจ้าน่า  ข้าไปละ

                  ตาแก่บาทหลวงเดินจาก ไปพร้อมกับเสียงหัวเราะเหมือนคนบ้า   หึ หึ หึ แล้วเราจะได้รู้กันว่า หัวเราะทีหลังมันดังกว่า  เด็กหนุ่มคิดสะใจ เดินไปหยิบอุปกรทาสี  พร้อมผสมสีดูแล้วรวดเร็วจนดูเหมือนมืออาชีพ  มือทั้งสองข่างจับแปรงทาสีจุ่มสีที่ผสมไว้เมื่อครู่  มือซ้ายวาดรูปหนึ่ง  มือขวาก็วาดอีกรูป หัวก็หมุนไปหมุนมาดูมือทั้งสองข่างทำงาน  เหมือนเด็กชายจะควบคุมการทำงานของร่างกายได้อย่างผิดมนุษย์  หากมีใครมองดูเด็กชายจะเดาไม่ออกเลยว่า  เขาถนัดมือข่างใดกันแน่ แต่ที่แน่ๆเด็กชายต้องปวดคอแน่นอนเพราะบิดไปซ้ายทีขวาทีดูแล้วปวดแทน  ไม่นานนักกำแพงก็ถูกสร้างสรรค์จนเสร็จสิ้นในเวลาชั่วพริบตา  พร้อมกันนั้นเด็กชายก็นั่งลงบ่นกระปอกกะเปกว่าปวดคอ  มือทั้งสองก็บีบนวดคอตัวเองไปด้วย

    และเรื่อง ราวการพนัน เล็กๆ  ที่เกิดขึ้นก็จบลงด้วยประการฉะนี้แล

                   เด็กชายกึ่งนั่งกึ่งนอนไปได้ไม่นานนัก  บาทหลวงก็เดินมาพร้อมกับชายหนุ่มอีกคน  ทั้งสองเดินมาทางเด็กชาย

                    
    ตาก็จับจ่องไปยังรูปภาพฝาผนัง  ทั้งสองดูด้วยสายตาที่แตกต่างกัน  คนนึ่งมองด้วยสายตาชื่นชมจิตกรที่วาดได้ไร้ที่ติ    อีกคนตกใจทำตาโตจนแทบหลุดออกมา  คงไม่ต้องบอกใช้ไหมว่าใครที่จะคิดแบบนี้ไปได้
          
                   บ้าน่า เป็นไปไม่ได้ มันเกิดขึ้นได้ยังไง  งานทาสีธรรมดา อย่างนี้ขนาดแค่ทาสีรองพื้นอย่างเดียวก็ยากแล้ว มันยังมีวาดรูปแถมให้ด้วยเหรอวะ เป็นไปไม่ได้แน่   เป็น ไปไม่ได้  บาทหลวงคิดในใจ

                  “ นี้  หลวง พ่อ  จะตลึง อะไรนักหนา งานแค่นี้เอง   งานมากกว่านี้ ผมก็เคยทำ

                  เด็กชายส่งยิ้มกวนๆ  กับแบมือเหมือนจะชี้หน้า เข้ามาตรงบาทหลวง

                   “ อะ..นี้เจ้าเป็นคนวาดจริงๆ เหรอเนี่ย

                    เป็นไปไม่ได้  เป็นไปไม่ได้แน่นอน   มันต้องซ่อนคนช่วยมันไว้ซักแห่งแถวๆ นี้ แน่เลย  บาทหลวงคิดได้ดังนั้นจึงมองไปรอบๆ  แต่ก็พบกับความว่างเปล่า
                    หนอยเจ้าบ้าเป็นเด็กเป็นเล็กจะไปทำงานยากๆ  อย่างนี้ ได้ยังไงกัน  ไอเรารึอุส่าไปตามคนมาช่วย แต่มันดันหักหน้าทำเสร็จซะแล้ว   มันบอก 30 นาที แต่นี้แค่ 10 นาทีกว่าๆ   มันก็เสร็จ   เป็นไปไม่ได้~ มันต้องเล่นลูกไม่อะไรแน่นอน

                   “ หลวง พ่อ  มองหาอะไรอยู่ละ   อะ นั้น ไอหนู  ว่าไงไม่ได้เจอซะนาน  ซ่อมสะพานคราวนั้นขอบคุณมากนะ  ไม่ มีแกครั้งนั้นซวยแน่ๆ
                   คนข่างหลังบาทหลวง  เมื่อเห็นเด็กชายก็ทักทายตามประสาคนรู้จัก

                   คน ที่ข้าพามากะจะให้มันช่วยทาสีทำไมมันพูดเหมือนรู้จักกับไอหนูนี้ตั้งแต่แรก แล้วดูๆ มันเกรงๆ ไอหนูนี้จังวะบาทหลวงคิดพลางมองสลับไปมาระหว่างเด็กชายและชายหนุ่ม

                   “ อ่าว พี่ชาย มาแล้วก็ดีเลย ค่าจ้างยังค้างอยู่ 47 เหรียญ   จ่าย มาเลย ” 

                   “ โถ่.. ไม่เอาน่าตอนนั้นใครจะไปคิดละว่า เด็กอย่างแกจะไปแก้แบบแปลนที่มีปัญหา  เสา กับคาน สะพาน ยากๆ อย่างนั้นได้

                   “ ท่าน มาท้าข้าเองนะ ว่าให้ข้าแก้แบบแปลนสะพาน  ถ้าทำได้ก็ต้องจ่ายข้ามา 300 เหรียญ  แต่ท่านจ่ายข้ามาแค่ 253 เหรียญเอง อีก 47 เหรียญละฮะ ”     ไอเด็กบ้า   นอกจากจะงกแล้วยังจะ กวนผู้ใหญ่อีก  หน่อย ดูมันสิ ดูมัน ไอรอยยิ้มเหมือนเหนือกว่าคนอื่นแบบนี้ ข้าละเกียดจริงๆ ยังมีสายตาที่เปลี่ยนจากใสซื่อบริสุทธิ์  เป็นเจ้าเล่ห์  นี้มันบอกกันทนโท่เลยนี้หว่าว่า ฉันนี้และจะโกงแก วะฮาๆ แกผิดเองที่โง่กว่า ฮาๆ

                   “ นี้ พวกเจ้ารู้จักกันมาก่อนด้วยเหรอ

                   “ แน่ นอนอยู่แล้วละลุง   โตมาด้วย กันนี้   ข้าไม่คิดเลยนะว่าไอลิงตัวซนๆ แบบนี้   ผ่านมาแปปเดียวมันก็ทำอะไรได้หลายอย่างแล้ว   ข้าเคยไปท้ามันเข้าเลยเจอไปชุดใหญ่เสียไปหลายเหรียญเลย ละ   ฮ่าๆ  ไหนละกำแพงที่จะ ให้ข้าทา   คงไม่ใช้ด่านที่สวยๆอันนี้หรอกน่า  ว่าแต่ใครวาดละนี้

                    “ เออ... ที่จริง   มันก็อยู่ตรงหน้า เจ้านั้นละไอกำแพงที่จะให้ทาสี   แต่โดนไอหนูนี้มัน ทำไปหมดแล้วละ

                     “ อะ แหมๆ  ข้า ก็คิดอยู่แล้วนะว่าเป็นไอหนูนี้แน่นอน ฮ่าๆ  ในหมู่ บ้านนี้จะมีใครอื่นได้อีกละ   เออใช้  อีกอย่างท่านอย่าไปท้าอะไรมันเข้าละ  ท่าน พึ่งมาที่นี้ใหม่ๆ   ยังไม่รู้อะไร   แต่ไอหนูนี้มันเป็นพวกมีความสามารถเกินตัว   ที่ หมู่บ้านนี้  มันหักหน้าคนอื่นเขาไปทั่วแล้ว  ชื่อเสียงมันระบือลือลั้นเลยละ  ฮ่าๆๆ

                       “ … ”   บาทหลวงพูดอะไรไม่ออกไปเลย
     
                       ไอเด็กบ้านี้แสดงว่ามันไปท้าคนอื่นไว้ทั่วแล้วละสิ

                       หนอยนี้ถ้าข้าออกไปเจอไอหนุ่มนี้ก่อนหน้ามันคงไม่มาหน้าแตกยับแบบ นี้   ดูมัน ไอหนุ่มตรงหน้า  ที่ กำลังขยี้หัวไอหนูหัวขาวนี้   ดูท่าทางฉลาดๆ แท้ๆ   ยังเสียท่าจน ไปติดเงินมันอยู่อีก แบบนี้ข้าว่าทั้งหมู่บ้านมีหวังติดเงินมันงอมแงมหมดเป็นแน่  แถมข้าผู้เป็นบาทหลวงมานานยังมาโดนเข้าซะได้ไม่น่าเลย

                      เด็กบ้าอะไรวะเนี่ย

                      “ นี้พี่ชาย ปล่อยหัวข้านะ จะขยี้หัวผมไปถึงไหน  ปล่อย น่า   แล้วเมื่อไหร่ท่านจะ จ่ายเงินที่ติดผมไว้  นานแล้วนะ

                      “ ฮ่าๆ  ไม่เอาน่า  คิด ว่าเป็นค่าจ้างที่ตอนเด็กๆ  ข้าให้เจ้าขี่คอเล่นละ กัน  หึ หึ ฮ่าๆ  หัวเจ้านี้มันยังไงกันนะ  เห็น แล้วมันมือเป็นบ้าเลย ฮ่าๆ

                     “ โอ้ยๆ พอแล้วผมเจ็บนะ  ยังไงๆ เงินที่ติดก็ต้องจ่าย เอามาซะดีๆ อย่าคิดอะไรตุกติก เดียวข้าไปฟ้องท่านป้าเลยนี้

                     “ เออๆ เจ้างก  เอาไปๆ

                     “ ขอบคุณฮะ

                     “ นี้เจ้าหนู   ถ้าว่างๆ ก็เข้ามาช่วยเขียนแผนผังบ้านให้ข้าหน่อยละกันน่านะ

                     “ ไม่เอา พี่จ่ายน้อยจะตาย   แล้วยังชอบจ่ายช้าอีก  ผมเหนื่อยฟรีก็หลายหน พอกันที  ไม่เอาแล้วละ

                     “ เออน่า   เงินมันหายากนะ เดียวข้ารวยเมื่อไหร่จะขึ้นเงินให้เจ้าละกัน  ไอเด็กจอมงก  แล้วนี้ไปแกล้งใครมาอีกละ  ทำหน้าแบบนี้ แน่นอนเลยข้าว่า   แต่ คนในหมู่บ้านก็โดนเจ้าหลอกตุ๋นจนเปื่อยหมดแล้วนี้  ข้า ว่าไม่มีใครโง่ให้เจ้าหลอกแล้วละมั้ง

                     ไม่ใช้ใครอื่นไกลหลอกไอหนุ่มก็บาทหลวง โง่ๆ ที่ยืนข้างๆ แกนี้ละ

                     คิด แล้วเศร้า ถ้ารู้แต่แรกว่าจะเป็นแบบนี้ข้าไม่ไปท้ามันให้เป็นคนโง่อีกคนหรอก

                      “ นี้พี่ ข้าไม่เคยไปหลอกใครนะ   พวกเขารับ คำท้าของข้าเองทั้งนั้น   ข้าไม่ผิด

                      “ ฮ่าๆ   มันก็เหมือนกันนั้นละน่า

                      “ นี้ หลวงพ่อ ตามที่ตกลงกันไว้   200  เหรียญ จ่ายมาเลย  เดียวข้าต้องไปที่ตลาดอีก

                      ซวยแล้วไง  เห็นมันเงียบๆ   ไป   คิดว่าลืมไปแล้ว ทำไงดีละนี้   มีเงินจ่ายมันแค่  100  เดียวเอง

                      “ หาอะไรนะ   อย่าบอกนะว่า  ท่าน พึ่งเสียท่ามันไปแล้ว  ฮาๆข้าคิดอยู่แล้วเชียว

                       “ … ”        ตอนนี้ใครมันจะไปพูดอะไรออกวะ
                      ไอหนุ่ม ทำไมแกไม่มาเตือนข้าให้เร็วกว่านี้ละวะ     เจ็บใจโว้ย เจ็บใจบาทหลวงคิดแค้นในใจ

                        “ อีกนานไหม หลวงพ่อ  เดียวตลาดปิดกันพอดี

                        “ เออ ข้าว่าข้า เออ ข้า.. มีแค่ 100 เหรียญ ข้าว่า... เออ เจ้าคงต้องกลับมาพรุ่งนี้แล้วละ เออ...แล้วข้าจะมีให้เจ้าจนครบ ”     พูดติดๆ ขัดๆ เลยฉัน

                       เฮย....คิดแล้วเศร้าทั้งชีวิต  รับใช้พระเจ้าไม่เคย   โกหก  ไม่เคยติดหนี้ใคร   ดันต้องมาติดหนี้ครั้ง แรกกับไอเด็กจอบกวนแบบนี้   พระเจ้าไม่ยุติธรรมเลย จริงๆ   พระองค์ต้องการอะไรกับข้ากันแน่  บาทหลวงคิดพรางน้ำตาแทบไหล  หันหน้ามองท้องฟ้า  ทำหน้าเหมือนโลกกำลังพังทลายและเหลือเพียงเขาคนเดียวในโลกใบนี้

                        “ ฮ่าๆ โดนเข้าแล้วๆ โดนจริงๆ สินะ ฮ่าๆ  แกนี้ก็จริงๆ เลย กับคนแก่ก็ไม่มีข้อยกเว้นเลยนะ ฮ่าๆ

                        “ เชอะ ไอหนุ่มไม่ต้องมาหัวเราะ เยอะข้าเลยนะ  แก ก็โดนมาเหมือนกันละวะ

                        “ ก็ได้ๆ   แต่จำไว้นะครับ  ข้า นะ  งดเชื่อ   เบื่อทวง   เซ็งค้าง   ลำคานเบี้ยว

                        หนอยดูมัน   ทำ มาเป็นพูดย้ำคำ   เห็นหน้ามันเฉยๆ  อย่าง นี้แสดงว่ามีคนติดเงินมันบ่อย แน่นอนเลย

                        “ เออน่า  เดียวพรุ่งนี้เจ้ามาเอาเงินที่ เหลือไปละกัน   เอานี้เงินของเจ้า  แล้วจะ ไปไหนก็ไป ”   บาทหลวงยื่นถุงใส่ เงินให้มันไป 100 เหรียญทองแดง   พร้อมๆ กับพูดตัดบทให้มันออกๆ ไป

                        “ ขอบคุณฮะ   เออใช้ สีที่เหลือนี้ ข้าขอไปละกัน  ท่านไม่ได้ใช้อะไรนี้

                        “ เออๆ เอาๆ ไปให้หมดนั้นละ
                        บาทหลวงบอกไปเพราะกำลังเสียหน้า  เลยปัดทันควันหวังจะให้เด็กชายรีบๆไปซักที

                        “ ขอบคุณฮะ แล้วข้าจะมาเอาเงินที่เหลือพรุ่งนี้ อย่าหนีไปไหนซะละ ”    

                        เด็กชายพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะวิ่งออกหาย ลับออกไป   รอยยิ้มกวนๆ ยั้งติดตาบาทหลวงอยู่เลย   คิดแล้วแค้นจริงๆ

                        “ รู้อย่างนี้ไม่น่ารับคำ เจ้าเด็กบ้านั้นมาเลย ชิ ชะ โว้ยยยยยยย เครียด แล้วอย่างนี้ จะหา   เงินจากไหนมาอีก 100 เหรียญ   มาจ่ายเด็กเวนนั้น ละวะ เนี่ย~ เครียดดดดด

                        “ ฮ่าๆ ฮ่าๆ โอ้ยๆ ปวดท้อง ฮ่าๆ ”   นี้ก็อีกคน ไอหนุ่มนี้ยังไม่หยุดหัวเราะอีกเหรอวะบาทหลวเริ่มหมดความอดทดส่งสายตาพิฆาตไปหาชายหนุ่มข่างหน้า

                        “ ไอหนุ่มที่นี้ไม่มีงานให้แกทำแล้ว   จะไป ไหนก็ไป  แล้วอย่าเอาเรื่องนี้ไปเล่า นินทาให้ใครฟังอีกละเข้าใจ ไหม

                        “ ฮ่าๆ ถึงเล่าให้ใครฟังเขาก็ไม่โทษลุงหรอก   ก็ เขาโดนมาด้วยกันทั้งนั้น  พวกเขาย่อมเข้าใจลุงแน่ๆ ฮ่าๆ ๆ อีกคนแล้ว อีกคนแล้ว ฮ่าๆ   งั้นข้าขอตัวไปก่อนละนะ ฮ่าๆ   เรื่องของไอหนูนั้น เล่าได้ทั้งวันยังไม่เบื่อเลย ฮ่าๆ

     

    ว่าแต่เจ้าหนูนั้นชื่ออะไรเหรอ

    ไวท์...ไวท์...สตาร์ 
                   แท้จริงแล้วเด็กชายที่หลอกเขาก็ชื่อไวท์นั้นเอง

     

    งั้นลุงข้าไปละ  จะเอาเรื่องนี้ไปพูดให้ป้าข้าฟังซะหน่อย ฮาๆ


                        “ เฮ้ยๆ ไอหนุ่ม ข้าบอกว่าอย่าไปเล่าให้ใครฟัง เฮ้ยๆ

                        ไม่ทันแล้วชายหนุ่มเดินหายลับไปอีกคนมีหวังได้เอาเรื่องนี้ไปกระจายบอกต่อกับคน อื่นแน่เลย

                        เฮย  บาทหลวงถอนหายใจไปหลายยก  ทิ้งท้ายไป กับความโง่ ครั้งยิ่งใหญ่ที่เสียหน้าไปกับไอหนูไวท์นี้   จบ แล้วการเริ่มชีวิตบาทหลวงที่หน้านับถือในหมู่บ้านแห่งนี้  หมดแล้ว  หมดกันๆ

                        “ หึหึ แต่ที่มันวาดไว้ก็ไม่เลว สวยมากจริงๆ แม้คนวาดมันจะหน้าเลือดไปนิดๆ หน่อยๆ แต่ก็ดี ถือซะว่าทำบุญไปก็แล้วกัน  ขอบคุณพระผู้เป็นเจ้า  ที่ประทาน เจ้าหนูน้อยนี้มา ขอบคุณ   พระองค์ได้ประทานบทเรียน ครั้งยิ้งใหญ่ให้กับข้า ผู้มีบาปแสงโง่เขลานี้  ขอบคุณ   สุดท้าย นี้ขอพระองค์จงประทานทางออกแก่ข้าพระองค์ ให้พบหนทางใช้หนี้ครั้งนี้ด้วยเถิด

                        แล้วจะทำยังไงกับ หนี้ติดตัวครั้งนี้ดีละนี้ เฮย บาทหลวงคิดได้ดังนั้นก็ทำท่าทางยอดฮิตของตัวเองทันที  คือหน้ามองฟ้า น้ำตาคลอปากก็พึมพำฟังไม่รู้เรื่องต่อไป

                        " ... "     เฮ้ย เดียวก่อนนะบาทหลวงสะดุ่งโหยง

                       ไอสีที่มันพึ่งยกเอาไปเหลือเยอะออกอย่างนั้นถ้าเอาไปคืนที่ร้าน   อย่างน้อยก็น่าจะได้เงินกลับมาบ้างละ...

                       " โถ้โว้ยไม่ทันแล้ว ไอเด็กบ้า!!! "

                       ข้าได้เกียดเด็กเอาคราวนี้ละ

                       จะไปโทษใครได้ละทีนี้   ก็ข้าเป็นคนพูดยกสีให้กับมันไปเอง คิดไปเกาหัวไปแบบนี้หัวจะล้านมากกว่านี้ไหมวะเนี่ย  โอ้ย เครียด โว้ย เครียด  คราวนี้บาทหลาวได้ท่ายอกฮิตของตัวเองท่าให้คือคุกเข่าหน้ามองฟ้า  มือทั้งสองดึงผมไปมาปากก็ร้องโอดครวนไป  มองแล้วเหมือนคนบ้าไม่มีผิด....



    ************************************  จบตอน  *********************************************


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×