ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : มรดก + กำจัด
บอสใหญ่ประจำบริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่ของเมืองไทยกำลังนั่งกลุ้มใจที่ครีเอทีฟคนเก่งผู้หาเงินเข้าบริษัทเป็นจำนวนมากมาขอลาออกทั้งๆที่หล่อนไมได้ปฏิบัติงานพลาดแต่อย่างใด ไมได้ทะเลาะกับลูกค้า ไมได้นำข้อมูลบริษัทไปเปิดเผย แล้วอย่างงี้จะให้อนุมัติบอกให้ออกได้อย่างไร
"ผมไม่ให้ออก คุณมีเหตุผลอะไร" บอร์ดใหญ่จ้องหน้าอย่างเอาเรื่องพร้อมใช้มือตบไปยังโต๊ะ
"คือบอสคะ" หญิงสาวยิ้มหวานให้เจ้านายทำให้เจ้านายเผลอยิ้มออกมาทำให้น้ำเสียงที่ดูเคร่งขรึมอ่อนลง
"คุณเป็นมือหนึ่งของบริษัทได้โปรดอย่าลาออกเลย"
"เจ้านายค่ะ เพลินขอโทษด้วยคะ แต่เพลินเปลี่ยนใจไมได้แล้วจริงๆ" เพลินตาโค้งตัวลงเหมือนกับเป็นกล่าวอำลาแล้วเดินไปยังประตูเพื่อเปิดทางให้ไปสู่โลกที่ตนตั้งใจไว้
เพลินตาสาวน้อยยิ้มหวาน ในตายซุกซน เป็นลูกสาวสวนแต่กำเนิดมาเรียนต่อที่กรุงเทพฯและได้งานที่กรุงเทพเพราะเป็นคนเก่งและขยันบวกกับเป็นคนเรียนรู้ไวทำให้พัฒนางานออกมาได้ดีจึงเป็นที่ไว้ใจของบอสใหญ่ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท
"เฮ้ย แกจะไปจริงเหรอวะ"
เพื่อนสนิทเพลินตาเดินมาหยุดมองเพลินตาที่กำลังเก็บสำภาระต่างๆลงกล่องกระดาษสี่เหลี่ยมใบใหญ่
"จริงดิ แวว"
สาวตาคม ผมยาวสลวย ท่าทาดูยั่วยวนออกเซ็กซี่นิดๆ คือแวววันเพื่อนสนิทของเพลินตาเรียนที่เดียวกันมาจบมาก็ทำงานที่เดียวกัน
"เหตุผลของแกก็คือ" แวววันยังซักไม่เลิก
"ฉันต้องกลับไปรับมรดก"
"ร้อยล้าน พันล้าน หรือหมื่นล้านกันยะ" แวววันถามด้วยท่าทีสนใจ
"ประเมินค่าไมได้" เพลินตาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยมือก็ยังเก็บของบนโต๊ะต่อไป
"อย่างงั้นเหรอน่าตื่นเต้นจัง เธอจะได้เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่ไหนกัน แล้วเงินค่ามรดกล่ะได้กี่หลัก เพลินเธอเป็นลูกคนเดียวหนิ ถ้าไม่มีคนช่วยใช้เงินแบ่งให้ฉันบ้างก็ได้นะจ๊ะเพื่อนรัก"
"ถ้าแววอยากจะช่วยเพลินทำสวน เพลินก็ยินดีนะ"
"ทำสวน อย่าบอกนะว่ามรดกคือที่ทำสวน" แววทำหน้าเซ็งสุดขีด
"ใช่จ๊ะเพื่อนรัก ตอนนี้ยังอยากได้ส่วนแบ่งอยู่มั้ย"
"ไม่อ่ะหน้าเหมือนนางเอก สูงเหมือนนางแบบ ผิวขาวเหมือนโฆษณมโลชั่นอย่างฉันได้หมองกันพอดี เธอออกคล้ำงานนี้ก็เหมาะกับเธอดีนะ"
"ว่างๆจะแวะไปเยี่ยมก็ได้นะถ้าแกคิดถึงฉัน"
เพลินตานำของที่ถือมาใส่ไว้ท้ายรถและโบกมือบ๊ายบายเพื่อนรัก
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ที่ห้องลับแห่งหนึ่ง ชายสองคนกำลังปรึกษากันอย่างเคร่งเครียด ชายผมยาวหนวดเครารุงรังจับคอเสื้อชายร่างท้วมแต่ไม่ถึงกับอ้วนและทำหน้าใส่ชายร่างท้วมประมาณว่าจะทำตามที่เขาสั่งหรือไม่
ชายร่างท้วมรับขวดยาขวดเล็กๆมาจากชายหนวดเครารุงรังด้วยมือที่สั่น
"แน่ใจหรือลูกพี่"
ชายผมยาวไว้หนวดเคราเอามือตบบ่าชายร่างท้วมเบาๆ
"ถ้าคิดจะทำการใหญ่อย่ากลัว"
"แต่ว่าท่านหัวหน้าโหดมาก"
"แล้วไง ที่ผ่านมาเขาดีกับแก ดีกับฉันมากหรือไง ใครๆก็เกลียดมันทั้งนั้นแต่แต่ไม่กล้าต่อต้าน ฉันกับแกจะได้ช่วยเหลือคนอื่นๆด้วยไม่ดีเหรอ"
ชายร่างท้วมมีท่าทีลังเล
"ความจริงก็ยังมีคนอยู่ข้างหัวหน้าอีกเป็นจำนวนมาก"
"แกต้องลงมือก่อนที่มันจะฆ่าแก เลือกเอาระหว่างแกรอดและเสวยสุข หรือมันรอดแต่แกได้ตายอย่างอนาถที่สุด"
ชายผมยาวเดินออกจากห้องไปปล่อยให้ชายร่างท้วมนั่งใช้ความคิด
เวลา 18.00น. ทุกคนกำลังเพลิดเพลินกับงานเลี้ยงมีเพียงยูตะที่กระวนกระวานไม่เป็นสุขเมื่อได้รับถาดไวน์จากใครคนหนึ่งมา ยูตะเดินตรงมายังหัวหน้าที่นั่งสงบไม่ยิ้ม ไม่หัวเราะไปกับใครทั้งนั้น
หัวหน้าใหญ๋เขาคือ อัคคี คุเซน ลูกครึ่งไทย อิตาลี ญี่ปุ่น สืบเชื้อชาติยากูซ่ามาจากผู้เป็นพ่อโดยตรง นิสัยเขาคือเข้ากับคนยาก ใครทำให้เขาไม่ถูกใจต้องเจ็บตัวไปตามๆกัน ไม่งั้นก็คือตาย
"มีอะไร"
ยูตะพยายามทำใจแข็งเข้าไว้แต่มือก็ไม่วายสั่นอยู่ดี
"ไวน์รสดีผมอยากให้ท่านหัวหน้าลิ้มรส"
"ถ้างั้นแกดื่มก่อน ดื่มสิวะ"
"จะดีเหรอท่านหัวหน้า"
"ถ้าไม่ดื่มตอนนี้ฉันจะตัดสิ้นแกจะได้รับรู้รสไม่ได้ไปตลอดชีวิต"
"ครับ ครับ" ยูตะยอมฟื้นใจยกไวน์ขึ้นดื่ม
อัคคีเห็นยูตะไม่เป็นไรจึงยอมดื่มไวน์
ยูตะยิ้มเจ้าเล่ห์พอใจให้แผนที่วางไว้
"หัวหน้าผมมีเรื่องจะปรึกษาเกรงว่าตรงนี้จะไม่เหมาะกรุณาไปคุยข้างนอกจะดีกว่า"
"อืม"
อัคคีวางแก้วไวน์ลงและตามยูตะออกไป
อัคคียืนตั้งใจฟังว่ายูตะจะพูดอะไรแต่จนแล้วจนรอดก็ไม่พูดอยู่ดีเอาแต่ยืนสั่น
"ถ้าแกมีเหตุผลเพียงพอฉันจะไม่ลงโทษแก"
เสียงฝีเท้าของใครคนหนึ่งเดินย่องๆมาจากทางด้านหลังอัคคี
อัคคีโยกตัวหลบดาบที่ฟันมาข้างหลังอย่างว่องไว
ยูตะเข้ารุมสมทบกับอิเดะกะไม่ให้อัคคีได้ไหวตัวทันแต่อัคคีก็หลบมีดพกที่ยูตะจวงแทงได้อย่างรวดเร็ว อัคคีเตะมีดที่ถืออยู่ในมือยูตะทิ้ง หักข้อมืออิเดะจนมีดซามูไรหล่นลงกับพื้น
ทั้งสองคนรู้ว่าสู้อัคคีไม่ได้เลยวิ่งหนีอัคคีจนมาจนมุมอยู่ริมหน้าผาน้ำตก
อัคคีใช้มือปาดเหงื่อที่หน้าก่อนจะง้างดาบสุดแรงจะฟันทั้งสองให้ร่างขาดไปต่อหน้าตามๆกันก็มีอันเสียหลักหน้ามืดเหมือนกับจะไม่มีแรง
ยูตะกระโดดทีบอัคคีเต็มแรง อัคคีถึงกับเซล้ม
"ถึงหัวหน้าจะไม่ได้ดื่มไวน์มีพิษแต่ที่แก้วของหัวหน้าเราโรยยาไว้ หัวหน้าไม่มีทาง มีแรงพอที่จะสู้กับพวกเราได้เด็ดขาด"
"แกไอ้ยูตะ"
อัคคีพยายามรวบรวมกำลังให้ลุกขึ้นมายืนเพื่อจะสู้ก็มีอันต้องยืนเซเมื่อถูกยูตะชกเข้าให้แถมยังโดนอิเดะใช้ไม้ฟาดไปที่ลำตัวอีก ทั้งสองรุมซ้อมอัคคีจนอัคคีกระอักเลือดออกจากปากแต่อัคคียังไม่ยอมแพ้พยายามจะหยิบไม้ขึ้นมาฟาดทั้งคืน อิเดะจึงใช้มีดดาบฟันไปยังตัวอัคคี ยูตะใช้ไม้ฟาดซ้ำแต่อัคคีก็ยังยืนอยู่ไม่ยอมแพ้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น