ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลิขิตรักสีเลือด

    ลำดับตอนที่ #3 : จุดเริ่มต้นของการพบกัน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 32
      0
      24 พ.ค. 55


             "ถ้าฉันยังไม่ตายอย่าหวังเลยว่าพวกแกยังมีลมหายใจต่อวันพรุ่งนี้"

         "งั้นหัวหน้าก็ตายซะเถอะ" อิเดะฟันไปยังลำตัวอัคคีซ้ำ

        อัคคีเซเหมือนจะล้มแต่ไม่ล้มจึงโดนฟันไปข้างหลังอีกแผลคราวนี้อัคคีร่วงลงตกไปตามกระแสน้ำตกที่ไหลแรงอยู่บนเชิงผาพอดี

        อิเดะกับยูตะหันมาประสานมือกันอย่างซะใจ

               "ในที่สุด อัคคี คุเซน ก็ดับสูญ ฮ่าๆๆ" ทั้งสองหัวเราะพร้อมกันอย่างชอบใจ

        ยูตะกับอิเดะวางแผนกันไปบอกลูกสมุนทั้งหลายว่าอัคคีเมาแล้วพลัดตกน้ำไปเขาทั้งสองเชื่อว่าถ้าพูดแบบนี้นอกจากจะไม่มีใครสงสัยในตัวพวกเขาแล้ว ในเวลาที่เลือกหัวหน้าคนใหม่พวกเขาก็มีสิทธิ์ลุ้นแต่พวกเขาคาดการณ์ผิดถนัดไปไม่มีลูกน้องคนใดเชื่อว่าอัคคีจะจมน้ำตายง่ายๆจึงพากันไปงมหาอัคคีที่น้ำตกแต่ก็ไม่พบจนชักเริ่มถอดใจแต่ถึงอย่างไรก็ยังไม่ปักใจเชื่อว่าอัคคีตายแล้วจริงๆ

      *******************************************************************************

          เพลินตาเดินทางกลับมาถึงหมู่บ้านที่ต่างจังหวัดก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจาก
    บรรดาเพื่อนๆพ่อ และเด็กวัยรุ่นๆ ไปรอรับเธออยู่  และในระหว่างที่เธอไม่อยู่บ้านทุกคนในหมู่บ้านก็ต่างช่วยกันดูแลเป็นอย่างดี ลุงทศกับน้าจันส่งลูกสาวไปช่วยทำความสะอาดบ้านให้ทุกวัน ตามั่นกับยายน้อยส่งหลานชายไปช่วยดูแลสวนที่บ้านให้เพลินตาทุกวัน ทุกคนในหมู่บ้านต่างช่วยเหลือเพลินตาเป็นอย่างดี

         เด็กเล็กๆก็ดีใจที่เพลินตากลับมาอยู่ที่หมู่บ้านจะได้ช่วยสอนหนังสือพวกเขาได้

                 "สวัสดีจ๊ะพ่อหมอ"

                 "ไหว้พระเถอะ"

                 "พ่อหมอถืออะไรอยู่ในมืออ่ะจ๊ะ"

                 "ว่านสุมนไพรน่ะ"

                 "เพลินนึกว่าจะให้ลูกสืบทอดแทนซะแล้ว"

                 "ไอ้เวศหัวไม่ค่อยดีสงสัยคงต้องศึกษาอีกนาน"

                "แต่ถึงยังไงนะหนูทุกคนก็วางใจในตัวพ่อหมออยู่ดีไม่ว่าใครจะมาอาสารักษาให้คนในหมู่บ้านสักกี่คน" หญิงวัยกลางคนร่างท้วมเป็นผู้กล่าว

                 "พ่อหมอฉายาหมอเทวดา ใครจะกล้าสู้ล่ะจ๊ะ"

         เพลินตาแซวพร้อมกับรอยยิ้มพาให้คนอื่นยิ้มไปด้วยส่วนพ่อหมอหรือหมอเทวดาประจำหมู่บ้านก็เดินกลับเข้าบ้านไม้ตนเองเพื่อไปคิดค้นสูตรยาต่อไป

         เพลินตาเห็นว่าดึกมากแล้วจึงขอให้ทุกคนกลับไปพักผ่อนเพราะพรุ่งนี้ทุกคนยังต้องตื่นมาทำสวนแต่เช้าส่วนเพลินตานั้นก็หิ้วกระเป๋าเดินเข้าบ้านตนเอง เธอมองไปรอบๆบ้านทำจากไม้ ด้านล่างของบ้านเป็นลานกว้าง ซึ่งบริเวณลานกว้างนั้นประกอบไปด้วย แคร่ที่ไม่ใหญ่และเล็กเกินไปนักตั้งอยู่ตรงกลางลานกว้างของชั้นล่าง ถัดไปอีกไม่ไกลก็เป็นห้องน้ำทำจากไม้และฟางข้าว ส่วนรอบตัวบ้านก็เป็นสวนผลไม้ของพ่อแม่ที่ทิ้งไว้ให้เป็นมรดก

        เพลินตามองไปทางบันไดไม้และเดินก้าวขึ้นไปสภาพยังคงแข็งแรงดีไม่มีเสียงแอ็ดเหมือนไม้จะหักให้ได้ยิน เธอก้าวขึ้นไปจนถึงชั้นบนของตัวบ้านก็พบห้องสองห้อง ห้องหนึ่งเป็นห้องที่พ่อแม่เธออยู่อาศัยตอนมีชีวิตอยู่ อีกห้องเป็นห้องนอนตอนที่เธอยังไม่ได้ไปเรียนต่อและทำงานที่กรุงเทพฯ เธอวางกระเป๋าลงหน้าห้องเธอและเดินไปยังห้องของพ่อแม่ เดินเข้าไปดูที่ห้องก็พบรูปของพ่อแม่ตั้งอยู่เธอหยิบขึ้นมาดู

             "ไม่ต้องห่วงนะคะ พอ่แม่ เพลินจะดูแลสวนที่พ่อแม่รักให้ดีที่สุด"

       เพลินตานำรูปพ่อแม่มากอดไว้และทิ้งตัวลงนอนบนเตียงพ่อกับแม่ก่อนจะเผลอตัวหลับไป

         เช้าวันใหม่ เพลินตาขยับตัวตื่นขึ้นเมื่อแสงอาทิตย์ส่องถูกตาเธอ เธอเดินไปหยิบเสื้อผ้าเพื่อจะไปอาบน้ำแต่พอมาถึงห้องน้ำก็พบว่าไม่มีน้ำในตุ่มจึงเดินไปหยิบถังน้ำใส่หาบเพื่อจะหาบน้ำที่ลำธารมาใช้ระหว่างทางก็เจหลานชายของตามั่นกับยายน้อย นายเปี๊ยกรีบอาสาจะไปหาบน้ำให้แต่เพลินตาบอกว่าไม่เป็นไรเธออยากฝึกให้ชินเพราะจากนี้ไปเธอต้องมาใช้ชีวิตที่เหลือที่นี่จึงต้องหัดปรับตัวให้เข้ากับทุกคนให้ไวที่สุด

        เปี๊ยกจึงยอมปล่อยให้เพลินตาเดินไปลำธารคนเดียว ส่วนเพลินตาก็รีบจ้ำเดินไปยังลำธาร เมื่อเพลินตามาถึงก็รีบใช้ถังน้ำตักไปยังลำธารทันทีแต่ถังน้ำที่ตักเหมือนติดอะไรบางอย่างใต้น้ำจึงตักไม่ขึ้น
               
           เพลินตาจึงก้มหน้าลงไปมองเลยร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตกใจ

           เปี๊ยกได้ยินเสียงร้องก็วิ่งไปดูที่ลำธาร

                 "พี่เพลินเกิดอะไรขึ้น"

                 "มีคนตายในน้ำ" เปี๊ยกรีบเข้าไปดูและดึงคนในน้ำขึ้นมา

       เปี๊ยกใช้หูแนบฟังเสียงหัวใจชายหนุ่มนิรนามที่ไม่รู้ว่าเป็นใครและมาจากไหน

                  "หัวใจเขายังเต้นอยู่ จะช่วยชีวิตเขายังไงดี"

        เพลินตาตัดสินใจช่วยโดยการผายปอด

        ชายนิรนามเริ่มสำลักน้ำออกจากปากแต่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะฟื้นขึ้นมาได้

                   "แบกเขาไปที่บ้านพี่ก่อน พี่จะรีบไปตามพ่อหมอมาดูอาการเขา"

                   "ได้ๆพี่เพลิน"

         เปี๊ยกแบกชายนิรนามขึ้นบ่าอย่างยากเย็นแต่ก็สามารถแบกจนมาถึงบ้านเพลินตาได้

        เพลินตาวิ่งไปยังบ้านพ่อหมอ และรีบลากพ่อหมอมาให้ไปกับเธอที่บ้าน พ่อหมอจึงต้องห้ามให้เพลินตาใจเย็นๆไม่อย่างงั้นพ่อหมออาจได้ตกกะไดก่อนจะได้รักษาคนเจ็บและพ่อหมอก็ต้องมาเป็นคนเจ็บที่ต้องรักษาตนเอง

                  "พ่อหมอต้องใช้อะไรบ้างมั้ย ไม่เป็นไรเดี๋ยวเพลินไปหยิบมาให้พ่อหมอ พ่อหมอไปบ้านเพลินก่อนได้เลย"

       เพลินตาปล่อยพ่อหมอให้เดินไปบ้านเธอส่วนเธอรีบวิ่งขึ้นบนบ้านพ่อหมอไปหยิบยาสมุนไพรที่มีอยู่ทั้งหมดนำมาใส่ตะกร้าไว้และรีบวิ่งไปยังบันไดเดินทางไปยังบ้านของเธอเองอย่างรีบเร่ง

        พ่อหมอมาถึงบ้านเพลินตาก็รีบตรวจดูอาการชายนิรนาม

                   "ถอดเสื้อมันออกข้าจะตรวจดูว่ามันบาดเจ็บตรงไหนบ้าง"

        เปี๊ยกรีบถอดเสื้อชายนิรนามออก

       เพลินตารีบวิ่งเข้ามาพร้อมกับตะกร้า

                    "เป็นยังไงบ้างพ่อหมอ"

                    "แผลฉรรก์ลึก 2 จุด ร่างกายมีรอยฟกซ้ำไปทั้งตัว แขนซ้ายมีสิทธิ์หักอาจจะต้องทำการดามให้กระดูกเข้าที่ ศรีษะมีรอยแตกแยกเป็ฯทางยาวไม่แน่ว่าจะกระทบถึงสมองหรือเปล่า"

                    "ฟังจากทั้งหมดที่พูดมานะพี่เพลิน ฉันว่าท่าทางเราต้องเตรียมทำพิธีทางศาสนาให้เขา ถ้ารอดก็ปาฏิหาริย์แล้ว"

                     "ต้องรอดสิพ่อหมอช่วยได้ใช่ไหมจ๊ะ" 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×