ลัดฟ้าข้ามโลก ย่ำแดน"จังโก้" สัมผัสหัวใจ"เม็กซิกัน" (ต่อ) |
วันที่เดินทางไปดูพีระมิดพระอาทิตย์ พีระมิดพระจันทร์ ที่สร้างขึ้นในยุคอาณาจักรโอติอัวกันนั้น ทำเอาพวกเราหลายคนถึงกับทึ่ง
พีระมิดทั้ง 2 แห่งนี้ เป็นพีระมิดขนาดใหญ่ สร้างด้วยหินภูเขาไฟ ทำขึ้นมาเพื่อบูชาดวงอาทิตย์ และบูชาพระจันทร์ตามความเชื่อของคนโบราณ
ณ ที่นั่น มีสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือการแสดงประโยชน์ของตะบองเพชร
ตะบองเพชรที่เม็กซิโก ไม่ใช่ต้นขนาดบอนไซที่เราเห็นในประเทศไทย หากแต่เป็นตะบองเพชรที่ใหญ่โต มีหลากหลายพันธุ์ โดยคนที่นั่นคุยให้ฟังว่ามีถึง 160 ชนิด
ตะบองเพชรเหล่านี้คนโบราณสมัยนั้นเอามาทำประโยชน์หลายอย่าง
ปลายตะบองเพชรที่เป็นหนามแหลมเขาเอามาเป็นเข็มเย็บเครื่องนุ่งห่มโดยใช้ใยเป็นเส้นด้าย
เยื่อของตะบองเพชรที่มีลักษณะใหญ่เขาใช้แทนกระดาษ เขียนอักษรภาพสื่อสารกัน
นอกจากนี้ ยังสามารถเอาตะบองเพชรมาทำแชมพู ใยของมันเอามาถักกระเป๋า หรือถักเป็นหมวก
แต่สำหรับคอเหล้า คงจะไม่พลาด "เตกีล่า" เหล้าแอลกอฮอล์สูง ไม่มีสีปรุงแต่ง ซึ่งเป็นเครื่องดื่มประจำชาติเม็กซิโก
เตกีล่านี้ได้มาจากตะบองเพชรที่ชื่อมาเกฟ (maguey) วิธีการดื่มเขาจะใส่ลงในแก้วขนาดเล็ก แล้วเอามะนาวฝานใส่ลงไป โรยเกลือบนง่ามมือแล้วเลียกินเกลือเข้าไปตามด้วยเตกีล่าผสมมะนาว
คนละกรึ๊บๆๆๆ อากาศที่ว่าหนาวก็ทำให้ร่างกายอบอุ่นได้
ที่น่ามหัศจรรย์ก็คือ ตะบองเพชรบางพันธุ์จะมีหนอนเข้าไปวางไข่ คนโบราณเขาไปเจาะเอาไข่เหล่านั้นมาพอบี้ลงบนกระดานจะปรากฏเป็นสีแดงบ้าง เหลืองบ้าง แล้วแต่พันธุ์
สีเหล่านี้คนโบราณเขาเอาไปทาสิ่งปลูกสร้างกลายเป็นสีแดง สีเหลือง บางแห่งยังคงสภาพเป็นพันปีมาจนถึงบัดนี้
แลดูพีระมิดและความมหัศจรรย์ของพืชพันธุ์ที่เม็กซิโกแล้ว ต้องยอมรับในอารยธรรมอันเก่าแก่ของที่นี่
จากข้อมูลที่ได้รับอาณาจักรโอลเม็ค เกิดที่เม็กซิโกก่อนคริสตกาลประมาณ 1150 ปี
อาณาจักรเตโอติอัวกัน มีอายุก่อนคริสตกาลประมาณ 100 ปี
อาณาจักรมายา มีอายุในช่วง ค.ศ.250-900
อาณาจักรแอสเท็ค มีอายุในปี ค.ศ.900
กว่าจะตกอยู่ในอาณัติของจักรวรรดิสเปน กระทั่งชาวเม็กซิโกกู้ชาติประกาศเอกราช ดำรงความเป็นไทจนถึงปัจจุบันก็กินเวลาเป็นพันปี
เม็กซิโกจึงเป็นต้นกำเนิดของอารยธรรม
ความรุ่งโรจน์แห่งอารยธรรมสะสมสั่งสมกันมาจนปัจจุบัน แต่กลับมิอาจฉายแสงแวววับออกมาได้
หลังจากวันที่ไปซึมซับอารยธรรมอันรุ่งโรจน์ของเม็กซิโก เราก็กระโจนข้ามไปยังเมืองท่องเที่ยวอันดับหนึ่ง ชื่อว่า "อคาปูลโก"
"อคาปูลโก" เป็นเมืองตากอากาศที่ใหญ่ที่สุดของเม็กซิโก ระยะทางห่างจากเม็กซิโกซิตี้ประมาณ 500 กิโลเมตร สามารถเดินทางไปได้ทั้งทางบกและทางเครื่องบิน
อ่าวอคาปูลโกยามราตรีสวยงามยากจะบรรยาย แสงไฟระยิบจากอาคารบ้านเรือนรอบๆ อ่าว เป็น "พระเอก" สำหรับอาหารมื้อค่ำ
ลมเย็น อาหารดี บริการดี และทิวทัศน์ที่สวยงาม ทำให้ความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางและกิจการงานหายไปเป็นปลิดทิ้ง
ณ ที่แห่งนี้เคยเป็นฉากภาพยนตร์ดังหลายเรื่อง รวมทั้งเรื่องเจมส์บอนด์ 007 หนังอมตะตลอดกาล
ณ ที่แห่งนี้เราได้สัมผัสกับการแสดงกระโดดหน้าผาลงทะเล ความสูง 30 กว่าเมตร
ณ ที่แห่งนี้เราได้ล่องเรือออกไปชมทิวทัศน์ของอ่าว ชมพระอาทิตย์ตกดินที่เม็กซิโก
นอกจากเม็กซิโกจะมีอารยธรรมอันเก่าแก่แล้ว ความงามทางธรรมชาติก็ไม่แพ้ที่ใด
ทุกอย่างกลั่นออกมาเป็นความสุนทรีทางศิลปะ
ศิลปะทางดนตรี อย่าง "มารีอาชี" วงดนตรีพื้นเมืองของเม็กซิโกที่เกิดขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 มีเครื่องดนตรีอย่างกีตาร์ ไวโอลิน ทรัมเป็ต และนักร้องเปล่งเสียงเพลงสไตล์เม็กซิกันสร้างความกระชุ่มกระชวยให้แก่ผู้รับฟังได้มากโข
ศิลปะการดีไซน์เครื่องเงินที่ทันยุคทันสมัย จากฝีมือของคนเมืองทักโก เมืองเหมืองเงินที่อยู่ห่างจากเม็กซิโกซิตี้ไป 3 ชั่วโมง
แต่น่าเสียดายที่วันนี้เม็กซิโกถูกย่ำยีจากสงครามทุน
วิกฤตเศรษฐกิจเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วยังบดบังอารยธรรมและความงามทางธรรมชาติของเม็กซิโก
ความแตกต่างทางชนชั้นมีสูง หลายเมืองตกเป็นแหล่งฟอกเงิน และแลกเปลี่ยนยาเสพติด
นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเม็กซิโกแม้จะยังมีมาก แต่ก็มีอัตราถดถอย
วันที่เครื่องบินเชิดหัวขึ้นจากสนามบินเม็กซิโกซิตี้กลับเมืองไทย ความรู้สึกหนึ่งเข้ามาเกาะกุมหัวใจ
สงสารคนเม็กซิกัน
เสียดาย...ประเทศเม็กซิโก
|
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น