ดอยตุงสราญ เบิกบานชนเผ่า |
ผมมีโอกาสแวะเวียนไปดอยตุงหลายครั้ง แต่ยังไม่มีโอกาสพักแรมบนดอยตุงสักที จนเมื่อต้นปีนี้ ได้พักรีสอร์ทที่เคยเป็นบ้านพักข้าราชบริพารในสมเด็จย่า ชื่อว่า "ดอยตุง ลอดจ์" หรือ "บ้านต้นน้ำ"
นามนี้มีความหมายมาก เพราะดอยตุงเป็นแหล่งต้นน้ำชั้นเยี่ยมของล้านนา เป็นต้นธารของแม่น้ำหลายสาย แต่ในอดีตผืนป่าดอยตุงถูกทำลายจากการปลูกฝิ่นและทำไร่เลื่อนลอย ทำให้เกิดโครงการพัฒนาดอยตุง และ "พระตำหนักดอยตุง" ที่ประทับแปรพระราชฐานเพื่อทรงงานของสมเด็จย่า จนถึงกับรับสั่งว่า "ฉันจะไม่สร้างบ้านที่นี่ ถ้าไม่มีโครงการพัฒนาดอยตุง"
กิจกรรมพิเศษอันมีความหมายยิ่งที่ "บ้านต้นน้ำ" คือ การแสดงของชนเผ่าต่างๆ ในเชียงราย ที่มีมากกว่า 30 ชนเผ่า แม้ค่ำคืนนั้นจะมีตัวแทนมาเพียง 3 ชนเผ่า คือ อาข่า ไทยใหญ่ และ ลัวะ แต่ที่พิเศษสุดคือเรามักชมการแสดงของ "ชาวเขา" ที่แสดงโดย "ชาวเรา" ทว่า นี่คือชนเผ่าตัวจริงเสียงจริงมาแสดงให้เราชม พวกเขาทั้งหมดเป็นชนเผ่าที่ทำงานในโครงการพัฒนาดอยตุง โดยเฉพาะเด็กๆ นักแสดงทุกคน ได้รับการศึกษาเหมือนเด็กไทยทั่วไป แต่ที่น่ายินดีคือพวกเขายังไม่ทิ้งขนบประเพณีในการแต่งกายและร่ายรำอันเป็นเอกลักษณ์ของเผ่าตน
ที่ผมสนใจเป็นพิเศษ คือ ชาวลัวะ ซึ่งเราไม่ค่อยพบเห็นตามงานเทศกาลต่างๆ เพราะเป็นชนเผ่าเล็ก อีกทั้งสีสันการแต่งกายอาจไม่เป็นที่ดึงดูดความสนใจเท่าเผ่าอื่น ทว่า หากย้อนไปในประวัติศาสตร์ ชาวลัวะคือชนเผ่าดั้งเดิมในดินแดนนี้ ก่อนที่พ่อขุนเม็งรายมหาราชจะสถาปนาอาณาจักรล้านนาเชียงใหม่ เมื่อ 700 ปีก่อนเสียอีก ร่องรอยอารยธรรมที่ชาวลัวะทิ้งไว้ โดยที่ชาวล้านนาวันนี้อาจหลงลืมไปแล้ว คือไม้สลักไขว้กันสองอันประดับไว้บนหน้าจั่วบ้านที่เรียกว่า "กาแล"
เพราะชาวลัวะมีประเพณีสำคัญคือ "งานเลี้ยงผี" หรือการบูชายัญสัตว์เพื่อเซ่นไหว้ผีมิให้มากล้ำกราย ซึ่งในอดีตต้องเซ่นไหว้ด้วยควายเท่านั้น หลังเสร็จพิธีก็จะเอาเขาควายมาประดับไว้บนจั่วบ้าน เป็นการบอกกล่าวเหล่าภูตผีว่าบ้านนี้เซ่นสรวงบูชาแล้ว ขอจงบันดาลความร่มเย็นเป็นสุข อย่าได้มีทุกข์ร้อนมาแผ้วพานบ้านนี้เลย ครั้นเมื่อแร้ง กา ซึ่งเป็นสัตว์ที่ไม่เป็นมงคลแลเห็นเขาควายที่ประดับไว้ ก็กลัวจนไม่กล้าบินผ่าน จึงเป็นที่มาของชื่อ "กาแล" ซึ่งวันนี้ พัฒนามาเป็นไม้แกะสลักสวยงามสองชิ้นวางไขว้กัน ประดับไว้บนหน้าจั่วอาคารบ้านเรือนชาวล้านนา จนกลายเป็นเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมล้านนาไปเสียแล้ว
นอกจากนั้น ยังมีประเพณีบูชา "เสาสะกั้ง" หรือ "เสาอินทขีล" คือเสาที่ชาวลัวะเชื่อว่าพระอินทร์ประทานมาให้เป็น "เสาใจบ้าน" หรือ "เสาหลักเมือง" ซึ่งเมื่อพ่อขุนเม็งรายทรงสถาปนาอาณาจักรล้านนาเชียงใหม่ ก็โปรดให้ทำเสาอินทขีลตามธรรมเนียมลัวะ ไว้ให้ชาวเมืองสักการบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย จนกลายเป็นประเพณี "ตักบาตรดอกไม้ไหว้เสาอินทขีล" ณ วัดเจดีย์หลวง ราวเดือนมิถุนายนของทุกปี (ต่อ)
|
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น