เรื่องราวของ 'รถเมล์ไทย' ขำดี เอามาเล่าสู่กันฟัง นะ - เรื่องราวของ 'รถเมล์ไทย' ขำดี เอามาเล่าสู่กันฟัง นะ นิยาย เรื่องราวของ 'รถเมล์ไทย' ขำดี เอามาเล่าสู่กันฟัง นะ : Dek-D.com - Writer

    เรื่องราวของ 'รถเมล์ไทย' ขำดี เอามาเล่าสู่กันฟัง นะ

    เรื่องราวของ 'รถเมล์ไทย' ขำดี เอามาเล่าสู่กันฟัง นะ

    ผู้เข้าชมรวม

    454

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    454

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  10 ต.ค. 49 / 12:53 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



      เรื่องราวของ 'รถเมล์ไทย' ขำดี เอามาเล่าสู่กันฟัง นะ



      ปอ. 10 (พระประแดง-รัง สิต)


      รถเมล์ สายที่ 'หยิ่ง' ที่สุดในประเทศ ไทย
      คาดว่าคนขับทั้งหลายคงเป็นคนรวยแอบมาขับรถเล่นแก้เซ็งไปวันๆ
      ไม่ง้อ ผู้โดยสาร ยิ่งรถตัวเองโล่งเท่าไรยิ่งชอบ ไม่จอดรับผู้โดยสาร
      ต่อให้โบกจน มือหัก และมีวิธีป้องกันผู้โดยสารจะขึ้น โดยการไปจอดป้ายไกลๆ
      เพื่อให้ผู้ โดยสารลงแล้วซิ่งทันที
      ต่อให้คนที่จะขึ้นวิ่งไปถึงประตูก็แล้วเหอะ
      แถม เป็นรถหายากนานๆ มาสักคันนึง ถ้าพลาดแล้วละก็
      ไปสั่งก๋วยเตี๋ยวกินรอคันต่อ ไปได้เลย



      สาย 8 (ปากคลองตลาด-แฮปปี้แลนด์)

      รถเมล์สายที่ซิ่ง เร็วที่สุดในประเทศไทย
      คาดว่าคนขับส่วนใหญ่จะเป็นพวกนักแข่งรถมือสมัครเล่น ที่ตกงาน
      หรือสอบตกจากการเทิร์นโพร เลยหันเหชีวิตมาขับรถเมล์แทน
      แต่มอง หน้าแล้วนึกว่าเพิ่งหนีออกมาจากคุก
      ขอแนะนำสำหรับผู้โดยสารหน้าใหม่ว่าอย่า นั่งเบาะหน้า (ยาวๆ) เด็ดขาด
      หัวคุณอาจโขกหรือพุ่งชนกระจกหน้ารถได้
      พึง จับราวให้มั่น ก้าวขึ้น-ลงให้ไว
      เวลาคนโบกให้จอด มันไม่ค่อยจอดตรงที่คนยืน คอย
      มันจะวิ่งเลยไปให้คนวิ่งตาม
      พอคนที่วิ่งเร็วที่สุดตามไปถึงแล้วก้าว ขาจะขึ้นไป
      มันจะกระตุกรถทีนึง
      บังเอิญว่าคนโดยสารกระโดดขึ้นไปได้
      มันจะกระชากรถอีกทีให้หน้าคะมำไปข้างหน้า
      คนขับมันจะหันมามองอย่างสะใจ แล้วกระตุกรถไปเรื่อยๆ
      ให้คนโดยสารคนต่อไปรู้รสชาดอย่างทั่วถีง.....
      ที นี้อีตอนขาลง ผู้โดยสารกดกริ่งครั้งแรก มันยังวิ่งตะบึงอย่างเมามัน

      ผู้ โดยสารกดกริ่งอีก มันจะตะคอกว่า

      "กดครั้งเดียว...รู้แล้ว..เดี๋ยว ( เซ็นเซอร์) ไม่จอดซะนี่!"

      แล้วก็เบรคอย่างแรง

      ผู้โดยสารทั้งคัน ต่างพากันหาหลักจับยึดบ้าง ที่จับไม่ทันก็หน้าคะมำคว่ำเค้เก้

      รถยังไม่ จอดสนิทดี กระเป๋า (ซึ่งหน้า***มพอกัน) มันจะบอก "ลงเร็วๆ ...... ลง เร็วๆ"

      ผู้โดยสารคนต่อไปเพิ่งก้าวขาซ้ายลงไป คนขับมันจะกระชากรถไป เรื่อยๆ
      ใครลงทันก็โชคดีไป ใครไม่ทันก็หน้าจ๋อย ยอมรับสภาพไปลงป้ายหน้า เอา



      ปอ. 6 (พระประแดง-ปากเกร็ด)

      รถเมล์สายที่วิ่งยาว ที่สุด

      เริ่มต้นสายจากจังหวัดสมุทรปราการ พาเที่ยวชมรอบเมืองกรุงเทพฯ อาทิ
      พระปรางค์วัดอรุณฯ สะพานพุทธฯ วัดโพธิ์ ท่าเตียน ท่าช้าง ท่าพระ จันทร์ สนามหลวง
      วัดพระแก้ว ฯลฯา
      ไปจนสุดสายที่จังหวัดนนทบุรี ด้วยแพ็ค เก็จราคาสุดประหยัด
      (สมุทรปราการ-กรุงเทพฯ-นนทบุรี) เพียง 18 บาท ตลอดการ เดินทาง
      (กรุณานำอาหารมาเอง) เหมาะกับการพาคนแก่และเด็กเดินทางเล่น
      เพราะจำกัดความเร็วเพียง 40 กิโลเมตร/ชั่วโมง ปลอดภัยแน่ๆ

      สนใจติดต่อ ขสมก.
      เริ่มทัวร์ได้ 5.30 ถึง 21.00 น.
      ปล. เนื่องจากใช้แอร์ ระบบ Hottest First ป้องกันผู้โดยสารหนาวจนแข็งตาย
      ไม่จำเป็นต้องเตรียม เสื้อหนาวมาแต่ประการใด



      ปอ. 4 (ซึ่งเราว่าเป็นรถที่แน่นสุดในประเทศไทยแล้วมั้ง)

      ทุกวันเราต้องพบนักห้อยโหนกายกรรมออกมาจากตัวรถ จนหวาด เสียวว่าจะเกิดอันตราย
      กับเขาเหล่านั้นหรือเปล่า กระเป๋ารถเมล์ทุกคนได้รับ การอบรมให้พูดเหมือนกันคือ

      "ขึ้นบนมาหน่อยสิคะ"
      "เดินหน้าชิดใน หน่อย"
      "คนหน้าคนหลังช่วยเดินหน่อยสิคะ"

      บางทีก็ไม่เคยดูเลยว่าสภาพ ในรถเป็นไง ประมาณว่าโดนตั้งโพแกรมให้พูดยังไงก็พูดตาม

      หากโดนกระเป่ารถ ถามว่า "ชิดในหน่อย..ที่ข้างๆ จะเอาไว้เตะตะกร้อเหรอ?"
      ก็ตอบไปเลยว่า "เอา ลูก (ตะกร้อ) มาให้เด่ะ! จะเตะให้ดู"

      หรือบ้างก็ตะโดนกลับมาว่า "คุณ ผู้หญิงด้านหลัง ท้องไม่มีพ่อแล้ว!"
      บางคนเกาะไปด้วยมือเดียวเท้าเดียวเท่า นั้นเก่งจริงๆ
      วันไหนโชคดีขึ้นได้ จะไปถีงออฟฟิศในสภาพหัวเหอเสื้อผ้า ยับเยิน
      จนเพื่อนมันเคยทักว่าไปโดนข่มขืนมาเหรอ!?


      สาย 113 (มีนบุรี-หัวลำโพง)

      รถสภาพโทรมชะมัด ประตู ปิดไม่ได้ซักกะคัน
      ในชั่วโมงเร่งด่วนคนอัดแน่นยังกะปลากระป๋อง แถมไม่ชอบจอด รับคนขึ้นด้วย
      ขากลับจากหัวลำโพงแทนที่จะวิ่งเข้าพญาไท มันดันมุดเข้าซอยบ้า อะไรไม่รู้
      ไปโผล่เอาบรรทัดทอง
      คนที่รอขึ้นตรงสามย่านก็คอยไปเถอะ ชาติ นึงกว่าจะโผล่มาทางพญาไทซักคัน

       


      ปอ.1 (ปากคลองตลาด-มีนบุรี)

      วิ่งจากมีนบุรี ผ่านหน้า รามฯ ผ่านพระโขนง ผ่านสุขุมวิท ผ่านสยาม แล้วก็ไปปากคลองตลาด
      ด้วยความที่ จากหน้ารามฯวิ่งไปสุขุมวิทมีสายเดียว (แต่ก่อนมีสาย 40 ด้วย แต่เดี๋ยวนี้มัน ไม่
      ผ่านรามฯแล้ว)
      ทำให้คนแน่นมากถึงมากกว่าแน่นที่สุด แน่นจนเวลาขึ้น นี่กอดคนข้างๆ ได้สบายมาก

      ยิ่งวันเสาร์หรือวันธรรมดาตอนชั่วโมงเร่งด่วน นะ....ฮึ่ม.....อย่าฝันเลยจะได้นั่ ง
      แต่พอถึงสุขุมวิท 24 (เอ็มโพเรียม-สวน เบญจสิริ) คนลงเกือบหมดรถเลย

       


      สาย 33 (ปทุมธานี-สนามหลวง)

      ที่จริงน่าจะเปลี่ยน เป็น นรก-อเวจี ดีกว่าค่ะ เร็วสุดๆ เคยนั่งช่วง 6 โมง จากปากเกร็ดถีงสนาม หลวง 25 นาที
      ตื่นไปเรียนไม่เคยนั่งหลับบนรถสายนี้เลย เพราะเคยมีคนนั่งหลับ แล้วรถเข้าโค้งหน้าวัดสร้อยทอง ไม่รู้เจ้าที่แรงหรือเหตุอันใด

      ชายผู้ นั้นได้กระเด็นตกจากเบาะมาอยู่ที่พื้นรถโดยไม่รู้ตัว

      แต่สามารถกลับขึ้น ไปนั่งหลับต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
      เคยขึ้นสะพานแล้วลอยตัวอยู่ประมาณ 3 วินาที
      พอตกลงมากระจกข้างๆ เราร้าวหมดทั้งแผ่นนึกว่ามอเตอร์ครอส

      เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ขอแนะนำนะค่ะ

      คนในรถนั่งมองหน้ากันแบบ ...
      สงสัยว่าตูจะมีชีวิตรอดมั้ยนี่?!


      ปอ. 356 (ปากเกร็ด-รังสิต)

      ถ้าคิดจะทำหนังย้อนยุค สัก 30 ปี แนะนำให้ใช้ประกอบฉากได้
      ความเร็วไม่เกิน 40 กม. ขับไม่เกิน เกียร์ 3
      วิ่งจากปากเกร็ด-หลักสี่ ใช้เวลาเกือบชั่วโมง
      แม้ไม่ใช่ ชั่วโมงเร่งด่วน เวลาเย็นรับสาวโรงงานกลับบ้าน
      จะจอดรอกันหน้าโรงงานมั่ง เหมือนประหนึ่งเป็นอู่รถ
      แถมซ้อนกัน 3 คันอีกต่างหาก
      จากสภาพรถไม่น่า เชื่อว่าจะไปถึง ม.ธรรมศาสตร์รังสิตได้
      เคยเสียกลางทางคนขับบอกให้ช่วยเข็น หน่อย

       


      สาย 57 (ตลิ่งชัน - คลองสาน)

      เนื่องจากสายนี้ต้อง ผ่านสถานที่หลายแห่ง ซึ่งเป็นที่เก่ามีประวัติและเคยมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น
      เช่น เมื่อผ่านโพธิ์สามต้นคนขับจะถูกผีมอเตอร์วินเข้าสิง ซอกเล็กซอกน้อยพี่แกจะ มุด เบียด
      ปาด แซงซ้ายขวาเป็นที่หวาดเสียว

      ครั้นออกถนนปิ่นเกล้า- นครชัยศรีจะถูกผีรถบรรทุกเมายาบ้าเข้าสิง
      แข่งกันไล่บี้ชนิดไม่กลัว อุบัติเหตุ จะจอดก็ตอนชนท้ายกับรถเก๋งหรือรถพัง
      และเคยไหมขึ้นไปนั่งบนรถ แล้วมองเห็นล้อวิ่งอยู่เพราะใต้ท้องรถมันทะลุ!


      ปอ. 126

      สายนี้สนับสนุนโดย The Mall เพราะวิ่ง ผ่าน The Mall ถึง 3 แห่ง คือ
      ตั้งแต่งามวงศ์วาน บางกะปิ แล้วก็ราม คำแหง
      ส่วนสปอนเซอร์อีกรายคาดว่าจะเป็นเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์
      ตอนนี้ ผ่าน 2 เมเจอร์ คือเมเจอรร์รามฯ กะรัชโยธิน
      แล้วก็อีกนิดนึงจะผ่านเมเจอร์ เอกมัย
      .....โชคดีที่มาทะลุตรงพระโขนง...

       


      ปอ. 157 (ปอ.32 เดิม บางประกอก-หมอชิต)

      เราคิดว่า เป็นรถเมล์สายที่ผ่านหน้าโรงพยาบาลมากที่สุดเลยก็ว่าได้
      ทั้งศิริราช รามาฯ พระมงกุฎ ราชวิถี โรงพยาบาลเด็ก ศูนย์วิจัยมะเร็งโรคปอด เปาโล

      อภิธาน ศัพท์ 'ความจริงเกี่ยวกับรถโดยสารในเมืองไทย'

      1. รถเมล์ = ก. รถประจำ ทาง พาหนะสำหรับผู้รักการผจญภัย
      ข. พาหนะที่มักจะไม่มาเมื่อคุณรอ และวิ่ง ให้ว่อนเมื่อไม่ต้องการ

      2. พขร. = พนักงานแข่งรถ

      3. พกส. = พนักงานเก็บเงินผู้ใหญ่ที่สุด มีอำนาจสั่งการให้ผู้โดยสารไปไหนก็ได้
      และ เป็นคนเดียวที่คุยกับ พขร. รู้เรื่อง

      4. ผู้โดยสาร = บุคคลผู้เจียม เนื้อเจียมตัว บางครั้งถูกเปรียบให้เป็นปลา (กระป๋อง)

      5. นายตรวจ = คน เดียวที่ พกส. กลัว

      6. ค่าโดยสาร = จำนวนเงินที่ต้องจ่าย กรุณาจ่ายเป็น เศษสตางค์ ไม่รับเหรียญสลึงและแบงค์ ใหญ่กว่า 100 ฝ่าฝืนอาจถูกสรรเสริญจาก พก ส. และอาจลามปามไปถึงบุพการีที่นอนอยู่ได้

      7. ป้าย = ไป (สันนิษฐานว่า เลยไปเลย สังเกตจาก พกส. จะพูดคำนี้ทุกครั้งที่ถึงป้าย)

      8. ที่นั่ง สำหรับ ภิกษุ สามเณร = ที่นั่งสำหรับป้าตาถั่วหรือตาบอดสี โดยเฉพาะสี เหลือง

      9. ที่นั่งสำหรับ คนพิการ = ดูข้อ 8 (คล้ายๆ กัน)

      10. เด็ก สตรี และคนชรา = ประชาชนส่วนใหญ่ที่ประชาชนส่วนน้อยต้องเอื้อเฟื้อ จึงมัก จะ (ดูต่อข้อ 11)

      11. แกล้งหลับ = วิธีหลีกเลี่ยงจากข้อ 10

      12. คนดีมีน้ำใจ = คนประหลาดในสายตาข้อ 11

      13. กริ่ง = กดสอง ที ฟรีสองป้าย

      14. รถไฟฟ้า = เครื่องช่วยหายใจคนกรุงฯ สามารถไปได้ทุกๆ ที่ยกเว้นบ้านคุณ

      15. เรือด่วน = เครื่องช่วยหายใจอีกอย่างหนึ่ง เหมาะ สำหรับคนว่ายน้ำเป็นและน้ำหนักตัวน้อย

      16. แท็กซี่ = พาหนะที่พาคุณอ้อม ไปจากเส้นทางจริง

      17. สามล้อ = พาหนะสำหรับผู้มีสุขภาพปอดดี เคลื่อนที่ ทุกๆครั้งที่มีที่ว่างมากกว่า 2 นิ้ว

      18. ไมโครบัส = สูงสุดคืนสู่ สามัญ (จากราคา 15 เป็น 20 เป็น 25 เป็น 30 และกลับมาเป็น 20 และเป็น 25 ใน ปัจจุบัน)

      19. ครีมน้ำเงิน = วิธีการรีไซเคิล เพื่อให้ได้ประโยชน์สูง ขึ้น (จากเดิม 2.50 บาท ปัจจุบัน 5 บาท)

      20. ยูโร = วิธีการขึ้นราคาค่า โดยสารแบบมัดมือชก ราคามากกว่า แต่คุณภาพ เหมือนเดิม เฮ้อ สาธุ!! ......

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×