ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic - Yuri] SISTER [f(x)+SNSD| Krystal, jessica, Donghae]

    ลำดับตอนที่ #2 : Shot 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.59K
      6
      3 ก.พ. 54

     

     

    มือที่เคยกุมไว้ยังคงอบอุ่นเหมือนวันวาน

    แต่ทำไมฉันรู้สึกกลัว จนหนาวเหน็บไปถึงขั้วหัวใจ

     

    อ้อมกอดของพี่ในวันนี้ยังเป็นของฉัน

    แต่อีกไม่นาน คนอื่นคงได้มันไป




    ฉันมองแผ่นหลังบอบบางของพี่สาวแท้ๆ ของฉันมานานหลายสิบนาที

    แต่แปลกที่ไม่รู้สึกเบื่อตรงกันข้ามฉันกลับอยากยืดเวลานี้ออกไปนานๆ ด้วยซ้ำ

     

    “พี่สิก้า ทำอะไรอยู่” ทำเป็นถามไปอย่างนั้นทั้งที่ไม่ได้อยากรู้อะไรนักหรอก

    แค่รู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่ฉันจะแสดงตัวหลังจากนั่งมองพี่เค้ามานาน

     

    “ทำงานส่งอาจารย์น่ะ”

     เสียงหวานตอบกลับมาโดยไม่ละสายตาจากเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คตรงหน้า

    ฉันเผลอยิ้มออกมาบางๆ แล้วเดินเข้าไปโอบเอวพี่สิก้าจากข้างหลัง

    นับวันฉันยิ่งรู้สึกว่าพี่สิก้าตัวเล็กลง จนฉันแทบจะอุ้มพี่เค้าได้สบายๆ

     เอวเล็กๆ ที่ฉันกำลังโอบไว้ดูบอบบางเหลือเกิน

    หรือว่าที่จริงแล้วฉันตัวโตขึ้นก็ไม่รู้นะ ฮ่ะๆ ^ ^

     

    “เอาไว้ทำต่อพรุ่งนี้นะ นอนกัน”

    ฉันกระซิบเบาๆ ข้างหู เร่งให้พี่สิก้าทิ้งงานตรงหน้ามานอนด้วยกัน

    พี่เค้ารู้ดีว่าวันไหนฉันไม่ได้นอนกับเค้าฉันจะนอนไม่หลับ เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เด็กๆ

     

     ฉันแกล้งถูไถจมูกไปบนแก้มนุ่มๆ ของพี่สิก้าอย่างแนบเนียน

    น้องสาวอ้อนพี่สาวบ้างมันคงไม่แปลก

    แต่กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่จมูกฉันสัมผัสได้จากตัวพี่สิก้า

    มันทำให้หัวใจฉันเต้นแรงขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่

    ฉันไม่รู้ว่าเริ่มรู้สึกแบบนี้กับพี่สิก้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่

    รู้เพียงว่านับวันมันยิ่งอาการหนัก ทั้งหึง หวง ห่วง สารพัด

     

    “พรุ่งนี้พี่มีนัดกับพี่ทงเฮ”

    -*- ในที่สุดพี่สิก้าก็หลุดชื่อที่ฉันไม่อยากได้ยินมากที่สุดออกมาจากริมฝีปากบาง

    นาย ลี ทงเฮ รุ่นพี่ที่มหาลัยของพี่สิก้า

     และที่สำคัญหมอนี่ตามจีบพี่สิก้ามาตั้งแต่อยู่ปีหนึ่งจนเค้ารำคาญ (อันนี้ฉันคิดเอาเอง)

     เลยยอมตกลงเป็นแฟนด้วยอย่างเสียไม่ได้

     

    ที่พี่เร่งปั่นงานแทบเป็นแทบตายมาตั้งแต่หัวค่ำทั้งที่พรุ่งนี้เป็นวันหยุด ก็เพราะอย่างนี้สินะ...

    รู้ทั้งรู้ว่าเค้าทั้งสองคนเป็นแฟนกัน แต่อยู่ๆ ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ

    เมื่อคิดว่าพี่สิก้าเห็นผู้ชายคนนั้นสำคัญกว่าฉันก็แล่นมาจุกอยู่ที่ลำคอ

    ขอบตาร้อนผ่าวเหมือนกำลังจะร้องไห้

    ทั้งๆ ที่ฉันไม่ใช่เด็กขี้แยซะหน่อย

    พี่สิก้าซะอีกที่บ่อน้ำตาตื้นกว่าฉันเยอะ

     

    “งั้นก็ทำไปเถอะ”

    น้ำเสียงที่หลุดออกไปฟังดูแปล่งๆ เหมือนไม่ใช่เสียงของฉัน แต่ช่างเถอะมันไม่สำคัญหนิ!!

    ฉันปล่อยมือจากเอวพี่สิก้า แล้วเดินไปกระแทกก้นลงบนเตียงนุ่ม

    แสดงออกอย่างชัดเจนว่าฉันกำลังโกรธอยู่ พี่ช่วยหันหน้ามามองบ้างได้ไหม สนใจกันบ้างสิ!!

     

    เกือบห้านาทีถ้าฉันเดาไม่ผิดที่พี่สิก้าปล่อยให้ฉันนั่งกอดอกหน้าบูดบึ้งอยู่บนเตียง

    โดยไม่คิดจะง้อกันเลยสักนิด

     

    โอเค๊ ปั่นไปเลยงานน่ะ แล้วพรุ่งนี้ก็ก็ไปเที่ยวกับไอ้หน้าอ่อนนั่นซะให้พอ

     

    ฉันได้แต่ทำเสียงฟืดฟาดฮึดฮัดอยู่คนเดียวพร้อมทั้งนั่งประชดประชันพี่สิก้าอยู่ในใจ

    แต่สีหน้าและท่าทางของฉันคงแสดงออกมาได้ไม่ดีพอ

    พิ่สิก้าจึงนั่งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อยู่ที่เดิมจนฉันเองที่ทนไม่ไหวเดินปึงปังออกไปนอกห้อง

    หวังว่าเค้าจะตามออกมาง้อ

     

    แต่ผ่านไปนานเกือบชั่วโมงที่ฉันนั่งกดรีโมททีวีเล่นอยู่บนโซฟา

    ก็ยังไม่มีทีท่าว่าพี่สิก้าจะตามออกมาง้อ งั้นก็นอนมันตรงนี้แล้วกันให้ยุงมาหามไปเลยยิ่งดี

     

     

     “คริสตัล คริสตัล...” ฉันรู้สึกเหมือนมีคนมาปลุก เสียงนั้นคุ้นหู น่าจะเป็นเสียงพี่สิก้า

    ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้นเพื่อรับภาพคนที่มารบกวนการนอน

    ใบหน้าสวยพร่าเลือนอยู่ตรงหน้า ฉันกระพริบตาถี่ๆ เพื่อรับภาพตรงหน้าให้ชัดขึ้น

     

    “ไปนอนในห้องกัน”

     พี่เจสสิก้าเอ่ยชวนฉัน ฉันยกมือขึ้นขยี้ตาเตรียมจะอ้อนพี่สิก้าเหมือนที่เคยทำ

     

    “...” แต่กลับต้องหยุดชะงักเมื่อนึกขึ้นได้ว่า ตอนนี้ฉันกำลังโกรธพี่สิก้าอยู่นี่

    คิดแล้วก็เดินลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินเลี่ยงพี่สิก้าเข้าห้องนอนไป

    จะได้รู้บ้างว่าฉันกำลังโกรธพี่อยู่

    .

    .

    .

    “คริสตัลพี่กลับมาแล้ว อยู่ไหนเนี่ย”

    เสียงพี่สิก้าตะโกนเรียกฉันอยู่ชั้นล่างดังลั่น

    ฉันจะทำเป็นไม่ได้ยินเสียงพี่แล้วกัน ในเมื่อช่วงนี้พี่มัวแต่วุ่นวายอยู่กับหมอนั่น

    จนไม่มีเวลาให้ฉันเหมือนเมื่อก่อน ต้องได้รับการลงโทษ

                           

                            แล้วพี่เค้าจะรู้ไหมว่าตัวเองมีความผิด

                    แต่ช่างเถอะ เอาเป็นว่าฉันจะเงียบไว้ก่อนแล้วกัน ถ้าวันนี้พี่ไม่ขึ้นมาตามฉันก็ไม่ลงไป

     

                    “คริสตัล ทำอะไรอยู่ อ้าว... หลับเหรอ” เสียงพี่สิก้าดังอยู่ใกล้แค่เอื้อม

                    จนฉันได้ยินมันชัดแจ๋ว... ใช่ ตอนนี้ฉันกำลังแกล้งหลับอยู่บนเตียงนอนนุ่มๆ ของฉันกับพี่สิก้า

                    ฉันรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อพี่สิก้านั่งลงข้างๆ กลัวว่าพี่เค้าจะจับได้ว่าฉันแกล้งหลับ

                   

                            สัมผัสอุ่นจากฝ่ามือเรียวบางทาบลงมาบนใบหน้าของฉัน

                    หัวใจมันเต้นแรงจนแทบกระโดดออกมานอกอก

                    พี่สิก้ายังลูบๆ คลำๆ ที่หน้าของฉันไม่หยุด คิดว่ามันเป็นเครื่องสังคโลกรึไง

                    คลำอยู่นั่น

                   

    “คริสตัล ตื่นเถอะ ไปกินข้าวกัน” พี่สิก้าเขย่าตัวฉันเบาๆ

    เอาล่ะสิ จะเริ่มยังไงดี ลืมตาก่อน หรือว่าขยับร่างกายส่วนอื่นดีล่ะ

    ถึงจะดูแนบเนียน

     

    “คริสตัล ทำไมขี่เซาอย่างนี้นะ” จบประโยคนั้นของพี่สิก้าคงได้เวลาแล้ว

    ที่คนแกล้งหลับอย่างฉันจะต้องลืมตาตื่นเสียที ฉันเริ่มขยับตัวช้าๆ แล้วลืมตาขึ้น

    อย่างคนที่เพิ่งตื่นนอน ใบหน้าพี่สิก้าอยู่ห่างออกไปแค่ไม่กี่คืบ

    แก้มฉันมันร้อนวูบวาบขึ้นมาทันที ก็ใครจะไปรู้ว่าพี่เค้าจะก้มลงมาชิดขนาดนั้น -/////-

     

    “ลงไปกินข้าวกัน พี่ทงเฮเค้ารออยู่ ใครบอกให้นอนตอนค่ำๆ แบบนี้ หืม?”

    อ๋อ... อย่างนี้นี่เอง เพราะหมอนั่นรออยู่ข้างล่างหรอกเหรอถึงได้รีบขึ้นมาปลุกฉัน

    เห็นหน้าสวยๆ เมื่อกี๊เกือบจะใจอ่อนแล้วเชียว หลายวันแล้วที่เราไม่ค่อยได้คุยกัน

    ฉันคิดถึงอยากอ้อนพี่เต็มแก่ แต่ทำแบบนี้ก็อย่าหวังเลยว่าฉันจะเลิกงอน

     

    “เขามาส่งอีกแล้วเหรอ พี่ไม่มีรถรึไง” ฉันกระแทกเสียงใส่พิ่สิก้าแล้วเดินหนีออกมาจากห้อง

                    ลงบันไดแล้วตรงไปยังโต๊ะอาหาร มีเพียง หมอนั่นนั่งยิ้มเป็นบ้าอยู่คนเดียว

                    แหงล่ะ ก็พ่อกับแม่มีธุระนี่วันนี้ ช่างรู้เวลาจริงๆ

     

                    “สวัสดีค่ะพี่ทงเฮ” ฉันทักทายหมอนั่นตามมารยาทด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

                    ต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะไม่ชักสีหน้าใส่อีกฝ่าย

     

                    “สวัสดีครับ คุณพ่อกับคุณแม่ไม่อยู่เหรอวันนี้”  ถามโง่ๆ ! ถ้าอยู่ก็เห็นสิ ซื่อบื้อเอ๊ย!!

                    ฉันได้แต่ค่อนขอดหมอนั่นในใจ เพราะเกรงใจพี่สิก้าหรอกถึงไม่ตอกกลับ

     

                    “ไม่อยู่ค่ะ ไปทำธุระ” ฉันตอบคำถามสั้นๆ แล้วก้มหน้าก้มตากินอย่างเดียว

                    ไม่อยากมองภาพของคู่รัก ที่นั่งอี๋อ๋อกันอยู่ฝั่งตรงข้าม

                    พี่สิก้านะก็เหลือเกิน แทนที่จะมานั่งกับน้อง

                    กลับเดินอ้อมไปนั่งข้างหมอนั่นซะได้

     

                    อาหารมื้อนี้ช่างฝืดคอเหลือเกิน ทั้งที่มีแต่เมนูโปรอของฉันทั้งนั้น

                    ฉันพยายามแล้วที่จะทำเป็นไม่สนใจพิ่สิก้ากับหมอนั่น

                    แต่สายตาไม่รักดีก็เกิดไปเห็นภาพเด็ดๆ จนได้

                    ทั้งหัวร่อต่อกระซิกบ้างล่ะ ตักกับข้าวให้กันบ้างล่ะ

                            รู้ค่ะว่าพี่รักกัน แต่ช่วยเก็บอาการหน่อยได้ไหม นี่มันต่อหน้าน้องนะ!!

     

                    “ฉันอิ่มแล้วค่ะ ขอตัวนะ”

    ฉันยกแก้วน้ำขึ้นดื่มหลังจากพูดจบแล้วเดินขึ้นไปบนบ้าน

                    ไม่อยากทนมองภาพบาดตาบาดใจอีกต่อไป

                            ฉันเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ตรงโต๊ะเขียนหนังสือแล้วฟุบหน้าลงไปบนหนังสือเล่มหนา

                    หมดแรงจนไม่อยากขยับตัว  อวัยวะในช่องอกข้างซ้ายเต้นอย่างอ่อนล้า

                    ทำไมฉันต้องรู้สึกแบบนี้ด้วยนะ...

     

                            ทุกครั้งที่อยู่ด้วยกันสามคนฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกิน

                            แต่คงต้องทำใจให้ชินสินะ เพราะอีกหน่อยฉันคงหมดความสำคัญสำหรับพี่

                   

    -----------------------

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×