รินปิดแฟ้มเล่มสุดท้ายที่เลขาหน้าห้องเอาเข้ามาวางไว้ หลังจากเซ็นเสร็จจนครบแล้ว หล่อนหันไปมองปลาหวานที่ก้มหน้าทำงานหน้าตาจริงจัง สักพักเจ้าตัวรู้สึกตัวหันเงยหน้าขึ้นพบกับสายตาหวานเยิ้มของริน... ใบหน้าหวานใสเพราะเจ้าแว่นไร้กรอบเลิกคิ้วให้ปลาหวาน
"อะไรกันคะ..." ปลาหวานขมวดคิ้ว รินนั่งมองเธอแบบนี้ทุกวินาทีที่ว่างจากงาน
"วันนี้เราไปส่งพิมพ์กันนะหวาน" รินพูดขึ้น ปลาหวานมีแววสลดเล็กน้อย ก่อนพยักหน้ารับ
"กลัวพี่กลับไปรักพิมพ์เหรอ?" รินเดินมาโอบปลาหวานจากด้านหลัง ปลาหวานไม่ตอบเอนหัวไปพิงไหล่ของริน
"ไปส่งพิมพ์กันนะ แล้วค่อยไปบ้านคุณชลกัน" รินชวนอีกรอบ
"ค่ะ" ปลาหวานพยักหน้ารับ รินยิ้มกว้างอย่างมีความสุข บัดนี้หัวใจของรินตกอยู่ในกำมือของปลาหวานเสียแล้ว แม้ว่าจะต้องคบกันแบบไม่เปิดเผย แต่การได้อยู่ใกล้กันตลอดเวลาชดเชยความรู้สึกนั้นเสียแล้ว
.......รินมาถึงสนามบินพร้อมกับปลาหวานตามเวลาที่พิมพ์บอก พิมพ์ยืนถือกระเป๋าสะพาย เธอสวมแว่นกันแดดสีดำสนิท เป็นคนอื่นอาจจะจำไม่ได้ แต่ทำไมรินจะจำไม่ได้ล่ะ ในเมื่อเธอเคยจับจองทุกตารางนิ้วสัดส่วนร่างกายของนางแบบสาวคนนี้...
"จะออกอีกสิบนาทีนี่นา ทำไมให้มาตอนนี้ล่ะพิมพ์" น้ำเสียงอ่อนโยนจากรินที่เธอได้รับอยู่เสมอยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปเลย
"....." พิมพ์ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี หล่อนไม่อยากบอกไปว่ายังทำใจไม่ได้ หากพบหน้ากันนาน หล่อนอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้ เพราะทุกเนื้อที่ของหัวใจยังคงมีชื่อของรินเต็มไปหมด
"เดินทางปลอดภัยนะคะ" ปลาหวานเปลี่ยนประเด็นเพราะเธอเข้าใจดีว่าด้วยเหตุใดพิมพ์ถึงให้มาเวลาก่อนขึ้นเครื่องเพียงแค่ชั่วประเดี๋ยว
"ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ"
"ดูแลสุขภาพดีๆนะพิมพ์ ไปถึงแล้วโทรมาหารินนะ มีอะไรก็โทรมาบอกกันบ้างนะคะ" ความห่วงใยของรินยังคงเหมือนเดิมหากแต่แววตาเปลี่ยนไปจากเดิม ไม่มีความรักที่ล้นใจฉายแววออกมา มีเพียงความผูกพันและความห่วงใยตามประสาคนเคยรัก
"ค่ะ ฝากดูแลรินด้วยนะคะคุณหวาน เค้าพักผ่อนน้อยข้าวปลาก็กินไม่ตรงเวลา"
"ค่ะ" ปลาหวานรับคำพิมพ์ เธอรู้สึกขอบคุณพิมพ์มากที่เปิดทางให้กับเธอ แต่ก็ยังคงรู้สึกผิดอยู่บ้าง
"แล้วโทรมาบ้างนะคะ กลับมาเมื่อไหร่มาทำงานกับพี่รินได้เลยค่ะ ใช้เส้นหวานก็ได้" ปลาหวานพยายามพูดให้พิมพ์สบายใจ
"ขอบคุณนะคะ คงต้องไปแล้วนะคะริน ดูแลคุณหวานดีๆนะคะ สวยแบบนี้ไม่ใช่จะหาใหม่ได้ง่ายๆ" พิมพ์สั่งลา
"พิมพ์..... โชคดีนะคะ" รินกุมมือสั่งลาพิมพ์ แม้จะได้รับเพียงยิ้มบางๆที่มุมปากกลับมาก็ตาม
.......ทั้งคู่ยืนมองพิมพ์เดินหายเข้าไปตรงประตูผู้โดยสารขาออก รินจับมือปลาหวานเดินกลับออกไป ต้องรีบไปบ้านชลอีก วันนี้เขาจะฉลองบ้านใหม่ที่เพิ่งเข้าไปอยู่...
..........ชลและปุยนุ่นง่วนอยู่กับการจัดบ้าน อีกทั้งยังเรื่องอาหารการกินสำหรับเย็นนี้อีกด้วย บรรดาเพื่อนๆของชลครบทีมที่จะมาฉลอง รวมทั้งปลาหวานกับรินอีกด้วย ชลหายดีแล้ว..... เขายังคงเอาใจใส่และรักปุยนุ่นอย่างสม่ำเสมอ หนึ่งเดือนที่ผ่านมาแม้จะไม่นานนัก แต่ทั้งคู่ก็มั่นใจในกันและกันอย่างเต็มที่ และบ้านหลังนี้จะเป็นที่ที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความรัก
"นุ่นจ๋า...." ชลเดินมาโอบเอวปุยนุ่น
"ไม่เอาค่ะ ไปเตรียมโต๊ะเลยไป" ปุยนุ่นห้ามอาการอ้อนของชล เขาหน้างอเล็กน้อยแล้วเดินไปจัดโต๊ะตามที่ปุยนุ่นบอก
"เดี๋ยวไม่ทันเพื่อนๆมาหรอกค่ะ" ปุยนุ่นบอกเหตุผล ชลยิ้มให้ แหมก็คนมันอยากอ้อนนี่นา...
..........เพลินตารีบเช็คดอกไม้ตามออเดอร์ลูกค้าด้วยความเร่งรีบ โดยมีรัตน์ขนดอกไม้ขึ้นรถเตรียมไปส่ง ตั้งแต่เขาอาสามาทำหน้าที่ส่งดอกไม้แทนเด็กที่เพิ่งออกไป รู้สึกว่าคนจะสั่งดอกไม้กันบ่อยขึ้อย่างเห็นได้ชัด
"ขับรถดีๆนะคะ รีบไปรีบมาล่ะ เดี๋ยวคุณชลจะรอเรานาน"
"คร๊าบบบบ" รัตน์รับคำคนรักแล้วขับรถออกไปส่งดอกไม้
.....เพลินตามองตามรัตน์ไป เขาดูแลเธอเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะยามเจ็บไข้หรือสุขใจ เธอรับรู้ได้ทุกความรู้สึกที่รัตน์มี ทั้งคู่ใช้ชีวิตแบบธรรมดาในบ้านดอกไม้หลังนี้.... รัตน์พิสูจน์ให้เพลินตาได้เห็นว่าเขาจริงใจและรักจริงขนาดไหน และตอนนี้เธอก็มั่นใจในคนๆนี้เป็นที่สุด
..........ไฟกระพริบประดับรอบสวนของบ้าน อาหารหลากหลายชนิดฝีมือปุยนุ่นถูกยกออกมาวางท่ามกลางเสียงฮือฮาของบรรดาเพื่อนๆ ของชล
"อร่อยว่ะ! อิจฉาไอ้ชลโว้ยยย....มีเมียทำกับข้าวเก่ง แถมยังสวยขนาดนี้" นราหยอดคำชมจนปุยนุ่นหน้าแดง
"เมียกูซะอย่าง" ชลโอบเอวปุยนุ่นแล้วยืดอกอวดเพื่อน
"หมั่นไส้โว้ยยยย!!" รัตน์มาถึงพอดีตะโกนขึ้นมาหลังจากปิดประตูรถ
"อิจฉาล่ะสิมึง" ชลเดินไปชะโงกหน้าล้อเลียนรัตน์
"ไม่โว้ย....เมียข้าน่ารักกว่า" รัตน์กอดเพลินตาขโมยหอมแก้มหล่อนต่อหน้าบรรดาเพื่อนฝูง แล้ววิ่งหนีขึ้นไปรวมพลอยู่ชั้นบน ทิ้งให้เพลินตายืนหน้าแดงอายกับคำแซวของเพื่อนๆของเขา
"อะไรกันเหรอค่ะ เอะอะเชียว" ปลาหวานลงมาจากรถที่มีรินเป็นคนขับ ถามเพลินตาที่กำลังจะเดินขึ้นไป
"พวกขี้แซวน่ะค่ะ ระวังโดนนะคะ" เพลินตาบอกปลาหวานแล้วมองไปที่รินอย่างรู้ทัน
"........" ปลาหวานเงียบไม่ว่าอะไร รินตามขึ้นมาร่วมวงกับทุกคน
"นายจ้างเรามาด้วยวุ้ย" นราบอกเพื่อน ทุกคนลุกขึ้นกุลีกุจอต้อนรับรินกันใหญ่ ปุยนุ่นมองปลาหวานเป็นการดักทาง ปลาหวานเดินไปหาปุยนุ่น
"บ้านน่าอยู่จังนะ" ปลาหวานชวนคุยก่อนที่ปุยนุ่นจะชิงแซวเสียก่อน
"ได้ข่าวว่าคุณผู้ช่วยย้ายไปอยู่บ้านท่านประธานเหรอค่ะ" ปุยนุ่นแซวแม้ว่าปลาหวานจะพยายามกันไว้ก่อนก็ตาม
"ก็เพราะคุณหัวหน้าฝ่ายครีเอทีฟคนใหม่ที่อยู่ด้วยกันเขาย้ายหนีไปน่ะค่ะ" ปลาหวานหยอกกลับ
"แหม.....ต่างคนต่างมีคนรักนี่คะ" ปุยนุ่นยังคงเล่นไม่เลิก ปลาหวานก้มหน้างุด ไม่เล่นต่อ
"เอาเป็นว่ารักกันนานๆ นะค่ะ"
.....ปุยนุ่นกระซิบบอกข้างหูปลาหวาน แล้วมองไปทางรินที่บรรดาเพื่อนๆของชลพยายามจีบหยอก ปลาหวานเดินไปนั่งลงข้างๆริน สองสาวสวยตรงหน้าในเวลานี้ หากใครมาเห็นคงตัดสินใจไม่ถูกแน่ว่าจะเลือกใคร
"สาวๆ บริษัทนี้เค้ากินอะไรกันว่ะ สวยๆกันทั้งนั้น" พงเปรยออกมาเสียงดัง เรียกเสียงหัวเราะให้สามสาว
"ยังพอจะมีว่างอยู่ไหมครับ สักคนสองคนเผื่อพวกผมบ้าง" โอ๊กถามทีเล่นทีจริง
"อันนี้ต้องไปดูเองกับตานะคะ แต่ที่อยู่ในที่นี้ทั้งสามคน หมดสิทธิ์ค่ะ" รินตอบฉะฉาน เล่นเอาหนุ่มโสดแป้วไปตามๆกัน
"ว๊า.....แถวนี้อดแล้ว คงต้องแวะไปบริษัทคุณรินบ่อยๆเสียแล้ว" นราบอก
"เอ็งก็ไปทุกวันอยู่แล้วนี่" ชลแทรกขึ้น
"ไปตอนไหนว่ะ" นราหันมาถาม ก็เขาไม่ค่อยได้แวะไปเลยนี่นา แล้วชลมันไปเอามาจากไหนว่าไปทุกวัน
"บริษัทใหม่ที่ยังสร้างไม่เสร็จไง 55555555+" ทุกคนหัวเราะกับมุขของชล และทานอย่างเอร็ดอร่อย จากนั้นก็เริ่มแฉเรื่องสมัยเรียนมหา'ลัยอย่างสนุกปาก ดูเหมือนว่าวีรกรรมรัตน์กับชลเยอะพอตัว
..........ดึกพอสมควรทุกคนลากลับ ปลาหวานอยู่ช่วยปุยนุ่นเก็บจานชาม ส่วนชลก็นั่งคุยกับรินอยู่ข้างนอก
"ดีใจด้วยนะคะ ได้อยู่ด้วยกันแล้ว" รินแสดงความยินดีกับชล
"ผมก็ดีใจกับคุณรินด้วยนะครับ ที่มีผู้ช่วยน่ารักๆ อย่างคุณหวาน" ปุยนุ่นรู้มีหรือชลจะไม่รู้ รินหน้าแดงด้วยความอาย
"กลับกันเถอะค่ะพี่ริน กลับก่อนนะคะชล" ปลาหวานเอ่ยลา ชลยิ้มให้อย่างเป็นมิตร รอยยิ้มชลยังทำให้เธออบอุ่นอยู่เหมือนเดิม หากแต่รอยยิ้มจากคนข้างๆกลับมีมากกว่านั้น ความรู้สึกอบอุ่นที่ได้รับจากยิ้มของรินเหมือนกับชลก็จริง แต่ที่แตกต่างไปคือ รอยยิ้มของรินเป็นรอยยิ้มที่เธออยากจะรักษาเอาไว้ตลอดไป ไม่ใช่อยากจะได้รับรอยยิ้มนั้นเพียงอย่างเดียวเหมือนที่เคยรู้สึกกับชล
"ขับรถดีๆนะครับ"
"ค่ะ" รินรับความเป็นห่วงจากชลด้วยความยินดี แล้วพาปลาหวานกลับบ้านไปหาเจ้าปิ๊ก มันต้องดีใจแน่ที่ได้กินอาหารอร่อยๆฝีมือปุยนุ่นที่ปลาหวานขนไปฝาก
"พุงกางแน่เจ้าปิ๊ก" รินนึกภาพหมาน้อยนอนหงายราบกับพื้นพุงพุ้ยแล้วก็อดขำไม่ได้
"พี่รินคะ หวานรักพี่ค่ะ" ปลาหวานบอกรักรินเอาดื้อๆ เล่นเอาเจ้าตัวหน้าแดงก้มหน้าลง
"ดูถนนสิคะพี่ริน...." ปลาหวานยิ้มกว้างเมื่อเห็นท่าทีเขินของริน
.......รินตีไฟเลี้ยวหักรถเข้าข้างทาง หันมองปลาหวานจริงจัง ปลาหวานนิ่งเงียบ...
"หวาน พี่รักหวานนะ" รินถอดแว่นออก เผยหน้าตาเข้มใสแววตาจริงจังบอกรักปลาหวาน เธอโน้มตัวไปด้านข้างเพื่อจะจุมพิตคนที่ตนรักมากที่สุด
"ไม่เอาค่ะ" ปลาหวานดันค้านตัวรินเอาไว้ เมื่อไฟจากรถฝั่งตรงข้ามสาดเข้ามา
"กลับไปก่อนแล้วเอาใช่มะ คนสวยร้อนแรง..." รินทำหน้าทะเล้นหยอกปลาหวาน
"บ้า"
.......ปลาหวานก้มหน้าลง หน้าแดงไปถึงหู เมื่อรินเล่นพูดตรงๆเกี่ยวกับมุมมองความเป็นเธอตอนอยู่บนเตียง รินขับรถเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่รู้เพราะอยากจะแกล้งหรือเพราะเรื่องที่รออยู่กันแน่
..........ชลและปุยนุ่นอาบน้ำเสร็จแล้วก็ต่างพากันออกมายืนด้านนอกตรงระเบียง มองออกไปเห็นต้นปีบขาวที่มุมกำแพงหน้าบ้าน ปุยนุ่นยิ้มให้ชลที่โอบเอวกอดเธอจากด้านหลัง
"อีกหน่อยต้นปีบจะออกดอกแล้วนะคะ" ปุยนุ่นบอกชล
"แถวนี้คงหอมน่าดู ชลชอบนี่คะ" ปุยนุ่นพูดต่อเมื่อไม่เห็นว่าชลจะพูดอะไร
"ผมชอบกลิ่นนุ่นมากกว่านะ" ชลสูดกลิ่นหอมจากเรือนผมยาวสลวย
"ปากหวานนักนะคะ"
"ก็หวานกับนุ่นคนเดียวแหละครับ"
"ชลคะ" ปุยนุ่นหันมามองสบตาคนปากหวาน เขายังไม่ปล่อยมือจากการโอบเอวเธออยู่หรอก (เรื่องอะไรจะปล่อย ว่ามะ...)
"หืมม์ ว่าไงคะคนสวย" ชลยังปากหวานเหมือนเดิม
"ตั้งแต่เจอคุณครั้งแรก รู้ไหมคะว่าช่างกุญแจคนนี้ไขประตูใจเข้าไปนั่งอยู่ในนั้นเสียแล้ว" ปุยนุ่นบอกความในใจที่เก็บมานาน
"มิน่าล่ะ ตอนขอคบนุ่ถึงยอมผมง่ายๆ ไม่เลือกสถานที่ด้วย" ทันทีที่พูดจบฝ่ามือน้อยๆก็ฟาดลงบนไหล่เขาทันที ปุยนุ่นหน้าแดงก่ำ
"ตาบ้า"
"นุ่นครับ ผมก็มีอะไรจะบอกเหมือนกันนะ"
"อะไรคะ" ปุยนุ่นยิ้มหวานมองตาชลหวานเยิ้ม
"ครั้งแรกที่เจอคุณ ผมอาจจะไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก นอกจากว่า ผู้หญิงคนนี้ซุ่มซ่ามจัง ยิ่งเจอบ่อยครั้ง....คุณนี่เฟอะฟะแต่ก็น่ารักนะ" ชลเริ่มเกริ่น
"แต่บ่อยครั้งเข้า คุณไขกุญแจหัวใจของผม ที่แม้แต่ช่างกุญแจอย่างผมเองยังเปิดไม่ได้เข้ามาอย่างง่ายดาย"
"ทำไมล่ะคะ" ปุยนุ่นเลิกคิ้วถาม
"เพียงแค่รอยยิ้มคุณเท่านั้นเอง" ปุยนุ่นยิ้มให้เขาอีกครั้ง
"เครื่องมือไขกุญแจผมมีเยอะแยะ แต่กลับเปิดใจตัวเองไม่ได้ แต่คุณเพียงแค่ยิ้มมา กลับสะเดาะกุญแจหัวใจที่ปิดตายของผมเข้าไปนั่งในนั้นเฉยเลย" ชลกระชับอ้อมกอดปุยนุ่นแน่น
"แถมยังล็อคเอาไว้จากข้างในเสียอีก คนอื่นเลยหมดสิทธ์เข้าไปเลย" ชลบอก
"ยังคิดจะให้ใครเข้าไปในนี้อีกเหรอ" ปุยนุ่นจิ้มนิ้วทิ่มลงไปตรงตำแห่งหัวใจของชล สีหน้าเอาเรื่อง
"ไม่ใช่อย่างนั้นนะ ผมแค่อยากจะบอกนุ่นว่า จากนี้ไปในใจดวงนี้จะมีเพียงคุณคนเดียวเท่านั้น"
.......ปุยนุ่นยิ้มกว้างด้วยความดีใจ ทั้งคู่สบตากันต่างก็พบไออุ่นจากรักของอีกฝ่าย จูบที่ส่งผ่านความรู้สึกทั้งหมด อ่อนหวานเนิ่นนาน ท่ามกลางแสงดาวยามค่ำคืนที่ส่องแสงเต็มที่ไม่มีพระจันทร์คอยบดบัง หากมองไปยังเบื้องบน มีดาวหนึ่งดวงที่สว่างไสวเจิดจ้าผิดกับในแต่ละวัน ใครจะไปรู้ดาวดวงนั้นอาจจะเป็นเมย์ที่ส่งยิ้มให้ทั้งคู่ด้วยความยินดีก็ได้ ในที่สุดชลก็ได้พบเจอกับความสุขเลิกปิดตัวเองจากโลกภายนอกเสียที ผู้หญิงที่ชื่อปุยนุ่นจะทำให้มันคงอยู่ตราบจนจะสิ้นชีวิตจากกันไป....
หัวใจที่ปิดตายไปแล้ว....มืดมิด เหน็บหนาว
ความอบอุ่นเล็กๆ ที่สาดส่องมาจากภายนอก ยังทำให้คลายหนาว...
แล้วจะกลัวใยเล่า เปิดประตูหัวใจออกไปรับสิ่งนั้นให้เต็มที่
ถ้าอบอุ่นจนร้อน...
กลับเข้าไปหาความหนาวเหน็บอีกครั้งจะเป็นไรไป
จากร้อนจะได้เริ่มเย็น หากเริ่มหนาวก็ออกมาหาความอบอุ่น
สักวันหนึ่ง...
เราจะเจอกับความอบอุ่นที่สม่ำเสมอ ไม่ทำให้ร้อนจนต้องเข้าไปหาความหนาวเหน็บอีกต่อไป
ความอบอุ่นนั้นก็คือรักที่มั่นคง สม่ำเสมอ
รักแท้....ที่ผมมั่นใจว่าทุกคนจะพบเข้าในสักวัน
Happy End...
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น